หวือ!
รุ่งอรุณมาถึง จั๋วฝานโอบกอดสาวงามไว้สองนาง ผู้คุ้มกันผงะตอนเห็นพ่อบ้านคนนี้ที่ปิดประตูบ่มเพาะถึงสิบวันปรากฏตัว
บางคนยังแซว”พ่อบ้านจั๋ว เมื่อคืนท่านคงเหนื่อยแย่!”
หลงขุ่ยดันผ่านมาและเห็นเขากับสาวงามสองนาง นางขมวดคิ้ว กลอกตาขณะเดินออกไป นางไม่สนใจเขาขณะปากยังบ่น”ผู้ชายก็เหมือนกันหมด’
จั๋วฝานไม่สนใจว่าพวกเขาจะเข้าใจผิดและโยนทั้งสองเข้าห้องเขา ปิดประตูและนั่งบนเก้าอี้
“โอ้ย!”
เสี่ยวซีได้สติจากการล้มกระแทกพื้นและขยี้ตา”นี่คือที่ไหนกัน?”แแต่เสียงตะโกนของนางก็หยุดเมื่อสายตาพบกับผู้หญิงอีกคน”คุณหนู ท่านไม่เป็นอะไรนะ?”
ผู้หญิงคนนั้นนอนไม่ขยับบนพื้น
จั๋วฝานยิ้ม ขยับนิ้วและคืนอิสรภาพให้นาง
ผู้หยิงคนนั้นดีดตัวขึ้น เอื้อมมือไปจับข้อขา ควักมีดออกมาแทงใส่คอของจั๋วฝาน
แต่ กลับมีแค่เสียงร้องครวญครางขณะที่มีดหยุดด้านหน้าลำคอของเขา
จั๋วฝานชื่นชมนาง”ฝีมือดี แต่นั่นไม่ได้ผลกับข้า ข้าเชิญเจ้ามาเพื่อทำให้เรื่องราวกระจ่างชัด ถ้าเจ้าบริสุทธิ์ใจ ข้าจะปล่อยเจ้าไป”
“แถม มันดีกว่าถ้าเจ้าไม่คิดแว้งกัดข้าอีก”จั๋วฝานดึงมีดออกจากมือนาง จากนั้นก็เหลือบมองเรือนร่างนาง”โอ้ เราต้องทำให้แน่ใจว่าเจ้าไม่มีอะไรซ่อนไว้อีก”
จั๋วฝานทำท่าลามก
นางหน้าแดง”เจ้ากล้า?”
มือของเขาหยุด ขณะที่จั๋วฝานจ้งอตานาง”นั่นก็ขึ้นอยู่กับเจ้า”
จากนั้นน้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไป”เจ้าเป็นใคร?มาทำอะไรในเมืองเนตรสายลม?”
นางไม่สนใจเขา
แคว้ก!
จั๋วฝานฉีกชุดตรงเอวนางและโยนทิ้งลงพื้น
“อ้า!”
ความโกรธของนางระเบิด ดวงตาของนางดูเหมือนจะพ่นไฟออกมา แต่จั๋วฝานก็ไม่สนใจ
เสี่ยวซีวิ่งมาและชกจั๋วฝานด้วยหมัดน้อยๆของนาง”เจ้าสารเลว กล้าดียังไงถึงทำแบบนี้กับคุณหนู!”
อีกมือของจั๋วฝานขยับเบาๆ และชุดของเสี่ยวซีส่วนหนึ่งก็ตกลงบนพื้นเช่นกัน นางตกตะลึงไปชั่วขณะก่อนถอยหลังกลับ กอดตัวนางแน่นด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น
จั๋วฝานถามด้วยน้ำเสียงสงบดั่งเดิม”เจ้าเป็นใคร?มาทำอะไรในเมืองเนตรสายลม?”
นางเม้มปากเป็นคำตอบ
เสื้อผ้าของนางถูกฉีกอีกครั้งก่อนจั๋วฝานจะถามซ้ำ”เจ้าเป็นใคร?มาทำอะไรในเมืองเนตรสายลม?”
ความโหดร้ายของจั๋วฝานคล้ายกับเครื่องจักรไร้หัวใจที่นำความกลัวมาสู่นาง สุดท้ายนางก็คลายกราม”ข้าคือลูกสาวบุญธรรมของเจ้าภูเขาลมดำ เหล่ย ยู่ถิง ข้ามาเมืองเนตรสายลมเพื่อทำลายตระกูลลั่ว”
“ยังไง?”ใบหน้าของจั๋วฝานยังไร้อารมณ์ราวกับมันไม่เกี่ยวข้องกับเขา นี่ทำให้เหล่ยยู่ถิงยิ่งกลัว ชายคนนี้ไม่ดูเหมือนมนุษย์เลย
“โหยวหมิงกู่จะเบี่ยงความสนใจของผู้คุ้มกัน ขณะที่เราลอบเข้ามา”
จั๋วฝานพยักหน้าพอใจ เขารู้เรื่องนี้แต่แรก และแค่ถามลองใจ
คำถามต่อไปเป็นสิ่งที่เขาอยากรู้สุด
“เจ้ามีความสัมพันธ์ยังไงกับโหยวหมิงกู่?พวกเขาได้อะไรโดยการช่วยเหลือเจ้า?”
เหล่ยยู่ถิงหน้าเสีย”ข้าไม่รู้”
จั๋วฝานจ้องนาง และพบว่าคำตอบนางเป็นความจริง”เจ้าติดต่อกับโหยวหมิงกู่ได้ยังไง?ใครเป็นคนกลาง?”
ดวงตาของเหล่ยยู่ถิงสั่นไหว แต่ปากกลับเม้มแน่น
จั๋วฝานเดาได้แต่ยังอยากได้ยินมันจากนาง ดังนั้นเขาจึงฉีกเสื้อของเหล่ยยู่ถิง
ร่างกายนางพลันเผยต่อหน้าจั๋วฝาน ทิ้งไว้แค่เศษผ้าสีแดงเพื่อปกป้องยอดเขาของนาง
น้ำตาของเหล่ยยู่ถิงไหลหยด มือของจั๋วฝานอยู่ใกล้กับเศษผ้าสีแดงนั้นมากขึ้นขณะที่เสียงของเขาลดต่ำลง”นี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะรักษาศักดิ์ศรีของเจ้า ถ้าเจ้าไม่ตอบ ข้าจะให้กลุ่มชายฉกรรจ์ด้านนอกเข้ามา”
“เจ้าสารเลว!”เหล่ยยู่ถิงก่นด่า
“ข้าจะนับสาม สอง หนึ่ง…”ยิ่งเขานับ มือของเขายิ่งเข้าใกล้นาง
เหล่ยยู่ถิงกัดปากแน่นจนเลือดไหล นางร้องไห้แต่ไร้เสียงออกมา
“เจ้ากล้าหาญมาก!”จั๋วฝานพยักหน้าและกำลังจะกระชากชุดแต่เสี่ยวซีพลันตะโกนขึ้นก่อน”อย่า!ข้าขอร้องเจ้า อย่ารังแกคุณหนูเลย มันเป็นศิษย์พี่หยางที่ติดต่อกับโหยวหมิงกู่”
“เขาเป็นใคร?”จั๋วฝานแสยะยิ้มชั่วร้าย เหล่ยยู่ถิงอยากตะโกนหยุดเสี่ยวซี แต่จั๋วฝานก็ห้ามไว้
เสี่ยวซีเห็นคุณหนูต้องทรมานและพูดออกมา”เขาเป็นศิษย์ของท่านเจ้าภูเขา หยางหมิง ท่านเจ้าภูเขาได้ทำสัญญาแต่งงานระหว่างศิษย์พี่หยางกับคุณหนู แต่วันหนึ่ง ผู้นำตระกูลลั่ว ลั่วเจิ้งหนานกลับฉวยโอกาสตอนเขาเผลอ ทำร้ายเขาจนบาดเจ็บสาหัส เขาจึงนอนเป็นอัมพาต ไม่แม้แต่จะพูดได้..”
“งั้น เจ้าก็คิดจะเล่นงานตระกูลลั่วคืน?”จั๋วฝานยิ้ม”นักฆ่าต้องชดใช้ และการแก้แค้นก็ต้องได้รับการชำระสินะ?”
“แล้วไงต่อ?”
เสี่ยวซีลังเลแต่เมื่อเห็นจั๋วฝานขยับมือเข้าใกล้หน้าอกของเหล่ยยู่ถิง นางก็รีบพูด”เราแพ้การเผชิญหน้ากับผู้คุ้มกันของตระกูลลั่ว แต่จากนั้นศิษย์พี่ก็ได้ทำข้อตกลงกับพ่อบ้านซุน เขาทำงานกับเราจากภายในและล้มตระกูลลั่ว จากนั้นคุณหนูตระกูลลั่วก็หนีไปและเราก็พลาดกับนาง จากนั้นศิษย์พี่หยางถึงพบว่าเจ้าอยู่นี่กันหมดและขอความช่วยเหลือจากโหยวหมิงกู่….”
“ดี”
มือของจั๋วฝานยังคงนิ่ง”เจ้ารู้ได้ไงว่าเจ้าภูเขาถูกลอบโจมตีโดยลั่วเจิ้งหนาน?เจ้าเห็นกับตาหรือ?”
“ศิษย์พี่หยางเห็น!”
“ศิษย์พี่หยางยังบอกเจ้าว่าฝ่ามือมังกรหวนกลับสามารถรักษาเจ้าภูเขาได้สินะ?”จั๋วฝานเลิกคิ้ว ขณะที่เสี่ยวซีพยักหน้า นางประหลาดใจที่พบว่าเขาพูดถูก
ด้วยภาพที่ชัดเจน จั๋วฝานจึงถอนมือจากหน้าอกของเหล่ยยู่ถิง
แต่ทว่า เสียงแผ่วเบากลับดังจากด้านนอก”จั๋วฝาน เจ้าอยู่หรือเปล่า?”
ลั่วหยุนชางเข้ามาข้างในพร้อมกับลั่วหยุนไห่และหัวหน้าผาง แต่ก็ต้องผงะ
สาวงามสองคนที่เสื้อผ้าฉีกขาดอยู่ด้านใน โดยมีมืออันแสนชั่วร้ายของจั๋วฝานอยู่ด้านหน้าหน้าอกของสาวคนหนึ่ง ลั่วหยุนไห่อ้าปากค้าง แต่สายตากลับหยาดเยิ้ม
ลั่วหยุนชางรีบปิดตาน้องชายนาง ตะโกนใส่หัวหน้าผาง”เอาตัวนายน้อยออกไป”
หัวหน้าผางพยักหน้าขณะแบกลั่วหยุนไห่ออกไป แต่ไม่วายหันมามองจั๋วฝานด้วยรอยยิ้มแบบที่ผู้ชายทุกคนต่างเข้าใจ
“พ่อบ้านจั๋ว!”
ลั่วหยุนชางโกรธ’นี่คือศาลาเฉียนหลง ทำไมเจ้าถึงสร้างปัญหา?”
จั๋วฝานยักไหล่”ทุกอย่างที่ข้าทำก็เพื่อตระกูลลั่ว”
“เพื่อตระกูลลั่ว?”
ลั่วหยุนชางหัวเราะด้วยความโกรธ”เจ้านำสาวสองคนมาเล่นด้วยและบอกว่ามันเพื่อตระกูลลั่ว?เจ้าไม่ได้บอกว่าเจ้ากำลังแข็งแกร่งขึ้นหรือไง?ไหนเจ้าบอกว่าจะพาตระกูลลั่วให้เหนือกว่าเจ็ดตระกูลใหญ่ภายในสิบปี?นี่คือวิธีการของเจ้าหรือ?”
จั๋วฝานตกตะลึง ลั่วหยุนชางยึดมั่นด้วยศักดิ์ศรีและคุณธรรมตลอดเวลา แม้จะเป็นตอนโกรธ ทำไมจู่ๆวันนี้นางถึงเสียความสงบทั้งหมดไป?
จั๋วฝานส่ายหัว”ถ้าเจ้ารู้ว่าพวกนางเป็นใคร เจ้าจะไม่พูดแบบนั้น”
ลั่วหยุนชางไม่เชื่อ
“พวกนางมาจากภูเขาลมดำ และข้ากำลังสอบปากคำพวกนาง”จั๋วฝานหัวเราะเยาะสองสาว”วิธีนี้ได้ผลสุดกับผู้หญิง แม้กระทั่งพวกโจรก็ตาม”
“ว่าไงนะ พวกนางมาจากภูเขาลมดำ?”
ดวงตาของลั่วหยุนชางแดงก่ำขณะที่ระเบิดพลังออกมา ชกใส่เหล่ยยู่ถิง”เอาพ่อของข้าคืนมา”
จั๋วฝานจับมือนุ่มๆของนาง”ใจเย็นๆ ข้าเชื่อว่าความขุ่นเคืองใจของตระกูลลั่วและภูเขาลมดำเชื่อมโยงกัน เจ็ดตระกูลใหญ่อาจอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้”
“ว่าไงนะ?”
ไม่เพียงแค่ลั่วหยุนชาง แม้กระทั่งเหล่ยยู่ถิงกับเสี่ยวซีก็ยังตกตะลึง
ทั้งตระกูลลั่วกับภูเขาลมดำเป็นแค่มดต่อหน้าเจ็ดตระกูลใหญ่ ทำไมพวกเขาต้องทำอะไรให้ยุ่งยากเพื่อปิดซ่อนเจตนาทั้งๆที่สามารถจัดการได้ด้วยปลายนิ้ว?
จั๋วฝานยังไม่เข้าใจเช่นกัน แต่เขาก็ยังปล่อยเหล่ยยู่ถิงไป
“คุณหนูเหล่ย ข้ามีเรื่องอยากขอ”จั๋วฝานก้มหัว”ข้าอยากให้เจ้าพาข้าไปภูเขาลมดำ ข้าอยากไปสืบหาสาเหตุ”
“ฮึ่ม ไม่มีทางที่เจ้าจะเข้าภูเขาลมดำได้”เหล่ยยู่ถิงแค่นเสียง
จั๋วฝานยิ้มให้ลั่วหยุนชาง”คุณหนู ข้าขอฝ่ามือมังกรหวนกลับหน่อย”
“ทำไม?”
ลั่วหยุนชางนำมันออกมา ถ้าคนอื่นขอ นางคงไม่หยิบออกมาเร็วขนาดนี้ แต่เนื่องจากจั๋วฝานคือผู้ใช้ค่ายกลระดับห้า เขาคงไม่สนใจแค่วิชายุทธ์ระดับจิตวิญญาณ
จั๋วฝานยิ้ม”คุณหนูเหล่ย นี่คือฝ่ามือมังกรหวนกลับที่เจ้าต้องการ แต่นี่คือวิชายุทธ์ มันไม่สามารถรักษาแผลของเจ้าภูเขาได้ ข้าถึงได้ขอเจ้าให้พาข้าไปภูเขาลมดำเพื่อตรวจสอบ มีโอกาสสูงที่หยางหมิงจะหลอกเจ้ามาตลอด เราต้องทำให้เรื่องราวชัดเจน ไม่งัั้น ตระกูลลั่วกับภูเขาลมดำจะโดนบดขยี้ด้วยเจ็ดตระกูลใหญ่”
“ศิษย์พี่หยางเป็นคนดี ไม่ใช่คนขี้โกหก”เสี่ยวซีพูด
จั๋วฝานมองแค่เหล่ยยู่ถิง”หยางหมิงจะทำให้พ่อบ้านตระกูลลั่วแปรพักตร์ได้อย่างไรหลังรับใช้ตระกูลลั่วมาหลายปีและยังติดต่อกับโหยวหมิงกู่ตลอดเวลา?เหล่ยยู่ถิง เจ้ารู้จักคู่หมั้นเจ้าดีแล้วงั้นหรือ?”
คำพูดของจั๋วฝานจี้หัวใจของเหล่ยยู่ถิงและความสงสัยก็ก่อตัว นางรับแท่งหยกของฝ่ามือมังกรหวนกลับมา และพยักหน้า
เนื่องจากเขามอบวิชายุทธ์ให้นาง ซึ่งเป็นสิ่งที่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน นางจึงพบความผิดปกติและเห็นด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ภูเขาลมดำเป็นบ้านนาง จั๋วฝานก็แค่คนคนเดียว ไม่มีทางที่เขาจะใช้เล่ห์เหลี่ยมได้ที่นั่น
จั๋วฝานพอใจ แต่ก็เปล่งเสียงออกมาด้วยความลำบากใจ”แม่นางเหล่ย ระวังอย่าเป็นหวัดเสียล่ะ”
“อ้า!”
ตอนนี้นางถึงรู้ตัวว่าพ่อบ้านผู้ชั่วร้ายได้ฉีกชุดนางและทำได้แค่ใช้สองมือปกปิด
ลั่วหยุนชางกับเสี่ยวซีผลักจั๋วฝานออกไปทางประตู”ออกไป!”
ประตูกระแทกปิดด้านหลังเขาขณะที่สามสาวยิ้มให้กัน แต่จากนั้นมันก็ทำให้พวกนางรู้ว่าเรื่องราวนี้ยังซับซ้อนมาก พวกนางยังเป็นศัตรูกันและรีบลบรอยยิ้ม
จากนั้นเสียงของจั๋วฝานก็ดังขึ้นจากด้านนอก”แม่นางเหล่ย ครั้งหน้าอย่าลืมสวมเสื้อผ้าให้มากกว่านี้นะ”
เหล่ยยู่ถิงอายจนตาแดง ใบหน้าของนางร้อนผ่าวไปหมด