บทที่37 ความร่วมมือระหว่างคนชั่ว
ครบกำหนดเวลากักบริเวณสองเดือนแล้ว โจวหลันหลันนั้นระงับใจดวงนี้ของตัวเองไว้ไม่อยู่แล้ว นางรีบไปที่ร้านอย่างรวดเร็ว พวกคนงานก็ไม่เจอกับโจวหลันหลันมานานแล้วเช่นกัน พวกเขาพยักหน้าก้มเอวแล้วพูดว่า “นายหญิง”
โจวหลันหลันพยักหน้าตอบรับ โชคไม่เข้าข้าง ในที่สุดวันนี้นางก็เป็นอิสระแล้ว แต่นางไปเดินเที่ยวตลาดมารอบนึงก็ไม่เห็นร้านของฉินจิ่น ช่างน่าแปลกจริงๆ หรือว่ายังไม่ได้ออกมาขาย
พอกลับมาถึงร้านและดื่มชาไปอึกนึง ก็ได้ยินพวกคนงานคุยกัน
“เจ้ารู้ไหม ว่าเมื่อวานน้องสาวของพ่อหนุ่มเว่ยน่ะไปพังร้านของแม่นางหลิวเซียง”
“พ่อหนุ่มเว่ยไหนล่ะ” คนงานคนหนึ่งถามขึ้น
“ก็ผัวของแม่นางฉินไงล่ะ”
……
……
โจวหลันหลันฟังอยู่เงียบๆ จนจบแล้ว ในตอนที่ตัวเองกักบริเวณนั้นมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วย ดีมาก ที่มีคนไม่ชอบฉินจิ่นเหมือนตัวเอง
“ร้านของแม่นางหลิวอยู่ที่ไหน” โจวหลันหลันถามคนงาน
“ออกซอยนี้ไปแล้วเลี้ยวซ้ายแล้วก็เลี้ยวขวาแล้วก็ตรงไปก็ถึงแล้วขอรับ”
คนงานไม่รู้ว่านายหญิงนั้นจะทำอะไร ออกไปข้างนอกก็ถือผลไม้ไปด้วย
“ลูกค้า จะทานอาหารหรือจองที่พักดีขอรับ”
“ข้ามาหาเถ้าแก่หลิวของพวกเจ้าน่ะ” โจวหลันหลันตอบ
ตั้งแต่ที่เว่ยจวนมาก่อเรื่อง เสี่ยวเอ้อของร้านก็ระวังมากขึ้น กลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก
“ท่านมาหาเถ้าแก่ของพวกข้า มีอะไรรึขอรับ”
“เจ้ายุ่งอะไรด้วย เป็นแค่เสี่ยวเอ้อยังจะอยากมายุ่งเรื่องของเราอีก” โจวหลันหลันนั้นไม่ได้มองคนพวกนี้อยู่ในสายตาอยู่แล้ว
“เจ้า……”
“เถ้าแก่ของพวกเจ้าล่ะ สรุปแล้วอยู่ที่ไหนกันแน่” โจวหลันหลันตัดบทของเสี่ยวเอ้อ ท่าทางโกรธ
“ข้าดูแล้วเจ้าจะมาก่อปัญหาสินะ”
การทะเลาะกันแบบนั้น ทำให้หลิวเซียงนั้นได้ยินหมดแล้ว
น่ารำคาญจริงๆ ช่วงนี้เป็นอะไรไป สามวันสองวันนี้ ไม่ค่อยจะสงบเอาซะเลย
“เกิดอะไรขึ้น” หลิวเซียงถามด้วยความโมโห
“แม่นางคนนี้อยากพบท่าน แล้วก็ไม่บอกว่าทำไม”
“เอ๊ะ นี่มันแม่นางหลิวนี่ ช่างสวยจริงๆ เชียว” โจวหลันหลันเริ่มประจบสอพลอทันที
“ไม่แปลกเลยที่คนพวกนั้นต่างบอกว่าแม่นางนั้นหน้าตาสะสวย”
“เจ้าอยากจะพูดอะไร” หลิวเซียงไม่ค่อยชอบคนคนนี้เท่าไหร่นัก มาถึงก็ประจบทันที
“นี่ให้แม่นางหลิวจ้ะ” โจวหลันหลันพูดแล้วก็ยื่นผลไม้ส่งให้ หลิวเซียงขยิบตาให้เสี่ยวเอ้อรับไว้
“ข้าได้ยินเรื่องเจ้ากับฉินจิ่นคนนั้นมา แม่นางนั้นฝีมือดีจริงๆ” โจวหลันหลันนึกถึงความเจ็บปวดในใจแล้ว ในที่สุดก็มีคนมาเล่นงานอีผู้หญิงชั่วนั่นแล้ว
“มีเรื่องแบบนี้ด้วยรึ” หลิวเซียงไม่รู้เรื่อง หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นแล้วถามโจวหลันหลัน
“เจ้าอยากทำอะไร”
“ข้าตั้งใจมาบอกเจ้าเป็นพิเศษ ฉินจิ่นไม่ได้ทำแค่ธุรกิจเครื่องหอมอย่างเดียว ยังมียาทาในร้านขายยาที่ฉินจิ่นเป็นคนขายด้วย ถ้าอยากจะให้นางคลานขึ้นมาไม่ได้จริงๆ ตรงนี้ก็ต้องลงมือด้วย ตัดปลายทางของมัน” โจวหลันหลันกัดฟันแฉอย่างเคียดแค้น
“แบบนี้ถึงจะทำให้มันคลานไม่ขึ้นตลอดไป”
อันนี้หลิวเซียงนั้นไม่รู้จริงๆ หลิวเซียงนั้น ตั้งแต่ที่สามีเสียชีวิตไป ก็ไม่ค่อยออกไปไหน ถ้าไม่ใช่เพราะเว่ยเหยียนถิงหน้าเหมือนหวังเอ้อ นางก็ขี้เกียจทำเรื่องพวกนี้เหมือนกัน
“เจ้าเป็นใคร” หลิวเซียงเห็นคนนี้แล้ว ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่เคยรู้จัก
“ข้าชื่อโจวหลันหลัน เป็นนายหญิงของร้านขายข้าวข้างหน้านั้นจ้ะ”
หลิวเซียงมองหน้าผู้หญิงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มประจบแล้ว ก็ไม่ค่อยเชื่อนางเท่าไหร่
“ทำไมข้าต้องเชื่อเจ้าด้วย”
สมองของโจวหลันหลันที่ไม่ค่อยจะมีสตินั้นตอบไปว่า
“ข้ามาก่อนโดยไม่บอกไม่กล่าว แม่นางจะไม่เชื่อก็สมควรแล้ว แต่ทุกคนในเมืองนี้ต่างก็รู้กันหมดว่าข้ากับฉินจิ่นนั้นเป็นศัตรูกัน ข้าเกลียดมันเข้ากระดูกเลยล่ะ”
โจวหลันหลันนึกขึ้นถึงตอนที่ตัวเองโดนกักบริเวณสองเดือนนั้นเพราะฉินจิ่น และเกือบจะโดนไล่ออกนั้น ในใจก็ยิ่งโมโหขึ้นอีก
......
แต่ฉินจิ่นนั้นกลับรู้สึกว่าช่วงนี้ตัวเองโดนรังแกได้น่าสมเพชสุดๆ ไม่ว่าใครก็กล้าที่จะรังแกตัวเองทั้งนั้น
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ธุรกิจย่ำแย่ก็เป็นเรื่องนึง ยังจะโดนคนรังแกไปตลอดอีก แต่นางนั้นไม่เคยที่จะยอมรับกับในชะตากรรมชีวิต
“อาจิ่น เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่” เว่ยเหยียนถิงเอาน้ำมาวางบนโต๊ะเหยือกหนึ่ง
“ข้ากำลังคิดว่าเราจะหาทางอื่นได้หรือไม่ ที่ไม่ต้องขายถุงหอมนี้ แต่จะให้บริการทำตามแบบที่สั่งมา” ฉินจิ่นนึกถึงสมัยปัจจุบัน ของที่ขายแพงทุกอย่างนั้น คนทั่วไปไม่มีกำลังที่จะซื้อการตัดเย็บชั้นสูงได้ อีกอย่างทุกอย่างต่างก็อยากจะให้ของตัวเองนั้นไม่เหมือนใคร ไม่เหมือนคนอื่น ถ้าให้บริการตัดเย็บตามแบบที่สั่งมา เดี๋ยวก็คงจะขายดีไม่น้อย
เว่ยเหยียนถิงฟังแล้วก็รู้สึกว่าดีมาก ก็รีบเห็นด้วยทันที
พอเริ่มธุรกิจแล้ว ก็มีบางคนแปลกใจมาก ไม่เข้าใจว่าแบบนี้คืออะไร
“สวัสดีจ้ะทุกคน พวกเราให้บริการตัดเย็บถุงหอมตามแบบที่สั่งและส่งถึงที่ขอรับ” เว่ยเหยียนถิงตะโกนสุดเสียงอยู่ที่ขายถุงหอมประจำก่อนหน้านี้
“พ่อหนุ่มเว่ย บริการตัดเย็บถุงหอมตามแบบที่สั่งและส่งถึงที่คืออะไรรึ”
“ก็คือพวกข้าจะทำตามแบบที่พวกท่านแต่ละคนสั่ง วัดตัวสั่งตัดถุงหอม รวมถึงลวดลายที่ปักบนถุงหอมและสมุนไพรที่กำหนดเองด้วยขอรับ ไม่เหมือนใคร มีชิ้นเดียวในโลก ส่งของถึงที่ ก็คือพวกข้าจะเอาถุงหอมที่สั่งตัดนั้นส่งไปตามบ้านของทุกท่าน ในตอนที่เร่งรีบพวกเราก็จะไปปรับแต่งให้ถึงบ้านขอรับ”
“แล้วแบบนี้ถุงหอมอันนึงเท่าไหร่หรือจ๊ะ” คนนึงในนั้นถามด้วยความสงสัย
“หกสิบเหวินจ้ะ” ฉินจิ่นบอกราคา
ราคาที่ฉินจิ่นตั้งนั้นทำเอาทุกคนถึงกับอึ้งไปหมด ราคานี้ขายแพงเกินไปแล้ว
“ไปกันเถอะ เราไปที่ร้านหลิวเซียงกันดีกว่า”
“นั่นสิ ถุงหอมร้านนั้นขายถูกแล้วยังแถมผ้าเช็ดหน้าอีกด้วย”
พูดแล้ว คนทั้งวงก็แยกย้ายไป
“อาจิ่น” เว่ยเหยียนถิงเรียกชื่อของฉินจิ่นด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรจ้ะ” ฉินจิ่นเข้าใจความหมายของเว่ยเหยียนถิง แต่ตัวเองนั้นไม่ได้หวังว่าลูกค้าจะเป็นพวกเขาแต่แรกอยู่แล้ว แค่ให้พวกเขากระจายข่าวให้ตัวเองก็เท่านั้น ในเมื่อราคานั้นแพงมากจริงๆ
“ลูกค้าเป้าหมายของเราไม่ใช่พวกเขาจ้ะ”
ทุกๆ เช้า ฉินจิ่นจะไปเปิดร้านตรงเวลาทุกวัน ผ่านไปสามวัน ในที่สุดก็มีลูกค้ามาแล้ว
“แม่นาง ร้านของเจ้ากำหนดออกแบบเองยังไงหรือ” มีคนที่ท่าทางดูหรูหราเข้ามา มือที่เรียวยาวนั้นสะบัดพัดแล้วบังไปที่ใบหน้า
“เชิญเจ้านั่งก่อนเจ้าค่ะ แม่นาง” ฉินจิ่นรีบให้คนนั่งลงข้างหน้าตัวเอง แล้วอธิบายกฎอย่างละเอียด วัดตัวให้นางแล้วร่างภาพกล้วยไม้
“มันดูงดงามมาก เจ้าลองทำออกมาก่อนสิ แล้วค่อยไปที่บ้านซ่ง” ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้า แล้วก็บอกสถานที่หนึ่งมา
แล้วฉินจิ่นและเว่ยจวนก็รีบหารือกันเรื่องลวดลายกันสองคน ฝีมือของเว่ยจวนนั้นดี ไม่ว่าจะเป็นลวดลายอะไรก็ทำได้หมดแบบไม่ต้องคิด เหมือนจริงสุดๆ แล้วฉินจิ่นก็ใส่กล้วยไม้เข้าไปในสมุนไพรที่ใส่อยู่ประจำ ดมแล้วละเอียดอ่อนและผ่อนคลายมากๆ
พอวันรุ่งขึ้นก็เอาไปส่งที่บ้านซ่ง ผู้หญิงคนนั้นตั้งใจดู ดมแล้วก็พูดว่า “ใช้ได้ คุ้มราคาจริงๆ” จากนั้นก็ให้คนใช้เอาเงินหกสิบเหวินมา
“เอาแบบนี้ดีกว่า ข้ายังมีคนรู้จักอีกสองสามคนที่อยากได้ เจ้าทำอีกสักสองสามอันสิ” ดูออกได้ว่านางชอบมาก มองดูอยู่นานก็ทำใจที่จะวางลงไม่ได้
“เจ้าค่ะ” ฉินจิ่นตอบรับ และในใจนั้นก็ดีใจจนเบิกบานใจ
หลายวันติดต่อกันนี้ ฉินจิ่นรับแบบมาทั้งหมดหกแบบ ก็ยุ่งจนวางมือไม่ได้
ไม่นาน หลิวเซียงก็ได้ยินเรื่องนี้ ที่ไหนมีฉินจิ่นที่นั่นก็ต้องมีหลิวเซียง ในเมื่อฉินจิ่นให้บริการทำตามแบบ งั้นหลิวเซียงก็ต้องทำตามด้วย