ในเวลานั้นแม้ว่าฉินชวนจะยังไม่ได้มีตัวตนเด่นชัด แต่ก็เป็นคนพิเศษสำหรับเจี่ยนอีหลิง
น่าเสียดายที่เจี่ยนอีหลิงขาดการติดต่อกับฉินชวนหลังจากการสอนพิเศษจบลง
แต่เจี่ยนอีหลิงไม่เคยลืมเขา
ภายหลังเมื่อเจี่ยนอีหลิงเห็นฉินชวนอีกครั้ง เธอก็พบว่าฉินชวนก็ยังหล่อเหลาเหมือนเดิมนอกจากว่าเขายิ่งดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเดิมและตัวตนของเขาก็เปลี่ยนแปลงจากเด็กยากจนที่ไม่มีอะไรไปเป็นนักธุรกิจ
เจี่ยนอีหลิงไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้น เธอรู้แต่เพียงว่าเธอชอบเขาและรักเพียงคนนี้ที่อยู่เคียงข้างเธอยามเมื่อเธอถูกทั้งโลกทอดทิ้ง
แต่ฉินชวนกลับตกหลุมรักโม่ชืออวิ้น
เปรียบกับเจี่ยนอีหลิงซึ่งถูกตามใจจนนิสัยเสียมาตั้งแต่เด็ก โม่ชืออวิ้นซึ่งก้าวขึ้นไปด้วยความพยายามของตัวเธอเองนั้น เข้ากันกับฉินชวนได้มากกว่า ทั้งสองต่างทะนุถนอมซึ่งกันและกัน และแน่นอนว่าพวกเขากลายเป็นกิ่งทองใบหยกที่ชายก็มากความสามารถหญิงก็สวย
ในเวลานั้น เจี่ยนอีหลิงได้กลายเป็นคนหวาดระแวงไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับฉินชวนซึ่งเธอไม่อาจปล่อยมือได้ เจี่ยนอีหลิงตัดสินใจที่จะทำลาย
ทำลายสิ่งที่ตนเองไม่มีทางได้รับ
สุดท้ายเจี่ยนอีหลิงไม่ได้ทำลายฉินชวน แต่กลับเป็นการทำลายตนเอง
เจี่ยนอีหลิงคนปัจจุบันไม่สนใจฉินชวน ถึงแม้จะรู้ว่าเขาจะกลายเป็นผู้นำของตระกูลที่ทรงอำนาจมากที่สุดในเป่ยจิงในอนาคต
เจี่ยนอีหลิงไม่ต้องการที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับฉินชวน ดังนั้นเมื่อเธอรู้ว่าฉินชวนตอนนี้อยู่ในบ้านตระกูลเจี่ยนในห้องทำงานของพี่ชายเธอ เจี่ยนอีหลิงจึงซ่อนตัวอยู่ในห้องของเธอโดยไม่ยอมออกมา
อย่างไรก็ตามเจี่ยนอีหลิงอาจจะหลีกเขาได้หนึ่งวันแต่ไม่ใช่ตลอดไป
ไม่นานนักเจี่ยนหยุ่นเฉิงก็มาที่ห้องทำงานเพื่อพบกับเจี่ยนอีหลิง และขอให้เธอไปพูดคุยที่ห้องทำงานของเขา
เจี่ยนอีหลิงติดตามเขาไปและฟังเจี่ยนหยุ่นเฉิงพูดเกี่ยวกับการหาครูสอนพิเศษให้กับเธอ
ฉินชวนเห็นเจี่ยนอีหลิงเป็นครั้งแรก
เด็กหญิงตัวค่อนข้างเล็กสวมเสื้อสเวตเตอร์สีขาวและกางเกงสแลคแบบบางสีดำ
ผมยาว ผิวละเอียด ตาโต หน้าตาดีตามปกติของตระกูลเจี่ยน
แน่นอนว่านี่ก็เป็นครั้งแรกของเจี่ยนอีหลิงเช่นกันที่ได้พบกับฉินชวนอย่างเป็นทางการ ในเมื่อเขาเป็นพระเอก หน้าตาฉินชวนตามปกติแล้วไม่จำเป็นต้องมีคำถาม
เขาเป็นคนที่มีนิสัยขัดแย้งเป็นอย่างมาก ในฐานะนักเรียนยากจนที่ต้องทำงานเพื่อให้ได้เงินเล่าเรียนให้เพียงพอ เขาปลดปล่อยบรรยากาศสง่างามแต่มืดหม่น
เจี่ยนอีหลิงรูว่านิสัยขัดแย้งกันนี้มีต้นกำเนิดมาจากความเป็นมาพิเศษของเขา แม้ว่าเขาจะยากจนอยู่ในตอนนี้ แต่เขาก็จะกลายเป็นตัวตนที่ทำให้ตระกูลเจี่ยนพรั่นพรึงในอนาคต
เจี่ยนหยุ่นเฉิงแนะนำเจี่ยนอีหลิงว่า “นี่คือฉินชวน นับจากวันนี้เป็นต้นไป เขาจะเป็นครูสอนพิเศษของน้อง เขาจะรับผิดชอบในการเล่าเรียนของน้องในสัปดาห์ที่น้องลาพัก หลังจากที่น้องกลับไปที่โรงเรียนแล้ว เขาก็จะรับผิดชอบการเล่าเรียนของน้องและให้บทเรียนเสริมในวันหยุดสุดสัปดาห์ ฉินชวนจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่งของเหิงหยวน และตอนนี้ได้ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเหิงหยวน เขามีคะแนนการเรียนสูงสุดและมีพฤติกรรมยอดเยี่ยมในโรงเรียน น้องต้องเรียนรู้จากเขา”
ตามความเป็นจริง คะแนนสอบเข้าวิทยาลัยเดิมของฉินชวนนั้นสามารถใช้ไปเข้ามหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศที่เป่ยจิงได้
เพียงแต่ว่าแม่ของเขาป่วยและครอบครัวของเขาก็ไม่มีเงินเหลือ
เพื่อที่จะประหยัดเงินและดูแลแม่ที่ป่วยของเขา ฉินชวนได้เลือกที่จะอยู่ในเมืองเหิงหยวน
“ได้” เจี่ยงอีหลิงตอบกลับอย่างง่ายๆ
ตามความเป็นจริง น้ำเสียงของเจี่ยนอีหลินค่อนข้างจะตรงไปตรงมา สำหรับเธอแล้วการยอมรับการสอนพิเศษเป็นแค่เพียงวิธีแสดงให้ครอบครัวเห็นว่าเธอยินดีที่จะยอมรับความตั้งใจดีของพวกเขา
แต่ทว่าเสียงที่นุ่มนวลตามธรรมชาติประกอบกับรูปร่างหน้าตาของเธอทำให้ฉินชวนที่อยู่ถัดออกไปเห็นว่าเธอเป็นคนที่มีความเข้าใจและมีเหตุผล
ฉินชวนมองไปที่เธอและรู้สึกว่าเจี่ยนอีหลิงนั้นแตกต่างจากสิ่งที่เขาได้ยินมา
เมื่อเขารู้ว่าจะต้องมาเป็นครูสอนพิเศษที่บ้านตระกูลเจี่ยน ฉินชวนได้สืบเสาะถามเกี่ยวกับบ้านตระกูลเจี่ยนเป็นการล่วงหน้า
ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นด้วยเช่นกันจากฟอรัมของโรงเรียนมัธยมเซิ่งหัว
ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นเพราะเจี่ยนอีหลิงซึ่งก้าวร้าวและเอาแต่ใจมาโดยตลอด เป็นคนผลักพี่ชายของตนเอง เจี่ยนหยุ่นน่าว ตกจากบันได และยังร่วมกันขอให้โรงเรียนขับไล่เจี่ยนอีหลิงออกไป
แต่ทว่า ฉินชวนรู้ว่าด้วยอิทธิพลของตระกูลเจี่ยนในเมืองเหิงหยวน ตราบเท่าที่ตระกูลเจี่ยนยังไม่ทอดทิ้งเจี่ยนอีหลิง โรงเรียนก็จะไม่ขับเจี่ยนอีหลิงออกไปอย่างแน่นอน
แม้จะรู้ว่าเจี่ยนอีหลิงไม่ได้เป็นคนที่จะตอแยได้ง่ายนัก เขาก็ยังรับงานจากเจี่ยนหยุ่นเฉิง ธรรมดาแล้วก็เป็นเพราะว่าเจี่ยนหยุ่นเฉิงเสนอค่าจ้างไว้สูง และเขาเองก็ต้องการเงิน
ตราบเท่าที่เขายังสามารถหาเงินได้เพียงพอสำหรับค่าครองชีพ ค่าเล่าเรียน และค่ารักษาพยาบาลแม่ของเขา ถึงแม้ว่าการได้มาจะยากลำบากอยู่บ้าง และถึงนักเรียนจะสอนยากแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาที่เขาจะต้องใส่ใจ
แต่หลังจากที่เห็นเธอในวันนี้ ฉินชวนก็ต้องประหลาดใจที่พบว่าเด็กหญิงคนนี้ไม่ได้ดูหยิ่งจองหองและหยาบคายไร้เหตุผลดังเช่นคำร่ำลือ
ฉินชวนยังไม่สามารถที่จะสรุปได้ว่าคำร่ำลือนั้นผิดหรือว่าเด็กสาวนั้นแกล้งทำเป็นเชื่อฟัง