px

เรื่อง : Seoul Station’s Necromancer จบแล้วอ่านฟรี!!!
บทที่ 123 Lich Jaenis


เมื่อดันเจียนเสาแห่งเนเซียถูกเชื่อมต่อ นักผจญภัยต่างมุ่งเป้ามากวาดล้างดันเจี้ยนแทบไม่ต่างอะไรกับแมงเม่าแห่บินเข้ากองไฟ แต่พวกมันก็ทำอะไรเขาไม่ได้

แม้นักผจญภัยจะหลั่งไหลเข้ามา แต่วูชินก็มีเรื่องกังวลแค่ส่วนของทางเข้าเท่านั้น เขาไม่จำเป็นต้องแบ่งกองกำลังป้องกันจากพื้นที่ของเขามาจัดการ เขามีความมั่นใจในอัศวินแห่งความตายทั้ง53คนมาก

เขาสามารถจัดการกับพวกมันได้ทั้งหมด ต่อให้พวกมันจะแข็งแกร่งเทียบเท่ากลุ่มนักผจญภัยของเรลิกซ์ก็ตาม เนื่องจากดันเจียนที่โลกของเขาไม่ได้ถูกใครรุกราน เขาเลยไม่มีความจำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับพื้นที่มิติของเขา

"อ่า..ฉันควรไปล่ามอนสเตอร์ที่ไหนดี ... ."

ทางเลือกเขามีอยู่มากมาย แต่วิธีไหนล่ะที่เขาจะได้ผลลัพธ์ดีที่สุด?

ถ้าเขาเลือกละทิ้งช่วงเวลาป้องกัน เขาก็สามารถที่จะท้าผู้ปกครองมิติคนอื่นในการทำสงครามชิงมิติ แล้วก็กอบโกยผลประโยชน์ หลังจากที่เอาชนะผู้ปกครองมิติคนอื่นจากชัยชนะในการประลองตัวต่อตัว

หรือเขาจะใช้เวลา3วันบนโลกภายนอก เพื่อล้างดันเจี้ยนอื่นๆให้มากที่สุด ก่อนที่ช่วงเวลาคุ้มกัน12วันในมิติจะหมดลง

"อืม ฉันว่าน่าจะมีการเชื่อมต่อเกิดขึ้นหลายที่ในเวลานี้"

มีดันเจี้ยนหลายแห่งบนโลกที่พึ่งได้รับการเชื่อมต่อ และผู้มีพลังบนโลกไม่สามารถจัดการได้

ถ้าดันเจี้ยนพวกนั้นมีแค่ผู้ดูแลดันเจี้ยนเมื่อการกวาดล้างจบลงมันก็หยุดอยู่แค่นั้น แต่มันก็มีสิทธิ์เป็นไปได้ที่จะมีผู้ปกครองมิติ ดูแลดันเจี้ยนด้วยตัวเอง เมื่อดันเจี้ยนถูกกวาดล้างประตูมิติที่เชื่อมต่อกับพื้นที่หลักของผู้ปกครองจะโผล่ขึ้นมา...

เหตุการณ์ที่ดันเจี้ยนแตกออกจนเหล่ามอนสเตอร์แห่กันออกมาด้านนอก หลังจากนั้นพวกมันยึดสถานีรถไฟใต้ดินเพื่อทำการสร้างรัง และวางไข่ เมื่อพวกไข่มอนสเตอร์ฟักออกมา จำนวนมอนสเตอร์ก็จะมหาศาลเกินกว่าผู้มีพลังจะจัดการ เรื่องนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งแล้ว

ยิ่งถ้ามีเผ่าพันธุ์แบบพวกเอลฟ์หลุดออกมา.. จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกมันเห็นมนุษย์เป็นเหยื่อ ? มนุษย์โลกจะเอาปัญญาที่ไหนไปต่อต้านความบ้าคลั่งของพวกมัน?

"เอาล่ะ บีบีคอยป้องกันดันเจี้ยนไว้ให้ดี ถ้ามีอะไรเร่งด่วนให้รีบติดต่อมา ตอนนี้ ฉันจะไปทำอะไรบางอย่าง "

"ได้เลยเมี๊ยววว ว่าแต่สัก 1,000 แต้ม... "

วูชินยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเลือกหัวข้อการจัดการสำหรับผู้ดูแล แล้วเพิ่มแต้มให้เธอ

"เอาล่ะนี่1,000 แต้ม เธอจะทำอะไรกับมันก็ได้เพื่อป้องกันอันตราย ฉันไปก่อนละ "

"ฮี่ฮี่ เข้าใจแล้วเมี๊ยววว"

การป้องกันดันเจี้ยนเสาแห่งเนเซียไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับบีบี เพราะเธอได้มีการเตรียมพร้อมอย่างสมบูรณ์ สถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่เป็นไปได้คือ ไม่สามารถทำการป้องกัน ผลึกย้อนกลับที่กำลังทำการเชื่อมต่อได้ นั่นจะทำให้เค้าสูญเสียดันเจี้ยน หรือพลังงานบางส่วน

เอาจริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากมายสำหรับวูชิน

เขาก็แค่เสียพื้นที่ล่าขนาดใหญ่บนดาวจาคุ เนื่องจากถูกตัดขาดการเชื่อมต่อ... วูชินเปิดประตูมิติไปยัง ‘ทางออกที่1ของสถานีโซล’ แล้วเขาก็เดินเข้าไป

***

ห้องของรองหัวหน้ากิลด์อแลนดัล

“เฮ่อออออ”

แฮมินมองมินชานที่กำลังถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังวางหูโทรศัพท์ก่อนจะตัดสินใจถามขึ้นมา

"เกิดอะไรขึ้น?"

"ก็ไม่มีอะไรมาก พวกเขาบอกให้รอไปก่อน "

"... นี่มันเรื่องใหญ่ไม่ใช่หรอ? เราต้องรีบแก้ปัญหาก่อนหัวหน้ากลับมา "

“เฮ่อ ฉันก็ไม่รู้ว่าพวกบ้านั่นคิดอะไรของมัน "

มินชานและแฮมินแสดงสีหน้าอับจนหนทางออกมา

“ฮึ่ม บ้าเอ๊ย ไม่ทันข้ามวันไอพวกรัฐบาลเวร นั่นมันกล้ากลับคำพูดได้ยังไงกัน? "

"อย่าพึ่งไปพูดถึงมันเลย"

"ก็ได้…."

พวกเขาตระหนักดีว่าสาเหตุนี้เกิดจากอะไร

คล้อยหลังที่วูชินเข้าดันเจียนไปสักพัก

อัศวินแห่งความตายที่อยู่ๆก็โผล่ออกมาจากความมืด นำของขวัญที่ไม่คาดคิดมาไว้ที่ออฟฟิศกิลด์อแลนดัล

มันเป็นหัวของคน7คน

พนักงานตกใจกันมาก มี8คนที่ขาอ่อนลงไปกองกับพื้น อีก15คนก็กระโดดถอยห่างออกมาด้วยความตกใจ มินชานที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่าชาวบ้านยังรู้สึกช็อคจนทำอะไรไม่ถูก

[ภารกิจเสร็จสิ้น]

หลังจากทิ้งคำพูดไว้หนึ่งประโยค อัศวินแห่งความตายก็สลายกลายเป็นควันหายไป

ทุกคนอยู่ในสภาพตื่นตกใจ

ไม่ใช่แค่ออฟฟิศกิลด์อแลนดัลที่เดียว ที่เกิดความวุ่นวาย

เหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นทั่วทั้งเกาหลีใต้

ข่าวการพบศพไร้หัวของนักการเงิน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตี คังวูชิน โดยร่วมมือกับผู้ก่อการร้าย กระจายไปทุกช่อง

เหล่าหัวกะทิของวงการการเงินถูกฆ่าอย่างอำมหิต เรื่องนี้ส่งผลกระทบกับผู้คนมากกว่าการสังหารหมู่นักการเมืองชั่วที่หน้ารัฐสภา

แน่นอนเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก คังวูชินที่จะตกเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบุกไปค้นที่กิลด์อแลนดัล พบหลักฐานมัดตัวคือหัว7หัวกลางออฟฟิศ

ในไม่ช้าข่าวรายงานการลอบสังหารนักการเงินที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ก่อการร้ายที่โจมตีวูชิน ก็แพร่กระจายไปทั่ว เมื่อประชาชนทราบข่าวก็รู้สึกสับสนและหวาดกลัว

ตอนที่คังวูชินเข้าโจมตีพวกนักการเมืองหน้ารัฐสภา พวกประชาชนมองว่านี่เป็นเรื่องที่ยอมรับได้เพราะทุกคนคิดว่าเป็นสถานการณ์เร่งด่วน ในการหยุดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น พวกเขาเลยมองข้ามการกระทำที่โหดร้ายนั้นไป

อย่างไรก็ตามข่าวการสังหารล่าสุดนี่มันต่างกัน เหมือนใครก็สามารถถูกฆ่าได้ ถ้าคังวูชินไม่พอใจ

บ้านเมืองมีขื่อมีแป แต่เหมือนคังวูชินจะไม่สน เขามีอำนาจมาก มากเสียจนสามารถจบชีวิตใครก็ได้ที่เขาต้องการ ไม่ต่างอะไรกับพระเจ้า นั่นทำให้ประชาชนต่างหวาดกลัวกันมาก

ความรู้สึกของประชาชนกำลังสั่นคลอน ตอนนี้บรรยากาศที่เกิดขึ้นไม่เหมาะกับการลงประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญอะไรทั้งสิ้น

เกาหลีใต้ยังไม่ยอมรับว่าเกาหลีเหนือเป็นประเทศ แล้วจะให้พวกเขายอมรับอแลนดัลเป็นประเทศอิสระได้อย่างไร? เรื่องนี้ต้องอาศัยการแก้ไขกฎหมายก่อน แน่นอนว่าการลงประชามติมีความจำเป็นสำหรับเรื่องนี้มาก

สถานะ รัฐอิสระของพวกเขาตอนนี้ยังเป็นเรื่องที่ไม่ชัดเจน

"เราจะทำยังไงกันดี แล้วการเตรียมการเรื่องที่วางไว้ยังจะต้องทำอยู่ไหม "

"... เราจะทำต่อไป"

การเตรียมการสำหรับเรื่องต่างๆยังไม่ทันเรียบร้อยดี เรื่องราวดันมาเป็นแบบนี้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหยุดได้ตอนนี้

"แต่เราทำอะไรไม่ได้เลยนะ ถ้ารัฐบาลไม่ให้ความร่วมมือ"

“เฮ่อ เราก็ต้องทำต่อไป "

"ตอนนี้ผมแทบไม่กล้าเดินออกไปด้านนอกเลย กลัวโดนปาหินใส่หัว"

ตอนนี้แฮมินเห็นด้วยกับคำพูดนี้มากที่สุด

ตอนนี้ผู้สื่อข่าวไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผู้คนคล้อยตามสื่อง่ายขนาดไหน นอกจากนี้บริษัทที่เกี่ยวข้องกับนักการเงินที่ถูกสังหาร ยังรวมตัวกันกดดันรัฐบาลอีกด้วย

ด้วยความหวาดกลัวว่าจะประสบชะตากรรมเดียวกับพวกที่ตาย คนพวกนี้เลยร่วมมือกันอย่างแข็งขัน

ประชาชนรู้สึกหวาดกลัว เมื่อเห็นอำนาจและความเหนือมนุษย์ของคังวูชิน

หากสถานการณ์เลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ อแลนดัลอาจถูกขับไล่ออกจากเกาหลีใต้

“เฮ่อ คุณลีคังจินเรื่องที่พวกเราวางแผนไว้มันพอจะทำได้ไหม ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากรัฐบาล... "

อาณาเขตของอแลนดัลในตอนนี้คือสถานีโซลและพื้นที่โดยรอบ เป็นแผ่นดินที่ถูกซื้อภายใต้ชื่อกิลด์อแลนดัล

เจ้าหน้าที่และสมาชิกของกิลด์คือประชาชน

เมื่อใครเข้าร่วมกิลด์จะได้รับสัญชาติอแลนดัล สองสัญชาตินี้ยังคงใช้ภาษาและสกุลเงินร่วมกัน

อยากไรก็ตามตอนนี้พวกเขายังต้องพึ่งความร่วมมือจากรัฐบาล

รายระเอียดได้ถูกร่างลงในสนธิสัญญาเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่รู้ตอนนี้จะยังได้ใช้อยู่ไหม

มันทำให้พวกเขาสงสัยว่ามันจะเป็นไปได้หรือไม่ ถ้าที่นี่เป็นที่แรก เพราะขนาดเกาหลีเหนือยังถูกรัฐบาลเกาหลีใต้มองว่าเป็นแค่องค์กรที่ผิดกฎหมายองค์กรหนึ่ง

"ยังไงก็เตรียมให้มันเรียบร้อยไว้ก่อน"

"ครับ รองหัวหน้า"

มินชานและแฮมินก้าวมาถึงจุดจุดนี้ได้อย่างไร? พวกเขาแค่ต้องการหางานทำ หลังออกจากกิดล์แฮมเมอ ...

เป็นเวลาแค่ไม่กี่เดือน จากกลุ่มคนเล็กๆ 5คน ...

"อย่างน้อยเราก็ยังมีครอบครัวอยู่ที่นี่"

"ก็จริงนั่นล่ะ"

ครอบครัวของวูชิน, ซังกู และ แฮซอล ได้ย้ายไปมาอยู่ที่อแลนดัลแล้ว สำหรับลูกกิลด์หากใครต้องการนำครอบครัวมาอยู่ด้วย ก็สามารถนำมาได้ รวมพนักงานแล้วตอนนี้ก็มีคนเกือบ500คน

"เขาจะออกจากสหภาพกิลด์ไหม?"

"ผมคิดว่าน่าจะออก"

สหภาพกิลด์ของเกาหลีใต้ ถูกจัดตั้งโดยกิลด์แฮมเมอร์

กิลด์แฮมเมอร์เป็นผู้สนับสนุนหลัก แต่วูชินดันต้องการเป็นหัวหน้าสหภาพ

"เราจะทำยังไงเมื่อไม่ได้อยู่ในสหภาพ?"

จุงมินชานขมวดคิ้วกับคำถามของแฮมิน เข้าคิดเล็กน้อยก่อนจะแสยะยิ้ม

"ทำไมเราต้องคิดว่าต้องทำยังไง? เราแค่ทำตามคำสังของหัวหน้ากิลด์ เราก็จัดตั้งสหภาพของเราเองเลย ฉันจะเป็นหัวหน้าและคุณเป็นลูกน้องของฉัน ฮ่าฮ่า "

“ฮ่าฮ่า เรื่องนี้มันก็เหลือเชื่อนะว่าไหม? ตอนนี้เราอยู่ในระดับแนวหน้าของเกาหลี ... เอ หรือว่าโลกล่ะ? "

"เห็นด้วย เรามาไกลและประสบความสำเร็จขนาดนี้ มันก็เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อแล้ว"

นี่มันไม่ใช่เป็นความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วธรรมดา นี่มันเร็วยิ่งกว่าสายฟ้าแล้ว

ในขณะนั้นโทรศัพท์ของมินชานก็ดังขึ้น เมื่อหยิบออกมาดูก็พบว่า วูซังฮุนโทรมา เขารีบรับสาย

"เฮ่ว่าไง"

[เรากำลังกลับไปที่กิลด์ หัวหน้ากิลด์พึ่งกลับมาและเขาต้องการรายชื่อดันเจี้ยนที่ยังไม่ถูกเคลีย]

"ได้เลย พาเขากลับมา ระวังตัวด้วยล่ะ"

[ไม่ต้องห่วง]

มีผู้สื่อข่าวจำนวนมากกำลังรออยู่ด้านหน้า มีแม้แต่กระทั่งองค์กรที่เกี่ยวกับศาสนา เขารู้นิสัยของวูชินดี ถ้าคนวุ่นวายกับเขามากจนรู้สึกรำคาญ แล้วถ้าเขาเกิดเผลอทำร้ายพวกมันตอนนี้ ทัศนคติของผู้คนจะยิ่งแย่หนักเข้าไปอีก

"หัวหน้ากิลด์กำลังกลับมา รีบเตรียมรายงานด้วย "

"ได้ครับ!"

พวกเขาพึ่งวางเค้าโครงแผนงานเสร็จ

หลังจากนั้นไม่นาน มินชานและแฮมินก็ออกมาตอนรับวูชินถึงที่จอดรถ

"หืม พวกคุณออกมาทำไม เกิดอะไรขึ้น? "

แน่ล่ะ ว่าต้องมีเรื่องเกิดขึ้น

"ตอนนี้ภาพลักษณ์พวกเราในสายตาประชาชนไม่ค่อยดีเท่าไร นอกจากนั้นรัฐบาลก็เริ่มแสดงความไม่เห็นด้วย ”

"ทำไมล่ะ?"

"พวกเขาไม่พอใจกับการลอบสังหาร"

"ฉันฆ่าพวกสารเลวสมควรตาย แล้วมันมีปัญหาอะไร? "

มันเป็นเรื่องการใช้ความรุนแรง....เขาได้ล้ำเส้น

การที่จะตัดสินชีวิตใครสักคน มันต้องทำตามขั้นตอนของกฎหมาย ต้องมีการตรวจสอบ มีการสืบหาหลักฐาน ,สืบพยาน แล้วก็มีอีกอะไร อีกหลายๆอย่าง แต่สิ่งที่วูชินทำ มันไม่ต่างอะไรไปจากการฆ่าตกรรม

วูชินขมวดคิ้ว ก่อนที่จะพูดออกมา

"ดีที่ยังไม่ได้ทำสนธิสัญญา"

"ทำไมหรอครับ?"

ไม่ใช่ทั้งหมดนี้ทำเพื่อการก่อตั้งประเทศหรอกหรอ? มินชานถามด้วยความสับสนเพราะไม่เคยเห็นวูชินผิดคำพูดมาก่อน

"หัวหน้าต้องการยกเลิก การแยกตัวหรอครับ?"

"เราจะล้มเลิกข้อตกลงกับเกาหลี"

“...... .”

"พวกเขาจะต้องเป็นฝ่ายที่รู้สึกสูญเสีย ไม่ใช่ฉัน"

เขาต้องการทำอะไร?

เขาคิดที่จะทำอะไรหลังจากจัดตั้งประเทศใจกลางกรุงโซล?

"ฉันไม่จำเป็นต้องให้พวกสวะไร้ประโยชน์ มาอนุมัติอะไรทั้งนั้น"

"... เอ่อ ถ้าหัวหน้าไม่ได้ลงนามกับเกาหลีใต้ มันก็ไม่เกิดข้อตกลงสิครับ "

ดันเจี้ยนจำนวนอีกนับไม่ถ้วนที่กำลังจะเกิดขึ้นในเกาหลี อีกไม่นานสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ หรือแม้กระทั่งน้ำกับไฟฟ้าก็อาจจะไม่มีใช้

ไม่นานพวกเขาก็จะกลายเป็นคนจรจัดไร้บ้าน ที่ติดอยู่ในสถานที่เล็กๆอย่างโซล

"หรือจะให้ฉันยึดอำนาจเกาหลี"

"เอ่อ..ทำแบบนั้นไม่ได้นะครับ"

มินชานรู้สึกหงุดหงิด เขาพยายามทำความเข้าใจคำพูดของวูชิน

ฉันควรจะทำยังไงกับสถานการณ์เหล่านี้ดี? มินชานคิดหนักเกี่ยวกับมันก่อนจะพูดออกมา

"อย่างนั้น เราลองไปพึ่งรัฐบาลสหรัฐดูไหมครับ?"

"สหรัฐ? ฉันบอกนายแล้วนะว่าฉันจะไม่ไปไหน "

เข้าต้องปกป้อง ทางออกที่1ของสถานีโซล เพราะมันเป็นดันเจี้ยนที่เชื่อมต่อกับพื้นที่มิติของเขา

"เราสามารถขอให้รัฐบาลสหรัฐ ช่วยกดดันรัฐบาลเกาหลีได้"

วูชินเอียงคอสงสัยเล็กน้อย

"มันจะได้ผลหรอ?"

"น่าจะได้ครับ…."

มินชานทำสีหน้าปั้นยาก ถึงคำพูดของเขาจะดูไร้สาระ แต่มันก็มีโอกาสทำได้จริง

วูชินสามารถใช้อำนาจและอิทธิพลของเขากดดันสหรัฐได้ และตอนนี้ที่เกาหลีก็มีคนกลางที่จะเป็นคนไปเจรจา

"เมโลดี้ อยู่ไหน?"

"เธออยู่กับน้องสาวหัวหน้าครับ"

"พาฉันไปที่นั่น แล้วก็ไปทำรายชื่อดันเจี้ยนที่ยังไม่ได้กวาดล้างมาด้วย "

"ครับ"

ในฐานะที่เป็นเลขาของวูชิน ซังฮุนได้นำเขาไปยังพื้นที่ ที่อยู่อาศัยบริเวณชั้น1 ทั้งชั้นถูกตกแต่งให้เหมือนกับบ้าน

หลายครอบครัวของสมาชิกกิลด์ อแลนดัล อาศัยอยู่ที่นี่ ครอบครัวของวูชิน ก็เป็นหนึ่งในนั้น พวกเขาเข้าไปในห้องหมายเลข101 แล้วก็เดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่ดูสะอาดตาเหมือนอยู่ในห้องของโรงแรมชื่อดัง

แม่ของวูชินนั่งอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้ากระวนกระวายใจ เมื่อเธอเห็นวูชินเธอก็รีบลุกขึ้นยืน

“วูชิน ลูก..”

"แม่? เกิดอะไรขึ้น?"

ลีซูยัง เมื่อได้เห็นหน้าลูกชายก็ร้องให้ออกมา

"โซอา ..... "

"โซอา เป็นอะไร?"

วูชินรู้สึกประหลาดใจ

"โซอา ถูกอะไรบางอย่างเข้าสิง ฮือออ”

แม่กอดเขาพร้อมร้องให้อย่างหนัก

"ตอนนี้ โซอา อยู่ที่ไหน?"

"ตอนนี้เธออยู่อีกห้อง สตรีศักดิ์สิทธิ์กำลังดูอาการให้เธออยู่ "

"ไม่เป็นไรแม่ เดี๋ยวน้องก็ปลอดภัย "

วูชินปลอบแม่ของเขาระหว่างที่รอให้เมโลดี้ออกมา ไม่นานนักเมโลดี้ก็เปิดประตูแล้วเดินออกมา เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นวูชิน ก่อนที่จะเดินเข้ามาคำนับและทักทาย

"ตอนนี้อาการน้องสาวท่านเริ่มคงที่แล้ว "

"ขอบคุณนะ ฮายย ขอบคุณจริงๆ"

ลีซูยังคว้ามือของเมโลดีมาเขย่าพร้อมกับพูดขอบคุณไม่หยุด วูชินมองไปที่เมโลดี้ก่อนจะพูด

"เมโลดี้ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย"

"ค่ะ ผู้อมตะ"

"มาที่ห้องหัวหน้ากิลด์"

วูชินรู้สึกอึดอัดที่จะพูดธุระเมื่ออยู่ต่อหน้าแม่ของเขา เมื่อออกมาจากห้อง แววตาของวูชินสะท้อนอารมณ์ที่หลากหลายออกมา

รีวิวผู้อ่าน