เปลี่ยนจากตระกูลไฉเป็นไช่น้า
รอยแตกลุกลามเหมือนใยแมงมุม ถ้าพวกเขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญกลั่นลมปราณ เข่าพวกเขาคงแหลกไปแล้ว ไม่สามารถเดินได้อีก
ทั้งสองหน้าดำขณะแหงนมอง เห็นจั๋วฝานยืนตรงหน้าพวกเขาอีกครั้ง
"เป็นเจ้าอีกแล้ว!"
คู่รักรู้ว่าจั๋วฝานเป็นคนเดียวในกลุ่มที่มีพลังพอจะจัดการพวกเขา
"ต่อให้เจ้าคุกเข่าอ้อนวอนตอนนี้ ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไป"ซุนยู่เฟยจ้องจั๋วฝาน คำรามด้วยความโกรธ
ปึก ปึก!
จั๋วฝานเตะทั้งคู่โดยไม่ลังเล
"เจ้าอยากให้ข้าคุกเข่า?เจ้ายังไม่คู่ควร"
ซุนยู่เฟย ไช่เซียวถิงตกตะลึง แม้กระทั่งลืมความเจ็บปวดจากการโดนเตะ
การตบพวกเขาช่วยให้ลั่วหยุนชางพ้นจากสถานการณ์เป็นสิ่งที่พวกเขาเข้าใจได้ เพื่อชดใช้ พวกเขาสั่งให้อีกฝ่ายคุกเข่า แต่พ่อบ้านก็ยังกล้าตีพวกเขา เขาไม่กลัวว่าจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกคฤหาสน์ไช่แบบมีชีวิตหรือ?
หัวหน้าผางโกรธกับการกระทำของทั้งสอง แต่เขามองมันจากมุมที่ต่างกันและรู้สึกว่ามันดีกว่าที่จะอดทน ไม่งั้นตระกูลลั่วคงพินาศที่นี่
ลั่วหยุนชางยิ้มหดหู่ คนอื่นไม่เข้าใจจั๋วฝาน แต่นางได้รับรู้นิสัยป่าเถื่อนของเขาในป่า เขาไม่เคยทำตัวเหมือนข้ารับใช้ เขาจะทำตามใจชอบ นางไม่สามารถรับกับความจริงที่ตระกูลลั่วของพวกนางมีข้ารับใช้เช่นนี้
แต่ ทัศนคติของนางก็เปลี่ยนไป ตอนนี้นางมองจั๋วฝานด้วยความเคารพและชื่นชม
ทาสน่ารังเกียจคนนี้ที่มักรังแกนางไม่จำกัดอยู่แต่การตีเจ้านาย แต่ยังเป็นคนอื่นด้วย เขาไม่รู้จักกลัว ช่วงเวลานั้น ภาพของทาสน่ารังเกียจได้กลายเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่มาช่วยเหลือตระกูลลั่ว
"ใครกันที่กล้าทำอะไรอุกอาจในเขตตระกูลไช่?"
เสียงตำหนิของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นขณะที่ปรากฏตัวด้านหน้าพวกเขา
สีหน้าของลั่วหยุนชางสลดลง นางดึงน้องชายนางเข้ามาใกล้จนเขารู้สึกวิตกไปด้วย
ไช่เซียวถิงดีใจ"พ่อ พ่อมาแล้ว!เขามาสร้างปัญหาให้กับตระกูลไช่ของเรา!"
เมื่อรู้ว่าหัวหน้าตระกูลไช่หรงมา จั๋วฝานก็ดูระวังตัวขึ้น
ไช่หรงดูเหมือนคนอายุวับ 50 สู.งและแข็งแรง กลิ่นอายทรงพลังแผ่ออกจากตัวเขา
"หลอมกระดูกขั้น 8"จั๋วฝานยิ้ม
คิ้มของไช่หรงกระตุกด้วยความตกใจที่แวบผ่านหน้า เขาไม่เคยคิดว่าเด็กรุ่นเยาว์จะมองเห็นผ่านการบ่มเพาะเขาได้
"ตาดี!"ไช่หรงพูด"ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าเจ้าเป็นใคร?"
"พ่อบ้านของตระกูลลั่ว จั๋วฝาน!"
ไช่หรงตกใจและสังเกตเขา
เขาได้ยินจากลั่วหยุนชางว่าตระกูลลั่วมีพ่อบ้านคนใหม่เพราะคนเก่าทรยศ แต่เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นเด็กแบบนี้ และยังให้ความรู้สึกแปลกๆอีกด้วย
ถ้ามันเป็นเวลาอื่น จิ้งจอกอย่างเขาคงไม่ไปยุ่งกับตัวแปรลึกลับอย่างจั๋วฝาน น่าเสียดายที่ตอนนี้มีขุมอำนาจในเมืองซึ่งเขาไม่สามารถตอแยด้วยได้
"ท่านลุงไช่ ท่านต้องให้ความยุติธรรมกับพวกเรา"ซุนยู่เผยชี้รอยฝ่ามือบนหน้านางขณะจ้องจั๋วฝาน
ไช่หรงเข้าใจสถานการณ์ทันที"ไม่ต้องห่วง ลุงไช่อยู่นี่แล้ว'
จากนั้นเขาก็หันไปมองลั่วหยุนชาง"หยุนชาง ข้ารับเจ้า สองพี่น้องมาด้วยความเมตตา มันไม่เป็นไรถ้าเจ้าอยู่เฉยๆ แต่ทำไมถึงต้องสร้างปัญหาด้วย?"
ลั่วหยุนชางตัวสั่น หมดคำพูด
จั๋วฝานก้าวมาข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม"แก่ก็แก่แล้วแต่ยังมารังแกเด็กอีกงั้นหรือ หัวหน้าตระกูลไช่?ข้าจะไม่พูดมากไปกว่านี้ หยุดแสร้งทำเป็นเมตตา ไม่ต้องใช้คำพูดอ้อมๆ เจ้าทำมันไปเพราะผลประโยชน์ ไม่งั้นเจ้าคงยกเลิกงานแต่งไปแล้ว"
"เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าอยากให้เราเป็นศัตรู ข้าก็จะไม่ประนอมอีก"ใบหน้าของไช่หรงเปลี่ยนไป"วันนี้ ข้าจะยุติเรื่องนี้ให้ยู่เฟย เจ้าแค่ต้องรับหนึ่งฝ่ามือจากข้า ข้าจะไม่เอาเปรียบเจ้าและใช้พลังแค่สองส่วนเท่านั้น"
สองส่วน?
รูม่านตาของเขาหดลง หัวหน้าผางตะโกน"ถึงกระนั้น มันก็ยังแข็งแกร่งกว่าการโจมตีของผู้เชี่ยวชาญกลั่นลมปราณขั้น 9 เสียอีก เห็นได้ชัดว่าเจ้าอยากตีเราให้ตาย!"
"ลุงไช่ ข้าขอร้องท่าน หยุนไห่ยังเด็ก เขาไร้เดียงสา!"หยุนชางวิงวอน
แต่ไช่หรงกลับส่งเสียงเหอะ จากนั้นก็ยิ้มให้ซุนยู่เฟย
"ได้ งั้นข้าขอลงมือก่อน"ปากของจั๋วฝานโค้งขึ้น
หวืด!
ฝ่ามือสีแดงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในอากาศ ไช่หรงไม่คิดว่าจั๋วฝานจะโจมตีก่อน และส่งฝ่ามือเขาออกไปเช่นกัน
เมื่อปะทะกัน ฝ่ามือโลหิตก็กระจัดกระจาย จั๋วฝานถอยกลับไปสิบก้าว แต่ไม่บาดเจ็บ
"กลั่นลมปราณขั้นสองแต่สามารถต้านทานพลังสองส่วนของข้าได้?!"หัวใจของไช่หรงเต็มไปด้วยความตกใจ"แต่การรอดชีวิตของเจ้าล้วนมาจากโชค"
"ฮ่าๆๆ เหตุผลเดียวที่ข้ายังไม่ตายเพราะข้าไม่เชื่อในโชค"และเขาก็ชี้มือของไช่หรงด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย"แต่เป็นพลัง"
ไช่หรงหรี่ตา มือของเขามีเลือดไหลจากการปะทะก่อนหน้า
เป็นไปได้อย่างไร?(เขาก็แค่ผู้บ่มเพาะกลั่นลมปราณขั้นสอง ส่วนข้าคือผู้บ่มเพาะหลอมกระดูกขั้นแปด นั่นคือความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง!]
"นอกจากนี้"จั๋วฝานพูดต่อ"เจ้าคิดว่านั่นคือสองส่วนจริงหรือ?นั่นยังไม่ถึงหนึ่งส่วนด้วยซ้ำ
ไช่หรงเริ่มนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
แม้จะกระทันหัน เขาก็ตั้งใจปล่อยพลังสองส่วนจริง แต่เมื่อเขาปล่อยฝ่ามือ เลือดลมของเขากลับปั่นป่วน และผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เห็น
"นอกจากนี้ มองดูลูกชายเจ้าสิ"
จั๋วฝานชี้ไช่เซียวถิง ไช่หรงเห็นลูกชายของเขากระอักเลือดคำโต
"พ่อ กะ-เกิดอะไรขึ้น?"ไช่เซียวถิงตื่นตระหนก เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่กลับกระอักเลือด
"จั๋วฝาน เจ้าทำอะไรลงไป?!"ไช่หรงคำราม
จั๋วฝานตอบด้วยการเย้ยหยัน"ข้าแค่อยากบอกหัวหน้าตระกูลไช่ว่าข้าสามารถพรากเอาชีวิตของลูกชายเจ้าได้ทุกเมื่อ โปรดนำไปพิจารณาด้วย"
ขณะที่ไช่หรงกำลังลังเล จั๋วฝานก็ชี้นิ้วอีกครั้ง และเลือดก็พ่นออกจากปากของไช่เซียวถิง
"เอาล่ะ ข้าเชื่อเจ้าแล้ว"ไช่หรงปาดเหงื่อบนหน้าผาก พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
เขาไม่รู้ว่าจั๋วฝานใช้อะไรกับลูกชายเขา แต่จั๋วฝานเตรียมการมาแล้ว ตอนนี้เขาจึงเสียใจ ถ้าเขารู้ว่าตระกูลลั่วมีพ่อบ้านเช่นนี้ เขาคงไม่ถลำลึกมาจนถึงขนาดนี้
"งั้น ข้าจะขออำลาท่านตรงนี้ หัวหน้าตระกูลไช่"จั๋วฝานยิ้มหยัน จากนั้นก็ดึงลั่วหยุนชางไป
จั๋วฝานหัวเราะลั่น"วันนี้เจ้าชอบรังแกข้า พรุ่งนี้ข้าจะเหยียบเจ้าแทบเท้า"
"ท่านลุงไช่ ทำไมท่านถึงปล่อยเขาไป?"ซุนยู่เฟยพูดด้วยความไม่พอใจ
ไช่หรงพึมพำ ถอนหายใจขณะมองจั๋วฝานเดินจากไป"แทนที่จะให้ที่พักพิง ข้ากลับเชิญศัตรู..."
เขาส่ายหัว ช่วยพาไช่เซียวถิงเดินเข้าข้างใน หลังเดินไม่กี่ก้าว เขาก็หันมาหาซุนยู่เฟย
"ยู่เฟย เราต้องรีบสะสางเรื่องนี้กับจั๋วฝานให้เร็วที่สุด เขาจะเป็นอันตรายต่อตระกูลซุนของเจ้า"
"ฮึ่ม ท่านไม่กล้าโจมตีเขาเพราะลูกชายท่าน แต่ตระกูลซุนของข้าไม่กลัว ข้าจะให้เขาได้ลิ้มรสชาติแห่งความกลัวที่กล้ามาตอแยตระกูลใหญ่ทั้งเจ็ด!"