px

เรื่อง : สาวนาตัวน้อยกับระบบแพทย์
บทที่ 41 คนเราจะเอาหน้าเกินไปไม่ได้


บทที่ 41 คนเราจะเอาหน้าเกินไปไม่ได้
หลิวเซียงพูดด้วยความแปลกใจว่า “มีเรื่องแบบนี้ด้วยรึ รู้หรือไม่ว่าเป็นใคร”
“คือน้องสี่ของพ่อหนุ่มบ้านเว่ยขอรับ ชื่อว่าเว่ยเหยียนซิ่น” ลูกจ้างตอบ
หลิวเซียงเงียบไปสักพัก แล้วยิ้มเยาะ “ในเมื่อเจ้ากล้าทำแบบนี้ ก็อย่ามาโทษข้าก็แล้วกัน”
“เถ้าแก่ขอรับ แล้วจะทำยังไงล่ะขอรับ”
“พวกเจ้าไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น ทำเป็นไม่รู้ก็พอ” หลิวเซียงยิ้ม แล้วตาก็เป็นประกายขึ้น

หลายวันต่อมา หลิวเซียงจงใจอยู่ที่ริมหน้าต่างของร้านอาหาร เอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาแกล้งทำท่าทางเหมือนร้องไห้ แล้วก็ให้ลูกจ้างไปแพร่ข่าวว่า บอกว่าตัวเองนั้นเสียใจมาก ถ้ามีโอกาสอีก ตัวเองจะไม่เป็นแบบนี้เด็ดขาด
หลิวเซียงเป็นแบบนี้ ติดต่อกันอยู่หลายวัน
วันนี้ยังแกล้งทำเป็นออกไปซื้อผักข้างนอกด้วย แล้วก็บังเอิญเจอกับเว่ยเหยียนซิ่นที่หัวมุมในตลาด

“ข้าดูคุ้นหน้าคุ้นตาเจ้ามาก เจ้าคือใครรึ” หลิวเซียงจงใจถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้ว
เว่ยเหยียนซิ่นรู้ตัวแล้วก็อยากจะหนีไป แต่หลิวเซียงกลับขวางอยู่ข้างหน้าเขาแล้วพูดว่า “เจ้าคือน้องสี่ของเว่ยเหยียนถิงใช่หรือไม่”
ในเมื่อถูกคนจับได้แล้ว เว่ยเหยียนซิ่นก็ทำได้แค่พยักหน้า ยอมรับว่า “ใช่”

หลิวเซียงรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นแล้วก็เริ่มร้องไห้ทันที “ช่วงเวลาก่อนหน้านี้ข้าทำเรื่องไม่ดีไว้กับตระกูลของพวกเจ้าเยอะขนาดนั้น ในใจของข้านั้นก็รู้สึกไม่สบายใจเลยจริงๆ ตอนแรกข้าก็ไม่ได้คิดจะทำแบบนี้ แต่เป็นเพราะโจวหลันหลันนั่นบังคับข้า”
เว่ยเหยียนซิ่นไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี แค่รู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองควรจะไปให้เร็วที่สุด แล้วก็พูดว่า “ที่บ้านยังมีธุระน่ะ ข้าขอตัวกลับละ”

แต่หลิวเซียงดึงเสื้อของเว่ยเหยียนซิ่นไว้ แล้วพูดว่า “เจ้าอย่าเพิ่งไปสิ เจ้าไปกินข้าวที่ร้านอาหารของข้าสักมื้อเถอะ ให้ข้าได้ไถ่โทษในสิ่งที่ได้เคยทำไม่ดีไป”
“ไม่ต้องๆ ข้าจะกลับแล้ว”

“ถ้าเจ้าไม่ไป ก็แสดงว่าเจ้าไม่ให้อภัยข้า” หลิวเซียวก็เสแสร้งแกล้งทำเป็นหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา “ข้ารู้อยู่แล้วว่าพวกเจ้าไม่มีทางให้อภัยข้าแน่นอน”
เว่ยเหยียนซิ่นหน้าแดงไปหมด ทำได้แค่โบกมือ “ไม่ใช่ๆ”

“ในเมื่อไม่ใช่งั้นก็ไปกินข้าวที่ร้านข้าสักมื้อสิ ให้ข้าได้ไถ่โทษในสิ่งที่ข้าได้ทำผิดไป”
เว่ยเหยียนซิ่นเคยเจอเรื่องแบบนี้ที่ไหนกันล่ะ หนังหน้าก็บาง ก็ถูกหลิวเซียงพาไปที่ร้านอย่างไม่มีทางเลือก

“มานี่หน่อย เอาอาหารที่ดีที่สุดมาให้พ่อหนุ่มเว่ยหน่อย”
หลิวเซียงส่งสายตาให้ลูกจ้างไปทีนึง ลูกจ้างเข้าใจแจ่มแจ้ง แล้วก็รีบไปปรนนิบัติเว่ยเหยียนซิ่นทันที “มาขอรับ เชิญพ่อหนุ่มเว่ยนั่งก่อนขอรับ”
“เจ้ากินไปก่อนนะ เดี๋ยวข้าขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
ในตอนที่หลิวเซียงกลับมานั้น เว่ยเหยียนซิ่นก็ฟุบอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว

“เหอะ คิดจะแข่งกับข้า ก็ไม่ดูคนของตัวเองซะก่อน ไม่เจียมตัวเอาซะเลย” หลิวเซียงมองเว่ยเหยียนซิ่นแล้วพูด
“กี่ดีกรีล่ะ” หลิวเซียงเอาเหล้าขึ้นมาดม นี่เป็นยาที่ตัวเองคิดค้นมาทั้งหมด
“ไม่เยอะจ้ะ ตามปกติ”
หลิวเซียงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ดี ลากมันไปข้างหลัง แล้วอย่าให้ใครเห็น”
“แล้วเจ้าก็ไปบอกเว่ยเหยียนถิงซะ ว่าน้องชายของเขาอยู่ในมือข้า” ตอนที่หลิวเซียงลงมานั้นกำลังเพิ่งจะแต่งหน้าเสร็จ ตอนนี้ก็มองตัวเองที่อยู่ในกระจก มันสวยดูดีมาก ข้าจะดูซิว่าเว่ยเหยียนถิงเจ้าจะเลือกยังไง แล้วฉินจิ่นจะทำอะไรข้า
“ขอรับ”
......

เว่ยเหยียนซิ่นออกไปในตอนเช้า ถึงตอนนี้พระอาทิตย์ก็ตกดินไปแล้ว ก็ยังไม่กลับมา
“เกิดอะไรขึ้น ถ้าเป็นปกติก็คงกลับมาตั้งนานแล้ว” เว่ยจวนบ่นพึมพำ นางมีน้องชายคนเดียว ในบ้านต่างก็รักเว่ยเหยียนซิ่นกัน ถึงตอนนี้ยังไม่กลับมา ก็ร้อนรนจนไม่รู้จะร้อนรนยังไงแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอก” เว่ยเหยียนถิงปลอบใจน้องสาวตัวเอง “เดี๋ยวถ้าเหยียนซิ่นยังไปกลับมา เดี๋ยวข้าจะไปตามหาเขาเอง”
แล้วสุดท้ายก็รออยู่นาน รอแล้วรอเล่า ก็ยังไม่กลับมา เว่ยเหยียนถิงทนไม่ไหวแล้ว ก็ลุกขึ้นแล้วบอกว่า “อาจิ่น เดี๋ยวข้าออกไปดูก่อนนะ”

“จ้ะ” ในใจของฉินจิ่นรู้สึกแปลกๆ แล้วก็พูดไม่ได้ว่าทำไม “พี่ระวังด้วยนะจ๊ะ จำเอาไว้ว่า มีเรื่องอะไรก็อย่าประมาทเด็ดขาด ต้องปลอดภัยกลับมานะจ๊ะ”
เว่ยจวนที่เป็นห่วงเว่ยเหยียนซิ่นในตอนแรกนั้น พอได้ยินฉินจิ่นพูดแบบนี้แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “พวกพี่ก็เป็นผัวเมียกันมาจนแก่แล้ว จะแยกจากกันหน่อยยังทำใจไม่ได้อยู่อีก พี่สะใภ้จ๊ะ อย่ากังวลเลย พี่รองดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว”
ฉินจิ่นอื้มไปเสียงนึง ยืนอยู่หน้าประตูแล้วมองแผ่นหลังของเว่ยเหยียนถิงที่ค่อยๆ กลืนไปกับความมืด ความรู้สึกกังวลบางอย่างในใจนั้นมีมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เหมือนว่าจะเกิดเรื่องอะไรบางอย่างขึ้น

เว่ยเหยียนถิงเพิ่งจะออกจากหมู่บ้านไปก็เห็นคนนึงมุ่งตรงมาจากข้างหน้า เป็นคนเดียวกับที่มาบอกข่าวเรื่องเว่ยจวนไปก่อเรื่องในตอนนั้น
คนคน นั้นเห็นเว่ยเหยียนถิงแล้วก็ถามว่า “พ่อหนุ่มเว่ย นี่เจ้าจะไปไหนรึ”
“ไปตามหาน้องชายข้าน่ะ”

“งั้นก็พอดีเลยจ้ะ น้องชายของเจ้าอยู่ที่ร้านของเรา ลูกน้องคนนั้นยิ้มแล้วพูด “ข้าจะมาบอกที่ไปของน้องชายพ่อหนุ่มเว่ยอยู่พอดี”
พอเว่ยเหยียนถิงได้ยินว่าเว่ยเหยียนซิ่นอยู่ในมือหลิวเซียงแล้ว ก็อึ้งทันที ไม่แปลกที่ทำไมนานขนาดนี้ ก็ไม่เห็นเขากลับมา จริงๆ แล้วก็โดนจับตัวอยู่นี่เอง
“น้องชายข้าเป็นยังไงบ้าง” เว่ยเหยียนถิงกระชากคอเสื้อของคนนั้นแล้วถาม “ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับน้องชายของข้าล่ะก็ ข้าไม่ปล่อยพวกเจ้าไว้แน่”
คนส่งข่าวแกะนิ้วของเว่ยเหยียนถิงออกเป็นครั้งๆ “น้องชายเจ้าจะเป็นยังไงแล้วข้าจะรู้ได้ยังไง ข้าแค่มาส่งข่าว ถ้าอยากรู้เจ้าก็ไปดูเองสิ”

เว่ยเหยียนถิงปล่อยมือทันที ในใจร้อนรนสุดๆ แล้วก็รีบไปที่ร้านอาหารของหลิวเซียงอย่างเร่งรีบ
โจวหลันหลันนั่งเล่นลูกคิดอยู่หน้าประตู เห็นทั้งสองเดินตามกันไปหน้าคนนึงหลังคนนึงแล้ว
คนที่เดินอยู่ข้างหน้า......โจวหลันหลันหรี่ตามองแล้วก็ถึงจะรู้ว่าเป็นเว่ยเหยียนถิง คนข้างหลังโจวหลันหลันก็รู้จักอยู่แล้ว ว่าเป็นคนใช้ที่หลิวเซียงไว้ใจ ดูทิศทางแล้ว น่าจะไปที่ร้านอาหารของหลิวเซียง

“เจ้าไปบอกฉินจิ่นซะ บอกว่าเว่ยเหยียนถิงไปหาหลิวเซียง”
“เอ่อ......” คนใช้นั้นเคยได้รับบุญคุณจากฉินจิ่นอยู่ตลอด ก็ไม่อยากจะทำสักเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเจ้านายของตัวเองนั้นกำลังคิดเล่นอะไรอยู่
“บอกให้เจ้าไปก็ไปสิ มาพูดมากทำไมกัน” โจวหลันหลันรำคาญสุดๆ
โจวหลันหลันพูดคำนี้จบ ก็เดินตามเว่ยเหยียนถิงไปที่ร้านอาหารของหลิวเซียง
“เจ้าว่ายังไงนะ” เว่ยจวนไม่กล้าเชื่อหูของตัวเอง
“พ่อหนุ่มเว่ยไปหาหลิวเซียงที่ร้านอาหารจ้ะ” คนใช้พูดอีกรอบนึง
“ใครเป็นคนให้เจ้ามาส่งข่าว” ฉินจิ่นรู้จักคนนี้ นี่เป็นคนใช้ของบ้านโจวหลันหลัน
“นายหญิงบ้านข้าขอรับ” คนใช้ตอบ

ฉินจิ่นรู้ว่าโจวหลันหลันเกลียดตัวเองจนอยากให้ตัวเองตายไปข้างนึง ถ้าให้คนมาบอกแบบนี้ล่ะก็ คงจะอยากเห็นเรื่องตลกของนางแน่ๆ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องจริง หลิวเซียงต้องคิดวางแผนอะไรสักอย่างแน่นอน
“พี่สะใภ้รอง ทำยังไงดีล่ะจ๊ะ” เว่ยจวนร้อนรนจนใจแทบจะหลุดออกมา หลิวเซียงนั้นไม่ได้ตายใจ ผู้หญิงชั่วคนนี้คิดอยากจะทำอะไรอีกกันนะ
“แจ้งทางการ” ฉินจิ่นเงียบไปอยู่นานแล้วก็พูดออกมาสองคำ ตอนนี้หลิวเซียงเป็นคนผิด ตัวเองไม่ได้ผิด การแจ้งทางการนั้นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด อีกอย่างมีแค่การแจ้งทางการเท่านั้นที่จะยืนยันความปลอดภัยของพวกเขาได้
......
“ใครเป็นคนแจ้งความ” เจ้าหน้าที่เคาะไม้แล้วถาม
“ชื่อนางฉินจิ่น เป็นภรรยาของเว่ยเหยียนถิงเจ้าค่ะ” ฉินจิ่นก้มหน้าแล้วพูด แล้วก็ไม่รู้ว่าตัวเองพูดแบบนี้นั้นถูกหรือไม่ นางไม่เคยแจ้งความมาก่อน ตอนนี้ก็งูๆ ปลาๆ ไปก่อน
“วันนี้น้องชายสี่เว่ยเหยียนซิ่นออกบ้านตั้งแต่เข้า ฟ้ามืดแล้วก็ยังไม่กลับมา มีคนเห็นว่าเขาไปที่ร้านอาหารของแม่นางหลิวแล้วก็ไม่ได้ออกมาอีก เว่ยเหยียนถิงสามีของข้าที่ออกไปตามหา ก็ยังไม่กลับมาเลยเจ้าค่ะ”

 

รีวิวผู้อ่าน