จั๋วฝานอุ้มลั่วหยุนไห่ไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ขณะอีกข้างดึงแขนนุ่มของลั่วหยุนชางไว้ขณะวิ่งอย่างบ้าคลั่ง ทิ้งเสียงร้องและเสียงครวญครางของผู้คุ้มกันไว้ด้านหลัง
“รอก่อน เราจะทิ้งพวกเขาไว้ไม่ได้”ลั่วหยุนชางได้สติและพูดอย่างกังวล
จั๋วฝานยังวิ่งต่อโดยไม่สนใจนาง
“ปล่อยข้า!”
ลั่วหยุนชางเห็นว่าเขาไม่เชื่อฟังนาง นางจึงสะบัดมือเขาออก จั๋วฝานหยุดและมองนาง
“เราต้องกลับไป เราไม่สามารถปล่อยให้ผู้คุ้มกันเหล่านั้นทิ้งชีวิตเพื่อเราได้”
“เจ้าเอาชนะพวกมันได้งั้นหรือ?”จั๋วฝานพูด
ลั่วหยุนชางถอนหายใจ”คนอื่นไม่เก่ง แต่พวกเขามีพ่อบ้านซุน ผู้เป็นยอดฝีมือระดับกลั่นปราณขั้น 6 ส่วนข้าเป็นแค่ขั้น 3 และหัวหน้าผู้คุ้มกันก็คือขั้น 4 ต่อให้เรากลับไปสู้ เราก็ยังไม่ใช่คู่มือเขา”
“แล้วจะกลับไปทำไม?”
จั๋วฝานแค่นเสียงและคว้าข้อมือนางอีกครั้ง
ตอนนี้เด็กที่อยู่ในมืออีกข้างของเขาดิ้น”เจ้าทาสตัวเหม็น เจ้ากล้าพูดกับนายของเจ้าแบบนี้ได้ยังไง?ขอโทษพี่สาวข้าเดี๋ยวนี้ และข้าจะไม่ทุบตีเจ้า”
จั๋วฝานมองด้วยความงุนงง มองลูกสุนัขที่กำลังแยกเขี้ยวในแขนสลับกับมองลั่วหยุนชาง คุณหนูกำลังโกรธ เมื่อจำได้ว่าเขาเป็นแค่ข้ารับใช้ตระกูลลั่ว
แต่แล้วไง?เขาไม่ใช่จั๋วฝานตัวจริงอยู่แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น พวกนางก็ไม่ใช่ตระกูลลั่วที่น่าเคารพนับถืออะไร[ตระกูลเจ้ากำลังจะโดนจำกัด แต่ยังมีเวลามาอวดดี?]
ถ้าไม่ใช่เพราะมารหัวใจ จักรพรรดิปีศาจอย่างข้าคงไม่มีวันมาเหลียวแลเรื่องพวกนี้!
“เจ้าหนู คิดว่าข้าจะไม่กล้าตีก้นเจ้าจนบวมงั้นเหรอ?”จั๋วฝานจ้องลั่วหยุนไห่
“เจ้ากล้า?!”ลั่วหยุนไห่จ้องกัลบโดยไม่กลัว เขาเติบโตมาในคฤหาสน์และรู้ถึงความแตกต่างในฐานะของพวกเขา เขาจะกลัวคำขู่ของข้ารับใช้ได้อย่างไร?
น่าเสียดายที่คนตรงหน้าเขาไม่ใช่ข้ารับใช้ตระกูลลั่ว
ด้วยรอยยิ้ม จั๋วฝานงอเข่าหยุนไห่ ถกกางเกงลง และฟาดเหมือนไม่มีวันพรุ่งนี้
เสียงตบดังขึ้นในหูพวกเขา การตีทำให้ลั่วหยุนไห่กับลั่วหยุนชางชาด้าน พวกเขาไม่เคยคิดฝันว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น ข้ารับใช้กล้าตีก้นเจ้านาย?
มันน่าอับอายจนถึงจุดที่ลั่วหยุนไห่ลืมเลือนความเจ็บปวด แต่ในไม่ช้าเขาก็ลิ้มรสได้ถึงความแสบร้อนบนแก้มก้น
“โอหัง!”
ลั่วหยุนชางร้องด้วยความตกใจ แย่งน้องชายนางมาจากเขาทันที”จั๋วฝาน เจ้ากล้ายกมือขึ้นใส่นายของเจ้าได้ยังไง?”
ลั่วหยุนชางเป็นที่รู้จักในตระกูลถึงความอ่อนโยน ความอบอุ่นและความละเอียดอ่อน เด็กสาวจากตระกูลรวยที่ไม่เคยโกรธ แต่การกระทำของจั๋วฝานก็ทำให้ความโกรธภายในตัวนางแผดเผาอย่างที่ไม่เคยเป็น
จั๋วฝานเลี่ยงสายตานางขณะแค่นเสียง”ข้าไม่กล้าเท่าคุณหนูหรอก กล้าจนถึงจุดที่ยอมเสียเวลามาต่อว่าคนอื่นขณะที่ศัตรูอยู่แถวนี้”
เสียงข้างหลังพวกเขาเริ่มอ่อนลง จั๋วฝานกับลั่วหยุนชางบอกได้ว่าผู้คุ้มกันคงทนไว้ได้ไม่นาน
“ข้าตีเขาไปแค่ไม่กี่ที แต่ถ้าเจ้าไม่หนี คนเหล่านั้นคงมาเอาชีวิตเขาไปในไม่ช้า”จั๋วฝานชี้ลั่วหยุนไห่
ลั่วหยุนชางยังโกรธ แต่คำพูดของจั๋วฝานก็เป็นจริง น้องชายนางคือผู้ชายคนเดียวในตระกูล นางสามารถเสียสละตัวเองได้ แต่ต้องไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา
หลังคิดสักพัก นางก็จริงจัง”จั๋วฝาน พานายน้อยและหนีไป ข้าจะคอยถ่วงเวลาไว้เอง”
“ขอปฏิเสธ!”จั๋วฝานพูดโพล่งขึ้นมา”ถ้าเจ้ากล้าเดินหนีไป ข้าจะฆ่าเด็กนี่”
“เจ้า...”
นางเสียคำพูด นางไม่เคยนึกว่าตระกูลนางจะเป็นที่อยู่ของคนใช้ที่หยิ่งผยองจนกล้าข่มขู่เจ้านายตัวเอง
“ข้าอาศัยในตระกูลลั่วมาทั้งชีวิตและไม่รู้จักสิ่งรอบข้าง ถ้าเจ้าไป ข้ากับเจ้าหนูนี่ก็จะไม่ไปไหน”จั๋วฝานพูดต่อ
ลั่วหยุนชางพยักหน้าเงียบๆ ความโกรธของนางเย็นลง มันสมเหตุสมผล แต่คำพูดถัดไปก็ปลุกเปลวไฟแห่งความโกรธของนางให้พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง
“มันไม่ได้มีความหมายนักต่อให้เจ้าตาย แต่อย่าพยายามลากข้าลงไปกับเจ้า....”
“เจ้า...”ลั่วหยุนชางหน้าเขียวปั้ด แต่ก็ต้องกลั้นใจเอาไว้
เขาไม่สนใจสายตาคู่นั้นและเดิน”มีสถานที่ใกล้เคียงให้เราซ่อนไหม?”
ลั่วหยุนชางแค่นเสียง จ้องเขา จากนั้นก็สะบัดหน้าหนี
แต่นางคือคุณหนู และถึงแม้ความโกรธของนางจะไม่ลด นางก็ยังรู้วิธีมองข้ามมันในสถานการณ์ที่อันตรายนี้”มีพื้นที่เพาะปลูกรอบตัวเราเป็นระยะทางกว่าร้อยกิโลเมตร และทางตะวันตกของภูเขาลมดำก็เป็นสถานที่ที่มีไม่กี่คนถึงกล้าเข้าไป มันคือป่าที่ปกคลุมด้วยหมอกจนแม้แต่พวกโจรภูเขาก็ยังไม่รู้รายละเอียด”
“งั้นเราจะไปที่นั่น”
จั๋วฝ่านพยักหน้า”อุ้มน้องชายเจ้าและนำทางไป”
นางแค่นเสียงและเดินไปข้างหน้าโดยไม่เหลียวแลเขาอีก
นางกลับโชคร้ายต้องมาอยู่กับคนแบบนี้ นางอยู่ด้านหน้าและเขาอยู่ด้านหลัง มันราวกับบทบาทของเจ้านายและคนใช้สลับกัน
สองพี่น้องไม่เคยได้รับความอัปยศอดสูเช่นนี้มาก่อน
[รอก่อนเถอะ เมื่อเราออกไปได้ ข้าจะทำให้เจ้าได้รู้จุดยืนของตัวเอง]ลั่วหยุนชางคิดด้วยความโกรธ