px

เรื่อง : สาวนาตัวน้อยกับระบบแพทย์
บทที่27 ปล่อยผัวเจ้ามาซะ


บทที่27 ปล่อยผัวเจ้ามาซะ

“ตายไปแล้ว หลายปีแล้วล่ะ” ตอนที่หลิวเซียงพูดเรื่องพวกนี้ ในตาก็มีน้ำตาอยู่ คิดว่าต้องรักมากแน่ๆ
ฉินจิ่นคิดว่าคนที่มีชีวิตอาภัพเหล่านี้ คนคนนึงต้องรับมือกับธุรกิจครอบครัวก็ไม่ง่ายเหมือนกัน เลยปลอบใจไปว่า
“เสียใจด้วยนะแม่นางหลิว คนตายแล้วฟื้นใหม่ไม่ได้ แม่นางหลิวดูแลธุรกิจครอบครัวที่ใหญ่โตด้วยตัวคนเดียว ช่างลำบากจริงๆ”
“ไม่ลำบากหรอก ที่ลำบากน่ะคือเจ้า”

ฉินจิ่นไม่เข้าใจความหมายของประโยคนี้ ยังไม่ทันได้เอ่ยปากถาม หลิวเซียงก็ชวนให้ฉินจิ่นนั่งลง ดันธนบัตรให้กับฉินจิ่น นางดูแล้ว เป็นเงินแบงก์ห้าร้อยตำลึง นี่เป็นเงินที่เยอะมากสำหรับฉินจิ่นในตอนนั้น

“คนชัดเจนไม่พูดจาอ้อมค้อม นี่คือเงินที่ให้เจ้า”
ฉินจิ่นครุ่นคิดว่าหลิวเซียงจะซื้อสูตรถุงหอมจากตัวเองรึเปล่า ช่างใจป้ำจริงๆ
“ไม่ขาย” ฉินจิ่นก็ดันเงินกลับไป
“คิดดีๆ ล่ะ นี่ไม่ใช่เงินเลขน้อยๆ นะ” หลิวเซียงใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดไปที่จมูกแล้วพูด
ยอมรับว่านี่เป็นเงินจำนวนมาก ฉินจิ่นก็ชอบเงิน แล้วก็ไม่ได้สายตาสั้นด้วย

“ข้าว่าแล้วว่า แม่นางฉินคงจะยังไม่รู้ว่าสิ่งที่ข้าต้องการคืออะไร” หลิวเซียงจัดระเบียบเสื้อผ้าราวกับว่ากำลังโทษตัวเองอยู่
“พูดแบบนี้แล้ว เจ้าไม่ได้อยากได้สูตรยารึ” ฉินจิ่นฟังนางพูดแบบนี้แล้ว ก็สบายใจ แต่พอตั้งใจคิดดูทั้งตัวของตัวเองก็ไม่มีของอะไรที่มีค่าขนาดนี้นี่
“งั้นเจ้าอยากได้อะไร”
“ไปจากผัวเจ้าซะ”
“เล่นอะไรกัน” ฉินจิ่นนึกว่าตัวเองฟังผิด นี่คืออะไรกับอะไรเนี่ย กระแสดราม่ายุคปัจจุบันเหรอ แม่ผัวบังคับให้แฟนสาวออกไปจากลูกชายตัวเอง เลยให้เงินห้าร้อยตำลึงไปใบนึง แต่แม่ผัวจริงๆ ของตัวเองนั้นไม่ได้ไร้สาระ นี่คนอะไรกัน ถึงได้มาโวยวายตรงนี้

“ข้าจะพูดอีกครั้งหนึ่ง ออกไปจากผัวเจ้าซะ” หลิวเซียงเห็นท่าทางที่ฉินจิ่นสงสัยและไม่เข้าใจจึงหงุดหงิด คิดว่าทำไมเว่ยเหยียนถิงถึงได้ชอบผู้หญิงที่โง่ขนาดนี้
ฉินจิ่นก็ยิ่งหงุดหงิด ปกติทำอะไรอยู่ในโลกส่วนตัวก็ถือว่าแล้วกันไป ทำไมวันนี้ยังมีคนมาเถียงกับนางต่อหน้าอยู่อีก

“ทำไมล่ะ” ฉินจิ่นหัวเราะเยือกเย็น “นี่เจ้ายังคิดจะครอบครองบ้านคนอื่นอยู่อีกรึ”
“แน่นอนสิ”
ฉินจิ่นถูกคำตอบนี้ทำให้อึ้งไป การยอมรับสารภาพแบบนั้น มันช่างน่าแปลกจริงๆ
นางตั้งใจพิจารณาคนที่อยู่ตรงหน้า แม่ม่ายสาว รวย เรื่องราวนี้เหมือนจะเคยเห็นที่ไหนมากก่อน
“เจ้าเป็นคนให้แม่สื่อไปบอกคู่ที่บ้านตระกูลเว่ยใช่หรือไม่”
“ข้าเอง ในเมื่อเจ้าไม่อยากให้ข้าเป็นบ้านหลังที่สอง งั้นข้าก็ขอเป็นเมียเอกเลยละกัน”
หลิวเซียงไม่ได้รู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรผิดเลยสักนิด ฉินจิ่นนับถือในมุมมองของนางระดับนึงเลยล่ะ ป่าช่างใหญ่โตจริงๆ นกอะไรก็มีไปหมด

“แม่นางหลิว เหมือนว่าเจ้าจะเข้าใจผิดแล้วล่ะ ข้าไม่ได้ห้ามให้เขามีบ้านน้อย เป็นผัวข้าเองต่างหากที่ไม่อยากจะมีบ้านน้อย วันนั้นได้พูดคำสาบานที่หนักหน่วง บอกว่าทั้งชีวิตนี้จะรักข้าแค่คนเดียว จะแต่งงานกับข้าแค่คนเดียว หากฝ่าฝืน ขอให้ตายโหง”

หลิวเซียงโมโหสุดๆ รู้สึกเหมือนจะเคยได้ยินคำสาบานแบบนี้ที่ไหนมาก่อน
“ข้าเป็นเมียของเขา ข้าจะไม่ให้เขาตายโหงแน่นอน เลยทำได้แค่ถอนการจับคู่ครั้งนี้” ฉินจิ่นหัวเราะเยาะ
“ข้าดูท่าทางอย่างเจ้าแล้ว คิดจะรักผัวข้าลึกซึ้ง งั้นเจ้ายอมที่จะให้เขาผิดคำสาบานรึ”
“เจ้า......”

หลิวเซียงรู้สึกว่าตัวเองถูกผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้ดูถูกซะแล้ว พูดจาขึ้นมาทีล่ะเป็นเหตุเป็นผลจริงเชียว
“ขอแนะนำหน่อยนะ อย่าคิดว่าเพราะตัวเองไม่มีผัว เลยคิดจะแย่งผัวคนอื่น สิ่งที่ไม่ใช่ของเจ้ายังไงก็ไม่ใช่ของเจ้า”
“ลาล่ะ”
หลิวเซียงถูกขวางกั้นจนพูดอะไรไม่ออก แล้วก็มองดูฉินจิ่นเดินออกไป ถึงโมโหก็ทำได้แค่กำผ้าเช็ดหน้าแน่น กัดฟันแล้วพูดว่า “แล้วเจ้าจะต้องเสียใจ”

ตอนที่กลับถึงบ้านนั้น มีเพียงเสี่ยวซีที่เล่นสนุกอยู่คนเดียว ไม่เห็นเว่ยเหยียนถิง
“เสี่ยวซี เจ้าเห็นพี่เขยไหม” ฉินจิ่นถาม
“เมื่อกี้พี่เขยเพิ่งจะกลับมา บอกว่าวันนี้อากาศดี เลยเอาธนูออกไปล่าสัตว์น่ะ” เสี่ยวซีพูดตอบ

ฉินจิ่นได้ยินแล้วก็ค่อยสบายใจขึ้นหน่อย แต่พอนึกถึงเรื่องวันนี้ ในใจก็รู้สึกไม่สบาย ผู้หญิงอย่างหลิวเซียงนั้นจะทำอะไรกัน ทำไมถึงต้องจับเว่ยเหยียนถิงไม่ปล่อยด้วย
พระอาทิตย์ค่อยๆ ตกดินแล้ว และฟ้าก็มืดแล้ว ฉินจิ่นก็กำลังจะทำกับข้าว
“อาจิ่น ข้ากลับมาแล้ว”

พอได้ยินเสียงแล้ว ฉินจิ่นก็รีบออกมา บนตัวของเว่ยเหยียนถิงคาดด้วยธนู ในมือนั้นถือไก่ป่าไว้ ฉินจิ่นก็ช่วยเอาธนูออกจากตัวของเว่ยเหยียนถิง แล้วถามว่า “ทำไมอยู่ดีๆ ถึงไปล่าสัตว์ล่ะจ๊ะ อาหารในบ้านก็พอกินแล้วนี่”
“นี่ไม่ใช่ไก่ป่าของโปรดเจ้ารึ” เว่ยเหยียนถิงพูดถึงตรงนี้แล้ว ก็เอาไก่ป่าในมือเขย่าอย่างได้ใจ

ใช่แล้ว ฉินจิ่นนั้นชอบกินพวกนี้ตั้งแต่ก่อนจะทะลุมิติแล้ว แต่ตอนนั้นที่บอกว่ามีกลิ่นของป่านั้นจริงที่ไหนกัน ไม่จริงทั้งนั้น กินแล้วก็ไม่ได้สมใจเท่าไหร่ มีครั้งหนึ่งที่เว่ยเหยียนถิงเอาไก่ป่ากลับมา ฉินจิ่นกินแล้วก็ชมไม่หยุดเลยทีเดียว

ไม่คิดว่า เว่ยเหยียนถิงนั้นจะเก็บคำพูดของมาใส่ใจด้วย
ข้าวเย็นนั้นเว่ยเหยียนถิงเป็นคนทำ ขอแค่มีเขาอยู่ ฉินจิ่นก็ไม่ต้องทำกับข้าว
“นี่ให้อาจิ่น” ตอนที่กินข้าวนั้น เว่ยเหยียนถิงก็ฉีกขาไก่ข้างหนึ่งใส่ในถ้วยของฉินจิ่น
“อันนี้ให้เสี่ยวซี” จากนั้นก็ฉีกน่องไก่ออกมาใส่ไปในถ้วยของเสี่ยวซี
เสี่ยวซีนั้นชอบกินเนื้อ วันนี้ได้กินแล้วแทบหยุดไม่ได้ ฉินจิ่นมองเว่ยเหยียนถิง แล้วพูดว่า “ท่านพี่ ข้าไม่กินแล้ว ท่านกินเถอะ”
“ข้าไม่กินหรอก เห็นพวกเจ้ากินแล้วข้าก็มีความสุขแล้วล่ะ”

ฉินจิ่นมองเว่ยเหยียนถิง รู้สึกว่าใบหน้านี้สมบูรณ์แบบจนไร้ที่ติเลยทีเดียว แน่นอนว่า ก็ต้องมีจุดบกพร่องบ้าง แต่ดูจากตอนนี้แล้ว ไม่มีใครเทียบได้แล้วจริงๆ หล่อมากจริงๆ ด้วย

คงเป็นเพราะแบบนี้ ถึงทำให้ทุกคนชอบเขาล่ะมั้ง พวกเขาต่างก็ชอบใบหน้านี้กันทั้งนั้น แต่ละคนพอบ้าขึ้นมาก็อย่างกับเป็นติ่ง โดยเฉพาะหลิวเซียงนั่น ยังเป็นติ่งที่มีเงินอีกด้วย
พอนึกขึ้นได้ถึงหลิวเซียง ฉินจิ่นก็รู้สึกหงุดหงิดทันที ผู้หญิงคนนี้อยากจะเอาชนะเกินไป เป็นบ้านน้อยไม่ได้ก็อยากเป็นบ้านเอก แล้วยังเอาเงินออกมาอีกด้วย นางเป็นคนที่เห็นแก่เงินรึไงกัน

“เจ้าเป็นอะไรไป อาจิ่น” เว่ยเหยียนถิงมองฉินจิ่นแล้วถาม
“เปล่าสักหน่อย ข้าสบายดีหนิ”
“เมื่อกี้เจ้าถอนหายใจอยู่ตลอด ใช่หรือไม่ เสี่ยวซี” เว่ยเหยียนถิงพูดคนเดียวไม่พอ ยังไปลากเสี่ยวซีมาด้วยอีกคน

น่องไก่ยังอยู่ในปากของเสี่ยวซี เขาจึงพยักหน้าแรงๆ “ใช่ขอรับ พี่สาว ถอนหายใจอยู่ตลอด”
ดูแล้วคราวนี้ไม่หาเหตุผลคงจะไม่ได้ “พรุ่งนี้ก็ต้องเอาถุงหอมพวกนั้นไปขายอีก แต่สมุนไพรไม่พอแล้ว อีกไม่กี่วันก็ต้องไปเก็บอีก”
เว่ยเหยียนถิงยังคิดว่านี่เป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น แล้วพูดว่า “ครั้งหน้าเดี๋ยวข้าไปเป็นเพื่อนเจ้า”
“จ้ะ”

“รีบกินน่องไก่เร็ว เดี๋ยวจะเย็นเอา”
“อื้ม” ฉินจิ่นใช้แรงกัดไปคำใหญ่ รู้สึกว่าไม่มีอะไรจะมีความสุขไปกว่านี้แล้ว หลิวเซียงน่ะไม่ต้องพูดถึงแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรสักหน่อยนี่
ฉินจิ่นก็มั่นใจในตัวเองมากพอเหมือนกัน ต้องจัดการเรื่องนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบแน่นอน
“เสี่ยวซีก็รีบกินเร็ว เดี๋ยวน่องไก่เย็นแล้วจะไม่อร่อยเอา” เว่ยเหยียนถิงพูดเร่ง

 

รีวิวผู้อ่าน