บทที่ 39 ความรู้สึกของสิ่งนั้น
“ นายน้อยหยุน ทุบไอ้เด็กเหลือขอคนนี้ให้มันได้เห็นพลังของคุณ”
“ไอ้อ่อน แม้ว่าแกจะกล้าสู้กับ นายน้อยหยุน แต่ นายน้อยหยุนสามารถจัดการแกด้วยหมัดเดียว”
เสี่ยวฮุยถอยกลับมาด้านข้างของ เย่หลี่ ตอนนี้หัวใจของเธอหาได้รู้สึกหวาดกลัวและหวั่นไหวไม่ ตรงกันข้ามเธออยากจะหัวเราะเพราะเธอรู้ดีว่าชายหนุ่มที่ชื่อ นายน้อยหยุน นั้นไม่คู่ควรกับ เย่หลี่
ทันใดนั้น นายน้อยหยุน ก็ยกกำปั้นขึ้นแล้วต่อยไปที่ เย่หลี่ กลุ่มวัยรุ่นมองไปที่ เย่หลี่ อย่างสงสารแต่ก็เพราะชายหนุ่มคนนี้อยากสร้างความขุ่นเครื่องให้กับนายน้อยเอง ก็สมควรที่จะโดนสั่งสอน
เย่หลี่ ยังคงยืนอยู่กับที่และไม่เคลื่อนไหวราวกับว่าเขาไม่เห็นหมัดที่กำลังพุ่งเข้ามา นายน้อยหยุน ยิ้มอย่างพึงพอใจและคิดว่า เย่หลี่ ช่างโง่ยิ่งนัก
เมื่อหมัดอยู่ห่าง เย่หลี่ เพียงคืบเดียว เย่หลี่ ก็ยกมือขึ้นแล้วคว้าหมัดของ นายน้อยหยุน
นายน้อยหยุน รู้สึกเพียงว่ามือของ เย่หลี่ นั้นเหมือนคีมเหล็ก ในเวลานี้เขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจ
“อ๊าก เจ็บๆ!”
เย่หลี่ ไม่ต้องการสนใจเด็กพวกนี้ อย่างไรก็ตามในเมื่อพวกเขาต้องการที่จะก่อเรื่อง เขาก็จะสนองให้
เย่หลี่ โยนร่างของ นายน้อยหยุน ออกไปให้พ้นทางจากนั้นเขาก็เดินต่อไปโดยไม่หันกลับมามองอีก
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เสี่ยวฮุย ก็เดินตาม เย่หลี่ ไปทันที
“พี่ใหญ่รอด้วย!”
เสี่ยวฮุย หันมามองคนเหล่านั้น มันจบลงแล้วหรอเธอยังไม่ทันได้ตอบสนองกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย
กลุ่มวัยรุ่นรีบเข้าพยุง นายน้อยหยุน ขึ้นมาทันที
“ นายน้อยหยุน คุณเป็นยังไงบ้าง?”
นายน้อยหยุน ตกตะลึงเขาพ่ายแพ้ในทันทีได้อย่างไร? กล่าวอีกนัยหนึ่งหรือว่าชายคนนี้ก็เป็นผู้ปลุกพลังระดับสูง
วัยรุ่นคนอื่นๆต่างมีรอยยิ้มที่ขมขื่นบนใบหน้าของพวกเขา พวกเขาคิดว่า เย่หลี่ นั้นเป็นเพียงคนธรรมดาและไม่คิดว่าเขาจะมีพลังสูงส่งกว่านายน้อยของเขา
นายน้อยหยุน รู้สึกขมเล็กน้อยที่มุมปาก แล้วตัดสินใจทันที ซึ่งเกินจินตนาการของวัยรุ่นที่อยู่โดยรอบ นายน้อยหยุน เริ่มวิ่ง ดูเหมือนว่าเขาจะวิ่งไล่ตาม เย่หลี่ และ เสี่ยวฮุย
การวิ่งในครั้งนี้ทำให้วัยรุ่นคนอื่นกลัว เพราะพวกเขาคิดว่า นายน้อยหยุน กำลังวิ่งเข้าไปเพื่อหาเรื่อง เย่หลี่ ดูเหมือนว่าชีวิตน้อยๆของพวกเขาจะไม่รอดพ้นในวันนี้ พวกเขาเองก็วิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว
เสี่ยวฮุย ได้ยินเสียงวิ่งจึงหันกลับมามอง
“ พี่ใหญ่พวกเขาตามมาแล้ว”
เย่หลี่ ย่อมได้ยินเสียงเป็นธรรมชาติแต่เขาไม่คาดคิดว่ากลุ่มวัยรุ่นนี้จะวิ่งตามเขามา นายน้อยหยุน วิ่งไปหา เย่หลี่ เพียงแค่ลมหายใจเดียว แล้วมองหน้า เย่หลี่ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “มันเป็นความผิดพลาดของฉัน ฉันหวังว่านายจะให้อภัย”
“ฉันอยากจะเป็นเพื่อนกับนาย ถ้าเป็นไปได้” นายน้อยหยุน พูดต่อ
เย่หลี่ ไม่ได้คาดหวังว่า นายน้อยหยุน จะพูดอะไรแบบนี้ทำให้เขามองชายหนุ่มคนนี้แตกต่างไปจากเดิม ในตอนแรกเขาคิดว่า นายน้อยหยุน จะเป็นนายน้อยที่ทำตัวเจ้าสำราญแค่นั้น
เมื่อกลุ่มวัยรุ่นได้ยิน นายน้อยหยุน พูดแบบนั้นพวกเขาก็ตกตะลึง โชคดีที่ นายน้อยหยุน ไม่ได้มาที่นี่เพื่อท้าต่อสู้กับ เย่หลี่ อีกต่อไป ดังนั้นคงไม่เป็นอะไรจริงๆ เมื่อ เย่หลี่ มองไปที่ นายน้อยหยุน เขามองแตกต่างจากครั้งแรกที่เจอหน้ากันแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเป็นเพื่อนกันได้
“ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับนาย” เย่หลี่ พูดชัดๆช้าๆ
ในขณะที่เขาพูดอยู่นั้น นายน้อยหยุน ก็รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเขารู้สึกประทับใจ เย่หลี่ แม้ว่าเขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงประทับใจและชื่นชม เย่หลี่ มาก เขายืนนิ่งแล้วมองดูร่างของ เย่หลี่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้นเขารู้สึกเหมือนกับว่าคิดอะไรบางอย่างออก
“ฉันชื่อหยุนเฟิง พวกนายคงจะไปที่ฐานอันหนาน ฉันเองก็จะไปที่นั่นเช่นกัน” หยุนเฟิง มองไปที่ เย่หลี่ อย่างระมัดระวังและพูดขึ้น
กลุ่มวัยรุ่นยิ่งตกตะลึงมากยิ่งขึ้นเหตุใดนายน้อยของพวกเขาจึงให้ความเคารพแก่ชายหนุ่มคนนี้