เล่มที่ 1 ตอนที่ 38: พบกับไป่หยุนครั้งแรก (2)
“นั่งลงก่อนสิ” มู่หรงเสี่ยวเทียนจ้องมองไปที่หญิงสาวคนนั้นและพูดออกมาอย่างสุภาพ
“ฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องในฤดูใบไม้ผลิ ยกขวดสุราขึ้นมาดื่มอย่างเดียวดาย จากนั้นก็เอาความกังวลที่มีทั้งหมดในใจทิ้งลงไปในแก้วสุรา มาเถอะพี่ชาย ฉันขอชนแก้วกับพี่สักหน่อย” เด็กสาวยกมือขึ้นมาเบา ๆ และเติมสุราลงแก้วที่อยู่ด้านหน้าของเธอ
“ฮ่าฮ่า ดีเลย ฉันก็กำลังเหงาอยู่พอดี” มู่หรงเสี่ยวเทียนปลดปล่อยเสียงหัวเราะออกมา “มันน่าเศร้าที่จะต้องมาดื่มอะไรแบบนี้อย่างโดดเดี่ยว เธอกับฉันก็มีใจตรงกัน ถ้าเป็นงั้นมู่หรงเสี่ยวเทียนคนนี้จะเป็นเจ้ามือเลี้ยงเอง มา มาดื่มกันเถอะ โยนความกังวลทั้งหมดลงไปในแก้ว แล้วเริ่มต้นใหม่กันดีกว่า”
หญิงสาวคนนั้นยิ้มออกมาอย่างเข้าใจ มันดูเป็นธรรมชาติ และรอยยิ้มนั้นก็เผยออกมาบนใบหน้าที่สวยงามของเธออย่างสมบูรณ์แบบ
ทั้งสองนั่งดื่มสุราด้วยกัน พวกเขานั้นต่างเติมเต็มความสุขและความอบอุ่นในโรงเตี๊ยมที่กว้างขวาง
“พี่กำลังทุกข์ใจเพราะเรื่องเปลี่ยนอาชีพอยู่หรือ ? อันที่จริง พี่ควรจะทำอะไรก็ตามที่อยากจะทำ และปล่อยให้มันเป็นไปตามโชคชะตาของพี่ ทำไมพี่ถึงอยากจะฝืนมันนักล่ะ ? ! ” สวยตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยความสับสน
“เธอรู้จักฉันด้วยหรือ ? ” ปมในใจของมู่หรงเสี่ยวเทียนที่มีมาหลายวันจางหายกลายเป็นฝุ่นผงทันที มันล่องลอยไปตามสายลม สิ่งนั้นปลุกความสงบและความมั่นใจในหัวใจของเขาให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
“พี่คือผู้เล่นที่ชื่อโจร จะมีใครบ้างในเกมเดสตินี่ที่ไม่รู้จักพี่ ? ” หญิงสาวตอบออกมาอย่างใจเย็น
“ขอบใจ ! ฮ่าฮ่าฮ่า” มู่หรงเสี่ยวเทียนกำลังจะยกมือขึ้นเพื่อจะบอกเจ้าของร้านว่าจะเอาสุราอีก 1 ขวด
“ไม่ล่ะ” เธอยังคงนิ่งสงบ
มู่หรงเสี่ยวเทียนยิ้มออกมา การพูดคุยกับคนที่ฉลาด ทำให้เขาไม่ต้องเสียเวลามากมายในการอธิบาย โดยไม่ต้องพูดใด ๆ ออกมาเธอก็รู้แล้วว่าเขาหมายถึงอะไร
“เธอชื่ออะไร ? ” มู่หรงเสี่ยวเทียนถามออกไป
“นี่ไงชื่อของฉัน” ไป่หยุนชี้ไปที่บนหัวของเธอ
มู่หรงเสี่ยวเทียนยิ้มกว้างขึ้นมาอีกครั้ง “ไป่หยุนเหรอ เป็นชื่อที่น่ารักดีนะ น่ารักเหมือนเจ้าของชื่อเลย”
“นี่พี่ชมกันหรือ ? ” ไป่หยุนดื่มเข้าไปอีกสองสามแก้ว ใบหน้าที่ซีดขาวเริ่มจะเปลี่ยนเป็นแดงก่ำขึ้นมาเล็กน้อย “พี่ ช่วยเล่าเรื่องการเปลี่ยนอาชีพของพี่ให้ฉันฟังได้ไหม ? ”
“ได้สิ” มู่หรงเสี่ยวเทียนพยักหน้า “บางทีค่าโชคลาภของฉันอาจจะสูงเกินไป ฉันมักจะได้ภารกิจระดับ G ตลอด สำหรับการเปลี่ยนอาชีพกับผู้ให้การทดสอบโม่เทียน โม่เทียน ! ” มู่หรงเสี่ยวเทียนหยุดชะงักและจ้องมองไปยังไป่หยุน
“มีอะไรเหรอ หรือว่าเล่าไม่ได้ ? ” ไป่หยุนถาม
“ไม่ใช่ยังงั้น” มู่หรงเสี่ยวเทียนส่ายหัวและยิ้มออกมาอย่างกระอักกระอ่วน “ฉันเปลี่ยนวิธีพูดได้ไหม ? ฉันรู้สึกเกร็งมากเมื่อคุยกับเธอแบบนี้ (เมื่อหัวร้อนแต่ต้องพูดสุภาพ) ”
ไป่หยุนหัวเราะออกมาเสียงดัง แต่ก็ไม่ได้หัวเราะจนเสียมารยาท มันดูเป็นธรรมชาติเสียมากกว่า “พี่ เชิญพี่ทำตัวตามสบายเถอะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า” มู่หรงเสี่ยวเทียนหัวเราะออกมาอย่างป่าเถื่อน ตัวตนที่แท้จริงของเขาถูกเปิดเผยออกมาอย่างไม่ต้องสงสัย “ไป่หยุน ฉันจะบอกอะไรบางอย่างให้เธอฟังนะ คนที่เป็นผู้ให้การทดสอบในการเปลี่ยนอาชีพที่ชื่อว่าโม่เทียน เป็นตาเฒ่าที่สารเลวจริง ๆ ฉันต้องทำการทดสอบไอคิวของเด็กปัญญาอ่อนอะไรนั่นครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็...”
“แต่เขาก็เปลี่ยนหัวข้อคำถามใหม่ให้พี่ไปเรื่อย ๆ อย่างงั้นหรือ ? ” ไป่หยุนถามมู่หรงเสี่ยวเทียนด้วยรอยยิ้ม
มู่หรงเสี่ยวเทียนตกตะลึง จากนั้นเขาก็ปรบมือ “ฮ่าฮ่า ถ้าหากว่าเธอรับมือกับโม่เทียนได้ คำถามเหล่านั้นฉันคิดว่ามันก็คงจะเป็นเรื่องง่าย”
“เขามักจะเปลี่ยนคำตอบในภายหลังทุกครั้งที่พี่หาคำตอบได้ใช่รึไม่ ? ” ไป่หยุนถามพร้อมกับรอยยิ้ม
“คนฉลาดยังไงก็คือคนฉลาดอยู่วันยังค่ำ ใช่ ตาเฒ่านั่นเปลี่ยนมันทุกครั้งที่ฉันตอบ” มู่หรงเสี่ยวเทียนพยายามโน้มน้าวเขา
“แล้วพี่จะทำยังไงต่อ ? ทำมันจนกว่าจะสำเร็จอย่างงั้นหรือ ? ” ไป่หยุนมองไปที่มู่หรงเสี่ยวเทียนอย่างลึกซึ้ง
“ใช่ ฉันจะกลับไปอีกครั้ง หากว่ารอบนี้ไม่ได้ ฉันคิดว่าคงจะต้องลบบัญชีแล้วเริ่มใหม่” มู่หรงเสี่ยวเทียนตอบออกไปอย่างเรียบง่าย ไป่หยุนเองก็รู้สึกโล่งใจที่ตอนนี้มู่หรงเสี่ยวเทียนมีท่าทีที่เปิดเผยมากขึ้น
“ดีแล้ว ลูกผู้ชายเมื่อคิดจะทำอะไรต้องทำให้สุด เพื่อไม่ให้สูญเสียจิตวิญญาณของตนเองไป” ไป่หยุนเผยแววตาของความชื่นชมออกมา
“ไป่หยุน ทำไมเธอยังอยู่ที่หมู่บ้านโนวิซ 110 เธอเองก็เลเวล 13 แล้วไม่ใช่หรือ ? ” มู่หรงเสี่ยวเทียนสงสัยเล็กน้อย ในเกมมีการแสดงเลเวลของผู้เล่นด้วยและไป่หยุนเองก็ไม่ได้ซ่อนเลเวลของเธอเอาไว้ ดังนั้นมู่หรงเสี่ยวเทียนจึงมองเห็นได้อย่างชัดเจน
“ฉันมาเดินชมวิวเล่น ๆ น่ะ” ไป่หยุนกระพริบตาให้มู่หรงเสี่ยวเทียนอย่างเจ้าเล่ห์ “ฉันได้ยินมาว่ามีบางคนได้นำฝูงหมาป่าโลหิตมาฆ่าผู้เล่นมากมาย ฉันเลยอยากมาดูว่าหมู่บ้านโนวิซ 110 นั้นมีอะไรที่พิเศษแบบนั้นจริง ๆ หรือเปล่า”
“พิเศษ ? ” มู่หรงเสี่ยวเทียนตกใจ จากนั้นดวงตาก็เปล่งประกายเมื่อนึกถึงหุบเขาของพวกสัตว์กินพืชและอาณาจักรหมาป่าโลหิตนั้น “มันก็มีที่ที่พิเศษอยู่จริง ๆ ไปกันเถอะ ฉันจะพาเธอไปเอง”
ทั้งสองพูดคุยกันสักพักก่อนที่จะจ่ายค่าสุราและเดินจากไป มู่หรงเสี่ยวเทียนหยิบแผนที่ออกมาและชี้ให้ไป่หยุนมองไปพื้นที่ที่มีหมอกหนาปกคลุมอยู่ “ผ่านหมอกนี้ไปแล้วเธอจะถึงที่นั่น ฉันรับรองได้ว่าทิวทัศน์บริเวณนั้นจะต้องทำให้เธอประหลาดใจ” มู่หรงเสี่ยวเทียนกล่าวอย่างเป็นธรรมชาติ จากนั้นเขาก็เดินนำเข้าไปในหมอกทึบ เขาสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นและนุ่มนวลจากไอหมอก จากนั้นความรู้สึกแปลก ๆ ก็เริ่มปรากฏขึ้นมาในใจของมู่หรงเสี่ยวเทียน เขาส่ายหัวและคิดว่าเขานั้นคงจะบ้าไปแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลย เพราะตอนนี้หัวใจเขาปิดตายเนื่องจากการจากไปของหยางซีเมื่อสิบปีที่แล้ว
หลังจากเดินเข้าไปในหุบเขาของพวกสัตว์กินพืช แม้ว่าจะเป็นครั้งที่สองที่เขามาที่นี่ แต่มู่หรงเสี่ยวเทียนก็ยังคงตกตะลึงกับทิวทัศน์ของที่แห่งนี้ เมื่อเห็นว่าไป่หยุนกำลังเดินเล่นอย่างมีความสุขท่ามกลางดอกไม้และสัตว์ป่า รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา วิวทิวทัศน์ตรงหน้ามันดูกลมกลืนเข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบ มู่หรงเสี่ยวเทียนที่กำลังจดจ่ออยู่กับภาพบรรยากาศตรงหน้านี้ แต่เมื่อหันไปเห็นใบหน้าที่ขาวนวลของไป่หยุน เขาก็อดไม่ได้ที่จะใจสั่นขึ้นมาอีกครั้ง
“ไป่หยุน เธออยากไปยังดินแดนของหมาป่าโลหิตเพื่อไปดูถ้ำของราชาหมาป่าโลหิตไหม ? ” มู่หรงเสี่ยวเทียนมองไปที่ไป่หยุนอย่างกังวลจากนั้นก็ถามขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม
“ได้สิ พี่เสี่ยวเทียน” ไป่หยุนพยักหน้าอย่างมีความสุข
มู่หรงเสี่ยวเทียนเดินนำไป่หยุนเดินไปยังช่องเขาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันแตกต่างออกไปจากครั้งที่แล้ว เสียงคำรามเสือโคร่งและเสียงเห่าหอนของหมาป่านั้นหายไป มู่หรงเสี่ยวเทียนงุนงงอยู่เล็กน้อย สัตว์พวกนี้ยังไม่เกิดใหม่อีกหรือ ? (เนื่องจากฝูงหมาป่าโดนทอรัสฆ่าตายไปจนหมด) แม้ว่าจะรู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย เขาก็ยังคงไม่กล้าที่จะส่งเสียงดังออกมา เพราะท้ายที่สุดนั้นมันก็ยังคงมีอันตรายซ่อนอยู่
หลังจากเดินผ่านช่องเขามาแล้ว พวกเขาทั้งสองก็เดินไปอย่างระมัดระวังพร้อมกับมองสำรวจไปรอบ ๆ นี่มันกี่วันมาแล้ว ? ภูเขา ลำธาร หรือแม้แต่ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ มันยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป ครั้งก่อนที่เขาเข้ามาฝูงหมาป่าโลหิต และเสือโคร่งคอขาวที่อยู่ในระดับที่ 4 เดินไปทั่ว แต่ว่าครั้งนี้สัตว์พวกนั้นกลับหายไปหมด ! หรือว่าพวกมันไม่เกิดใหม่แล้ว ! ?
มู่หรงเสี่ยวเทียนโล่งอกเป็นอย่างมาก จากนั้นเขาก็เริ่มมีความกล้าขึ้นมา “ไป ไปกันเถอะ เราไปดูที่ถ้ำของราชาหมาป่าโลหิตกัน” หากเป็นเวลาปกติ เขาคงไม่อยากแม้แต่จะเข้าใกล้ แต่ในตอนนี้เผื่อว่าเขาโชคดีเขาอาจจะพบเจอกับลูกราชาหมาป่าโลหิตกลายพันธุ์อีกครั้งก็เป็นได้ เขาไม่แน่ใจว่ามันจะเกิดขึ้นจริง ๆ รึเปล่า เขาคิดออกมาราวกับว่าฝันกลางวันอยู่อย่างไรอย่างนั้น
To be continued…