บทที่ 10 เชื่อไหมว่าจะเรียกแกว่าไอ้เฮงซวย
การจุดดอกไม้ไฟในวันคืนข้ามปีนั้นเป็นธรรมเนียมตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน พอถึงเที่ยงคืน เสียงระฆังของวัดที่อยู่บนภูเขาก็จะดังขึ้น แล้วบนท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยดอกไม้ไฟนับหมื่นพันนัด
มองดูฉากที่ตื่นตานี้แล้ว ทุกคนต่างก็พากันเงียบลงเหมือนนัดกันไว้ ช่างน่าประทับใจสุดๆ
เว่ยเหยียนถิงโอบไปที่เอวของนาง เรียกชื่อนางเบาๆ แววตานั้นแสดงออกอย่างล้นหลาม ทำให้คนปฏิเสธไม่ได้
แก้มของฉินจิ่นค่อยๆ แดงขึ้น ไม่มีการขัดขืนใดๆ
เขาค่อยๆ โน้มตัวลง ริมฝีปากที่ร้อนแรงนั้นเข้าใกล้เล็กน้อย สุดท้ายก็แนบไปบนริมฝีปากที่เย็นเฉียบของนาง
ริมฝีปากของนางหอมหวาน เหมือนผลไม้ที่สุกงอม ทำให้คนที่แนบลงไปแล้วไม่อยากจะปล่อย
เห็นได้ชัดว่าเป็นครั้งแรก ท่าทางของเขาดูเก้ๆ กังๆ นางก็ไม่มีประสบการณ์เหมือนกัน จนถึงตอนที่ปากของนางเริ่มจะบวม เขาถึงจะปล่อยปากออก
เวลาจูบ ใครเขาใช้แรงกัน ดูปากที่บวมแดงของนางแล้ว ฉินจิ่นก็หงุดหงิดเล็กน้อย แล้วแบบนี้นางจะไปเจอคนอื่นยังไง แต่พอเห็นหน้าตาที่รู้สึกผิดของเขา นางก็ไม่อยากจะเหวี่ยงเขาต่อหน้าคนเยอะๆ แบบนี้
ตี้ดๆ ตี๊ดๆๆ ……
จู่ๆ ในหัวก็มีเสียงของเครื่องกลดังขึ้น เป็นเสียงของระบบ
“ชาร์จพลังงานสำเร็จ ระบบได้รับพลังงานหนึ่งเปอร์เซ็นต์”
การจูบก็คือการชาร์จแบตที่ว่านี่เอง การตั้งค่าแบบนี้ก็ขี้โกงเกินไปรึเปล่า
“พลังงานแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์จะใช้ได้นานแค่ไหนกัน” นางเกิดคำถามในใจ
“สามารถเปิดระบบยาได้หนึ่งครั้ง ระยะเวลาแปดนาที”
แปดนาที พอแค่ให้นางเอาอุปกรณ์แค่บางส่วน แต่ก็พอสำหรับเอามาศัลยกรรมให้ผู้ชายของตัวเองแล้ว
พอนึกถึงว่าตัวเองสามารถควบคุมหน้าตาของสามีตามที่ตัวเองต้องการได้ ในใจนางก็มีความตื่นเต้นเล็กน้อย จากการที่ระบบสามารถโต้ตอบได้ นางก็เลยรีบถามไปสองสามคำถาม “มีวิธีชาร์จพลังงานเพียงแค่แบบเดียวหรือ”
“ยังสามารถทำภารกิจของระบบให้สำเร็จด้วย”
“ภารกิจอะไร”
“ตอนนี้พลังงานต่ำเกิน ยังไม่สามารถเปิดภารกิจของระบบได้ โปรดกลับมาอีกครั้งหลังจากแบตเตอรี่ถึง 10%”
นี่ไม่ใช่การล่อลวงคนหรอกเหรอ ในใจนางมีไอเดียบางอย่างเกิดขึ้น แล้วก็ถูกระบบดูออกได้ทันที “คุณเจ้าของ ระบบจะปรับเปลี่ยนทำตามสถานการณ์ของคุณ คุณโปรดเชื่อใจในความยุติธรรมของระบบ”
เจ้านี่รู้ทันความคิดของนาง งั้นตั้งแต่วันนี้ถ้านางและเว่ยเหยียนถิงทำเรื่องแบบนั้นระบบก็จะคอยดูอยู่ตรงนั้นตลอดเลยสิ
“ตั้งแต่วันนี้ฉันต้องเรียกนายว่าอะไร”
“ฉันไม่มีชื่อ คุณเจ้าของสามารถตั้งชื่อให้ฉันได้”
นางคิดถึงเสี่ยวซีที่อยู่ที่บ้าน แล้วพูดว่า “นั้นนายก็คือเสี่ยวปาก็แล้วกัน”
“ช่างเป็นชื่อที่ทั่วไปจริงๆ ท่านเจ้าของกรุณาตั้งชื่อให้ฉันใหม่”
เจ้าระบบหลอกลวงนี่กล้าหงุดหงิดนาง ฉินจิ่นเลยขู่ว่า “ถ้ายังไม่หยุดพูดเรื่อยเปื่อยฉันจะเรียกแกว่าไอ้เฮงซวย”
“เสี่ยวปาเพราะมาก ฉันชอบมาก ขอบคุณท่านเจ้าของครับ”
……
พอผ่านปีใหม่แล้วฉินจิ่นก็รีบกลับบ้านกับเว่ยเหยียนถิง ดีที่สามารถใช้ระบบยาได้ตลอดเวลา บางทีถ้าอยู่ที่บ้านแม่สามีก็ไม่สะดวกที่จะเปิดเผยได้
เตรียมเทียนกับน้ำร้อนแล้ว ส่งเสี่ยวซีไปเล่นที่ลาน ฉินจิ่นดึงเว่ยเหยียนถิงนั่งอยู่ข้างเตียง เว่ยเหยียนถิงคิดว่านางจะคิดได้แล้ว อยากจะทำเรื่องแบบนั้น ในใจยังตั้งหน้าตั้งตารอคอยอยู่
“อาจิ่น ทำไมวันนี้เจ้าถึงเริ่มเองแบบนี้ล่ะ”
“คิดอะไรกัน พี่ถิง ข้าอยากจะรักษาแผลบนหน้าให้พี่”
เว่ยเหยียนถิงอึ้ง เบือนหน้าแล้วโทษตัวเอง นางรังเกียจหน้าตาของตัวเองจริงๆ ด้วย
รู้ว่าเขาคิดมาก ฉินจิ่นเลยรีบอธิบาย “พี่ถิง พี่อย่าเข้าใจผิดเลย ข้าไม่ได้รังเกียจพี่ ตอนนี้เป็นฤดูหนาวอากาศหนาวยังเห็นไม่ชัด พอถึงฤดูร้อนแล้วอากาศร้อน แล้วแผลบนหน้าพี่ก็จะพุพองได้ง่าย อีกอย่างถ้าแผลบนหน้าพี่หายดีแล้ว วันหลังถ้าจะไปทำงานก็สะดวก นี่ก็เพื่อครอบครัวของเรา ใช่ไหมล่ะเจ้าคะ”
“เจ้าไม่ได้รังเกียจข้าจริงๆ รึ” ในตาเว่ยเหยียนถิงร้อนขึ้น คว้าไปที่มือของนาง
“จริงสิเจ้าคะ”
นางให้เขาดื่มยาชาที่ได้เตรียมไว้แต่แรกแล้ว แล้วรอหลังจากเขาสลบแล้วค่อยเปิดระบบขึ้น ก่อนจะทะลุมิตินั้นนางสามารถเอาของออกมาจากระบบแพทย์ แล้วของนั้นก็จะปรากฏขึ้นในมือของนางทันที ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังจะเป็นแบบนั้นอยู่รึเปล่า รู้แค่ว่าต้องให้เว่ยเหยียนถิงสลบก่อนน่าจะดีกว่า ไม่งั้นถ้าถึงเวลานั้นแล้วมีของโผล่ออกมาจากมือนางจริงๆ ก็คงอธิบายได้ไม่เข้าใจ
เปิดระบบเข้าห้องยา นางรู้สึกดีใจเมื่อเห็นว่ายาที่นางเก็บไว้ก่อนหน้านี้นั้นยังอยู่ทั้งหมด
เมื่อก่อนนางเก็บของไว้สองห้อง ห้องนึงนั้นเป็นอุปกรณ์เครื่องมือและอุปกรณ์ผ่าตัดพวกผ้าก๊อซเป็นต้น อีกห้องนึงนั้นเป็นวัสดุยาต่างๆ มากมาย
นางหยิบอุปกรณ์ผ่าตัดศัลยกรรมที่ต้องใช้ออกมา แล้วก็เอาพวกยาก่อนและหลังผ่าตัดพร้อมกับแอลกอฮอล์ที่ใช้ฆ่าเชื้อออกมาด้วย
ออกจากระบบ ของทั้งหมดนี้ปรากฏอยู่ในมือของนางหมดแล้ว
ใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อบาดแผล และเอามีดผ่าตัดลนไฟเพื่อฆ่าเชื้อ นางสวมหน้ากากอนามัยและถุงมือยาง ราวกับว่ากลับสู่ศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดทันที
ผ่าเปิดแผลออก เอาส่วนที่เนื้อตายแล้วออก จากนั้นฆ่าเชื้อ เสริมซิลิโคน แล้วเย็บปิดแผล
แล้วการผ่าตัดก็เสร็จสิ้นลง เวลาก็ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว
รอยแผลบนใบหน้าต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งถึงจะสมานกัน หลังจากที่นางทายาเสร็จแล้ว แล้วก็พันแผลอย่างระมัดระวัง ตัดให้เห็นดวงตา จมูก และปาก ผลจะเป็นยังไง ต้องรออีกสักระยะหนึ่ง รอให้ถึงตอนที่เปิดผ้าพันแผลก็จะได้รู้ผล
ตอนแรกคิดว่าอุปกรณ์ผ่าตัดยังสามารถเก็บไว้ใช้ได้อีก ใครจะรู้ว่าหลังจากที่ผ่าตัดเสร็จแล้ว อุปกรณ์ทั้งหมดก็หายไป มีแค่พวกยาที่ยังเหลืออยู่
“นี่ เสี่ยวปา นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ ทำไมของถึงหายไป”
“ตี๊ดๆ ระบบรีไซเคิล เพราะฉะนั้นอุปกรณ์ที่เอาออกมาจากระบบแพทย์นั้นเป็นอุปกรณ์ที่ใช้แล้วทิ้ง ใช้เสร็จก็จะหายไป แล้วระบบก็จะสร้างขึ้นใหม่”
“นี่มันขี้โกงไปหน่อยรึเปล่า”
“นี่ก็เพื่อคิดแทนคุณเจ้าของทั้งนั้น ทำตามการวิเคราะห์ข้อมูลของระบบ ถ้าให้คนเห็นของพวกนี้ จะทำให้เกิดอันตรายขึ้นกับคุณเจ้าของเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ เสี่ยวปาต้องพึ่งการอยู่ของคุณเจ้าของ มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้คุณเจ้าของครับ”
“หุบปาก น่ารำคาญจริงๆ”
เสียงของเสี่ยวปาฟังดูแล้วเหมือนเสียงหนุ่มน้อย แต่ไม่คิดว่าอายุแค่นี้ก็ขี้บ่นขนาดนี้แล้ว
จัดแจงเว่ยเหยียนถิงเสร็จแล้ว นางรีบเปิดประตูเรียกเสี่ยวซีเข้ามา เสี่ยวซีกำลังปั้นมนุษย์หิมะอยู่ที่หน้าประตู สองมือและใบหน้าเล็กๆ เย็นเฉียบจนแดง สูดจมูก ฉินจิ่นรีบลากเขาเข้าบ้าน ให้เขาผิงไฟข้างเตาถ่าน แล้วก็อุ่นซุปให้เขาถ้วยนึง
แต่เพราะบ้านนั้นเล็กไปหน่อย อากาศหนาวแบบนี้ยังจะให้เด็กไปอยู่ข้างนอก ในใจของนางรู้สึกผิดมาก มองดูเสี่ยวซีที่มือโผล่ออกมาข้างนอกแล้วหดคออยู่ ควรจะทำผ้าพันคอกับถุงมือให้เขาถึงจะถูก แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ของที่อยู่ในยุคสมัยนี้
ในใจของฉินจิ่นกำลังคำนวณ ไว้จะถามพี่ถิง ที่ไหนมีไหมพรมบ้าง
เสี่ยวซีดื่มซุปหมดแล้ว ก็เอาถ้วยไปเติมอีกถ้วยนึง “พี่สาวก็ดื่มด้วยสิ”
“พี่ไม่ดื่ม เจ้าดื่มก่อนเถอะ”
เสี่ยวซีมองดูเว่ยเหยียนถิงที่ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยผ้าพันแผลเหมือนจะขยับตัว น่ากลัวเล็กน้อย จริงแล้วเขารู้สึกตั้งแต่แรกแล้ว แต่ไม่กล้าพูดมาโดยตลอด
เว่ยเหยียนถิงนอนอยู่บนเตียงไม่รู้เป็นรู้ตายแบบนี้ เหมือนกับมัมมี่ ไม่แปลกที่เด็กมองแล้วจะรู้สึกกลัว นางมองแล้วก็ยังรู้สึกกลัวเล็กน้อย