สำหรับเจี่ยนอีหลิงแล้ว เป็นเรื่องง่ายกว่ากับการไปโรงเรียนแทนที่การเผชิญหน้ากับฉินชวนที่บ้าน
เธอมีเวลามากกว่าในการทำเรื่องส่วนตัว
ครูไม่ได้คาดหวังอะไรจากเธอมากนักและก็ไม่จ้องมองเธอตลอดเวลา นี่ยิ่งง่ายกว่าการซ่อนจากฉินชวน
โดยปกติแล้วเจี่ยนอีหลิงไม่ค่อยลุกจากที่นั่งของเธอบ่อยนักตลอดทั้งวัน และก็จะยุ่งมากในช่วงเวลาพัก
เพื่อนร่วมชั้นต่างส่งสายตาแปลกๆ มองดูเธอเป็นครั้งคราว แต่ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปมีเรื่องราวกับเจี่ยนอีหลิงอย่างจริงจัง
ในเวลานี้มีประเด็นร้อนกำลังโพสต์ขึ้นในฟอรัมของโรงเรียน
หัวข้อ: [เจี่ยนอีหลิงกลับมาที่โรงเรียน อิทธิพลหนุนหลังของน้องสาวใจดำนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน]
ผู้โพสต์อธิบายความจริงที่ว่าเจี่ยนอีหลิงกลับมาที่โรงเรียนแล้วในวันนี้ พร้อมกับภาพแอบถ่ายเจี่ยนอีหลิงจากมุมต่างๆ
ในภาพนั้น เจี่ยนอีหลิงสวมเสื้อผ้าเรียบง่ายมาก เสื้อเชิร์ตสีขาวและกางเกงขายาวสีดำไม่มีการตกแต่งลวดลายประดับใดๆ เพิ่มเติม
ผมของเธอถูกมัดรวบไว้เป็นหางม้าอย่างง่ายๆ เรียบร้อยและสะอาด
ชั้นสอง: [น่าสะอิดสะเอียนจริงๆ เห็นชัดว่าตอนนี้เธอจงใจแต่งตัวให้น่าสงสาร แกล้งทำเป็นไร้เดียงสา]
ชั้นสาม: [ใช่ ใช่ ซ่อนหัวใจของหมาป่าร้ายตัวใหญ่ไว้ในร่างกระต่ายขาวตัวเล็ก ????]
ชั้นสี่: [ฉันไม่รู้จริงๆว่าโรงเรียนคิดอะไรอยู่ ถึงปล่อยให้คนที่มีความรุนแรงแบบนี้กลับมาที่โรงเรียน ไม่กลัวว่าเธอจะทำอะไรที่ร้ายกาจอีกหรือไง ????]
ชั้นห้า: [ฉันกลัว ฉันต้องเดินอ้อมตอนที่ฉันเห็นเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตอนเห็นเธอบนบันได ฉันต้องระวังตัว พ่อแม่ฉันมีลูกเพียงคนเดียว พวกเขายังรอให้ฉันดูแลพวกเขาตอนแก่ ????]
ชั้นหก: [อย่างที่บอก โรงเรียนไม่ได้พิจารณาความเห็นของพวกเราเลย ทำไมพวกเขาจึงยอมให้เจี่ยนอีหลิงกลับมา]
ชั้นเจ็ด: [ชั้นหก อย่าคิดเรื่องนั้น คนหนุนหลังเจี่ยนอีหลิงนั้นแข็งแกร่ง]
ชั้นแปด: [ชั้นเจ็ดพูดผิด ไม่มีอะไรเกี่ยวกับว่าคนหนุนหลังนั้นแข็งแกร่งหรือไม่ เรื่องนี้ต้องตำหนิตระกูลเจี่ยนเรื่องความลำเอียง เพื่อนร่วมห้องเจี่ยนหยุ่นน่าวที่น่าสงสารถูกน้องสาวตัวเองฆ่า แต่พ่อแม่ของเขาก็ยังปกป้องน้องสาว ถ้าผู้เคราะห์ร้ายไม่มีปากเสียง ตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ นับประสาอะไรกับโรงเรียน]
ชั้นเก้า: [❤️❤️ เจี่ยนหยุ่นน่าวอย่าร้องไห้ พวกเรายังสนับสนุนเธออยู่ พวกเราจะเป็นผู้สนับสนุนเธอตลอดไป]
แม้ว่าฟอรัมของโรงเรียนจำเป็นที่จะต้องลงทะเบียนและล็อกอินด้วยข้อมูลของนักเรียนในโรงเรียน ข้อมูลตัวตนที่แท้จริงของคนนั้นหลังจากที่ล็อกอินแล้วจะถูกซ่อนและใช้ชื่อเล่นแทน เมื่อเขียนคอมเมนต์ก็จะไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะถูกเปิดเผยความจริงของตัวเอง
หูเจียวเจียวเห็นโพสต์นี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งมีคอมเมนต์มากขึ้นเรื่อยๆในตอนท้าย เธอก็เริ่มเกิดความกังวลขึ้น
ดังนั้นเธอจึงสะกิดแขนเจี่ยนอีหลิงที่อยู่ถัดจากเธออย่างระมัดระวัง จากนั้นก็เลื่อนมือถือของเธอไปยังฝั่งเจี่ยนอีหลิงเพื่อที่ว่าอีกฝ่ายจะสามารถเห็นถ้อยคำด่าทอตัวเอง
หูเจียวเจียวกล่าวอย่างระมัดระวังว่า “เธอไม่ได้ทำอย่างนั้นสักหน่อย ทำไมเธอไม่ออนไลน์ไปอธิบายให้กับพวกเขาฟัง”
เจี่ยนอีหลิงมองลงไปที่หน้าจอมือถือของหูเจียวเจียว ความคิดเห็นในฟอรัมครั้งสุดท้ายนั้นแปลกประหลาด กระทั่งสไตล์การแต่งตัวก็กลายเป็นหัวข้อสนทนาได้
เจี่ยนอีหลิงสังเกตเห็นว่าคนโพสต์นี้เป็นคนเดียวกับที่เปิดเผยว่าคนร้ายนั้นเป็นเจี่ยนอีหลิงในโพสต์ที่บอกว่าเจี่ยนหยุ่นน่าวนั้นได้รับบาดเจ็บ
นี่ทำให้เจี่ยนอีหลิงเกิดความสนใจ
เดิมทีแล้วโรงเรียนเพียงแค่รู้ว่าเจี่ยนหยุ่นน่าวนั้นได้รับบาดเจ็บ และไม่มีใครคิดถึงเจี่ยนอีหลิง
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะคนโพสต์คนนี้ที่บอกทุกคนว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกคนก็จะไม่เชื่อมโยงเจี่ยนหยุ่นน่าวที่ตกบันไดเข้ากับเจี่ยนอีหลิง
หูเจียวเจียวสังเกตสีหน้าของเจี่ยนอีหลิงอย่างระมัดระวัง และก็เห็นว่าอีกฝ่ายนั้นดูจริงจังแต่ก็ไม่ได้โกรธ
ดังนั้นเธอจึงชักชวนอีกฝ่ายด้วยเสียงกระซิบ “ทำไมเธอไม่อธิบายให้กับพวกเขาล่ะ ถ้าเธอไม่พูดอะไรพวกเขาจะคิดว่าที่เธอเงียบก็เพราะว่าเธอนั้นผิด”
“ขอบใจ” เจี่ยนอีหลิงขอบคุณหูเจียวเจียว แต่ก็ปฏิเสธอีกฝ่าย “ฉันไม่สามารถอธิบาย”
เจี่ยนอีหลิงไม่คิดว่านี่จะได้ผลลัพธ์อะไรกับการออนไลน์เพื่อที่โต้เถียงกับคนพวกนั้น
เมื่อเห็นว่าเจี่ยนอีหลิงไม่ได้ต้องการที่จะอธิบายจริงๆ หูเจียวเจียวก็ไม่สามารถที่จะพูดอะไรต่อไปได้อีก ได้แต่หันหน้ากลับไปทำเรื่องของตัวเอง