374 วันที่แล้ว
I high blood pressure medicine with potassium and if you don t come over, I will kill you cheap cialis no prescription BSO Tab 10 mg D Awal 30 40 mg malam atau dg dosis terbagi
ตอนที่ 29 ฟางหลายฝู
โจวจั้วรู้สึกงุนงงมากยิ่งนัก เขากำลังจะถูกตีอยู่รอมร่อ ทว่าเขากลับหัวเราะเสียอย่างนั้น !
สมองของคนผู้นี้ต้องมีปัญหาเป็นแน่ !
สองมือของจือรุ่ยกำชายเสื้อเอาไว้แน่น วิญญาณของนางตื่นกลัวจนหลุดออกจากร่างไปแล้ว
คุณชายป่วย หากยังมิรีบรักษา ในมิช้าจะต้องเกิดหายนะเป็นแน่ !
ฝ่ายตรงข้ามมีพรรคพวกมากมายถึงเพียงนี้ ท่านกำลังทำอันใดอยู่กัน !
แย่แล้ว ! ครานี้ต้องถูกคนกลุ่มนี้ตีจนตายเป็นแน่ !
ดวงตาของหลายฝูเบิกกว้างขึ้นมาทันใด เขาพยายามอดกลั้นอย่างสุดกำลังที่จะมิปรี่เข้าไปปกป้องคุณชาย เขาคิดว่าคุณชายปฏิบัติต่อเขาราวกับบิดามารดา เมื่อคุณชายถูกตีจนตายแล้ว เขาจำต้องอยู่ต่อเพื่อจัดการศพให้แก่คุณชาย เมื่อถึงเทศกาลเช็งเม้ง เขาก็จะไปเผากระดาษทองหน้าหลุมศพของคุณชาย
จูจ้งจี๋และคนอื่น ๆ ที่อยู่ตรงข้ามชำเลืองมองเหตุการณ์เบื้องหน้า สวีเสี่ยวเสียน...เขาอาศัยตัวคนเดียวกระโดดเข้าไปปะทะกับคนกลุ่มหนึ่ง !
จากนั้น...พวกเขาก็ได้เห็นฉากที่แปลกประหลาด
ท่ามกลางเสียงร้องตะโกนของโจวจั้ว เหล่าลูกน้องของเขาเพิ่งจะปรี่ออกไปได้เพียงหนึ่งก้าว ก็เห็นสวีเสี่ยวเสียนชักกระบองสั้นสีดำออกมาจากช่วงเอว จากนั้นก็กระทุ้งกระบองเข้าที่ช่วงท้องของโจวจั้ว
“โอ๊ยยยย ! ” จากนั้นพวกเขาก็เห็นโจวจั้วตัวสั่นเทิ้มขึ้นมาทันพลัน เขาส่งเสียงกรีดร้องออกมา ทว่าเสียงร้องนั้นดังเพียงชั่วพริบตา สวีเสี่ยวเสียนชักกระบองกลับไป จากนั้นก็คว้าตัวโจวจั้วที่เกือบจะล้มลงมาไว้ด้านหน้า ประจวบเหมาะกับหมัดของลูกน้องคนหนึ่งที่กำลังพุ่งเข้ามาพอดี จึงกระแทกเข้าที่ใบหน้าของโจวจั้วพอดิบพอดี
หมัดนี้รุนแรงมากยิ่งนัก แรงจนศีรษะของโจวจั้วสะบัดไปอีกทาง พอเขาได้สติขึ้นมาจึงยกมือขึ้นกุมแก้มเอาไว้ พร้อมกับส่งเสียงร้องโหยหวนราวกับหมูถูกเชือด
ลูกน้องของเขาแตกตื่นจนหน้าซีดเผือดและยืนนิ่งอยู่กับที่ ในขณะเดียวกัน...กระบองสั้นในมือของสวีเสี่ยวเสียนก็ฟาดออกไป กระแทกเข้าที่เอวของลูกน้องผู้นั้น ลูกน้องผู้นั้นส่งเสียงร้องออกมาหนึ่งครา ก่อนจะกระโดดไปด้านหลังและขวางกั้นคนที่กำลังปรี่เข้ามาเอาไว้ทั้งหมด
“หากพวกเจ้ากล้าดาหน้าเข้ามาอีกหนึ่งก้าว ข้าจะสังหารเจ้าหมอนี่ทิ้งเสีย ! ”
กระบองไฟฟ้าในมือของสวีเสี่ยวเสียนชี้ไปทางกลุ่มลูกน้องของโจวจั้วที่กำลังตกตะลึง จากนั้นเขาก็ตะโกนออกมาว่า “หลายฝู”
หลายฝูตกตะลึงจนแข็งทื่อไปทั้งร่างแล้ว เขาทราบถึงวิชาเซียนของคุณชายดี ทว่าสัญชาตญาณของเขารู้สึกว่าคุณชายมิใช่คู่ต่อสู้ของอันธพาลกลุ่มนี้
ทว่าบัดนี้คุณชายใช้เพียงวิธีการยั่วยุก็สามารถกำราบหัวหน้าของฝ่ายตรงข้ามได้แล้ว ยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว เขาควรเข้าไปช่วยคุณชาย เขาต้องสร้างความประทับใจที่ดีต่อคุณชายได้เป็นแน่ หากภายภาคหน้าได้ทานไก่อีกครา เกรงว่าคงจะได้ทานแต่ขาไก่
วิญญาณของเขากำลังลอยละล่อง จึงมิได้ยินเสียงตวาดของสวีเสี่ยวเสียน สวีเสี่ยวเสียนนึกระอาขึ้นมาทันใด เจ้าหมอนี่... “หลายฝู ! ”
หลายฝูตื่นขึ้นมาจากภวังค์ เขารีบวิ่งเข้าไปพลางเอ่ยว่า “คุณชาย... เมื่อครู่บ่าวเฝ้าประตูเอาไว้อย่างดี มิมีผู้ใดหนีออกไปได้แม้แต่คนเดียวเลยขอรับ ! ”
พวกเขาเหมือนคนอยากวิ่งหนีเยี่ยงนั้นหรือ ?
“ดี ! หลงจู๊เถา เจ้าไปนำเชือกมา หลายฝู เจ้านำคนเหล่านี้มัดไว้ทั้งหมด ! ประเดี๋ยวข้าจะไปแจ้งความที่ศาลาว่าการ จงนำคนทั้งหมดนี้ไปขังที่ศาลาว่าการให้ข้าทั้งหมด ! ”
นี่คือพลังของคุณชาย !
“ขอรับ ! ”
โจวจั้วหดหู่ใจมากยิ่งนัก เขายังมิทันได้สติดี เมื่อครู่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่ ?
เหตุใดเขาถึงรู้สึกราวกับว่าถูกฟ้าผ่ากัน ?
สวีเสี่ยวเสียนผู้นี้ คนบ้าผู้นี้ หรือว่า...เขามีวิชามารเยี่ยงนั้นหรือ ?
ใช่แล้ว ! เขาคือคนบ้า ดังนั้นจะถูกเขาฆ่ามิได้เป็นอันขาด !
“เจ้า...โปรดสงบสติอารมณ์เอาไว้ อย่าได้อาละวาดเลยเชียว ข้ามีนามว่าโจวจั้ว เป็นคุณชายจากตระกูลมั่งคั่ง บิดาของข้าคือเจ้าหน้าที่ตรวจการของรัฐเหลียง ท่านตาของข้าคือผู้ตรวจการรัฐแห่งรัฐเหลียง หากเจ้ามิก่อเรื่องและปล่อยข้าไป พวกเราก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปเถิด ! ”
บัดซบ ! เขามีพื้นหลังใหญ่โตถึงเพียงนี้เลยหรือ ?
สวีเสี่ยวเสียนตกตะลึงขึ้นมาทันใด
ในยุคโบราณราษฎรมิควรทะเลาะกับขุนนาง แม้ว่าเขาจะมีเกราะกำบัง...ที่ตนเองป่วยเป็นโรคประสาท ทว่าก็ต้องดูด้วยว่ากำลังต่อกรกับผู้ใดถึงจะได้ผล
ดวงตาของสวีเสี่ยวเสียนกลอกกลิ้งไปมา จำต้องโยนหายนะนี้ออกไป ตนแบกไว้มิไหวหรอก !
“ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าใช้อำนาจรังแกผู้อื่น ! วันนี้ข้าจะเป็นตัวแทนของนายอำเภอจี้ลงทัณฑ์เจ้าเอง ให้เจ้าได้รู้ว่าที่เขตเหลียงอี้แห่งนี้ มิใช่สถานที่ที่เจ้าจะแสดงอำนาจบาตรใหญ่ได้ ! ”
โจวจั้วตื่นตกใจขึ้นมาทันใด เขาได้ยินสวีเสี่ยวเสียนตะโกนเสียงดังว่า “หลายฝู ! ”
“ข้าน้อยอยู่นี่ขอรับ ! ”
“รีบไปที่ศาลาว่าการแล้วรายงานเรื่องนี้ต่อนายอำเภอจี้ บอกเขาว่าที่หอต้านสุ่ยมีคนกระทำชั่วทุบตีคนชรายามกลางวันแสก ๆ และจงบอกว่าข้าได้พบเข้าโดยบังเอิญ จึงจับตัวอันธพาลเอาไว้แล้ว ขอให้ท่านนายอำเภอส่งคนของทางการมาจับกุมผู้ต้องหาด้วย ! ”
“...ขอรับ คุณชาย ! ”
หลายฝูวิ่งออกไปจากหอต้านสุ่ย จากนั้นก็ควบรถม้าแล้วทะยานไปยังศาลาว่าการทันที
ตรงกันข้ามโจวจั้วกลับรู้สึกโล่งใจ เมื่อข้าไปถึงศาลาว่าการ ข้าเข้าไปเดินเล่นเพียงมินานก็คงได้ออกมาแล้ว
รอข้าออกมาก่อนเถิด คอยดูว่าข้าจะจัดการกับเจ้าเยี่ยงไร !
“นายท่านโจว บัดนี้ท่านกำลังคิดว่ามีบิดาของท่านคอยหนุนอยู่เบื้องหลัง เพียงมินานท่านก็จะสามารถออกมาได้แล้วใช่หรือไม่ ? เมื่อออกมาแล้ว...ท่านจะมาสะสางบัญชีแค้นกับข้าใช่หรือไม่ ? ”
โจวจั้วตื่นตระหนกขึ้นมาทันใด คนบ้าผู้นี้สามารถอ่านใจผู้อื่นได้เยี่ยงนั้นหรือ ?
เขาจึงเกร็งคอและเอ่ยอย่างดุดันว่า “บัดนี้หากเจ้าปล่อยข้าไป อย่างมากข้าก็จะตีเจ้าจนขาหัก มิเช่นนั้น...ข้าจะเอาชีวิตของเจ้า ! ”
นี่เป็นคำเอ่ยที่สวีเสี่ยวเสียนมิชอบเลยสักนิด ในเมื่อเข้ามาเอี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ก็จำต้องจัดการเจ้าหมอนี่ให้กลัวจนถึงขีดสุดต่างหากถึงจะเป็นการดี
กระบองไฟฟ้าในมือของสวีเสี่ยวเสียนกระทุ้งไปที่ด้านหลังของโจวจั้วอีกครา เพียงชั่วพริบตาที่เขาผ่อนมือออกก็ได้กดเข้าไปที่สวิตช์ จูจ้งจี๋และคนอื่น ๆ มองโจวจั้วที่กำลังสั่นราวกับผีเข้าอย่างตกตะลึง จากนั้นเขาก็ส่งเสียงร้องโหยหวนราวกับจะขาดใจออกมาอีกครา
“ตึง ! ” เขาล้มตึงลงไปบนพื้น สวีเสี่ยวเสียนจึงเหยียบเข้าที่หลังของเขาอย่างโหดเหี้ยม รู้สึกราวกับว่ายังมิสาแก่ใจ เขาจึงยกเท้าออก แล้วเดินเข้าไปในโรงครัวท่ามกลางสายตาของฝูงชน ในยามที่เขาเดินออกมามีมีดสับกระดูกเล่มใหญ่ติดมือออกมาด้วย
“ฝานจือ จงหยุดมือเสีย ! ” ผู้ที่เอ่ยห้ามคือจางหวนกง เขากระวีกระวาดวางเก้าอี้ในมือลงและปรี่เข้าไปด้านหน้า เพื่อขวางทางสวีเสี่ยวเสียน “หากเจ้าสังหารเขาไปแล้ว...”
“มิต้องห่วง หากข้าสังหารเขา หลายฝูคือผู้ดูแลของข้า ! ”
อ่า...หลายฝูมิอยู่นี่
“ฝานจือ...ฟังข้าก่อน”
“ถ้อยคำของผู้ใดก็มิน่าฟังทั้งนั้น วันนี้ข้าจะเป็นตัวแทนของฟ้าดินเอง ! ”
บัดซบ !
เจ้าสวีเสี่ยวเสียนผู้นี้มีท่าทีห้าวหาญมากยิ่งนัก !
ซูผิงอันจ้องมองสวีเสี่ยวเสียนพร้อมกับเบิกตาโพลง ชายหนุ่มเช่นนี้ต่างหากถึงจะเรียกได้ว่ากระหายเลือด !
มิได้การ ! ต้องช่วยชายหนุ่มผู้นี้เอาไว้ ทั้งยังต้องทำความรู้จักกับเขาให้ได้ !
โจวจั้วที่นอนอยู่บนพื้นมิเคยได้รับการลงโทษมาก่อน เขาเพิ่งจะพลิกร่างกลับมาก็เห็นสวีเสี่ยวเสียนง้างมีดใหญ่ขึ้นสูงพร้อมกับผลักร่างของจางหวนกงออกไป มันกำลังเดินเข้ามาหาเขาด้วยท่าทีโหดเหี้ยม
ดวงตาของเขาเบิกโพลงขึ้นทันพลัน ทันใดนั้นเขาก็เห็นสวีเสี่ยวเสียนกำลังเดินเข้ามาด้วยท่าทีมุ่งร้าย “วันนี้ข้าคงต้องสังหารคนเหี้ยมโหดเยี่ยงเจ้าเสีย ! ”
“อ๊าก... มิเอา ! ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วย ! ”
ลูกน้องสามสิบคนของเขาต่างมองเหตุการณ์ด้วยความตกตะลึง พวกเขาถูกหลายฝูมัดมือมัดเท้าเอาไว้จนเข้าไปช่วยมิได้ ดังนั้นใบหน้าของแต่ละคนจึงซีดเผือด วิญญาณของพวกเขาแต่ละคนแทบจะหลุดออกจากร่างแล้วด้วยซ้ำ
สวีเสี่ยวเสียนรอให้ชายชราผู้นั้นเข้ามาขวางเขาอีกคราเช่นกัน ทว่าบัดนี้จางหวนกงกลับมิได้เข้ามาขวางเขาแต่อย่างใด
ในชั่วพริบตานั้น จางหวนกงกำลังคิดเรื่องราวมากมาย เขาคิดว่าหากยืมมือของสวีเสี่ยวเสียนสังหารโจวเหยียนหวางผู้นั้นเสียก็เป็นเรื่องดีมิใช่หรือ
เดิมทีเขาก็เป็นโรคประสาทอยู่แล้ว นี่ก็เพื่อขจัดภยันอันตรายให้แก่ราษฎร หลังจากที่กลับไปแล้วเขาจะเขียนจดหมายหนึ่งฉบับถึงฉีเหวินจวิ้นเจ้าเมืองเป่ยเหลียงลูกศิษย์ของตน และอธิบายเหตุผลในเหตุการณ์นี้ให้ชัดเจน หากมีฉีเหวินจวิ้นคอยแทรกแซงก็มิอาจทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้แล้ว
บัดนี้โจวจั้วตกใจกลัวเป็นอย่างมาก ทันใดนั้นเขาก็พลิกกายลุกขึ้นมา หันหลังเตรียมจะวิ่งหนีไป ทว่าหางตาของเขาเหลือบไปเห็นสวีเสี่ยวเสียนล้มตึงลงไปกองอยู่บนพื้น
เขายังมิทันได้ดีใจก็เห็นว่ามีดในมือของสวีเสี่ยวเสียนลอยตามมาทันใด
“อ๊าก... ! ”
เสียงกรีดร้องของโจวจั้วดังลั่นไปถึงชั้นฟ้า มีดเล่มนั้น ปักเข้าที่ก้นของเขาพอดิบพอดี !
I high blood pressure medicine with potassium and if you don t come over, I will kill you cheap cialis no prescription BSO Tab 10 mg D Awal 30 40 mg malam atau dg dosis terbagi