px

เรื่อง : สาวนาตัวน้อยกับระบบแพทย์
บทที่ 22 อยากจะสัมผัส


บทที่ 22 อยากจะสัมผัส
“ได้” พี่หวังชั่งบนเครื่องชั่งอย่างรวดเร็ว แล้วใส่ถุง “ทั้งหมดสี่สิบเหวิน”
ฉินจิ่นเพิ่งจะจ่ายเงินไป ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งมาพูดกับเว่ยเหยียนถิงว่า “นี่ไม่ใช่พี่เว่ยหรอกรึ หล่อจังเลย”
ฉินจิ่นหันไปแล้วก็เห็นหญิงสาวยิ้มให้กับเว่ยเหยียนถิง นางถอนหายใจเงียบๆ เข้าใจแล้วว่าดาราในสมัยนี้นั้นทำไมถึงโดนคนตามเยอะขนาดนั้น ช่วยไม่ได้ หล่อเกินไปแล้ว
“ข้าอยากจะจับจริงๆ เลย”
เพิ่งจะพูดจบ หญิงสาวคนนั้นก็เอามือขึ้นมาจะจับหน้าของเว่ยเหยียนถิง เว่ยเหยียนถิงรู้ตัวเลยถอยหลังไปหนึ่งก้าว ฉินจิ่นเลยควงไปที่แขนของเว่ยเหยียนถิงแล้วพูดว่า

“จะจับก็กลับไปจับของสามีเจ้าโน่น เรื่องอะไรถึงต้องมาจับสามีคนอื่น” นางยกถุงขาหมูขึ้นมาแล้วเขย่า “เจ้าน่ะแตกต่างจากขาหมูนี้ก็ตรงที่ ขาหมูนี้น่ะจืด แต่เจ้าน่ะเค็ม”
“เจ้าหมายความว่ายังไง”
ฉินจิ่นขี้เกียจที่จะสนใจนาง เลยควงแขนของเว่ยเหยียนถิงแล้วพูดว่า
“พี่ถิง เรากลับกันเถอะ”
“จ้ะ อาจิ่นว่ายังไงก็ว่าอย่างงั้น” เว่ยเหยียนถิงนั้นรักฉินจิ่นคนเดียวอยู่แล้ว
ระหว่างทางกลับบ้าน ฉินจิ่นก็อดบ่นไม่ได้ นี่มันคนอะไรกัน เห็นว่าคนอื่นหน้าตาดีหน่อยก็มาเกาะแกะกัน

“พี่สาว พี่เขย” เสี่ยวซีรอพวกเขาอยู่ที่หน้าประตูทุกครั้ง เห็นขาหมูในมือของฉินจิ่นแล้ว ตาก็เป็นประกายทันที เว่ยเหยียนถิงและฉินจิ่นเห็นท่าทางที่เขายิ้มแบบนี้แล้ว ก็แสดงว่าวันนี้ไม่ได้ซื้อมาผิด
“เสี่ยวซี ไปเล่นเถอะ” เว่ยเหยียนถิงโค้งเอวลงแล้วลูบหัวของเสี่ยวซี “พี่เขยจะทำของอร่อยให้เจ้ากิน”
เสี่ยวซีตอบกลับแล้วก็กลับไปเล่น ฉินจิ่นเตรียมล้างขาหมู เว่ยเหยียนถิงกลับคว้าไปที่ชายเสื้อแล้วบอกว่า “ไม่ต้องหรอก เจ้าก็อยู่เฉยๆ เดี๋ยวข้าทำเองก็พอ”
เว่ยเหยียนถิงไม่ให้ฉินจิ่นทำงานเลยสักนิด ตัวเองเหมาคนเดียวหมด

“หอมจังเลย” เสี่ยวซีได้กลิ่นก็รีบเข้ามา เห็นว่าบนโต๊ะมีขาหมูจานใหญ่จานนึงแล้วก็กับข้าวที่ปกติแล้วตัวเองชอบกินอยู่ “วันนี้เป็นวันอะไรเหรอขอรับ ถึงได้กินของอร่อยเยอะแบบนี้”
ฉินจิ่นวางถ้วยและตะเกียบเสร็จก็พูดว่า “เสี่ยวซี วันนี้เป็นวันเกิดของเจ้า”
เสี่ยวซีนั่งอยู่ข้างโต๊ะ แล้วจู่ๆ ก็อยากร้องไห้ “เมื่อก่อนพี่สาวไม่เคยจำวันเกิดของข้าได้เลย”
เห้อ พี่สาวร่างเดิมคนนี้นั้นไม่ได้เรื่องเอาซะเลย
เว่ยเหยียนถิงคีบเนื้อชิ้นนึงแล้ววางลงไปในถ้วยของเสี่ยวซีแล้วพูดว่า “ฉลองวันเกิด จะร้องไห้อะไรกัน กินเยอะๆ สิถึงจะถูก”

“นั่นสิ กินเยอะๆ หน่อย” ฉินจิ่นพูดเสริม
เสี่ยวซีนั้นชอบกินเนื้อตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แล้วตอนนี้ก็เป็นขาหมูที่ตัวเองชอบกินด้วย กินแล้วก็หยุดไม่ได้เลย
หลังจากที่อิ่มแล้ว เว่ยเหยียนถิงก็ไปล้างจาน จนวันนี้นั้นฉินจิ่นไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง จากนั้นฉินจิ่นก็บอกให้เสี่ยวซีเข้านอนเร็วหน่อย
“ขอรับ” เสี่ยวซีถอดเสื้อออกแล้วขึ้นไปนอนบนเตียงเล็ก
ฉินจิ่นก็เหนื่อยเล็กน้อย พอหลังจากอาบน้ำอาบท่าแล้ว นางก็ขึ้นนอนไปบนเตียง
จู่ๆ ก็มีมือมาวางไว้ที่เอวนางอย่างไม่รู้ตัว ตามด้วยกอดตัวเองไว้ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเป็นเว่ยเหยียนถิง
เขากระซิบไปที่ข้างหูของฉินจิ่นเบาๆ ว่า “ยอดรัก”
“หืม” ฉินจิ่นตอบรับ รู้สึกถึงความร้อนในตัวของเว่ยเหยียนถิง แล้วพูดว่า “ยอดรัก ตอนนี้ยังไม่ได้จ้ะ”
ถึงแม้วันนี้จะมีเงินเก็บแล้ว แต่ก็ยังไม่มาก ยังเอาไว้ให้เสี่ยวซีเรียนหนังสือไม่ได้เลย
“พี่รู้ พี่กอดเจ้าไว้ก็พอ”

ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉินจิ่นก็หลับตาลง ค่อยๆ เข้าไปในความฝัน
ฉินจิ่นเหมือนได้ยินเสียงดังขึ้นตอนกลางคืน แต่นึกว่าตัวเองฝันอยู่ เลยไม่ได้ใส่ใจ
พอตื่นเช้ามา ก็เห็นว่าข้างหน้าต่างของตัวเองนั้นมีผ้าเช็ดหน้าอยู่ผืนหนึ่ง ตอนที่เก็บขึ้นมานั้นก็ยังคงมีกลิ่นหอมอยู่เล็กน้อย พอเปิดออกมา ข้างบนนั้นมีนกเป็ดน้ำปักอยู่

“เป็นอะไรไปล่ะ อาจิ่น” เว่ยเหยียนถิงมองดูฉินจิ่นที่ยืนอยู่ริมหน้าต่างไม่พูดไม่จา ก็เลยถามขึ้นด้วยความแปลกใจ
ฉินจิ่นไม่ได้ตอบคำถาม เลยทำให้เว่นเหยียนถิงรู้สึกแปลกๆ ไปอีก เลยเดินไปข้างๆ ฉินจิ่นแล้วถาม “อาจิ่น เจ้าไม่สบายรึเปล่า”

ฉินจิ่นลุกขึ้นยืนแล้วเอาผ้าเช็ดหน้ายัดเข้าไปในมือของเว่ยเหยียนถิงแล้วพูดว่า “ของที่คนอื่นให้พี่มา พี่เก็บไว้ดีๆ เถอะ”
แน่นอนว่านี่เป็นคำพูดที่โกรธ เว่ยเหยียนถิงก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น เปิดผ้าเช็ดหน้าออกก็เห็นเป็นนกเป็ดน้ำสองตัว ก็อดหน้าแดงไม่ได้ แล้วก็โยนทิ้งไปอีกทางทันที
“สาบานต่อหน้าเทวดาฟ้าดิน พี่ไม่รู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น อาจิ่น เจ้าอย่าโกรธเลย”

ฉินจิ่นตอบอื้มไปเสียงนึง แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแค่คิดว่าใครกันแน่ที่โยนผ้าเช็ดหน้านี้เข้ามา
วันนั้นทั้งวัน สีหน้าของฉินจิ่นนั้นไม่ได้ดีเลย หน้าหม่นหมองอยู่ตลอด และในตอนที่ฉินจิ่นเก็บเสื้อผ้านั้น เสี่ยวซีก็แอบถามเว่ยเหยียนถิงว่า “พี่เขย พี่สาวเป็นอะไรรึ ทำไมดูแล้วเหมือนไม่ค่อยมีความสุขเลย”
เว่ยเหยียนถิงส่ายหน้า “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“พวกเจ้าสองคนพูดอะไรลับหลังข้าน่ะ” ฉินจิ่นเข้ามาก็เห็นทั้งสองทำกำลังซุบซิบกันข้างหูดูมีพิรุธ
“ไม่มีจ้ะไม่มีจ้ะ ไม่ได้พูดอะไรเลยจ้ะ” ทั้งสองส่ายหัวพร้อมกันทันทีเหมือนกับของเล่นป๋องแป๋ง

ในตอนกลางคืน เว่ยเหยียนถิงหลับตา ดูแล้วเหมือนจะหลับแล้ว แต่ฉินจิ่นกลับทำยังไงก็นอนไม่หลับ พลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียง นึกถึงผ้าเช็ดหน้าตอนเช้าแล้วรู้สึกปวดใจ
ผ่านไปไม่นาน ก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวดังขึ้น ในแสงจันทร์ มองดูหน้าต่างมีผ้าเช็ดหน้าตกลงมาผืนหนึ่งอีกแล้ว ฉินจิ่นลงจากเตียงด้วยความทนไม่ได้ วิ่งออกไป ดูว่าใครกันแน่ที่มาสารภาพรักกับเว่ยเหยียนถิงอยู่เรื่อย
พอออกจากบ้านมาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหน้าต่าง ระยะห่างไม่ใกล้นัก ฉินจิ่นมองไม่เห็นหน้าของนาง “เจ้าคือใคร ไม่หลับไม่นอนเอาของโยนเข้ามาในบ้านข้าดึกๆ ดื่นๆ”

ผู้หญิงคนนั้นไม่คิดว่าจู่ๆ ฉินจิ่นจะวิ่งออกมา ตกใจจนพูดอะไรไม่ออกแล้วก็วิ่งหนีไป
ฉินจิ่นยืนอยู่หน้าประตู โมโหสุดๆ นี่มันเรื่องอะไรกันเห็นสามีคนอื่นหล่อก็มาโยนผ้าเช็ดหน้าดึกๆ ดื่นๆ
“อาจิ่น เจ้าเป็นอะไรไป” เว่ยเหยียนถิงไม่ได้นอนหลับ เมื่อกี้นั้นแค่แกล้งหลับอยู่ตลอด ฟังเสียงฉินจิ่นพลิกตัวไปมา สุดท้ายพอฉินจิ่นออกบ้าน เขาก็แอบตามมาด้วย แล้วก็ดูนางไล่ผู้หญิงคนนั้นไป
“ไม่ได้เป็นอะไร สบายดีมาก” ฉินจิ่นนั้นไม่ได้หันหน้ามามองเว่ยเหยียนถิง เพียงแค่กำลังคิดว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร ในเมืองนี้ยังมีคนแบบนั้นอยู่อีกกี่คน สิ่งที่เว่ยจวนพูดเมื่อครั้งที่แล้วคงไม่ได้จะเกิดขึ้นจริงหรอกนะ

“อาจิ่น เจ้าหึงแล้ว” นี่ไม่ใช่การถามของเว่ยเหยียนถิง แต่เป็นคำยืนยัน
“พูดไปเรื่อย ข้าเปล่าสักหน่อย” ฉินจิ่นโต้แย้งกับจิตใต้สำนึกอยู่
“งั้นเจ้าโกรธอะไรอยู่ล่ะ” ในตอนที่พูดคำนี้ เว่ยเหยียนถิงก็กอดเอวของฉินจิ่นไว้ ฉินจิ่นไม่ได้ขัดขืน แต่ดูเหมือนจะเคยชินด้วยซ้ำ
ฉินจิ่นก็กำลังคิดปัญหานี้อยู่ว่า ใช่แล้วข้าโมโหทำไม ข้าหึงจริงๆ เหรอเนี่ย
“อาจิ่น เจ้าหึงจริงๆ ด้วย” เว่ยเหยียนถิงยิ่งมั่นใจไปอีก

“งั้นข้าหึงแล้วจะทำไมล่ะ” ฉินจิ่นยอมรับแล้ว “ข้าไม่ชอบเลยที่พวกนางโยนผ้าเช็ดหน้ามาในบ้าน”
เว่ยเหยียนถิงยิ่งล้วงยิ่งลึกเข้าไปเรื่อยๆ ความร้อนตอนที่พูดรดไปบนหูของฉินจิ่น ก็รู้สึกจักจี้ “ถึงจะมีน้ำรั่วยาวสามพันลี้ พี่ก็ตักดื่มเพียงจอกเดียว พวกนางชอบพี่แล้วยังไงกัน พี่รักเจ้าแค่คนเดียว”

 

รีวิวผู้อ่าน