px

เรื่อง : The Inverted dragons scale
006 - ระวังสายฟ้าไว้ให้ดี!


"คุณคิดผิด" เสียงที่อ่อนโยนแต่หนักแน่นดังขึ้น.
เหมืองกับก้างปลา คุณสามารถกลืนมันได้นะ แต่มันจะทำให้ร่างกายของคุณรู้สึกไม่สบายแล้วมันก็จะบาดคอคุณ

 

จ้าวหมิงจูหันหลังกลับไปในทันทีและตะโกนถามด้วยความโกรธ: "ใครพูดว่าชั้นผิดห๊ะ"
หลังจากที่เห็นใครเป็นคนพูด, ท่าทีของจ้าวหมิงจูก็เปลี่ยนไป เธอถามด้วยรอยยิ้ม: "ชุย เสี่ยวซิน, เธอพูดว่าอะไรนะ? เธอไม่เกี่ยวอะไรด้วย นั่งลงเถอะ"

 

ชุย  เสี่ยวซินเป็นนักเรียนที่ดี; เธอเก่งที่สุดในชั้นเรียนและยังเก่งที่สุดในโรงเรียนอีกด้วย.
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เธอน่าจะเข้ามหาวิทยาลัยเวสวินด์อย่างแน่นอน.

จ้าวหมิงจูหลงใหลเธอมากๆ , เธอเป็นเด็กสาวที่ขยันและมีพรสวรรค์.
"อาจารย์จ้าว หนูพูดว่าคุณคิดผิด'' ชุย เสี่ยวซินที่คราบชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนมัธยมปลายเรเนสซองยืนขึ้นและพูดย้ำอีกครั้ง.

 

จ้าวหมิงจูแสดงสีหน้าเจื่อนๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและจริงจังว่า "นั่งลงซะชุยเสี่ยวซิน"

"อาจารย์ หนูว่าอาจารย์ควรขอโทษหลี่มู่หยาง" ชุยเสี่ยวซินไม่มีท่าทีว่าจะเกรงกลัวและพูดกลับด้วยเสียงดังว่า:
"การทะเลาะกันครั้งนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับหลี่มู่หยาง, เขาเป็นคนถูกกระทำด้วยซ้ำ"

 

จ้าวหมิงจูมองไปที่ชุยเสี่ยวซินอย่างหวาดระแวง ใบหน้าถอดสี จากนั้นก็มองหลี่มู่หยางแล้วพูดว่า: "ชุยเสี่ยวซิน ทำไมเธอถึงปกป้องคนอย่างหลี่มู่หยางกัน?"

"อาจารย์ หนูไม่ได้ปกป้องใครทั้งนั้น หนูแค่พูดในสิ่งที่ควรพูด" ท่าทีของชุยเสี่ยวซินนั้นสงบ
และไม่ได้ถูกชักจูงไปตามอารมณ์โกรธของจ้าวหมิงจู "หนูแค่พูดในสิ่งที่หนูเห็น และหนูเห็นมันด้วยตาของหนูเอง"

 

ชุยเสี่ยวซินกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง ไม่ว่าใครก็ตามที่สบตาเธอต่างก็ก้มหัวลงด้วยความละอาย.

"พวกเขาไม่กล้าที่จะพูดอะไร แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องมีคนลุกขึ้นสู้. นอกจากนั้น, ไม่ว่าจะขาวหรือดำ เราไม่มีทางรู้คำตอบได้เลย.
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือ จางเฉินพุ่งเข้ามาทุบโต๊ะของหลี่มู่หยาง รบกวนเวลาพักกลางวันของทุกๆ คน. หลี่มู่หยางไม่ได้ทำอะไรจางเฉินเลยแม้แต่น้อย
แต่ว่าทำไมจางเฉินถึงร้องไห้ หนูว่าอาจารย์ถามเขาเองดีกว่าค่ะ"

 

จ้าวหมิงจูจ้องมองไปที่ชุยเสี่ยวซินแล้วถาม: "ชุยเสี่ยวซิน เธอกับหลี่มู่หยางเป็นอะไรกัน?"
"เราเป็นเพื่อนร่วมห้องกันค่ะ"

"ชุยเสี่ยวซิน เธอควรจะระวังผลที่ตามมานะ" จ้าวหมิงจูจ้องมองไปรอบๆ แล้วพูด "หลังจากกลับจากทัศนศึกษาที่ทะเลสาบ
มีคนมาบอกชั้นว่าเธอกับหลี่มู่หยางมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกว่านั้น. ตอนนั้นชั้นก็ไม่เชื่อหรอก, หลี่มู่หยางได้ยอมแพ้ที่จะทำตามความ
คาดหวังของครอบครัวเขาแล้วก็ยอมแพ้เรื่องเกรดไปแล้วด้วย เขาไม่มีโอกาสที่จะเข้ามหาลัยอะไรได้เลย เธอต่างจากเขา
เธอกำลังพุ่งเป้าไปที่มหาวิทยาลัยเวสวินด์ มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของราชอาณาจักร นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ เธอไม่ควรจะทำตัวเหลวไหล
คนอื่นๆ ก็เหมือนกัน"

 

จ้าวหมิงจู ชี้นิ้วไปมา: "เสี่ยวซิน เธอนั่งลง. จางเฉินกลับไปนั่งที่ ส่วนหลี่มู่หยาง ไปยืนที่ประตู"
"อาจารย์จ้าว.." ชุยเสี่ยวซินพยายามจะอธิบายอีกครั้ง.

 

"นี่ ชุยเสี่ยวซิน" หลี่มู่หยางพูดขึ้นขัดจังหวะ. เขายิ้ม, แล้วทำท่าทีว่าเขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจเลยแม้แต่น้อย.
"ไม่เป็นไรหรอก, ฉันนอนข้างนอกได้ เริ่มเรียนกันเลย ฉันไม่อยากจะทำให้เวลาอันมีค่าของนักเรียนคนอื่นสูญเปล่า,
ฉันขอให้ทุกคนได้เกรดดีๆ นะ.

 

ในขณะที่เขาพูด เขาก็เดินตรงไปยังประตูด้วย.
นี่คือความเป็นคนดีในแบบฉบับของหลี่มู่หยาง เขาไม่อยากทำให้ครอบครัวเสียใจและไม่อยากให้ชือเหนียนเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้
เขาจึงไม่เคยบอกครอบครัวเลยซักครั้งเดียวว่าเขาถูกรังแก.

 

เขาไม่อยากให้ชุยเสี่ยวซินต้องมาทะเลาะกับจ้าวหมิงจูเพราะเขา เขาจึงทำเป็นเหมือนว่าเขาไม่ได้สนใจ เรื่องแค่นี้จิ๊บจ๊อย.
การได้เห็นหลี่มู่หยางยิ้มแล้วเดินออกจาะห้องภายใต้สายตาของทุกคน มันทำให้หัวใจของชุยเสี่ยวซินรู้สึกผิดปกติแปลกๆ.
เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเธอตั้งแต่ต้นจนจบก็จริงเธอเธอกลับรู้สึกว่าตัวเธอเองถูกทารุณอย่างร้ายแรง.

 

เธอกัดริมฝีปากตัวเองเชิงโมโห ผลักเก้าอี้แล้วเดินออกจากห้องเรียน
"ชุยเสี่ยวซิน เธอจะทำอะไรน่ะ?" จ้าวหมิงจูตะโกนตามหลังมา
"หนูจะไปช่วยติวหนังสือให้หลี่มู่หยาง" เสียงของซุยเสี่ยวซินลอยมาจากไกลๆ 

 

----------
-----------------

 

ณ ร้านกาแฟ: ชุยเสี่ยวซินสั่งลาเต้, หลี่มู่หยางไม่ได้ดูเมนูเลยแล้วพูดกับเด็กเสิร์ฟว่า "ผมเอาลาเต้ด้วยครับ"
จากนั้นเขาก็วางมือของเขาบนโต๊ะ ตาเป็นประกาย จ้องมองไปที่ชุยเสี่ยวซินที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา.
จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังคงไม่เชื่อสายตาตัวเอง.

 

ไอ้ถ่านดำ หมูโง่ของโรงเรียนมัธยมปลายเรเนสซองกำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่กับชุยเสี่ยวซินที่นักเรียนดาวเด่น.
นี่มันเป็นอะไรที่แค่คิดก็ผิดแล้ว.

 

หลี่มู่หยางมองไปที่ชุยเสี่ยวศินแล้วถามว่า: "เธอต้องการที่จะช่วยติวให้ฉันจริงๆ เหรอ?"
ชุยเสี่ยวซินขมวดคิ้ว มองไปที่หลี่มู่หยางแล้วพูดว่า :"ถ้าเธอไม่รักตัวเอง, แล้วเธอจะคาดหวังความรักจากคนอื่นได้อย่างไร?
ถ้าเธอไม่เคารพตัวเอง แล้วใครจะมาเคารพเธอ? ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้โง่ตั้งแต่วันที่เราคุยกัน ฉันรู้ว่าเธอฉลาด --- ถ้าเธอพยายามมากกว่านี้
แล้วเลิกหลับในห้องเรียน เกรดของเธอจะต้องดีขึ้นแน่ๆ. อาจารย์ก็จะไม่อคติเธอและเพื่อนร่วมห้องเองก็จะไม่รู้สึกว่าเธอเป็นตัวถ่วงพวกเขา"

 

หลี่มู่หยางมองชุยเสี่ยวซิน "เธอไม่โทษฉันเหรอที่คอยเป็นตัวถ่วงพวกเธอ"
"โทษสิ" ชุยเสี่ยวซินพูดโดยไม่ลังเล "สองสามครั้งที่ห้องเราควรจะเป็นห้องเรียนดีเด่นแห่งปีแต่เธอก็ฉุดคะแนนเฉลี่ยลง --
ไม่งั้นอาจารย์จ้าวคงไม่โกรธขนาดนั้นหรอก"

 

แม้ว่าชุยเสี่ยวซินจะโทษหลี่มู่หยางและดุเขาเพราะเหตุที่ว่าเขาไม่พยายามพัฒนาตัวเอง หลี่มู่หยางก็ยังคงดีใจมากในขณะนี้.
เนื่องจากเขาเห็นสายตาของชุยเสี่ยวซิน เขาเห็นความห่วงใย ความอาทรและความคาดหวังอย่างแรงกล้า.

มันเป็นการแสดงออกที่เขามักจะเห็นหลายๆ ครั้ง ผ่านสายตาของครอบครัวเขาและชือเหนียนน้องสาวของเขา.

 

"ฉันถูกฟ้าผ่า" ลี่มู่หยางพูด
เขาตัดสินใจจะบอกชุยเสี่ยวซินว่าเขาผ่านอะไรมา, แม้ว่ามันอาจจะดูน่าอายและอัปยศ. นั่นอาจทำให้เธอหัวเราะเยาะเขาด้วยซ้ำ.

ชุยเสี่ยวซิน ช็อคกับสิ่งที่ได้ยิน, ใบหน้าเล็กๆ ที่ขาวเหมือนหิมะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง จากนั่นก็ม่วง
สายตาของเธอเต็มไปด้วยความผิดหวัง และพูดอย่างโมโหว่า:"หลี่มู่หยาง เธอนี่มันน่าผิดหวังจริงๆ"

หลังจากเธอพูดเสร็จ เธอก็ลุกขึ้นแล้วพร้อมที่จะกลับทันที.
เธอโกรธมากๆ แต่ว่าผิดหวังมากกว่า. เธอลังเลตอนที่ตามเขาออกมา และตอนนี้ความลังเลนั้นก็เปลี่ยนเป็น
ความเสียใจอย่างมาก.

 

เขาเป็นผู้ถูกกระทำแท้ๆ แต่กลับเป็นเธอที่โกรธเขา ทำไมกัน?
"ชุยเสี่ยวซิน, ชุยเสี่ยวซิน เธอต้องตั้งใจฟังดีๆ"
หลี่มู่หยางลนไปหมด; เขาไม่รู้ว่าเขาพูดหรือทำอะไรผิด.

 

เขาแค่ต้องการบอกให้ชุยเสี่ยวซินรู้ว่าเขามุ่งมั่นที่จะเป็นคนที่ดีกว่านี้ 
เขาไม่ได้พึงพอใจกับชีวิตตอนนี้ และก็ไม่อยากเป็นคนเฉื่อยชาด้วย. ในทางตรงกันข้าม
เขาต้องการที่จะเรียนรู้มากกว่าคนอื่น. เขาต้องการที่จะใส่ความตั้งใจลงไปในทุกๆ สิ่งมากกว่าคนอื่น.

แต่ถึงอย่างนั้น แต่ถึงจะอย่างนั้น เขาถูกฟ้าผ่า..

 

ถ้าไม่นับหลี่ชือเหนียน หลี่มู่หยางก็ไม่เคยคุยกับผู้หญิงอายุราวๆ เขาเลย. 
ลี่มู่หยางตามเธอออกไป เขาอธิบายด้วยท่าทีงุ่มง่าม: " ชุยเสี่ยวซินน อย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้บอกว่าเธอคือสายฟ้า ---"
"...."
"ไม่สิ สิ่งที่ฉันหมายถึงก็คือคำพูดของเธอไม่เหมือนสายฟ้าเลยซักนิด"
"...."


ยิ่งหลี่มู่หยางพยายามอธิบายมากเท่าไหร่ ชุยเสี่ยวซินก็ยิ่งโกรธขึ้นมากเท่านั้น.
และยิ่งชุยเสี่ยวซินโกรธขึ้น หลี่มู่หยางก็ยิ่งสิ้นหวังเข้าไปอีก.

 

ชุยเสี่ยวซินเดินไปจนถึงประตู; เธอถึงทางออกและจับที่ผลักของประตู
ถ้าเธอเดินออกจากประตูนั้นไป หลี่มู่หยางก็คงจะไม่มีโอกาสได้คุยกับเธออีก.

เหมือนกับที่เธอพูดก่อนหน้านี้.
หลี่มู่หยางไม่ต้องการที่จะยอมแพ้ เพราะเธอคือผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่เป็นห่วงเขา.
ความเป็นห่วงเป็นใยนี้มันต่างจากของหลี่ชือเหนียน น้องสาวของเขา.

น้องสาวของเขาเป็นห่วงในฐานะครอบครัว แต่ชุยเสี่ยวซินเป็นฐานะเพื่อน.
หลี่มู่หยางต้องการรักษาความเป็นเพื่อนนี้ไว้ เพราะตั้งแต่เด็กเขาไม่เคยมีเพื่อนเลยซักคน.

"ชุย เสี่ยวซิน" หลี่มู่หยางตะโกน.
ชุยเสี่ยวซินลังเล แต่ก็หันกลับไป.
หลี่มู่หยางไม่มีแรงแม้แต่จะพูดคำเพียงไม่กี่คำ เพราะความรู้สึกที่รุนแรงมันทำให้เขาอ่อนแรง.
เขามองเข้าไปในตาชุยเสี่ยวซิน: "ฉันแค่อยากจะบอกว่า ผมหางม้าของเธอ มันทำให้เธอดูน่ารักมากเลยล่ะ"

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

devil : ทื่อไปม้าง พ่อคู๊ณณณณ

รีวิวผู้อ่าน