บทที่ 40 อันหนาน
เย่หลี่ คิดเล็กน้อย ฐานอันหนาน เป็นสถานที่ที่พวกเขาไม่คุ้นเคยดังนั้นคงจะเป็นการดีที่จะมีใครสักคนเป็นผู้นำทาง
“ดี” เย่หลี่ พยักหน้า
ใบหน้าของ หยุนเฟิง สว่างขึ้นเขาลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้พวกเขามีเรื่องอะไรกันแม้แต่ เย่หลี่ ยังตกตะลึงกับฉากนี้ เขาคิดในใจว่า
“เชี่ยแล้ว ไอ้หยุนเฟิง คนนี้เป็นเกย์หรือเปล่า เขาตกหลุมรักฉันตั้งแต่แรกเห็นงั้นหรอ?”
จากนั้น เย่หลี่ ก็ส่ายหัว เขามีความคิดที่บิดเบือนแบบนี้ได้อย่างไร?
ต่อจากนั้น หยุนเฟิง ก็เป็นผู้นำทาง ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็มาถึงบริเวณรอบนอกของฐานอันหนาน เมืองชั้นนอกเป็นเมืองที่ทหารคอยเดินตรวจตราและรักษาความปลอดภัย มีปืนใหญ่เลเซอร์จำนวนมากอยู่บนกำแพงและมีทหารจำนวนนับไม่ถ้วนเฝ้าอยู่บนกำแพง นอกจากนี้พวกเขายังถือปืนเลเซอร์ที่ทรงพลังอยู่ในมือ
“นายน้อยหยุน คุณกลับมาแล้ว ครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง?” ชายคนหนึ่งสวมเครื่องแบบร้อยตรีกล่าวกับ นายน้อยหยุน
“ ไม่มีอะไรมาก พวกเราจะเข้าไปในเมือง” หยุนเฟิงกล่าวกับร้อยโทที่อยู่บนกำแพง
“ได้เลย นายน้อยหยุน “ ร้อยตรีพยักหน้า เมื่อเสียงของเขาจางหายไปประตูเล็กๆข้างประตูใหญ่ก็เปิดออก
“เข้าไปกันเถอะ!” หยุนเฟิง มองไปที่ เย่หลี่ และพูดเบาๆด้วยเหตุนี้ เย่หลี่ และ เสี่ยวฮุย จึงได้เดินผ่านประตูเล็กๆเข้าไป
เมืองชั้นนอกเป็นเพียงการป้องกันเท่านั้น แล้วยังคงมีเมืองชั้นในที่ค่อนข้างเข้มงวด อย่างไรก็ตามในเขตนอกเมืองนี้มีรถยนต์เช่นกัน เห็นได้ชัดว่าวัยรุ่นกลุ่มนี้มีรถ พวกเขาขึ้นรถของ หยุนเฟิง และนั่งไปยังเมืองหลัก
“ฉันควรจะเรียกคุณว่าอะไร” หยุนเฟิง ถามขึ้น
“ฉันชื่อ เย่หลี่” เย่หลี่ พูดช้าๆ เขาไม่ต้องการให้ หยุนเฟิง เรียกเขาว่า ลูกพี่ หรือพี่ใหญ่เย่ เพราะคำพูดเหล่านั้นมันทำให้เขารู้สึกว่าเป็นการสนิทสนมเกินไป
ไม่นานจากนั้น เย่หลี่ ก็เห็นเมืองหลักของฐานอันหนาน
เมืองนี้ดูคล้ายเมืองของจีนแต่การป้องกันแข็งแกร่งกว่ามาก ท้ายที่สุดไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีหรืออย่างอื่น ในโลกคู่ขนานแห่งนี้ทั้งหมดดูเหมือนทันสมัย เมื่อพวกเขามาถึงฐานหลัก คนส่วนใหญ่เป็นคนธรรมดาดูเหมือนว่าพวกเขาใช้ชีวิตแบบเดียวกันกับโลกเดิมของ เย่หลี่
ในบางครั้งจะมีการลาดตระเวนของทหารและในมือของพวกเขาก็ถือปืนเลเซอร์แบบเดียวกัน ทหารเหล่านี้เป็นเพียงคนธรรมดาท้ายสุดแล้วพวกเขาก็มียีนพันธุกรรมระดับDซึ่งเป็นระดับต่ำสุด
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฐานอันหนานนั้นใหญ่มาก ใหญ่มากจริงๆ มีอาคารสูงหลายตึก ถ้าเป็นบนโลกเดิมของเขา มันคงจะเรียกว่าเมืองใหญ่
“ เย่หลี่ พวกคุณจะไปที่ไหนต่อ” หยุนเฟิง ถามขึ้น
“ไม่รู้เหมือนกัน” เย่หลี่ กล่าว
“ถ้าอย่างนั้น ไปที่บ้านของฉันก่อนแล้วกัน” หยุนเฟิง ตอบ
เย่หลี่ ครุ่นคิดอยู่สักครู่แล้วพูดว่า “ตกลง”
หยุนเฟิง ขับรถไปยังทิศทางคฤหาสน์ของเขา ในตอนแรกมองจากไกลๆเขาไม่รู้ว่ามันใหญ่แค่ไหนจนกระทั่งใกล้ถึง
หยุนเฟิง ลงจากรถแล้วจิ้มไปที่หน้าจอใกล้ประตูหลังจากนั้นเขาก็สแกนใบหน้า จากนั้นประตูก็เปิดอัตโนมัติ รถก็ขับเข้าไปไม่นานก็มาถึงอาคารแห่งหนึ่ง ถ้าจะให้อธิบายมันก็คงเป็นส่วนหนึ่งของคฤหาสน์แห่งนี้เท่านั้น
“นายน้อยคุณกลับมาแล้ว”คนใช้พูดกับ หยุนเฟิง
ติง…
“ขอแสดงความยินดีกับนายท่านได้รับการสุ่มสลาก 1 ครั้ง”
เซอร์ไพรส์มาโดยบังเอิญเสมอ วงล้อในใจของเขาเริ่มหมุนและไม่กี่วินาทีต่อมาเข็มก็หยุดลง
“ยินดีด้วยคุณได้ทักษะศิลปะบําบัด”
ศิลปะบําบัด: และสามารถรักษาโรคได้ทุกชนิด ให้หายได้
เย่หลี่ ไม่คิดว่าเขาจะได้รับทักษะซึ่งเป็นทักษะสนับสนุนแต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีประโยชน์อะไรมากนักอย่างน้อยก็ดีกว่าไม่มี ดังนั้นเขาจึงประสานกับทักษะนี้ด้วยตัวเอง
ติง….
“ศิลปะบําบัดถึงระดับสูงสุดโดยอัตโนมัติ”
การแสดงออกของ เย่หลี่ ไม่เปลี่ยนแปลงเพราะเขารู้ว่าทักษะศิลปะบำบัดนี้ไม่มีประโยชน์กับเขา