บทที่ 44 จะเอาก็แค่ใบหน้านี้เท่านั้น
“งั้นผัวข้าล่ะจะทำยังไง แล้วผัวข้าไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์รึ ครอบครัวของเราไม่ใช่คนบริสุทธิ์หรอกรึ”
น่าตลกจริงๆ เพราะนางน่าสงสารคนเดียว แล้วคนทั้งครอบครัวเขาก็ต้องมาซวยไปด้วยเหรอ
หลิวเย่รีบพูด “แม่นางฉิน เจ้าใจเย็นๆ ก่อน ข้ารู้มาแล้ว ว่าผัวเจ้านั้นอยู่ในมือของพี่สาวข้าจริงๆ แต่พี่สาวข้านั้นอยากจะแต่งงานกับเขาอยู่ตลอด คงไม่ทำลายชีวิตเขาแน่นอน”
“จริงรึ” ฉินจิ่นก็ร้อนรนใจจนเลอะเลือนถึงได้ถามคำถามแบบนี้ออกมา
“จริงๆ แม่นางฉิน เจ้าเป็นคนฉลาด ขอแค่เจ้ารับปากว่าเจ้าจะไม่ทำร้ายพี่สาวของข้า ข้าก็มีวิธีที่จะช่วยผัวของเจ้าออกมาได้”
ฉินจิ่นพยักหน้าเบาๆ “ได้ แล้วเจ้ามีวิธีอะไรล่ะ”
“สามีของเจ้าถูกซ่อนอยู่ในห้องพักห้องสุดท้ายในทางลับ ข้าจะไปมอมเหล้าพี่ เดี๋ยวถึงเวลาแล้วเจ้าก็ค่อยเข้าไปช่วยเขาก็พอ”
“ได้จ้ะ” ในเมื่อหลิวเย่ยอมช่วยตัวเองให้ช่วยเว่ยเหยียนถิงออกมา ก็ดีมากแล้ว
ไม่นาน หลิวเย่ก็กลับไปที่ร้านอาหาร เห็นหลิวเซียงนั่งดื่มชาอยู่ที่ชั้นล่าง
“เจ้ากลับมาอีกทำไมล่ะ ให้เจ้ากลับไปที่บ้านแล้วไม่ใช่รึ” หลิวเซียงคิดถึงคำที่นางพูดพวกนั้นแล้วก็โมโห
“ถ้าเจ้ายังอยากพูดเรื่องพวกนั้นกับข้าอีก ก็ไสหัวกลับไปซะ”
“พี่ ข้ายอมรับผิดแล้ว การที่พี่หาความสุขได้นี่สิ ถึงจะดีกว่าทุกอย่าง” หลิวเย่ยืนอยู่หน้าประตูแล้วค่อยๆ พูด
หลิวเซียงได้ยินน้องสาวพูดแบบนี้แล้ว สุดท้ายก็ยิ้มแล้ว ก็ถือว่ามีคนที่เข้าใจนางแล้ว อีกอย่างคนคนนี้ก็เป็นน้องสาวของนางด้วย
“เจ้าคิดได้แบบนี้ ข้าก็ภูมิใจมากจริงๆ รีบเข้ามาเถอะ”
“เถ้าแก่ขอรับ อาหารที่เตรียมไว้เมื่อกี้ยังจะให้ยกมาอยู่ไหมขอรับ”
หลิวเซียงลากมือของหลิวเย่ไว้แล้วพูดอย่างดีใจว่า “ยกมา ต้องยกมาแน่นอนอยู่แล้ว”
“แล้วก็เอาเหล้าดีๆ มาอีกสักสองสามเหยือกด้วย” หลิวเย่พูดสั่งคนใช้
“เหล้า” หลิวเซียงรู้สึกแปลกๆ “ข้าจำได้ว่าเจ้าน่ะคออ่อน ยังจะดื่มอีกรึ”
หลิวเย่ก็นึกบางอย่างออก ก็หัวเราะและพูดทันทีว่า “วันนี้อารมณ์ดี เลยอยากดื่มสักหน่อย อีกอย่างพี่สาวข้าก็หาความสุขเจอแล้วด้วย”
หลิวเซียงดีใจมาก เลยไม่ได้สงสัยอะไรนัก ก็รีบสั่งทันทีว่า “ดี งั้นเอาเหล้าที่ข้าหวงที่สุดออกมา”
“น้องสาว เจ้าน่ะไม่รู้จริงๆ ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่สาวคนนี้นั้นผ่านมาได้ยังไง การงานที่ใหญ่ขนาดนี้ แบกรับไว้อยู่คนเดียว ดูเหมือนร่าเริง แต่จะมีใครรู้บ้างหรือไม่ว่าในใจจริงๆ ของข้านั้นทุกข์ใจแค่ไหน” หลิวเซียงพูดแล้วก็อยากจะร้องไห้ ชีวิตแบบนี้นั้นช่างลำบากจริงๆ
หลิวเย่ก็เข้าใจเหมือนกัน ตอนเด็กๆ พี่สาวนั้นลำบากมามาก กว่าจะรอให้ถึงตอนที่แต่งงานนั้นก็ไม่ง่ายเลย นึกว่าชีวิตจะดี ใครจะรู้ว่าไม่ถึงสองปี พี่เขยก็ตายไปซะแล้ว
หลิวเย่พยักหน้า แล้วก็ลองถามดูว่า “พี่จ๊ะ......แล้วคนนั้นมีอะไรดีหรือจ๊ะ เทียบกับพี่เขยแล้วเป็นยังไงบ้าง”
หลิวเซียงคิดอยู่นาน แล้วก็พูดแค่ว่า “หน้าเหมือน อย่างอื่นนั้นยังไม่รู้” แล้วก็พูดอย่างดีใจอีกว่า “น้องสาว ในที่สุดชีวิตที่ลำบากของพี่ก็จะผ่านไปแล้ว”
แค่คิดว่าจะได้แต่งงานกับเว่ยเหยียนถิง ในใจของหลิวเซียงก็ดีใจจนพูดไม่ออกแล้ว
หลิวเย่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก แล้วคนใช้ก็เอาเหล้ามาพอดี “เถ้าแก่ขอรับ นี่เหล้าขอรับ”
“ดี” หลิวเย่รับมาแล้วก็รินให้หลิวเซียงก่อนแก้วนึง แล้วก็รินให้ตัวเองจนเต็ม ยังไม่ทันได้รอให้หลิวเย่พูด หลิวเซียงก็ดื่มลงไปแล้ว
หลิวเซียงก็ไม่ได้คอแข็งมาก แต่ก็ดีกว่าหลิวเย่มาก ดื่มไปทีละแก้วต่อๆ กันแบบนั้น ก็เมาบ้างเหมือนกัน รู้สึกมึนหัวหน่อยๆ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “น้องสาว ไม่นาน ชีวิตที่แสนทุกข์ทนของพี่ก็จะหมดลงแล้ว”
“แต่ยังไงคนคนนั้นก็ไม่ใช่พี่เขยสักหน่อย เขาก็มีแค่ใบหน้านั้นเองนี่จ๊ะ”
หลิวเย่ยังอยากจะเตือนสติพี่สาว ไม่ให้นางดื้อดึงแบบนี้ต่อไป
“ข้ารู้ แล้วยังไงล่ะ” หลิวเซียงไม่ได้สนใจเลยสักนิด “มีแค่หน้าตาก็พอแล้ว ข้าจะเอาแค่ใบหน้านั้น”
“พี่จ๊ะ พี่เขยน่ะตายไปแล้ว ถึงคนอื่นจะหน้าเหมือนแค่ไหนก็ไม่ใช่เขา อีกอย่างคนคนนั้นเขาก็ไม่ได้รักพี่ด้วย” หลิวเย่พูด
หลิวเซียงได้ยินแบบนี้แล้วก็รู้สึกเหมือนว่าเฉยๆ เหมือนว่าใครเคยบอกกับตัวเองแบบนี้ แล้วเป็นใครกันล่ะ”
“รักข้ารึ ข้าจะทำให้เขารักข้ามีข้าแค่คนเดียว
“แต่ในใจของเขาก็ยังมีคนอื่นอยู่ดี” หลิวเย่ไม่รู้ว่าพี่สาวของตัวเองนั้นจะดื้อรั้นถึงขั้นนี้ เมื่อก่อนหลิวเซียงนั้นเป็นคนที่อวดเก่งมาก ให้ตายก็ไม่ยอมแย่งสามีมีคนอื่น แต่ตอนนี้กลับมาตกอยู่ในขั้นนี้เอง
หลิวเซียงมองคนที่อยู่ตรงหน้าแล้ว มองอยู่นาน ในสมองก็ยังมีคำถามนั้นขึ้นมาซ้ำๆ เป็นใครกัน เป็นใครกันที่เคยพูดแบบนี้กับตัวเอง
“เขาไม่รักเจ้า......เขาจะแต่งงานกับข้าคนเดียว......รักข้าเพียงคนเดียว.....”
คือฉินจิ่น ฉินจิ่นเป็นคนพูดคำพวกนี้
“นังผู้หญิงเลว แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ข้าจะแข่งเขามา อีเลว” หลิวเซียงมองหลิวเย่เป็นฉินจิ่น แล้วก็ด่าคำด่าหยาบคาย
“พี่ พี่พูดอะไรน่ะ” หลิวเย่รู้สึกแปลกๆ “คือข้าเอง ข้าคือหลิวเย่”
“อีสารเลว” หลิวเซียงกัดฟันแล้วพูด
“พี่......”
หลิวเย่ยังพูดไม่ทันจบประโยค ก็โดนหลิวเซียงบีบที่คอแรงๆแล้ว และปากก็ยังบอกว่า “อีเลว ไปตายซะ ไปตายซะ ยังไงเว่ยเหยียนถิงก็ต้องเป็นของข้า”
“พี่ ข้าเอง......ข้าคือ......หลิวเย่......” หลิวเย่ถูกหลิวเซียงบีบคอจนหายใจไม่ออก
“อีเลว อีเลว” หลิวเซียงพูดไปมือก็ยิ่งบีบแรงขึ้นด้วย “ไปตายซะ”
“พี่......” สุดท้ายแล้วหลิวเย่ถึงขั้นคิดว่าตัวเองจะไม่รอดแล้ว คอหอยนั้นเจ็บเหมือนโดนไฟเผายังไงอย่างงั้น
พี่สาว? หลิวเย่?
ตอนนี้หลิวเซียงถึงจะได้สติขึ้น ว่านี่คือน้องสาวของตัวเอง ไม่ใช่ฉินจิ่น ก็รีบปล่อยมือ ทันทีที่ปล่อยมือนั้น หลิวเย่ก็ล้มลงไปบนโต๊ะเสียงดังปังแล้ว
“น้องสาว” หลิวเซียงรู้สึกผิดสุดๆ ตาแดงไปหมด แล้วก็รีบพยุงน้องสาวขึ้น เห็นรอยแดงบนคอของนางแล้ว ก็ยิ่งรู้สึกผิดยิ่งขึ้นไปอีก
“พี่......พี่เป็นอะไรไปกันแน่” หลิวเย่โดนบีบคอจนแดงไปหมด จนเสียงที่พูดออกมานั้นไม่เหมือนเสียงตัวเอง
หลิวเซียงก็พูดไม่ออกว่าเป็นอะไรกันแน่ เมื่อกี้รู้สึกว่าคนที่อยู่ตรงหน้าก็คือฉินจิ่น นางส่ายหน้า แล้วพูดอย่างรู้สึกผิดว่า “น้องสาว พี่พยุงเจ้าขึ้นไปพักก่อนดีกว่า แล้วค่อยหายามาทาให้เจ้า”
“จ้ะ” หลิวเย่กลั้นน้ำตาแล้วพยักหน้า และเดินขึ้นไปกับหลิวเซียง
ฉินจิ่นที่คอยดูความเคลื่อนไหวจากข้างนอกอยู่ตลอดนั้น ก็รีบลากเว่ยเหยียนซิ่นวิ่งเข้าไปทันที สะบัดน้ำฝนบนตัวออก แล้วพูดว่า “เร็วเข้า รีบใช้โอกาสที่ฝนกำลังตกนี้ช่วยคนออกมา”
“อื้ม” เว่ยหยียนซิ่นพยักหน้าทันที เสียงฟ้าร้องข้างนอกดังขึ้นอยู่ตลอด ทำเอาใจคนถึงกับตื่นตระหนกเลยทีเดียว
ห้องพักแขกนั้นมีทั้งชั้นบนและชั้นล่าง แต่หลิวเย่บอกว่าอยู่ห้องสุดท้ายของชั้นล่าง ทั้งสองคนเดินตามกันไป ให้แน่ใจเหมือนกันว่าแถวนั้นไม่มีใครอยู่ถึงจะค่อยๆ เดินไปข้างหน้า
“น้องสี่ เจ้ารู้สึกว่ามันแปลกๆ รึเปล่า ทำไมไม่มีคนใช้สักคนเลยล่ะ” ฉินจิ่นรู้สึกว่าอย่างน้อยที่นี่ก็ต้องมีคนเฝ้าสิ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีคนฝ้าประตูเลยสักคน
เว่ยเหยียนซิ่นก็เห็นด้วยกับความคิดของฉินจิ่น แต่ตอนนี้นั้นสนใจอะไรมากไม่ได้ “ช่างเถอะพี่สะใภ้รอง ที่สำคัญคือรีบไปช่วยพี่รองออกมาก่อนเถอะ เรื่องอื่นปล่อยไว้ก่อน”
“ได้” ฉินจิ่นก็รู้สึกว่าไม่ว่าจะมีการแอบซุ่มอยู่หรือไม่ แต่การช่วยเว่ยเหยียนถิงออกมานั้นสำคัญกว่า
พอเปิดบานประตูนั้นออก เว่ยเหยียนซิ่นก็ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นไปสักพัก