WSSTH บทที่ 452 : เงื่อนไขของต้วนหลิงเทียน
“บัดซบ! หูเฉวี่ยฟงนี่ช่างไร้ยางอายนัก! มันมิต่างอันใดจากตัวบัดซบหวงจี้นั่นเลย!!” เหล่าศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวที่เลือกจะสู้และตายไปพร้อมกับนิกาย ต่างมองไปยังหูเฉวี่ยฟงด้วยสายตาชิงชัง อดไม่ได้ที่พวกมันจะด่าทออีกฝ่าย
"หูเฉวี่ยฟง!" ต้วนหลิงเทียนมองไปยังหูเฉวี่ยฟง ก่อนที่จิตสังหารจะเผยขึ้นมาในแววตาวูบหนึ่ง
ศิษย์คนอื่นๆ นั้นไม่เคยได้รับทรัพยากรหรือการดูแลอย่างดีใดๆจากนิกาย ดังนั้นการที่ทั้งหลายเลือกออกจากนิกายกระบี่ 7 ดาว ก็เป็นเรื่องที่ควรกระทำเพื่อความฝันและความทะเยอทะยานของตัว ซึ่งตรงจุดนี้เขาก็คิดว่ามันไม่ได้ผิดอะไร...
แต่หูเฉวี่ยฟงนั่นได้รับการทะนุบำรุงอุ้มชู ดูแลจากปรมาจารย์ขุนเขาเทียนจีอย่างดี และได้รับทรัพยากรจากนิกายกระบี่ 7 ดาวไม่ใช่น้อย
คนที่ทรยศต่อนิกายกระบี่ 7 ดาวเช่นนี้ ทำให้ต้วนหลิงเทียนรังเกียจนัก
และในขณะที่ทุกคนคิดว่านิกายทั้ง 3 จะลงมือโจมตีแล้วนั้นเอง...
“ต้วนหลิงเทียน”ประมุขนิกายกุ้ยหยวนหลู่หยวน ยิงสายตามาจดจ้องที่ต้วนหลิงเทียน “มองไปทั่วทั้งอาณาจักรพนาคราม เกรงว่าคงมิมีผู้ใดมีพรสวรรค์ในเชิงยุทธ์เท่าเทียมกับเจ้าอีกแล้ว!...กระทั่งพรสวรรค์ในเชิงยุทธ์ของเจ้ายังมิเคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ แล้วใยเจ้าต้องเลือกสู้จนตกตายไปพร้อมกับนิกายกระบี่ 7 ดาวด้วย? ใยเจ้าถึงมิเลือกเข้าร่วมกับนิกายไตรพนาครามของเรา? ด้วยพรสวรรค์ตามธรรมชาติที่สูงล้ำของเจ้า ต่อไปการขึ้นแท่นเป็นประมุขนิกายไตรพนาคราม ก็มิใช่เรื่องที่จักเป็นไปมิได้...”หลู่หยวนพยายามยื่นข้อเสนอให้แก่ต้วนหลิงเทียน
"อาจารย์!" คำกล่าวของหลู่หยวน ทำให้สีหน้าของหวงจี้มืดมนลงโดยพลัน "อาจารย์ ต้วนหลิงเทียนนี้...ให้อยู่ในนิกายไตรพนาครามของเรามิได้! หากให้มันอยู่...มันจักกลายเป็นหายนะของพวกเรา! การดำรงอยู่ของมันอันตรายเกินไป! สักวันมันต้องนำพาหายนะมาสู่นิกายไตรพนาครามเรา...! "
"หุบปาก!" หลู่หยวนจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าในหัวหวงจี้มันคิดอะไร มันหันกลับไปจ้องมองและตวาดเสียงแข็งในทันใด
การกระทำนี้ทำให้หน้าหวงจี้ยิ่งมายิ่งบิดเบี้ยว แลดูขุ่นเคืองไม่น้อย
“ต้วนหลิงเทียน!”หวงจี้จับจ้องไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยความเกลียดชัง ตอนนี้ในใจมันคิดไปว่า...มันสามารถระเบิดพลังอันเหนือชั้นพุ่งร่างไปสับกระหน่ำร่างต้วนหลิงเทียนจนแหลกเป็นชิ้นๆ!
แต่ใครจะไปคาดคิดว่าอาจารย์ของมันกลับชักชวนต้วนหลิงเทียนให้เข้าร่วม
เมื่อต้วนหลิงเทียนเข้าร่วมนิกายไตรพนาคราม ตัวมันรู้ได้ทันที ว่าสุดท้ายผลลัพธ์ของเรื่องราวของมันคงไม่แคล้วซ้ำรอยเดิมเหมือนตอนอยู่นิกายกระบี่ 7 ดาว ...มันต้องกลายเป็นมือรองบ่อนของต้วนหลิงเทียนตลอดไป ไม่มีวันได้โงหัวขึ้น
มันไม่อาจหลีกหนีชะตากรรมบัดซบนี่ได้!
ถึงแม้ตอนนี้มันจะไม่ยินยอมพร้อมใจ แต่มันก็ไร้ทางเลือก
เห็นได้ชัดว่าในสายตาอาจารย์ของมัน ราคาของมันนั้นต่ำกว่าต้วนหลิงเทียนนัก
"ต้วนหลิงเทียนเจ้าเป็นอัจฉริยะที่ไร้ผู้ใดเทียบเทียม ความสำเร็จในอนาคตของเจ้าย่อมมิใช่ชั่ว ... ข้าเชื่อว่าเจ้าเป็นคนฉลาดรู้ว่าอะไรดีต่อตัว ควรเลือกหนทางอย่างไร ...ตราบใดที่เจ้าละทิ้งนิกายกระบี่ 7 ดาวแล้วมาเข้าร่วมกับนิกายไตรพนาครามของเรา พวกเราจักใช้ทรัพยากรที่ดีที่สุดส่งเสริมเจ้า" ประมุขนิกายหิมะจันทรามองไปยังต้วนหลิงเทียน ก่อนที่มันจะพยายามชักชวนต้วนหลิงเทียน
“ถูกแล้ว! ตราบใดที่เจ้าเข้าร่วมกับนิกายไตรพนาครามเรา เจ้าจักได้ทุกสิ่งตามแต่ใจเจ้าปรารถนา...ด้วยพรสวรรค์ในเชิงยุทธ์อันเลิศล้ำไร้ผู้ต้านของเจ้า ต่อไปเจ้าต้องกลายเป็นตัวตนที่อยู่เหนือสุดของอาณาจักรพนาครามแห่งนี้แน่นอน” ประมุขนิกายบัวปีศาจคมมีดเองก็กล่าววาจาออกมา
พวกมันล้วนเคยเห็นพรสวรรค์อันน่าสะพรึงกลัวของต้วนหลิงเทียนมาแล้ว
เมื่อ 1 ปีที่แล้ว ต้วนหลิงเทียนได้เข้าใจถึงพลังลมเบื้องต้น และเอาชนะนายน้อยคมมีดหลงอวิ๋น ด้วยวัยที่มีเพียง 22 ปีเท่านั้น
และวันนี้เขายังทำให้นายน้อยกู่ฉิน สื่อชาง แพ้พ่ายหลีกหนีจากไป
ตอนนี้ต้วนหลิงเทียนยังมีอายุเพียง 23 ปีเท่านั้น แต่ได้เอาชนะนายน้อยผู้ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรไปถึง 2 คนแล้ว
หากให้เวลาเขาอีกเพียงแค่ 1 หรือ 2 ปี ...เกรงว่าแม้แต่นายน้อยผู้ยิ่งใหญ่อันดับที่ 1 ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!
เหล่าประมุขนิกายทั้ง 3 ต่างผลัดกันยื่นข้อเสนออันดีให้ต้วนหลิงเทียน
กล่าวได้ว่าภายในอาณาจักรพนาครามแห่งนี้ คงมีเพียงต้วนหลิงเทียนเท่านั้น ที่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้
ทำให้เวลานี้ ...ทุกสายตาล้วนจับจ้องจดจ่อไปยังร่างของต้วนหลิงเทียน!
ทุกคนย่อมรู้ดีแก่ใจ ว่าหากวันนี้ต้วนหลิงเทียนรอดไปได้ เขาจะกลายเป็นตัวตนที่ทรงพลังที่สุด
ต้วนหลิงเทียนยังเพียงยืนสงบนิ่งไม่ได้หวั่นไหวต่อวาจาหยิบยื่นข้อเสนอต่างๆของเหล่าประมุขนิกายใหญ่ทั้ง 3 และเขายังคงแสดงท่าทีไร้ซึ่งความแยแสใดๆ ราวกับไม่ได้ยินเสียงกล่าวคำ และคงไม่สนใจอะไรต่อให้เขาไท่ซานจะพังทลายลงตรงหน้า
“ต้วนหลิงเทียน!” สุดท้ายหลิ่งหูจิ่นหงพลันกล่าววาจาออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ดั่งที่ประมุขทั้ง 3 กล่าวไว้ ด้วยพรสวรรค์ในเชิงยุทธ์ของเจ้า อนาคตของเจ้าย่อมไร้สิ้นสุด...ข้าล้วนไม่ตำหนิเจ้า หากเจ้าคิดเลือกเข้าร่วมนิกายพวกมัน”
“ถูกแล้ว ต้วนหลิงเทียน พวกเรามิคิดตำหนิเจ้า”เจิ้งฝาน เคอเจิ้นและอาวุโสไป่ กล่าวคำออกมา
ร่างกายของต้วนหลิงเทียนพลันสั่นไหว สะท้านไปอย่างแรง เมื่อได้ยินวาจาของทุกคน ความรู้สึกอบอุ่นเอ่อล้นขึ้นมาในใจ
“ข้าสงสัยยิ่งนัก ว่าศิษย์พี่ต้วนหลิงเทียนจะเลือกอย่างไร” เหล่าศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวจำนวนมากล้วนอดไม่ได้ที่จะกังวลขึ้นมา ในหัวใจของพวกมัน...ก็หวังว่าต้วนหลิงเทียนจะมีชีวิตรอด ...แต่อีกใจหนึ่งก็อยากให้ต้วนหลิงเทียนสู้ร่วมกับนิกายกระบี่ 7 ดาวจนจบสิ้น
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ต้วนหลิงเทียนได้กลายเป็นจิตวิญญาณของนิกายกระบี่ 7 ดาวไปเสียแล้ว
หากต้วนหลิงเทียนเลือกทรยศพวกมันคงผิดหวังไม่น้อย...
"ข้าเข้าร่วมนิกายไตรพนาครามของพวกเจ้าก็ได้... " ต้วนหลิงเทียนมองไปยังประมุขนิกายใหญ่ทั้ง 3 ก่อนที่จะกล่าวออกมาช้าๆ "แต่พวกเจ้าทุกคนต้องยอมรับเงื่อนไขของข้าเสียก่อน!"
คำกล่าวของต้วนหลิงเทียนทำให้ศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวจำนวนมากถอนหายใจออกมา
นอกจากนี้ยังมีเหล่าศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวหลายคนระบายลมหายใจอย่างโล่งอก
เหล่าศิษย์นิกายกระบี่ 7 ดาวอย่าง เจิ้งซง,สั่วฉิง,โม่อี้,เหอตง และคนอื่นๆที่มีสัมพันธ์อันดีกับต้วนหลิงเทียน ล้วนยินดีที่ต้วนหลิงเทียนมีโอกาสรอดไปได้
"เงื่อนไขอะไร?" ประมุขนิกายบัวปีศาจคมมีดกล่าวถามออกมา
ทุกสายตาจับจ้องไปยังร่างต้วนหลิงเทียน
ทั้งหมดใคร่รู้นัก ว่าต้วนหลิงเทียนจะเสนอเงื่อนไขอะไร...
“ข้าสามารถเข้าร่วมนิกายไตรพนาคราม ที่เกิดจากการรวมตัวของนิกายใหญ่ทั้ง 3 ของพวกเจ้าได้...แต่นิกายไตรพนาคราม ต้องรับประกันว่า...วันนี้จะไม่แตะต้องนิกายกระบี่ 7 ดาว! และรับประกันว่าจะไม่คิดร้าย ลงมือโจมตีนิกายกระบี่ 7 ดาวอีกครั้ง ในอนาคต!!” แววตาต้วนหลิงเทียนทอประกายคมกล้ายามกล่าววาจา
ตอนนี้วาจาของต้วนหลิงเทียนดั่งทุ่มหินลงน้ำนิ่ง บังเกิดหมื่นพันระลอกคลื่น
ไม่มีใครคิดฝัน ว่าต้วนหลิงเทียนจะยื่นเสนอเงื่อนไขเช่นนี้ออกมา ...
ในตอนแรกนั้นเมื่อต้วนหลิงเทียนกล่าวว่าจะเข้าร่วมนิกายไตรพนาคราม ถึงแม้ว่าบางส่วนของศิษย์นิกายกระบี่ 7ดาวจะไม่ได้กล่าวอะไรออกมา แต่พวกมันก็รู้สึกขุ่นขึ้งในใจเล็กน้อย
แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินคำกล่าวของต้วนหลิงเทียน ความขุ่นขึ้งหมองใจทั้งหมด...กลับอันตรธานหายไป
อาจกล่าวได้ว่า หากต้วนหลิงเทียนไม่กล่าวเงื่อนไขนี้ออกมา เขาก็นับเป็นคนทรยศของนิกายกระบี่ 7 ดาว เพียงเพื่อประโยชน์ของตัวเอง
แต่ตอนนี้เมื่อมีเงื่อนไขเช่นนี้ แน่นอนว่าเรื่องราวกลับต่างออกไปคนละโลก
กลายเป็นเขาต้องทนอัปยศเพื่อที่จะแบกรับภาระอันหนักอึ้งนี้
นี่ทำให้ทั้งหมดบังเกิดความนับถือและยอมรับอย่างลึกสุดใจ!
"เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้!" ประมุขนิกายใหญ่ทั้ง 3 ล้วนกล่าวออกมาแทบจะพร้อมเพรียงเป็นเสียงเดียว ปฏิเสธเงื่อนไขของต้วนหลิงเทียน
"ต้วนหลิงเทียน ที่พวกเราอยากให้เจ้าเข้าร่วมนิกายไตรพนาครามของพวกเรา แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นเพราะพรสวรรค์ในเชิงยุทธ์อันเลิศล้ำของเจ้าอย่างไม่ต้องสงสัย ... อย่างไรก็ตามถึงแม้พวกเราจะตีค่าเจ้าไว้สูง แต่ก็มิได้หมายความพวกเราสามารถยินยอมรับเรื่องราวหนักหนาเช่นนี้ได้ วันนี้จะอย่างไรนิกายกระบี่ 7 ดาวต้องถูกทำลาย!" ประมุขนิกายบัวปีศาจคมมีดมองไปยังต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเย็นชา "เจ้ายังมีหนทางเลือกอยู่ เปลี่ยนเงี่ยนไขของเจ้าเสีย หรือเจ้าจักเลือกสู้จนตกตายไปพร้อมกับนิกายกระบี่ 7 ดาว!!"
ประมุขนิกายกุ้ยหยวนและ หิมะจันทราต่างพยักหน้าเช่นเดียวกัน
“เปลี่ยนเป็นเงี่ยนไขอื่นเช่นนั้นหรือ” ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้ว และดูท่าจะอยู่ในสภาวะตัดสินใจยาก แลดูลำบากไม่น้อย
และในตอนนี้เองก็มีเสียงผ่านพลังงานต้นกำเนิดมากมายส่งตรงเข้าถึงหูของต้วนหลิงเทียน และส่วนมากก็ขอให้เขาเลือกที่จะไม่สู้จนตัวตายไปพร้อมกับนิกายทั้งสิ้น
เสียงผ่านพลังงานต้นกำเนิดครานี้ถูกส่งมาจากตัวตนระดับสูงของนิกายกระบี่ 7 ดาว ยกเว้นจ้าวหลิน และยังมีเหล่าศิษย์ของนิกายมากมาย
เห็นได้ชัดว่าคำที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวไปก่อนนี้นี้ ทำให้คนของนิกายกระบี่ 7 ดาวทั้งหมดบังเกิดความชื่นชมต่อต้วนหลิงเทียน และไม่มีใครอยากให้ต้วนหลิงเทียนต้องทิ้งอนาคตอันยอดเยี่ยม เพื่อร่วมหัวจมท้ายไปกับพวกมัน
ต้วนหลิงเทียนสมควรได้รับอนาคตที่ดีกว่านี้
ตอนนี้ใจของต้วนหลิงเทียนสะท้านไปไม่น้อย ...
นี่เพราะเขาสัมผัสได้ว่าเสียงที่ส่งมาครานี้ล้วนมาจากใจ และล้วนมีความหมายอันดีทั้งสิ้น
แต่นั่นก็ทำให้ความรู้สึกของต้วนหลิงเทียนกระจ่างชัด หนักแน่นมากขึ้น
เขาสามารถหันหลังจากไป ในสถานการณ์เช่นนี้ได้หรือ?
เขาเป็นคนแบบนั้นหรือไง?
"โชคดีนักที่เค่อเอ๋อและลี่เฟย ไปกับปรมาจารย์ฉินเซียง ... ไม่อย่างนั้นข้ากลัวว่าพวกนางต้องมาพลอยลำบากกับเรื่องราวนี้ และยากจะหลีกหนีภัยพิบัติเช่นนี้" ตอนนี้เมื่อต้วนหลิงเทียนนึกถึงเค่อเอ๋อและลี่เฟย ก็อดไม่ได้ที่เขาจะบังเกิดความรู้สึกโล่งอกขึ้นมา
"ต้วนหลิงเทียน...ความอดทนของพวกเรามีขีดจำกัด เจ้าไตร่ตรองเรียบร้อยแล้วหรือไม่?" ประมุขนิกายบัวปีศาจคมมีด ขมวดคิ้วกล่าวออก ด้วยน้ำเสียงที่ราวกับจะหมดความอดทนแล้ว
"เช่นนั้น ข้าก็ขอเปลี่ยนเงื่อนไขเป็นอย่างอื่น" ตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนก็เงยหน้าขึ้นไปมองหลู่หยวน ก่อนที่จะมองไปยังหวงจี้ ที่อยู่ข้างหลังอีกฝ่าย "เงื่อนไขของข้าก็คือ ...ข้าต้องการให้หวงจีและหูเฉวี่ยฟงตาย ตราบใดที่พวกมันตาย ข้าอาจจะยินยอมเข้าร่วมกับนิกายไตรพนาคราม" เมื่อต้วนหลิงเทียนกล่าวจบ ทั้งหมดในที่นี้ก็เงียบเชียบ ราวกับขอเพียงมีเข็มร่วงหล่นสักเล่มยังได้ยิน
ตอนนี้หวงจี้กับหูเฉวี่ยฟงกลับกลายเป็นจุดศูนย์รวมความสนใจในทันใด
ใบหน้าของพวกมันซีดลง
“อาจารย์! ท่านอย่าได้เชื่อวาจาของมัน!” เมื่อหวงจี้เห็นหลู่หยวนหันมามองมัน ใบหน้าของมันก็ซีดลงปานจะถูกสูบโลหิตออกไปหมด น้ำเสียงของมันยังกล่าวออกมาด้วยความร้อนรน
“ถูกแล้ว อย่าได้เชื่อวาจามัน อย่าได้เชื่อวาจาของมัน!” หูเฉวี่ยฟงเองเมื่อพบว่าทุกสายตาของศิษย์และอาวุโสของนิกายไตรพนาครามจับจ้องมองมามันก็ตื่นตระหนกตกใจสุดขีด ถึงจุดที่ทำอะไรไม่ถูก
“ตราบใดที่พวกมันตาย เจ้าคิดจักเข้าร่วมนิกายไตรพนาครามจริงๆ?”หลู่หยวนมองต้วนหลิงเทียนอีกครั้ง เพื่อยืนยัน
"ถูกแล้ว" ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ารับคำ พร้อมส่งสายตาเย้ยหยันไปยังหูจี้ที่ตอนนี้กำลังหน้าซีดปากสั่น ก่อนที่จะกล่าวอย่างไม่แยแส "หวงจี้ตอนนี้เจ้าไม่รู้สึกว่ามันน่าขำหรือไร...วันนั้นเจ้าถึงขั้นทรยศต่อนิกายกระบี่ 7 ดาวและเข้าร่วมกับนิกายกุ้ยหยวน เพราะตัวข้านั้นโดดเด่นเหนือเจ้า...มาวันนี้ถึงแม้เจ้าจะกลายเป็นศิษย์ส่วนตัวของประมุขหลู่ สุดท้ายเจ้ายังต้องตกตายเพราะ วาจาเดียวของข้า!"
“ต่อหน้าข้า! เจ้าจักเป็นผู้แพ้ไปตลอดกาล ตลอดชั่วชีวิตของเจ้า! ทำได้แค่อยู่ภายใต้เงาของข้า!!” ทุกวาจาของต้วนหลิงเทียน เสียดแทงใจของผู้ฟังนัก
"เจ้า!!" หวงจี้พลันมีโทสะจนหน้าแดงก่ำ และเมื่อมันเห็นว่าหลู่หยวนมองมาด้วยแววตาเปี่ยมจิตสังหารฉายชัดถึงเจตนาฆ่าฟัน มันก็ลนลานอย่างมาก"อาจารย์ ไม่นะ... อย่า ... ไม่ ... "
แล้วเสียงหวงจี้ก็เงียบหายไป
เหตุเพราะยามนี้หลู่ชิวสะบัดมือทุบทำลายกะโหลกศีรษะของหวงจี้จนระเบิดแหลกเหลว มันสมองกระจาย ร่างปลิวร่วงหล่นลงไปดังสิ่งปฏิกูลชิ้นหนึ่ง
สีหน้าของหูเฉวี่ยฟงซีดราวกับศพเมื่อเห็นเรื่องราวตรงหน้า
หนี!
ในหัวของมันเต็มไปด้วยความคิดหลบหนีขึ้นมา
แต่เมื่อหูเฉวี่ยฟงหันมองไปรอบๆ มันก็ไม่มีแม้กระทั่งโอกาสจะใช้วิชาท่าร่าง เพราะพบว่ายามนี้อาวุโสของนิกาย ไตรพนาครามจำนวนมากมาย ปิดล้อมมันเอาไว้ทุกทางแล้ว...
"ฆ่ามันเสีย!" และด้วยคำสั่งของประมุขบัวปีศาจคมมีด อาวุโสของนิกายไตรพนาครามบางคนก็พุ่งร่างออกไปลงมือ สังหารหูเฉวี่ยฟงโดยที่มันไม่อาจตอบโต้หรือกระทำการขัดขืนอะไรได้..
ทุกคนของนิกายกระบี่ 7 ดาวล้วนเผยรอยยิ้มสะใจออกมา เมื่อเห็นหวงจี้และหูเฉวี่ยฟงตกตาย
ครู่ต่อมาทุกสายตาก็หันมาจับจ้องต้วนหลิงเทียน
"ต้วนหลิงเทียนพวกเราได้กระทำตามเงื่อนไขของเจ้าเสร็จสิ้นแล้ว ...นับจากนี้ต่อไป เจ้า! ต้วนหลิงเทียน จักเป็นศิษย์ของนิกายไตรพนาครามเรา! ยินดีต้อนรับ!" ประมุขนิกายหิมะจันทราเผยรอยยิ้มยินดีอันสดใสออกมา
รีวิวของคุณ
คุณจะให้ดาวนิยายเรื่องนี้หรือไม่