เจี่ยนอีหลิงกำลังพิมพ์อย่างต่อเนื่อง เธอใช้คอมพิวเตอร์พิมพ์ตอนที่อยู่ที่บ้าน และเธอก็ไม่ต้องการที่จะเสียเวลาเมื่อเธออยู่บนท้องถนน ดังนั้นเธอจึงทำการใช้นิ้วพิมพ์แป้นพิมพ์ของโทรศัพท์มือถือในการแก้ไข เธอพิมพ์ตัวหนังสือและสัญลักษณ์บรรทัดแล้วบรรทัดเล่า
ต่อจากนั้นเจี่ยนอีหลิงก็เปิดกล่องจดหมายของโทรศัพท์อีกครั้งเพื่อตรวจดูอีเมลล์ มีอีเมลล์หลายฉบับเป็นภาษาอังกฤษอยู่ในกล่องจดหมายนั้น ซึ่งได้ส่งมาในเวลาไม่กี่วันก่อน และก็ยังมีข้อความตอบกลับอีกจำนวนมากในกล่องจดหมายรวมไปถึงอีเมลล์ที่ยังไม่ได้อ่านที่เธอได้รับตอนเช้าวันนี้ และเจี่ยนอีหลิงกำลังทำการประมวลผลข้อความตอบกลับในช่วงเวลานี้
เจี่ยนอีหลิงตั้งสมาธิกับงานของตัวเธอเอง และไม่ได้สังเกตพบการพูดคุยระหว่างเจี่ยนหยุ่นเฉิงกับโม่ชืออวิ้นทั้งตลอดเส้นทาง
ในทางกลับกันคนสองคนที่กำลังพูดคุยกันอยู่ด้านหน้าต่างพากันให้ความสนใจกับเธอด้วยความอยากรู้เป็นระยะๆ
หลังจากที่ไปถึงโรงพยาบาลแล้ว เจี่ยนหยุ่นเฉิงและโม่ชืออวิ้นก็ตรงไปยังหอผู้ป่วยเพื่อเยี่ยมเจี่ยนหยุ่นน่าว ซึ่งเจี่ยนหยุ่นน่าวก็รู้สึกดีใจที่เห็นพวกเขา
ส่วนเจี่ยนอีหลิงนั้นได้ถูกขอร้องให้รออยู่ที่ระเบียง
เจี่ยนอีหลิงหาที่บริเวณทางเดินแถวนั้นและนั่งลง
ในเวลานั้นก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้ยาวบริเวณทางเดิน
ชายคนนั้นปิดหน้าด้วยผ้าผืนหนึ่ง ดูเหมือนว่าเขากำลังหลับอยู่
“โครก…”
เจี่ยนอีหลิงได้ยินเสียงท้องร้องของชายคนนั้น และในเวลาเดียวกันนั้นโทรศัพท์ของชายคนนั้นก็ดังขึ้นหลายครั้ง
ชายคนนั้นไม่ได้ดึงผ้าปิดหน้าออก แต่ควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าของตนเองและทำการกดปุ่มปิดเครื่องโดยตรง
นี่เป็นการพิสูจน์ว่าชายคนนั้นไม่ได้หลับเลยแม้แต่น้อย
และท้องของเขาก็ยังคงส่งเสียง “โครกคราก” เป็นระยะๆ
เจี่ยนอีหลิงหยิบเอากล่องอาหารกลางวันที่มีฉนวนหุ้มออกมาจากกระเป๋าเป้
อาหารนี้ทำโดยเจี่ยนอีหลิงก่อนที่จะออกมานอกบ้าน เดิมตั้งใจว่าจะมอบให้กับเวินน่วนและเจี่ยนหยุ่นน่าวในโรงพยาบาล
แต่เมื่อเธอออกมาแล้วและพบกับโม่ชืออวิ้น และได้เห็นกล่องอาหารที่โม่ชืออวิ้นได้ถือไว้ในมือ เจี่ยนอีหลิงรู้ว่าส่วนที่เธอได้ตระเตรียมไว้นั้นไม่จำเป็นอีกต่อไป
เจี่ยนอีหลิงนำเอากล่องอาหารออกมาและเดินไปยังข้างกายของชายคนนั้น ยื่นนิ้วของเธอออกและสะกิดไปยังแขนของชายคนนั้นเบาๆ
ชายคนนั้นค่อยเลิกผ้าที่คลุมหน้าออกอย่างช้าๆ สิ่งที่เห็นเป็นอันดับแรกก็คือดวงตาของชายคนนั้น เขามีดวงตาหงส์สีดำและขาวชัดเจนกระจ่าง หัวและหางตาคมยาว
ต่อจากนั้นก็เป็นจมูกโด่งแคบยาวเป็นสันตรง ตัวจมูกกลม
สุดท้ายก็คือริมฝีปากและคางของชายคนนั้น ริมฝีปากไม่ได้หนาแต่อวบอิ่มมีน้ำมีนวล
รูปลักษณ์และเสน่ห์ของเขาสูงมาก
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจี่ยงอีหลิงให้ความสนใจ
เจี่ยงอีหลิงยื่นส่งกล่องอาหารให้กับชายคนนั้น “ฉันได้ยินว่าคุณหิว กินนี่สิ ฉันทำเมื่อเช้านี้ ยังไม่มีใครได้แตะต้อง”
เจี่ยนอีหลิงอธิบายว่านี่ไม่ใช่ของเหลือ
เจี่ยนอีหลิงเพียงแค่รู้สึกว่ามื้ออาหารที่เธอทำจะสิ้นเปลืองไปเสียเปล่า และจะเป็นการดีกว่าที่จะให้กับคนที่ต้องการมันแทนที่จะต้องโยนมันทิ้งไป
จ๋ายหวินเชิ่งมองดูเจี่ยนอีหลิงเป็นเวลานาน และสุดท้ายก็ตัดสินได้อย่างอย่างหนึ่ง เขากำลังได้รับ “การให้ทาน” จากเด็กหญิงตัวเล็กๆ
จ๋ายหวินเชิ่งมองไปยังเจี่ยนอีหลิงอีกสองวินาที เธอดูงดงามประณีตเหมือนกับตุ๊กตาตั้งแสดงที่หน้าต่างร้านค้า
จากนั้นสายตาของจ๋ายหวินเชิ่งก็ตกลงมาที่กล่องอาหารในมือของเจี่ยนอีหลิง
กล่องอาหารสีชมพูที่มีลวดลายยูนิคอร์นสีชมพูบนกล่อง
ในเวลานี้เจี่ยนอีหลิงสังเกตเห็นว่าประตูหอผู้ป่วยของเจี่ยนหยุ่นน่าวได้เปิดออก และเธอก็รู้ว่าบางคนกำลังออกมาหาเธอ ดังนั้นก่อนที่ชายคนนั้นจะทันได้ยื่นมือออกมาหยิบกล่องอาหาร เธอก็วางกล่องอาหารนั้นลงไปบนต้นขาของชายคนนั้น
จากนั้นเจี่ยนอีหลิงก็หันตัวแล้วเดินกลับไปที่ประตูหอผู้ป่วยของเจี่ยนหยุ่นน่าว
จ๋ายหวินเชิ่งดูกล่องใส่อาหารสีชมพูบนตักของตนเองเป็นเวลานาน ทันใดนั้นรอยยิ้มชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา