628 วันที่แล้ว
มีคนไม่เจียมเงาหัวสะละ หาเรื่องตุยเย่
เมื่อวูชินเดินออกมาตรงทางเข้าประตูที่1ของสถานีโซล ก็พบกับซังฮุนรอต้อนรับอยู่
"คุณกลับมาแล้วหรือ?"
"ใช่. มินซานอยู่ที่ไหน "
"เขาไปที่สนามบินเพื่อรอต้อนรับเธอ"
"เดี๋ยวก็คงมา เรากลับออฟฟิศกันก่อน "
"ได้ ผมจะพาคุณไปที่นั่น"
เมื่อออกจากดันเจี้ยน วูชินมักใช้เวลาเล็กน้อยในการอยู่กับครอบครัวและจีวอน นอกเหนือจากนั้นวูชินก็ยุ่งอยู่กับการสร้างดันเจี้ยนของเขา ทำให้วูชินไม่เคยเห็นสำนักงานแห่งใหม่นี่เลย
พอซังฮุนพามาถึงชั้นสองวูชินก็หยุดลง
"ที่นั่นมีอะไรกัน?"
"พวกผู้คนที่มารวมกัน .. "
".เหอะๆ ให้ตายสิ"
วูชินยิ้มแหย เมื่อที่เขามองไปที่แผงที่ตั้งเรียงรายหน้าดันเจี้ยน
มีขนมไทยากิ แผงขายบะหมี่ และอาหารต่างๆเรียงอยู่เต็มถนน
"ของพวกนี้ใครจะเป็นคนซื้อ?"
"ก็จะมีพวกนักข่าวกับคนทั่วไปที่มาเที่ยว จะเป็นลูกค้าซื้ออาหารพวกนี้ เค้าเริ่มขายกันตั้งแต่หน้าหนาวแล้ว "
"แล้วที่นี่มีอะไร อร่อยๆบ้าง?"
"เอ่อ เราไม่ค่อยได้กินอาหารพวกนี้"
"เลิกโกหก
"ขนมไทยากิอร่อยที่สุด"
"เอามาให้ฉันสองอัน"
"ครับท่าน."
ซังฮุน เป็นหัวหน้าระดับสูง นอกจากนั้นเขายังนำคนคุ้มกัน 6 คนมาคอยดูแล วูชิน หนึ่งในนั้นรีบวิ่งไปซื้อขนมไทยากิที่แผง
พวกนักข่าวที่มารอเป็นเวลานาน เมื่อเห็นวูชินปรากฏตัว ก็รีบกระหน่ำชัตเตอร์ถ่ายรูปกันไม่ยั้ง มีแม้กระทั่งพวกปาปารัสซี่ ! ที่น่าขำก็คือกว่าครึ่งของพวกนักข่าวดันเป็นคนต่างชาติ
ไม่ใช่มีแต่คนเกาหลีที่ให้ความสนใจวูชิน ตอนนี้คนทั่วโลกให้ความสนใจอย่างกับเขาเป็นดาราฮอลลีวูด พวกในกิลด์แอลนดัลบางทีก็รู้สึกอึดอัดเมื่อได้รับความสนใจมากมายขนาดนี้ ส่วนเจ้าตัวไม่ได้มีปัญหาอะไร
“หืมไอนี่มันอร่อยมาก "
วูชินกัดไทยากิแล้วแหงนหน้าขึ้นมามอง
"มันอยู่ตรงนั้น"
"ห๊ะ?"
วูชินขยับไปข้างหน้าอีกนิดแล้วแหงนมอง
"ตรงนี้หรอ?"
"ใช่."
"ใกล้มาก"
"ก็หัวหน้าสั่งให้ใกล้ที่สุดเราก็เลยทำแบบนี้ ... "
"ทำดีแล้ว"
พวกเขาทำตามที่วูชินบอกเอาไว้ มินซานก็ทำหน้าที่ได้ดีและคอยทำตามตำสั่ง สำนักงานแห่งใหม่ห่างจากทางออกที่ 1 เพียง 100 เมตรเท่านั้น ตอนดันเจี้ยนแตกออกมันขยายออกนิดหน่อย แต่ตึก5ชั้นนี่ก็ยังอยู่ได้ไม่เป็นอะไร
ตึกนี้มันค่อนข้างกว้างและดูท่าทางแข็งแรง ไม่เหมือนอาคารสูงอื่นๆ แถมยังมีผนังกั้นค่อนข้างหนาทำเอาวูชินถูกใจไม่น้อย
"ที่นี่มันเคยเป็นอะไร
"มันเคยเป็นค่ายทหาร"
หลังจากที่ ดันเจียนปล่อยคลื่นกระแทกออกมา รอบสถานีโซลก็กลายเป็นซากปรักหักพัง ถึงอาคารนี้การออกแบบจะล้าสมัยไปหน่อย แต่มันก็ทนทานอย่างมาก รวมทั้งเคยเป็นค่ายทหารมาก่อนก็เลยมีกำแพงกั้นรวมถึงสิ่งต่างๆที่คอยป้องกันไว้ได้ "ไอที่ฉันเห็นกำลังสร้างระหว่างที่เข้าออกดันเจี้ยน ตกลงก็คือที่ทำการกิลด์เรา ?"
"…ครับ."
เขามั่นใจว่าเขาพยายามจะรายงานเรื่องนี้ให้วูชินตลอดเวลา แต่วูชินดันไม่เคยจะสนใจ
"แม่ของฉันจะย้ายมานี่เมื่อไหร่?"
"อาทิตย์หน้า คงเรียบร้อยครับ"
"ดีมาก จัดการต่อได้เลย "
"ครับท่าน."
หลังเดินเข้าประตูไป วูชิน ก็เดินไปตามทางที่อยู่ระหว่างตัวอาคารกับกำแพงเพื่อดูอาคารรอบๆ อาคารด้านในมีการทำความสะอาดพื้นและทาสีเรียบร้อย ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ถูกแบ่งไว้สำหรับหน่วยต่างๆเป็นอย่างดี
"นี่เป็นห้องของท่านหัวหน้า"
หลังจากที่เดินดูห้องต่างๆผ่านห้องซังฮุน ห้องรักษาความปลอดภัยที่อยู่หน้าหน้าลิฟท์ เรียบร้อย ก็มาถึงห้องวูชิน มันไม่ได้แตกต่างกันมากจากห้องก่อนหน้าเนื่องจากทั้งสองห้องมีการออกแบบที่เรียบง่าย สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปคือห้องนี้มีโต๊ะประชุมขนาดใหญ่ตั้งอยู่
วูชินั่งลงที่โซฟา จ้องมอง ซังฮุนตระเตรียมน้ำชา อยู่สักพักก็ถามออกมา
"เรามีลูกกิลด์กี่คน?"
"เกือบ400แล้วครับตอนนี้"
นี่เป็นแค่พนักงานสนับสนุนที่ความสามารถยังไม่ตื่นขึ้นและยังไม่ถูกปลุกพลัง ในกิลด์อแลนดัลคนที่มีความสามารถพอจะสู้ได้ก็มีแค่ : วูชิน, ซังกู และ แฮซอล
"คงได้เวลากระตุ้นความสามารถคนพวกนี้ให้ตื่นได้สักที "
"ใช่. ตอนนี้เรามีคนมากแล้ว
ปัจจุบันมานาบนโลกกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ที่มีจำนวนมากแต่ ระดับ 1-9 ยังนับได้ว่าเป็นพลเรือนทั่วไป เมื่อถึงระดับ 10 จะนับว่าเป็นผู้ที่ปลุกพลังได้ ในระดับหนึ่ง
"ตอนนี้ซังกูอยู่ไหน?"
"ตอนนี้กำลังเคลียดันเจี้ยนอยู่ครับ"
"ระดับกี่ดาวงั้นรึ?"
"ระดับ6ดาวครับ"
“โฮ่ ”
ตอนนี้ซังกูมีความสามารถพอที่จะเคลียดันเจี้ยน6ดาวได้แล้ว
"แล้ว แฮซอล ล่ะ?"
"ตอนนี้เธออยู่ในเขตป้องกัน ท่านอยากพบไหมครับ "
"หืม ที่นี่หรอ
ซุงฮุนยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินไปเปิดม่านตรงหน้าต่างในห้องของวูชิน เมื่อวูชินมองออกไปก็ยิ้มเล็กน้อย
"จะทำสวนสัตว์กันรึยังไง "
ถึงจะเรียกว่าเขตป้องกันแต่ก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้น เป็นแค่สถานที่สำหรับการฝึกพวกมอนสเตอร์ ไม่ได้มีอันตรายกับผู้คนที่อาศัยอยู่
ในสวนก็มีมอนสเตอร์เยอะในระดับหนึ่ง อาทิ เช่น เสือเขี้ยวดาบ อีกาปากคมมีด แล้วก็มีมอนสเตอร์บางตัวที่วูชินก็ไม่รู้จักมาก่อน
'คงจะดีถ้าเธอสามารถฝึก ไวเวิร์นได้
เขาคิดถูก แฮซอลเป็นคนที่มีความสามารถมากคงจะดีถ้าเขาสามารถปลุกพลังให้แก่คนอื่นๆได้แบบเธอ
"ท่านจะไปดูห้องอื่นๆอีก ไหมครับ "
"ไม่ล่ะ เปิดทีวีให้หน่อย "
วูชินใช้เวลานั่งดูทีวีอยู่ ชั่วโมงกว่า
"รองหัวหน้ามาถึงแล้ว"
"ให้เข้ามานี่หน่อย"
"ได้ครับท่าน"
สักพัก จุงมินซาน เมโลดี้ และอัศวินศักดิ์สิทธิ์ ได้เดินเข้ามา
เมื่อเมโลดี้เจอวูชิน เทอก็กำลังจะคุกเข่าทำความเคารถแต่ถูกเขาหยุดไว้ก่อน
"ผู้อมตะ เอ่อ.. "
“เฮ่ พอๆ ไม่ต้องอะไรมาก มานั่งตรงนี้ "
"ค่ะ."
วูชินได้เอ่ยถามทันทีหลังจากที่เธอนั่งลง
"ได้เอาสิ่งที่ฉันต้องการมาไหม
"อ่า เรียบร้อยแล้วค่ะ นี่ "
สตรีศักดิ์สิทธิ์ได้ขยับเอกสารออกมา ท่าทางเธอทำเหมือนกับมันเป็นสมบัติยังไงยังงั้น ขณะที่วูชินจะรับ ฮัศวินศักดิ์สิทธิ์เจมส์ ก็ดึงไว้นิดนึงแล้วบอกว่า
"ข้อมูลนี้ให้ถือเป็นของขวัญแทนมิตรภาพจากทางสหรัฐ แล้วก็เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับกิลด์ ไตตัน ... "
“เออน่า รูแล้ว "
"ครับ."
เจมส์ตอบรับ ตัวเขาถือว่าเป็นผู้ เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและกิลด์ไตตัน เขาไม่ได้มองวูชินเป็นแค่ผู้มีพลังของเกาหลี แต่เป็นพลังให้กับโลก
มินซานสงสัยว่าเอกสารในมือวูชินมันคืออะไร ทำไม ทั้งสตรีศักดิ์สิทธิ์และเจมส์ถึงมีอาการแบบนั้น
"เอ่อท่านหัวหน้า มันคืออะไรหรอครับ?"
"อ่า มันเป็นสถานที่ ที่ต้องโดนถล่ม
“เอ่อ สถานที่อะไรนะครับ..”
มินซานสงสัยเล็กน้อย หลังเห็นอาการของวูชินเมื่อได้เห็นสิ่งนี้
"เอ่อ ผมขอดูมันได้ครับ
“อ่า ได้สิ "
มินซานหยิบเอกสารขึ้นมา แล้วก็เบิกตากว้าง
" นี่ นี่คือ..
เอกสารพวกนี้ระบุตัว พวกที่ให้ความร่วมมือกับ ผู้ก่อการร้ายในตะวันออกกลาง
"เหอะ."
ในนี้เป็นรายการที่อยู่ของที่พวกผู้ก่อการร้ายและนักการเมืองบางส่วนที่สร้างและพัฒนาขึ้นหลังจากดันเจี้ยนแตกออก มีไว้ข่มขู่ประชาชน รวมไปถึงข้อมูลสินทรัพย์ต่าง รายชื่ออะไรเสร็จสรรพ
"นี่มัน…."
หลักฐานและเส้นทางเงินถูกระบุอย่างเรียบร้อยในเอกสาร ข้อมูลนี้ได้มาจากหน่วยข่าวกรองของสหรัฐเพราะฉะนั้นมันไม่ผิดแน่นอน
มันไม่ได้เป็นข้อมูลที่รัฐบาลเกาหลีนำมาแต่เป็นของสหรัฐดังนั้นความน่าเชื่อถือย่อมผิดกัน
สีหน้ามินซานเริ่มซีดลงเรื่อยๆ
เอกสารมีเป็นสิบๆหน้า
กว่าครึ่งเป็นนักการเมืองทั้งนั้น
"เอ่อ ท่านจะจัดการพวกมันทั้งหมดเลยหรอครับ
"แน่นอน ไอพวกบัดซบนี่มันพยายามจะฆ่าฉัน "
การโจมตีนี้มันเกิดขึ้นที่สหรัฐ ดังนั้นทางนั้นจึงให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
"ท่านช่วยรอไว้หน่อยจะได้ไหม ?"
"จะให้รออะไร ล่ะ
"ท่านต้องออกไปเจอพวก นักการเมืองที่มารอพบก่อน "
พวกนักการเมืองพยายามจะเข้าพบวูชินหลายรอบ แต่เนื่องจากวูชินไม่อยู่ทำให้คนในกิลด์อแลนดัลรู้สึกอึดอัดอย่างมาก ก็ถึงว่าทำไม วูชินถึงออกมา คงเพราะเขารอเอกสารชุดนี้อยู่นั่นเอง
“ดี ให้มันมารวมกันจะได้จัดการทีเดียวไปเลย"
“...... .”
... พูดไม่ออกเลยทีเดียว
เห็นได้ว่าขนมินซานลุกไปทั้งตัว ขนหัวยังตั้งขึ้นมาเห็นได้ชัด
ผู้ชายคนนี้คิดอะไรอยู่ ถ้าใครรู้คงหัวเราะไม่ออก
วูชินใช้ความคิดว่าจะจัดการอย่างไร โดยไม่สนคนอื่นที่อยู่รอบๆ
วูชินเป็นผู้มีพลังที่สามารถจัดการกับดันเจี้ยนได้อย่างง่ายดาย แต่นั่นไม่ใช่สำหรับการจัดการพวกผู้ก่อการร้าย
โลกต้องการวีรบุรุษ ไม่ได้ต้องการมารร้าย
ถ้าพวกนักการเมืองถูกฆ่าหมด ผลกระทบมันร้ายแรงเกินไป
"ท่านลองคิดดูอีกทีได้ไหมครับ"
"ทำไม?"
มินซานพยายามอย่างหนัก เพื่อหาวิธีเปลี่ยนความคิดของวูชิน
"เอ่อมันเป็นเรื่องซับซ้อนน่ะครับ"
"มันซับซ้อนอยู่แล้ว นี่ไงฉันเลยจะลดความซับซ้อนตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่มันจะมีอะไรยุ่งยากวุ่นวายไปมากกว่านี้ "
“...... .”
เหมือนวูชินจะได้ตัดสินใจไปแล้ว คงยากที่จะมีใครเปลี่ยนความคิดเขาได้ สตรีศักดิ์สิทธิ์ได้แต่ส่ายหัว เมื่อเห็นมินซานเริ่มเครียดและไม่รู้จะทำยังไง
"ท่านคิดจะย้ายที่ตั้งไปอยู่ที่สหรัฐหรอครับ"
มินซานคิดว่าวูชินคงไม่คิดอยู่ในเกาหลีถ้าจะจัดการพวกนักการเมืองพวกนั้น
"ฉันไม่ได้คิดจะไปไหน"
วูชินมองไปที่เมโลดี้แล้วเอ่ยถามขึ้นมาว่า
"อแลนดัล คืออะไร?"
"เป็นที่ของนายท่าน"
"แล้วตอนนี้เราอยู่ไหน ? “
"เราอยู่ที่ อแลนดัล"
"ได้ยินเธอตอบแล้วนี่"
“...... .”
มินซานรู้สึกอับจนคำพูดเมื่อได้ยินวูชินกล่าว
วูชิน สแยะยิ้ม
"ในเมื่อพวกมันกล้าที่จะลงมือกับฉัน ดังนั้นไอพวกบัดซบนั่นมันต้องไสหัวออกไป"
เขามีดันเจี้ยนที่นี่ แล้วทำไมเขาต้องไปอเมริกา
มินซานเริ่มเครียดหนัก ถ้าวูชินทำรับรองได้เลย คำว่า ประชาธิปไตยคงถูกโยนทิ้งไปอย่างไม่ไยดี
มินชานได้แต่อ้อนวอน เพราะไม่รู้จะทำยังไงแล้ว
"เอ่อ คนในกิลด์และคนอื่นๆอาจจะลำบาก ท่านไม่เป็นไร แต่พวกเรา.. "
"หืม"
"ท่านลองมองดูไปรอบๆสิ "
วูชินเริ่มหันไปมองรอบข้าง หลังจากที่เห็นมินชานทำหน้าเหมือนกำลังจะร้องไห้ มองถัดไปที่ซุงฮุน วูชินก็แปลกใจเล็กน้อยที่เห็นหน้าซุงฮุน ก็เริ่มซีดๆ เหมือนกัน
“อืมม ..”
วูชิ้นทิ้งเอกสารลงบนโต๊ะ แล้วก็นั่งพิงโซฟา
"กษัตริย์ปกครองได้แต่ผู้ที่ยังมีชีวิต"
คำพูดของ คิบะ วนเวียนอยู่ในหัว
'บางทีฉันอาจจะอยู่ด้วยตัวเองนานเกินไป '
รอบๆตัวเขามีแต่พวกอันเด้ด ... วูชินส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะเก็บเอกสาร
"ติดต่อพวกรัฐบาลฉันจะไปหาตอนนี้ "
"เอ่อ ได้โปรดคิดอีกที "
"ไม่ต้องห่วง วันนี้ยังไม่มีการนองเลือด ติดต่อพวกมัน"
มินซานตาสว่างขึ้น อ่าหัวหน้าของเขาที่ได้แต่ทุบตีผู้คนเปลี่ยนใจแล้ว ... แม้แต่สตรีศักดิ์สิทธิ์ ก็ประหลาดใจ เธอจ้องมองไปที่วูชิน ผู้อมตะเปลี่ยนใจอย่างนั้นหรือ
เรื่องเหลือเชื่อได้เกิดขึ้นแล้ว
* * * *.
"ฮายย, ท่านวุฒิสมาชิก ชอย "
"อ่า คุณ ยุงนิม ไม่ต้องเรียกฉันแบบนั้น เอาแค่ชื่อก็พอ "
"ฮ่า ๆ คุณดำรงตำแหน่งนี้อยู่ยาวนาน ดังนั้นมันสมควรแล้ว "
"อ่าใช่แล้ว วุฒิสมาชิก ถูกต้องแล้ว ไม่มีใครได้รับเลือกถึง 4สมัยแบบนี้อีกแล้ว "
ชอยแตอน และ ปาคซังกู หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน หลังจากนั้น ปาคซังกู ก็พูดอย่างจริงจังขึ้นมา
"ในที่สุดคังวูชินก็มาได้สักที?"
“ฮ่า ๆ แน่นอน. เขาคิดว่าเขาสามารถทำอะไรก็ได้งั้นหรือ? "
“ใช่ เขาเป็นคนของเกาหลี แน่นอนเขาต้องรับใช้ประเทศของเขา "
"ถูกต้อง. เข้าไม่ได้อภิสิทธิ์อะไรที่ปกป้องประเทศนี้ เมื่อเราเสนอผลประโยชน์ที่มาก เขาจะกล้าปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับเราได้ยังไง คิดว่าจะมีอำนาจเท่ากระทรวงกลาโหมยังงั้นเหรอ เหอะ
ชอยแตอน และ ปาคซังกู ไม่เคยทำหน้าที่ในการทหารเพื่อวัตถุประสงค์ในการป้องกันประเทศเนื่องจากพวกเขาได้รับข้อยกเว้น แต่พวกเขาก็พูดอย่างจริงจัง
"ตอนนี้เราใส่ปลอกคอให้เขาได้แล้ว"
"ถ้าเขาต้องการที่จะอาศัยอยู่ในเกาหลี ดังนั้นเขาจะมีตัวเลือกอะไร แค่มีความสามาถนิดหน่อยจะเรียกค่าตัวได้เท่าไรกัน"
"ดี แต่ท่านวุฒิสมาชิกชอยไม่ควรไปพูดแบบนี้ให้คนอื่นได้ยิน มันคงดูไม่ดีมั้ง?
"โอ้ฮะฮะ คุณปาคไม่ต้องคิดมาก ฉันจะจัดการไอบ้านั่นเป็นอย่างดี "
คนบ้าก็มีราคาของคนบ้า โสเภณีก็มีราคาของโสเภณี อย่างมันจะมีราคาอะไรมากมาย ควรลดคุณค่าให้สมกับตัวมันหน่อย
ทั้งคู่ไม่ได้รู้สึกว่ามีภาระอะไรในการปกป้องประเทศ ไม่ได้รู้สึกรักประเทศชาติอย่างที่มันควรจะเป็น
ชอยแตอน และ ปาคซังกู จับมือกันแล้วหัวเราะ ต่างคนต่างมองแล้วเข้าใจกัน
// กำลังทดสอบผู้สปอย์ล หน้าใหม่ 2-3 ท่าน FC พี่วูชินรอนิดนะครับ เดี๋ยวถ้าผ่านการทดสอบแล้วจะอัพยาวๆ
มีคนไม่เจียมเงาหัวสะละ หาเรื่องตุยเย่