px

เรื่อง : เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
大姐大 บทที่ 27: ตามลำพังกับพี่ชายคนโต 1


 

 

เจี่ยนอีหลิงจ้องมองไปที่ข้อความ เธอปิดหน้าจอไม่ได้ตอบกลับข้อความในทันที

 

เจี่ยนอีหลิงไม่ชอบอย่างมากในการเข้าไปเกี่ยวข้องกับฉินชวน ดังนั้นเธอจึงไม่ได้วางแผนที่จะปล่อยให้ตัวละครเอกชายรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเธอในด้านการลงทุน

 

ตามทิศทางของหนังสือนวนิยายหลัก โครงการของฉินชวนจะประสบความสำเร็จอย่างไม่ต้องสงสัย และเจี่ยนอีหลิงก็ไม่มีเหตุผลที่จะพลาดโอกาสทำเงินเช่นนั้น

 

แม้ว่าเธอจะไม่ชอบตัวตัวละครเอกชาย แต่นั่นก็ไม่ได้ห้ามเธอจากการหาเงินจากตัวตัวละครเอกชาย และให้ตัวละครเอกชายทำงานให้เธอ

 

ตามเนื้อเรื่อง เจี่ยนอีหลิงต้องการทั้งตัวและหัวใจของพระเอก แต่ตอนนี้เจี่ยนอีหลิงเพียงแค่ต้องการเงินที่เขาหาได้

 

เจี่ยนอีหลิงรีบลงทุนกับฉินชวนก่อนที่นักลงทุนตามตามหนังสือต้นฉบับจะปรากฏตัวขึ้น และเพียงต้องการเงินส่วนแบ่งเพียงแค่ 20%

 

เพราะว่านักลงทุนจะพบว่าฉินชวนต้องการเงินอย่างรีบด่วนและขอส่วนแบ่งถึง 30%

 

การทำเช่นนี้ เจี่ยนอีหลิงสามารถมั่นใจได้ว่าถึงแม้นักลงทุนตามหนังสือต้นฉบับแสดงตัวขึ้น ฉินชวนและคนอื่นๆก็คงจะมีแนวโน้มที่จะรับเงินการสนับสนุนของเธอมากกว่า

 

###

 

เมื่อโรงเรียนเลิกแล้ว คนที่มารับเจี่ยนอีหลิงจากโรงเรียนก็เปลี่ยนจากคนขับรถมาเป็นเจี่ยนหยุ่นเฉิง

 

หลังจากที่เวินน่วนพักผ่อนได้เพียงสองวัน เธอก็รีบกลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อเปลี่ยนตัวกับเจี่ยนหยุ่นเฉิง

 

ในฐะนะแม่ เวินน่วนต้องการที่จะอยู่กับลูกชายของเธอให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อช่วยให้เขาดีขึ้นเมื่อยามที่เขาทุกข์ใจที่สุด

 

ไม่ว่าพยาบาลที่จ้างมาจะดูแลเอาใจใส่อย่างดีเท่าไหร่มีความสามารถแค่ไหนก็ตาม พวกเธอก็ไม่สามารถที่จะเปรียบได้กับการได้อยู่กับแม่ได้

 

ดังนั้นเวินน่วนจึงยืนยันที่จะดูแลเจี่ยนหยุ่นน่าวด้วยตัวเธอเอง

 

เจี่ยนอีหลิงเห็นว่าใบหน้าของเจี่ยนหยุ่นเฉิงนั้นเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด

 

ในช่วงเวลานี้เจี่ยนหยุ่นเฉิงต้องดูแลน้องชายของเขาในขณะเดียวกันก็ต้องดูแลการขยายกิจการไปยังต่างประเทศของบริษัทอีกด้วย เขาต้องอยู่ยาวจนถึงตีสามตีสี่และได้นอนน้อยกว่าสี่ชั่วโมงต่อวัน

 

แม้กระทั่งเมื่อตอนเขาป่วยและมีไข้ในวันก่อนนั้น เขาก็เพียงแค่รับยาและพักผ่อนเพียงเล็กน้อย

 

เจี่ยนหยุ่นเฉิงกล่าวกับเจี่ยนอีหลิงว่า “วันนี้มีแต่พวกเราสองคนที่บ้าน น้องต้องการกินอะไร เราจะกินกันข้างนอก”

 

เจี่ยนหยุ่นเฉิงบอกให้ป้าอันไปโรงพยาบาลเพื่อดูแลเวินน่วน

 

น้องชายยังไม่ได้ออกจากโรงพยาบาล ดังนั้นแม่ของเขาจะล้มป่วยลงไปอีกคนไม่ได้

 

ทัศนคติของเจี่ยนหยุ่นเฉิงที่มีต่อเจี่ยนอีหลิงเห็นได้ชัดว่าผ่อนคลายลงเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้

 

แต่ก็ยังค่อนข้างเคร่งครัด ด้วยการทำหน้ามึนและพูดเหมือนกับว่าเป็นกิจวัตร

 

เจี่ยนอีหลิงจ้องมองไปยังเจี่ยนหยุ่นเฉิง “ไปกินที่บ้าน พี่ยุ่งเกินไป”

 

เจี่ยนหยุ่นเฉิงต้องการพักผ่อน ตาของเขาแดงก่ำไปเรียบร้อยแล้ว

 

เจี่ยนหยุ่นเฉิงเห็นด้วยกับข้อเสนอของเจี่ยนอีหลิง “ถ้างั้นกลับบ้านและสั่งให้มาส่งที่บ้าน”

 

จริงๆแล้วเขาก็ไม่มีแรงที่จะกินอาหารนอกบ้าน

 

เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว เจี่ยนหยุ่นเฉิงก็เห็นกล่องพัสดุเจ็ดแปดกล่องวางเรียงอยู่ที่ทางเข้า ทั้งหมดล้วนเป็นของเจี่ยนอีหลิง วันนี้ป้าอันช่วยเซ็นรับแทนเจี่ยนอีหลิงเมื่อตอนที่ป้าอันยังอยู่ที่นี่ตอนกลางวัน

 

เจี่ยนหยุ่นเฉิงไม่ได้ถามเธอว่าซื้ออะไร ถึงได้มีพัสดุจำนวนมากมายหลายกล่องในคราวเดียว

 

เด็กตระกูลเจี่ยนมีอิสระในการดูแลทรัพย์สินของตนเองตั้งแต่เล็ก

 

ตระกูลเจี่ยนจะปลูกฝังเด็กๆให้มีความสามารถในการจัดการการเงินของตนเองได้อย่างเป็นอิสระตั้งแต่เล็ก

 

เมื่อเขาและเจี่ยนอีหลิงอายุมากพอพวกเขาก็พยายามซื้อกองทุนหุ้นด้วยตนเอง

 

ดังนั้นสิ่งที่เจี่ยนอีหลิงซื้อทางออนไลน์ ในฐานะพี่ชายคนโต เจี่ยนหยุ่นเฉิงจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย

 

เจี่ยนอีหลิงขอให้เจี่ยนหยุ่นเฉิงกลับไปที่ห้องเพื่อพักผ่อนก่อนเป็นอันดับแรก “ไปนอน น้องจะจัดหาของดีๆให้ แล้วจะเรียกพี่ทีหลัง”

 

ในขณะที่พูด เจี่ยนอีหลิงไม่ได้มองตรงไปยังเจี่ยนหยุ่นเฉิง

 

เจี่ยนหยุ่นเฉิงมองเห็นเพียงหัวกลมๆและผมดำ

 

เจี่ยนหยุ่นเฉิงคิดว่า คำพูดของเจี่ยนอีหลิงที่ว่า “น้องจะจัดหาของดีๆให้” นั้นหมายความว่าเธอจะเป็นคนรับผิดชอบในการสั่งซื้ออาหาร

 

เจี่ยนหยุ่นเฉิงไม่มีข้อโต้แย้ง เขาไม่ได้จู้จี้จุกจิกในด้านการกิน

 

แต่เขาไม่รู้ว่าหลังจากที่เขากลับไปที่ห้องแล้ว เจี่ยนอีหลิงเดินเข้าไปในห้องครัว

 

หลังจากที่ตรวจสอบวัตถุดิบในตู้เย็นแล้ว เจี่ยนอีหลิงก็เริ่มเตรียมอาหารเย็นสำหรับคืนนี้

 

รีวิวผู้อ่าน