px

เรื่อง : พลิกชะตาชายาสยบแค้น (นิยายแปล) ***(จบแล้ว)***
ตอนที่ 19 โจรตะโกนให้จับโจร


ตอนที่ 19 โจรตะโกนให้จับโจร

 


ในยามราตรีปรากฏเงาตะคุ่ม ๆ  ไป๋อวี่ค่อย ๆ คลำทางไปจนถึงห้องพักของอันหลิงเกอ

“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ ข้าน้อยมีเรื่องจะรายงานเจ้าค่ะ” นางพูดด้วยเสียงอันเบา แต่อันหลิงเกอกลับไปยินอย่างชัดเจน นี่มันเสียงสาวใช้ของอันหลิงอีมิใช่หรือ ?

ปี้จูมองสีหน้าของอันหลิงเกอแวบหนึ่ง จากนั้นจึงเดินไปเปิดประตู

หลังเสียงประตูเปิดออก ไป๋อวี่ก็เข้ามาปรากฏตัวขึ้น

“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ คุณหนูรองจะทำร้ายท่านอีกเจ้าค่ะ ! ” ทันทีที่เข้าประตูมานางก็รีบกล่าวประโยคนี้ออกมาทันที เดิมคิดว่าจะได้เห็นท่าทางสับสนและตกใจของอันหลิงเกอ ใครจะคิดว่าเมื่อเงยหน้าขึ้นกลับสบเข้ากับดวงตาอันลุ่มลึกของคุณหนูใหญ่แทน

“อ้อ ? น้องหญิงจะทำร้ายข้า แล้วเจ้ารู้ได้เยี่ยงไร ? ” อันหลิงเกอมีท่าที่ผ่อนคลาย มิตื่นตกใจเลยแม้แต่น้อย ราวกับมิเชื่อคำพูดของไป๋อวี่

ไป๋อวี่กัดฟันเอ่ยอย่างโมโห “คุณหนูรองเป็นคนสั่งข้าน้อยเองเจ้าค่ะ ข้าน้อยทนมิได้ที่จะเห็นคุณหนูใหญ่ถูกหลอก จึงได้มาแจ้งให้ทราบเจ้าค่ะ”

“หากข้าจำมิผิด เจ้าคือสาวใช้ประจำตัวของน้องหญิงมิใช่รึ ? ” น้ำเสียงของอันหลิงเกอยังคงอ่อนโยนเช่นเคย แต่กลับทำให้ไป๋อวี่รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมา “สาวใช้ที่ทรยศเจ้านาย วิ่งมาหาข้าเพื่อแสดงความจงรักภักดีเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“เปล่านะเจ้าคะ” ไป๋อวี่คุกเข่าลงทันที ท่าทีแสดงความจริงใจ “คุณหนูใหญ่อาจจะยังมิทราบ ที่ข้าเข้ามาที่จวนโหวมาก็เพื่อจะแก้แค้นให้กับน้องสาวของข้าน้อยเจ้าค่ะ”

อันหลิงเกอมิได้กล่าวสิ่งใด ไป๋อวี่จึงเล่าต่อว่าน้องสาวของนางถูกอันหลิงอีทำร้ายจนตาย นางเข้าใกล้อันหลิงอีเพื่อที่จะได้ล้างแค้น

เมื่อฟังไปได้สักพัก อันหลิงเกอจึงเอ่ยปากขึ้น “ถ้าเยี่ยงนั้น เหตุใดเจ้าต้องมาหาข้าด้วยเล่า”

 
ไป๋อวี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง คิดถึงสายตาที่อ่านคนออกของอันหลิงเกอแล้ว จึงมิกล้าที่จะปิดบังอีก “เรื่องงูเมื่อคืนข้าเป็นคนคิดแผนการให้คุณหนูรองเอง แต่คุณหนูใหญ่มิเพียงปลอดภัยแต่กลับพลิกมาชนะได้อีก ทำให้คุณหนูรองพ่ายแพ้โดยมิสามารถทำสิ่งใดได้ ข้ารู้ว่าคุณหนูใหญ่เป็นคนมีความคิดความอ่าน ท่านจะต้องช่วยข้าน้อยล้างแค้นได้อย่างแน่นอน”

“เมื่อคืนงูพวกนั้นเจ้าเป็นคนเอามาปล่อยเยี่ยงนั้นหรือ ? ” ปี้จูร้องเอ่ยถามออกมาในทันที “เจ้ามันคนจิตใจอำมหิต กล้าทำเยี่ยงนั้นกับคุณหนูของข้าได้เยี่ยงไร ข้ารับใช้ที่กล้าทำร้ายเจ้านายของตัวเอง ควรจะถูกโบยจนตายถึงจะถูก”


ไป๋อวี่บีบมือตัวเองไว้แน่น พร้อมกล่าวขอความเมตตา “ข้าน้อยรู้ดีว่าเรื่องนั้นเป็นความผิดใหญ่หลวง ถ้ามิใช่เพราะต้องการให้คุณหนูรองเชื่อใจ ข้ามิมีวันทำร้ายคุณหนูใหญ่อย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”

นางคุกเข่าพร้อมกับทำการคำนับลงกับพื้น “ข้าน้อยสำนึกผิดแล้ว คุณหนูใหญ่จะลงโทษเยี่ยงไรก็ได้ ขอเพียงคุณหนูใหญ่ช่วยข้าน้อยล้างแค้น จะให้เป็นวัวเป็นม้า ข้าน้อยก็จะขอทดแทนบุญคุณของคุณหนูเจ้าค่ะ”

แววตาของอันหลิงเกอเข้มขึ้น แต่สีหน้ายังคงสงบดังเดิม “เจ้าจงเอ่ยออกมา คุณหนูรองสั่งให้เจ้าไปทำอันใด ? ”

‘นี่หมายความว่าคุณหนูใหญ่จะช่วยนางแก้แค้นแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ? ’ ไป๋อวี่รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก รีบเล่าเรื่องราวออกมาอย่างละเอียด


ปี้จูที่ยืนอยู่ด้วยเมื่อยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกโมโหจนใบหน้าเป็นสีแดงก่ำ “คุณหนูรองกล้าใช้วิธีที่น่ารังเกียจถึงเพียงนี้ ช่างชั่วร้ายเสียจริง ! ”


อันหลิงเกอกลับเลิกคิ้วขึ้น หันไปมองไป๋อวี่ด้วยสายตาประเมิน “เพื่อแก้แค้นให้น้องสาว เจ้ายอมทำทุกอย่างจริงรึ ?”

ไป๋อวี่พยักหน้าตอบรับ“ขอเพียงล้างแค้นให้น้องสาวได้ ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต ข้าน้อยก็ยอมเจ้าค่ะ”

อันหลิงเกอยกริมฝีปากขึ้น เรียกไป๋อวี่เข้ามาใกล้ จากนั้นก็กระซิบข้างหูของนางอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นไป๋อวี่พยักหน้าด้วยความลังเล จึงได้หยิบเชิงเทียนด้านข้างมาแล้วทุบไปที่ไป๋อวี่อย่างแรง

“คุณหนูใหญ่......” ไป๋อวี่เปล่งเสียงอุทานได้เพียงครู่เดียว ร่างทั้งร่างก็ร่วงลงไปกองกับพื้น


ปี้จูจ้องมองด้วยความแปลกใจ แต่ก็ยังทำตามที่อันหลิงเกอสั่ง พร้อมกับลากไป๋อวี่ไปยังห้องที่อยู่ไกลจากผู้คน

……

แสงในยามเช้าค่อยชัดเจนขึ้น ห้องที่อยู่ห่างไกลผู้คนมากที่สุด จู่ ๆ ก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นว่า “พี่หญิงเจ้าคะ ท่านมาอยู่กับบุรุษในนี้ได้เยี่ยงไรกัน ? ”

 

อันหลิงอีปิดปากอุทานด้วยความ “ตกใจ” เมื่อหางตาเห็นว่าว่ามีคนกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ นางจึงแสร้งทำตีหน้าเศร้า “ต่อให้ท่านจะรักชายผู้นั้นเพียงใด ก็มิควรทำเยี่ยงนี้ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้นะเจ้าคะ”

ใบหน้าของนางฉายแววความผิดหวังอย่างมาก พร้อมทั้งหมุนกลับไปเปิดประตูให้กว้างขึ้น เป็นเหตุให้เห็น เสื้อผ้ากระจัดกระจายอยู่บนพื้น มองเห็นร่างของชายหญิงที่นัวเนียกันนั้นตกอยู่ในสายตาของทุกคน

มีฮูหยินหลายคนที่ร้องออกมาอย่างตกใจ แล้วรีบปิดตาลูกสาวของตนไว้

อันหลิงอียิ่งเห็นก็ยิ่งได้ใจ แต่ใบหน้ายังคงแสร้งทำเป็นโศกเศร้า “ท่านพี่เป็นถึงคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหว เหตุใดถึงทำเรื่องต่ำตมเยี่ยงนี้ได้ ท่านพี่จะให้ท่านพ่อเอาหน้าไปไว้ที่ไหน จะให้จวนโหวเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน ห๊ะ ! ”

เมื่อเหล่าฮูหยินและบรรดาบุตรสาวได้ฟัง ก็รู้สึกตกตะลึงงัน

 

อะไรนะ! สตรีไร้ยางอายที่อยู่ในนั้นคือคุณหนูใหญ่จวนโหวเยี่ยงนั้นหรือ?

ทุกคนต่างตกตะลังงันกับคำกล่าวที่ได้ยิน จนมิสนใจเรื่องความอายอีกต่อไป สายตาพวกนางมองตรงเข้าไปในห้อง


ผู้หญิงคนนั้นดูอ่อนเยาว์ ผิวพรรณที่ผุดผ่องเปล่าเปลือยอยู่ครึ่งร่าง แต่ใบหน้านั้นกลับมีเสื้อที่ถูกถอดไว้คลุมอยู่ จึงมองใบหน้ามิชัด

“นี่มันเรื่องอันใดกัน ? ”น้ำเสียงน่าเกรงขามของฮูหยินหมิงจูดังขึ้นมาจากด้านหลังสายตามองคนทั้งสองคนที่อยู่ในห้องด้วยความมิพอใจ แล้วสั่งแม่นมที่อยู่ข้างกายว่า “ไปปลุกสองคนนั้นสิ”

อันหลิงอีที่เห็นฮูหยินหมิงจูมาถึง ก็ยิ่งดีใจขึ้นไปอีก

“ฮูหยินหมิงจูอาจจะมิทราบนะเจ้าคะ เมื่อก่อนพี่สาวของข้าเคยแอบคบกับผู้ชายคนหนึ่ง มักจะเขียนจดหมายถึงกัน เพียงแต่ข้าคิดมิถึงว่า นางจะกล้าทำเรื่องบัดสีเยี่ยงนี้ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ได้”

‘หึ อันหลิงเกอ เมื่อวานเจ้าทำลายภาพลักษณ์ข้า วันนี้ข้าจะทำลายชื่อเสียงของเจ้าให้ย่อยยับเลยคอยดู ! ’
ขณะที่นางกำลังคิดอย่างดีใจอยู่นั้น กลับได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากด้านหลัง

“เหตุใดข้าถึงมิเคยรู้ว่าตนเองไปแอบคบกับผู้ชายตอนไหน อีกทั้งยังแอบเขียนจดหมายหากันอีกด้วย ? ”


อันหลิงเกอเดินมาทางด้านหลังของกลุ่มคน ท่าทางอ่อนโยนแต่หนักแน่น “ข้ารู้ว่าน้องหญิงมิชอบข้า แต่ข้าเป็นพี่สาวที่เกิดจากภรรยาเอก ข้าสู้อดทนกับเจ้ามาโดยตลอด ถึงแม้เจ้าจะทำร้ายข้าจนเกือบถึงแก่ชีวิต ข้าก็มิถือสา อีกทั้งยังอธิบายต่อทุกคนแทนเจ้า แต่เหตุใดน้องหญิงถึงยังมิยอมเลิกรา ซ้ำยังหาเรื่องมาทำลายชื่อเสียงของข้าอีก ? ”

ฮูหยินหมิงจูมองอันหลิงเกอที่เดินมา ท่าทีน่าเกรงขามเมื่อครู่ก็เริ่มอ่อนโยนขึ้น “ในเมื่อคุณหนูใหญ่อยู่ที่นี่ ถ้าเยี่ยงนั้นในห้องนั่นเป็นผู้ใดกัน”

“คุณหนูใหญ่ ข้ารักท่านด้วยใจจริง ท่านวางใจวันนี้ข้าจะไปสู่ขอท่านที่จวนโหว ให้ท่านโหวยกท่านให้ข้าให้จงได้” ชายที่ตื่นขึ้นมาร้องเรียกขึ้นทันที แสดงความเสน่หาต่อไป๋อวี่อย่างมากมาย

ไป๋อวี่ตกใจเป็นอย่างมาก “เจ้าเป็นใคร เหตุใดถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ! ”

“คุณหนูใหญ่ ทุกคนรู้เรื่องที่เราแอบคบกันแล้ว ท่านเลยอยากจะตัดความสัมพันธ์ใช่หรือไม่ ? หรือว่าท่านลืมช่วงเวลาแห่งความสุขของเราแล้ว ลืมคำสาบานว่าจะรักกันชั่วฟ้าดินสลายไปแล้วหรือขอรับ ? ” ชายคนนั้นทำราวกับตัวเองบริสุทธิ์ บนใบหน้าฉายแววแห่งความเศร้าโศก

ไป๋อวี่กล่าวออกไปอย่างตื่นตระหนก “ข้ามิใช่คุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่ที่เจ้าพูดถึงอยู่ตรงนั้น” นางยื่นนิ้วมือชี้ไปที่อันหลิงเกอที่อยู่ด้านหน้าประตู

 

สีหน้าของชายคนนั้นนิ่งไปชั่วพริบตา “เป็นไปมิได้ คนในนี้ควรจะเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหวสิ ! ”

ควรจะเป็นคุณหนูใหญ่เยี่ยงนั้นหรือ ?  เมื่อฮูหยินหมิงจูได้รับฟังก็ได้ตริตรองตามคำกล่าวของชายผู้นั้นดู แล้วก็เข้าใจความจริงในทันที

รีวิวผู้อ่าน