px

เรื่อง : สาวนาตัวน้อยกับระบบแพทย์
บทที่ 47 ได้ร้านอาหารมาโดยไม่ได้ตั้งใจ


บทที่ 47 ได้ร้านอาหารมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ข้าได้ยินคนข้างนอกบอกว่า เจ้าไม่คิดจะเปิดร้านแล้ว” ฉินจิ่นพูดถามทันที
หลิวเซียงไม่ได้ยอมรับ “คนเราน่ะ ก็ต้องผ่านความเป็นความตายมากันทั้งนั้น ถึงจะปล่อยวางทุกอย่างได้ ในตอนที่อยู่ในที่ที่ไฟไหม้นั้น ข้าก็คิดแล้ว ที่ตัวเองอยู่มานานขนาดนี้นั้นเพื่ออะไรกันแน่”

ฉินจิ่นพยักหน้าไม่พูดไม่จา ยังไงพวกนางก็เคยเป็นศัตรูกันมาก่อน ตอนนี้พูดอะไรก็ไม่เหมาะทั้งนั้น
“พอคิดได้แล้ว ก็ไม่ค่อยอยากจะเปิดร้านเท่าไหร่แล้ว ก็เลยช่างมันแล้วน่ะ” หลิวเซียงพูด ท่าทางอาการนั้นดูสบายขึ้น “ของบางอย่างไม่มีก็คือไม่มี ถึงตอนนี้แล้ว ก็บังคับอะไรไม่ได้”

“แล้วของของเจ้าพวกนี้จะขายทิ้งหมดเลยรึ”
“ไม่ได้เจอคนที่เหมาะสมนั้น ข้าก็ไม่อยากนะขายสักเท่าไหร่ ยังไงก็เป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ ก็ยังหวังว่าจะมีคนดำเนินดูแลมันได้ดี”
ฉินจิ่นหยักหน้าเพื่อบ่งบอกว่าเข้าใจ ธุรกิจบ้านที่ใหญ่โตขนาดนี้ คงจะไปปล่อยไว้ในมือของคนที่ไม่ได้เรื่องไม่ได้หรอก
หลิวเซียงมองนางแล้วพูดว่า “ไม่รู้ว่าพวกเจ้าจะสนใจรึเปล่า ข้าดูแล้วเจ้าเชี่ยวชาญที่จะดำเนินมัน แล้วก็เก่งมากๆ ด้วย”
“ข้ารึ”
ฉินจิ่นมองเว่ยเหยียนถิงแล้วบอกว่า “พี่ถิงจ๊ะพี่ว่า......”
“อาจิ่น เจ้าตัดสินใจเถอะ พี่แล้วแต่เจ้า” เว่ยเหยียนถิงมองฉินจิ่นแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ข้าน่ะสนใจอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าเถ้าแก่หลิวจะว่าจะยังไง”
หลิวเซียงหัวเราะ การที่สามารถหาคนที่เหมาะสมจะมารับช่วงต่อนั้น มันไม่ง่ายเลยจริงๆ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะไม่ถูกกันมาก่อน แต่พูดตอนนี้แล้ว เรื่องพวกนั้นต่างก็เป็นอดีตไปแล้ว


“สำหรับข้ายังไงก็ได้ พวกเจ้าก็ถือว่าเป็นค่าตอบแทนบุญคุณที่ช่วยชีวิตด้วยก็แล้วกัน ข้าก็ไม่ขอเก็บจากพวกเจ้าเยอะ ให้ครึ่งนึงขายครึ่งนึงดีกว่า”
ในใจของฉินจิ่นนั้นก็ยังไม่ได้สนิทใจมาก ถึงยังไงหลิวเซียงคนนี้ก็เป็นคนที่ตัวเองเดาไม่ถูกสักเท่าไหร่
แต่สุดท้ายที่หลิวเซียงบอกว่า ห้าสิบตำลึงนั้น ฉินจิ่นก็ตอบตกลงไปโดยไม่ทันคิด
“ได้ ข้ากับเจ้ามาเขียนสัญญากัน สองฉบับ” หลิวเซียงพูด “เรื่องนี้ก็ถือว่าเรียบร้อยแล้ว”

ฉินจิ่นไม่ค่อยรู้ตัวหนังสือเท่าไหร่นัก แน่นอนว่าต้องบอกให้เว่ยเหยียนถิงมาช่วยดูให้
“นับจากนี้ไป พวกเจ้าก็เป็นเถ้าแก่ของที่นี่ เถ้าแก่ฉิน ขอให้ค้าขายรุ่งเรือง”
แล้วตอนนั้นหลิวเซียงก็ไปแล้วจริงๆ ฉินจิ่นรู้สึกว่าทั้งหมดนี้ก็ถือเป็นความโชคดีในความโชคร้าย ก็ทำความสะอาดร้านอาหารอย่างยิ้มแย้ม แล้วก็เก็บกวาดข้างนอกข้างในอีกที มองดูอย่างพึงพอใจ สะอาดสะอ้าน หรูหราดูดี

“อาจิ่น พอใจรึเปล่า” เว่ยเหยียนถิงถาม
“พอใจจ้ะ” ฉินจิ่นมองดูข้างในยังไม่พอ เลยไปเดินดูรอบๆ ด้านนอกอีกรอบนึงแล้วก็ขมวดคิ้ว
“เกิดอะไรขึ้นรึ อาจิ่น”
“ชื่อร้านอาหารนี้ไม่ดีเลย เรามาเปลี่ยนกันดีกว่า” ฉินจิ่นพูดเสนอขึ้น
เว่ยเหยียนถิงก็ออกมาดูป้ายชื่อร้านกับฉินจิ่น ก็พยักหน้าสนับสนุนอย่างเกินจริงว่า “พี่ก็รู้สึกว่าควรเปลี่ยนเหมือนกัน แต่จะเปลี่ยนเป็นอะไรล่ะ”
ฉินจิ่นครุ่นคิดอยู่นาน “ร้านอาหารร้อยรส”
ชีวิตคนมีร้อยรสชาติ ดั่งรสอาหาร
“ร้อยรสชาติรึ” เว่ยเหยียนถิงพูดซ้ำอยู่นานแล้วพูดว่า “ได้ งั้นก็เอาชื่อนี้เลย”
เลือกวันมงคลมาสักวันนึง แล้วร้านอาหารก็เปิดประเดิม
เว่ยเหยียนถิงตั้งใจไปซื้อประทัดมา แขวนไว้ทั้งสองข้างของร้านอาหารไว้สองสามแถว พอได้ฤกษ์แล้วก็จุดแตกดังเปรี้ยงๆ ปังๆ

“คึกคักจริงๆ” เว่ยจวนอุดหูไว้แล้วพูดกับฉินจิ่น และนางดีใจเป็นพิเศษ
“ใช่สิ ค้าขายรุ่งเรือง ค้าขายรุ่งเรืองสำคัญที่สุด”
ฉินจิ่นไม่รู้ว่าไปได้ยินใครบอกมา ว่าถ้าท่องย้ำหลายๆ รอบก็จะทำให้ค้าขายรุ่งเรือง ตอนนี้เลยท่องอยู่ตลอด ค้าขายรุ่งเรือง ค้าขายรุ่งเรือง
ปกติแล้วฉินจิ่นเป็นที่รู้จักดีอยู่แล้ว ทำงานทำการงานฝีมือก็ดีไปหมด ตอนนี้คนที่มาฉลองยินดีด้วยนั้นก็เยอะมาก
“เถ้าแก่ฉิน เถ้าแก่เว่ย ขอให้ค้าขายรุ่งเรืองจ้ะ เฮงๆ รวยๆ นะจ๊ะ”
“ขอบใจจ้ะเชิญด้านในเลยจ้ะ”
......
“โถ แกยังกล้าที่จะรับซองจากคนอื่นอีกรึ” โจวหลันหลันพูดตะโกนอยู่หน้าประตู “แกมีสิทธิ์อะไรมารับซองจากคนอื่น”
ตอนเปิดกิจการนั้นขอให้ราบรื่น ถึงแม้ว่าฉินจิ่นจะไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ แต่จู่ๆ ตอนนี้ก็มีคนมาก่อเรื่องขึ้นแล้ว ในใจนั้นก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ตลอด

“มีเรื่องอะไรค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้ข้ากำลังเปิดกิจการอยู่” ฉินจิ่นพูดอย่างอ่อนโยน ไม่อยากจะพูดเรื่องพวกนี้กับนาง ถ้าก่อเรื่องขึ้นที่นี่วันนี้ ที่เสียนั้นจะไม่ใช่แค่หน้าของฉินจิ่น แต่จะยิ่งทำลายชื่อของร้านอาหารด้วย

โจวหลันหลันได้ยินฉินจิ่นพูดแบบนี้แล้ว ก็นึกว่าฉินจิ่นกลัวตัวเอง แล้วในใจก็ยิ่งดีใจมากขึ้น บนหน้าก็ได้ใจเข้าไปใหญ่ “เป็นอะไรไปล่ะ แกกลัวคนอื่นว่ารึ”
“มีเรื่องอะไรค่อยว่ากันทีหลังได้รึไม่” ฉินจิ่นไม่เข้าใจจริงๆ ที่ตอนนี้ตัวเองนั้นพูดจาใจเย็นเสียงเบา ทำท่าขอร้องนาง แต่นางกลับไม่ยอมถอยให้เลยสักก้าว

“แกกลัวคนอื่นรู้ใช่รึไม่ว่าร้านนี้นั้นได้มาอย่างไม่สุจริต ไม่รู้ว่าใช้วิธีที่ไร้ยางอายแบบไหนถึงได้มา” โจวหลันหลันยิ่งพูดก็ยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆ อยากจะให้คนอื่นๆ ได้ยินสิ่งที่นางพูดใจจะขาด
“เจ้าพูดบ้าอะไร” เว่ยเหยียนถิงได้ยินแล้วก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้ทุกคนก็อยู่ที่นี่กันหมด มาพูดแบบนี้ คนอื่นจะมองร้านอาหารตัวเองเป็นยังไงกัน

“พูดบ้าอะไรงั้นรึ” เสียงของโจวหลันหลันดังขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็เยาะเย้ยว่า “พวกเจ้าทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจตัวเอง”
ได้ยินคำพูดนี้แล้ว ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยขึ้น ก็มีคนถามขึ้นว่า “ร้านนี้ของพวกเจ้าได้มาเพราะโกงจริงๆ รึ”
“อย่าไปฟังมันพูดบ้าๆ เลยเจ้าค่ะ ร้านของเรานั้นได้มาอย่างสุจริตเจ้าค่ะ”

“เหอะ เมื่อก่อนร้านนี้เป็นของแม่นางหลิว ทุกคนก็รู้ใช่หรือไม่” โจวหลันหลันวนไปรอบนึง ก็พูดอย่างมั่นใจว่า
“แต่เถ้าแก่หลิวเซียงจะยอมให้ร้านกับแกได้ยังไงล่ะ”
ฉินจิ่นพูดยืนยัน “นางไม่ได้ให้ ข้าซื้อมา”
“งั้นแกก็เรียกหลิวเซียงมาพูดสิ”

หลิวเซียงไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้จะหาหลิวเซียงเจอได้ยังไงล่ะ โจวหลันหลันรู้ว่ายังไงตัวเองก็เรียกหลิวเซียงออกมาไม่ได้ ถึงได้อวดดีขนาดนี้
“เป็นยังไงล่ะ เรียกออกมาไม่ได้ใช่รึไม่”
ทุกคนเห็นเหตุการณ์นี้แล้ว ก็เชื่อคำพูดของโจวหลันหลันหน่อย”
“เจ้าโกงร้านนี้มารึเปล่า”
“แน่นอนอยู่แล้วสิ ยังจะถามอีก”
“ไม่คิดว่าคนที่ดูเคร่งคุณธรรมแบบนั้น ตอนนี้กลับมาทำเรื่องแบบนี้”

พูดไปพูดมา ทุกคนพูดไม่หยุด ฉินจิ่นเห็นว่ามีบางคนก็กลับไปแล้ว ในใจนั้นรู้สึกว่าไม่ได้การแล้ว เปิดกิจการอยู่ดีๆ ก็มาโดนทำลายจนกลายเป็นแบบนี้
“ทุกคนสบายใจได้จ้ะ ร้านของเรานั้นสุจริตแน่นอน” เว่ยเหยียนถิงรีบยืนตะโกนพูดเสียงดังบนเก้าอี้
“ใครยืนยันได้บ้างล่ะ” โจวหลันหลันทำสายตาชั่วร้าย แล้วก็ยืนบนเก้าอี้แล้วถาม
“ข้า”
ฉินจิ่นดูแล้ว คนที่พูดนั้นก็คือหลิวเย่
“มีคนไม่น้อยคงจะรู้จักข้า เพราะว่าข้านั้นถึงแม้จะไม่ได้กลับมาหาพี่สาวข้าถึงสองปี แต่ข้าก็แต่งงานออกจากที่นี่ไป ข้าคือหลิวเย่ น้องสาวของหลิวเซียง ข้ายืนยันได้ว่าร้านนี้นั้นพี่สาวของข้าเป็นคนขายให้กับเถ้าแก่ฉิน และถึงแม้ว่าราคาอาจจะต่ำหน่อย แต่นั่นก็เป็นการตกลงระหว่างพวกนาง”
หลิวเย่พูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ แล้วคนที่อยู่รอบๆ ก็พากันเชื่อหมด แต่แค่ตอนที่ฉินจิ่นมองไปที่โจวหลันหลันนั้น กลับไม่รู้ว่าวิ่งหนีไปไหนแล้ว
“หนีเร็วเหมือนกันนะ” ฉินจิ่นถอนหายใจไปทีนึง
การทำลายครั้งนี้ ทำเอาร้านอาหารร้อยรสเปิดกิจการได้ไม่ดีแต่ก็ไม่เลว ดีที่ไม่ได้ขาดทุนเท่าไหร่นัก

 

รีวิวผู้อ่าน