"ใครบอกนายเกี่ยวกับระบบความปลอดภัย?"
หยางม่านลี่จ้องมองไปที่หานเซิ่น แน่นอนว่าเธอรู้ทริคนี้อยู่แล้ว
"ระบบความปลอดภัยอะไร? ผมไม่เข้าใจสิ่งที่คุณกำลังพูด" หานเซิ่นแกล้งทำเป็นไม่รู้
"นายไม่ยอมบอกใช่ไหม? ไปเอาธนูฝึกหัด 7.0 มา" หยางม่านลี่สั่งหานเซิ่นอย่างใจเย็น
หานเซิ่นไม่รู้ว่าหยางม่านลี่ต้องการอะไร แต่ก็ทำตามที่เธอสั่ง
"นายรั้งสายมันจนสุดได้ใช่ไหม?" หยางม่านลี่มองหานเซิ่นแล้วถาม
"แน่นอน" หานเซิ่นพยักหน้า
"ดี งั้นรั้งสายธนูจนสุดให้ดูหน่อย" หยางม่านลี่พูด
หานเซิ่นฝึกธนูมาอย่างชำนาญ เขารั้งสายธนูจนสุดได้แบบสบายๆ
"ทำได้ไม่เลวนิ" หานเซิ่นแปลกใจเมื่อได้คำชมจากหยางม่านลี่
"แน่นอนอยู่แล้ว แค่นี้ไม่ยาก" หานเซิ่นพูด
"ดี งั้นอยู่ท่านั้นจนถึงเที่ยงคืน ถ้านายยังไม่ให้คำตอบที่ฉันต้องการและขยับจากท่านี้ก่อนถึงเที่ยงคืน ก็นายอย่าโผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอีก ถึงแม้หัวหน้าจะมาขอด้วยตัวเองฉันก็จะไม่ยอม" หยางม่านลี่หันหลังและเดินออกไป
เมื่อเห็นหยางม่านลี่เดินออกไป พวกทหารที่เป็นคนบอกวิธีหานเซิ่นก็รีบวิ่งเข้ามาทันที
"โทษทีน้องชาย ฉันไม่คิดว่าหยางม่านลี่จะเอาเรื่องนายถึงขนาดนี้ ฉันทำให้นายลำบากแทนที่จะสบาย"
"แค่ไม่กี่ชั่วโมง ไม่มีปัญหา ผมสบายมาก" หานเซิ่นพูดแบบสบายๆ
"อย่าเพิ่งมองโลกในแง่ดีเกินไป 20 นาทียังพอว่า แต่นี้เกือบ 4 ชั่วโมง ปรกติพวกเรายังรั้งสายธนู 6.0 ไม่ได้แม้แต่ 2 ชั่วโมงเลย ครั้งนี้ม่านลี่ทำเกินไปจริงๆ"
"ฉันว่านายไปสารภาพกับม่านลี่ดีกว่า ไม่งั้นแขนของน้องชายคนนี้ต้องแย่แน่ๆ" ทหารอีกคนพูด
"ถ้าทำแบบนั้นดูจากท่าทีของม่านลี่แล้ว นายคงโดนด้วยแน่ๆ"
พวกทหารเริ่มบ่นและถอนหายใจ พวกเขาพากันเดินออกจากยิมไปเพื่อพบหยางม่านลี่
"ไม่จำเป็นต้องกังวล ปรกติผมเป็นคนอึดอยู่แล้ว 4 ชั่วโมงผมคิดว่าน่าจะไม่มีปัญหา" หานเซิ่นเรียกพวกเขา ที่กำลังจะเดินไปขอโทษหยางม่านลี่ให้กลับมาก่อน
"มันไม่ใช่ปัญหาว่านายจะอึดขนาดไหน นี่มันทรมานมาก แขนนายอาจจะบาดเจ็บ"
หานเซิ่นยิ้ม "งั้นเอางี้ พวกพี่ยังไม่ต้องไป รอดูก่อนถ้าผมไม่ไหวจริงๆ ค่อยไปตอนนั้นก็ยังไม่สาย และม่านลี่จะได้เห็นว่าผมพยายามแล้ว"
"ความคิดดีนิน้องชาย งั้นเอาแบบนั้นก่อน ถ้านายเริ่มจะไม่ไหวแล้วให้บอกพวกเรา เดียวพวกเราจะไปหาม่านลี่เอง"
พวกทหารถึงจะดูลามกและพึ่งพาไม่ได้มาก แต่พวกเขาก็ยังซื่อสัตย์
หานเซิ่นพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรอีก การยืนอยู่เฉยๆบางครั้งก็ทรมานยิ่งกว่าการเคลื่อนไหวไปมาก
ในตอนเริ่มเขาก็ยังสบายๆ แต่เมื่อผ่านไปครึ่งชั่วโมง กล้ามเนื้อแขนของเขาเริ่มไร้ความรู้สึก หลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง เหงื่อของเขาไหลออกมาเป็นสายน้ำ แขนของเขาเหมือนกับถูกไฟเผา ตอนนี้เขาสั่นไปทั้งตัว
หานเซิ่นกัดฟัน และเริ่มใช้โอกาสนี้ฝึกกายหยกมันซะเลย ไอเย็นไหลไปตามเส้นเลือดของเขา กล้ามเนื้อที่ไร้ความรู้สึกเริ่มได้รับการฟื้นฟู
หยางม่านลี่มองผ่านจอมอนิเตอร์ เธอจ้องมองหานเซิ่นตลอดเวลา เธอเห็นเขายืนอยู่ท่านั้นตลอด และเริ่มอาการสั่นเมื่อผ่านไป 1 ชั่วโมง ความทนทานของเขาเหนือกว่าที่เธอคิดไว้มาก แม้แต่พวกทหารที่ฝึกอยู่เป็นประจำยังทำไม่ได้ขนาดนี้
หยางม่านลี่คิดว่าเขาคงทนได้แค่ 1 ชั่วโมงกับอีก 30 นาที
"กล้ามาโกงในการฝึก ฉันจะต้องให้นายรู้สึกเหมือนตกนรก"
หยางม่านลี่ไม่ได้ต้องการให้หานเซิ่นบอกชื่อทหารที่บอกทริคกับเขาจริงๆ การที่เขานิ่งเงียบไว้เป็นการดี เรื่องนี้ทำให้เธอค่อนข้างประทับใจ แต่ถ้าเขาพูดชื่อออกมายิ่งทำให้เขาดูแย่ลง
หลังจากนั่งทำงานได้สักพักหยางม่านลี่ก็เปิดจอมอนิเตอร์ดูอีกครั้ง เมื่อผ่านไป 1 ชั่วโมง 30 นาที เธอก็ยังเขายืนอยู่ท่าเดิม
หยางม่านลี่ขมวดคิ้ว ขณะที่หานเซิ่นดูสบายขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำหลังจากผ่านไป 1 ชั่วโมง 30 นาที เขาหยุดสั่นและเหงื่อไหลน้อยลง เขาดูผ่อนคลายมาก
"เขาขยับรึป่าว?" หยางม่านลี่ไม่มั่นใจเลยต้องย้อนเทปดู และพบว่าหานเซิ่นไม่ได้ขยับไปไหนเลย
"แปลก!" หยางม่านลี่ไม่ได้กลับมาทำงานต่อ แต่นั่งดูหานเซิ่นผ่านจอมอนิเตอร์
หานเซิ่นยืนมา 2 ชั่วโมง
"น้องชาย นายสุดยอดมาก นายยังไหวอยู่ใช่ไหม?"
"นายอึดเกินมนุษย์ไปแล้ว ถ้าความสามารถด้านอื่นของนายดีแบบนี้หมด นายต้องเข้าโรงเรียนทหารส่วนกลางของกาแล็กซี่ได้แน่นอน"
"น้องชาย นายคือคนจริง!" ทหารยกนิ้วให้เขา
"บอกให้พวกเรารู้นะถ้านายไม่ไหว อย่าเสี่ยงทำให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บ มันไม่คุ้มหรอก"
หานเซิ่นยิ้มและพูด "ไม่ต้องห่วงผมยังไหว ผมทนได้ถึงเที่ยงคืนแน่นอน ไม่ต้องมาดูผมบ่อยก็ได้"
"น้องชายถ้าทนได้ถึงเที่ยงคืนจริงๆ ต่อไปฉันจะเป็นคนปกป้องนายเอง"
"ปกป้อง? นายกล้าสู้กับม่านลี่?"
"เอ้ยไม่เอาน่า ฉันก็คือพูดล้อเล่นไม่ได้จริงจัง"
พวกทหารไปอาบน้ำและเดินออกไปหาอะไรทำ ปล่อยให้หานเซิ่นอยู่คนเดียวในยิม เขากำลังฝึกกายหยกอย่างลับๆ เขารู้สึกได้ถึงพลังของมันที่ไหลไปตามเซลล์ในร่างกายของเขา และขจัดความเหนื่อยล้าไปจนหมด
เมื่อหานเซิ่นยืนมา 3 ชั่วโมง แม้เเต่หยางม่านลี่ก็ยังต้องช็อค เธอเริ่มสงสัยว่าพวกทหารเเอบเเฮกจอมอนิเตอร์รึป่าว
ในที่สุดเธอก็เดินออกจากห้องทำงานเพื่อไปดูด้วยตัวเอง