เล่ม 1 ตอนที่ 45: การเปลี่ยนอาชีพครั้งสุดท้าย (2)
ไม่ต้องเอ่ยถึงสถานการณ์ของทวีปเฉินซวนแต่อย่างใด เรามาดูการเปลี่ยนอาชีพของมู่หรงเสี่ยวเทียนกันดีกว่า !
มู่หรงเสี่ยวเทียนเดินนำอู๋ต้าไปยังประตูสำนักงานเปลี่ยนอาชีพที่เขารู้จักและคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี อู๋ต้าปล่อยให้มู่หรงเข้าไปโดยที่ตัวเขาจะรออยู่ตรงหน้าประตู เขาบอกมู่หรงเสี่ยวเทียนว่าถ้าหากมู่หรงเสี่ยวเทียนสามารถเปลี่ยนอาชีพได้สำเร็จ อู๋ต้าก็จะยืนอยู่ตรงหน้าประตูนี่เหมือนเดิม แต่ถ้าหากว่ามู่หรงเสี่ยวเทียนไม่สามารถเปลี่ยนอาชีพได้ ตัวของเขาจะต้องถูกระบบส่งกลับไปยังป่าที่อยู่ใกล้กับถ้ำราชาหมาป่าโลหิตโดยอัตโนมัติ ถ้าเขาสามารถวิ่งกลับไปยังหุบเขาสัตว์กินพื้นได้ เขาจะอยู่ที่นั่นเพื่อรอมู่หรงเสี่ยวเทียน
เมื่อตกลงกันเช่นนั้น มู่หรงเสี่ยวเทียนก็ผลักประตูเข้าไปในสำนักงานเปลี่ยนอาชีพอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่สิบของเขาแล้ว...
ในตอนนี้มู่หรงเสี่ยวเทียนแตกต่างไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง ในหัวของเขาไม่มีความวิตกกังวลใด ๆ หัวใจเขาสงบนิ่งราวกับว่าเป็นน้ำในลำธาร ครั้งนี้ เขาจะลองทำมันเป็นครั้งสุดท้าย หากว่าเขาไม่สามารถผ่านมันได้ เขาจะลบบัญชีและเริ่มต้นใหม่ ตอนนี้เขาคิดแค่ว่าจะต้องผ่านพ้นมันไปให้ได้ แล้วมันจะมีอะไรให้เขาต้องกังวลอีก ?
“ตาเฒ่า ผมกลับมาแล้ว” มู่หรงเสี่ยวเทียนกล่าวอย่างผ่อนคลายด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
“เจ้าเด็กตัวเหม็น เจ้าไม่มีวันเอาชนะการทดสอบไอคิวของเด็กได้หรอก ! ” โม่เทียนยิ้มออกมาและคว้ารูเล็ตพร้อมกับโยนมันไปข้างหน้าของมู่หรงเสี่ยวเทียน
“ตาเฒ่า ท่านนี่ช่างมั่นใจซะเหลือเกินนะ ! ” มู่หรงเสี่ยวเทียนเถียงกลับ
“ไม่จำเป็นจะต้องดูมันหรอก มันคือภารกิจระดับ G เช่นเคย” เขาหยิบการ์ดภารกิจขึ้นมาพร้อมกับโยนมันคืนไปที่โม่เทียน...
“หยดน้ำไหลผ่านลงแผ่นหิน มองเห็นต้นไม้ที่เต็มไปด้วยเชือก เจ้าจะอธิบายว่าอย่างไร ผู้เล่นชื่อโจร?”
“ตาเฒ่า ผมตอบไม่ได้” มู่หรงเสี่ยวเทียนพยายามคิดเกี่ยวกับคำถามนั้น แต่สุดท้ายเขาก็ยังคงยอมแพ้อย่างช่วยไม่ได้ ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา !
“คำตอบของเจ้านั้นก็ยังอ่อนหัดเช่นเคย เจ้าช่างโง่เสมอต้นเสมอปลายจริง ๆ ” โม่เทียนมองมู่หรงเสี่ยวเทียนอย่างดูถูก จากนั้นเขาก็แสดงท่าทางภูมิใจ “ยินดีด้วย เจ้าไม่ผ่านการทดสอบ ! ”
หัวใจของมู่หรงเสี่ยวเทียนสงบนิ่งราวกับว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ล้มเหลวแล้วยังไง ? ไม่ผ่านการทดสอบถึง 10 ครั้งแล้วมันทำไม ? เดิมทีเขาจบแค่มัธยมต้นและไม่ได้ศึกษาต่อ ดังนั้นคำถามพวกนี้เขาจึงตอบไม่ได้ สำหรับเขาแล้วมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะตราบใดที่เขาพยายามอย่างดีที่สุดมันก็เพียงพอแล้ว
“หืม ? ! ” มู่หรงเสี่ยวเทียนเกร็งตัวรอ แต่ว่าโม่เทียนไม่ได้เตะเขาอย่างที่คิดไว้
“เห้อ... เจ้าเด็กน้อย เจ้าคือผู้เล่นที่ไม่สามารถทำภารกิจให้สำเร็จได้ ‘ผู้เล่นที่ไม่สามารถเปลี่ยนอาชีพได้’ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้เล่นที่ไม่สามารถเปลี่ยนอาชีพได้ติดต่อกันถึง 10 ครั้ง จึงผ่านเงื่อนไขของภารกิจระดับ SSS ในการทำภารกิจต่อไปนี้ ถ้าหากว่าล้มเหลว เลเวลของผู้เล่น สเตตัสและทักษะทั้งหมดจะถูกลบล้างและเริ่มเข้าสู่การเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ทักษะที่สร้างขึ้นเองทั้งหมดจะหายไป ไอเท็มทุกรายการจะถูกเคลียร์ เจ้าจะยอมรับภารกิจนี้หรือไม่ ? ”
มู่หรงเสี่ยวเทียนตกตะลึงอยู่สักพัก แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรอีกต่อไป
“เจ้าเด็กน้อย ข้าว่าเจ้าไม่ควรที่จะรับภารกิจนี้ เพราะแม้แต่การทดสอบง่าย ๆ เพียงแค่ครั้งเดียวเจ้าก็ยังไม่สามารถทำสำเร็จเลย” โม่เทียนเย้ยหยันออกมาอย่างดูถูก
มู่หรงเสี่ยวเทียนเหลือบมองโม่เทียนอย่างดูถูกเช่นกัน จากนั้นเขาก็ไม่ลังเลที่จะเลือกปุ่ม ‘ตกลง’ ไม่มีเหตุผลใดที่เขาจะไม่เลือก เพราะถึงอย่างไรเขาก็ตัดสินใจจะลบบัญชีและเริ่มใหม่อีกครั้งอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจะต้องกังวลอะไรอีก ? ส่วนไอเทมต่าง ๆ นั้น เขาก็ไม่สนใจมันก่อนที่จะมาทำภารกิจด้วยซ้ำ เขาได้ส่งพวกมันต่อไปยังคนอื่น ๆ แล้ว แม้แต่เหรียญทองแดงสักเหรียญ เขาก็ไม่มีติดตัว
“เจ้าเด็กน้อย ฟังนะ” โม่เทียนพูดออกมาอย่างเคร่งขรึม “ภายใน 3 ชั่วโมง ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะขโมย ขุด ฉก หรือโกง ใด ๆ ในอีกสามชั่วโมงต่อจากนี้ เจ้าจะต้องหามันมาให้ได้ และจงกลับมานี่พร้อมกับหินสีเลือด นั่นคือหินที่ดีที่สุดในการสร้างอาวุธเวทมนตร์ มิเช่นนั้นเจ้าก็จงกลับไปที่เมืองโนวิซและเริ่มต้นใหม่จากศูนย์อีกครั้ง ! ”
มู่หรงเสี่ยวเทียนตกใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ จากนั้นเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่า ตาเฒ่า ดูซะว่านี่คืออะไร ? ” ขณะที่เขากำลังพูดอยู่นั้นเขาก็ควักหินสีเลือดออกมาจากกระเป๋ามิติจากนั้นเขาก็วางมันลงไปในมือของโม่เทียนทันที
วินาทีนั้น แสงสีแดงที่ส่องประกายออกมาจากมือของโม่เทียน มันส่องแสงเป็นสีแดงสดใสทั่วทั้งสำนักงานเปลี่ยนอาชีพ
“ผู้เล่นชื่อโจร ทำภารกิจลับสำเร็จ”
“ทำภารกิจผู้เล่นที่ไม่สามารถเปลี่ยนอาชีพได้สำเร็จ ระบบจะมอบรางวัลเป็นค่า เสน่ห์ 1 หน่วย และค่าชื่อเสียง 10,000 หน่วย”
“ผู้เล่นชื่อโจร เป็นคนแรกที่ทำภารกิจลับสำเร็จ ระบบจะมอบรางวัลเป็นค่าชื่อเสียง 2,000 หน่วย”
โม่เทียนอึ้งไปชั่วขณะ เขามองดูหินสีเลือดส่องแสงสีแดงบนมือของเขาอย่างงุนงง การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์อย่างกะทันหันนี้มันเกินจินตนาการของเขาไปมาก
“พอแล้ว พอแล้ว” มู่หรงเสี่ยวเทียนฉวยหินสีเลือดกลับมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ยัดเข้าไปในกระเป๋ามิติของเขา พร้อมกันนั้นเขาก็กระโดดขึ้นกลางอากาศและเตะไปที่ก้นของโม่เทียน “ให้ตายเถอะ ฉันขอคิดดอกเบี้ยคืนสักหน่อยก็แล้วกัน”
โม่เทียนตกใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นมู่หรงเสี่ยวเทียนหยิบหินสีเลือดจากมือของเขาไป และยังถูกเตะที่ก้น โดยที่เขาไม่ทันได้ตอบโต้ด้วยซ้ำ เขาอดไม่ได้ที่จะโวยวายออกมา “เจ้าเด็กตัวเหม็น เจ้าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกแล้วใช่หรือไม่ ! ? ”
“เดี๋ยวก่อนตาเฒ่า ไม่ใช่ว่าผมเพิ่งจะเตะท่านเพียงแค่ครั้งเดียวงั้นหรือ ? แค่นี้มันยังไม่ทำให้ผมหายแค้นจากการที่โดนท่านเตะไปหลายครั้งหรอกนะ ทำไมท่านถึงหัวเสียได้ถึงขนาดนี้ ? ” อารมณ์ของมู่หรงเสี่ยวเทียนดีขึ้นมาเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่เขาจะเสร็จสิ้นภารกิจได้เท่านั้น แต่เขายังได้รับค่าเสน่ห์เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย นั่นหมายความว่าฮีโร่ของเขาก็จะได้เช่นกัน
“แต่เจ้าไม่สามารถนำไอเทมที่ใช้ในภารกิจกลับไปได้” การแสดงออกของโม่เทียนผ่อนคลายลงเป็นอย่างมาก แต่ความปรารถนาของเขาสำหรับหินสีเลือดนั้นยังคงปรากฏอย่างชัดเจน
“อย่าลืมว่าภารกิจนั้นให้ฉันตามหาหินสีเลือดเท่านั้น มันไม่ได้บอกว่าจะต้องเอาให้กับท่านไม่ใช่รึ ? ” มู่หรงเสี่ยนเทียนตัดบท “หวังว่าท่านจะเข้าใจนะ และแน่นอน ผมจะเอากลับไปด้วย”
เมื่อเห็นโม่เทียนหัวเสีย เขาก็รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก เพราะหลายวันที่ผ่านมาความโกรธของเขาไม่ได้ลดลงไปเลยแม้แต่น้อย
“เอาเป็นว่าเราจบเรื่องราวบาดหมางใจกันดีหรือไม่ ? ” มู่หรงเสี่ยวเทียนไม่ต้องการที่จะสร้างปัญหาดังนั้นเขาจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยในทันที “ท่านดูสิ ไหน ๆ ผมก็ทำภารกิจลับได้สำเร็จแล้ว ท่านควรจะช่วยผมเปลี่ยนอาชีพด้วย”
โม่เทียนลังเลสักพัก เขาพยักหน้าเป็นการบอกว่าตกลง จากนั้นเขาก็พูดคุยด้วยอารมณ์ที่ตื่นเต้น “ไม่น่าเชื่อเลยว่านักรบเวทมนตร์ที่หายตัวไปนับพันปีจะกลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง” จากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่มู่หรงเสี่ยวเทียนอย่างลึกซึ้ง “เจ้าหนุ่มน้อย นี่ถือว่าเป็นโชคชะตาอย่างแท้จริง เนื่องจากว่าเจ้าถูกเลือกโดยเทพเจ้า (ระบบ) ของเดสตินี่ ในฐานะที่เป็นผู้สืบทอดนักรบเวทมนตร์ในทวีปเฉินซวนแห่งนี้ ข้าหวังว่าเจ้าจะรู้ตัวเองเป็นอย่างดี ว่าควรจะทำอะไร ! ”
หลังจากที่โม่เทียนพูดจบ แทนที่เขาจะจ้องมองไปยังมู่หรงเสี่ยวเทียน แต่เขากลับมองไปที่โม่ตี้และโม่เหริน ใบหน้าของเขาแสดงความจริงจังอย่างที่ไม่เคยมีปรากฏมาก่อน!
To be continued…