px

เรื่อง : ระบบสังเคราะห์ซอมบี้
บทที่ 43 ฉันสามารถรักษาโรคที่ซ่อนอยู่ของคุณ


บทที่ 43  ฉันสามารถรักษาโรคที่ซ่อนอยู่ของคุณ

 

  หยุนหม่าน และ หยุนเฟิง เริ่มวิตกกังวลทันทีที่ได้ยินท่านหมอพูดแบบนั้น

“ หมอเทวดาไป๋  อาการบาดเจ็บของพ่อฉันยังสามารถรักษาได้หรือไม่?” หยุนหม่าน ถามอย่างเร่งรีบ

“ยาก ยากมาก”  หมอเทวดาไป๋ ส่ายหัว

หมอหลาย 10 คนก็ส่ายหัวเช่นกันเมื่อเห็นว่า หมอเทวดาไป๋ ส่ายหัว พวกเขาไม่จำเป็นต้องคิดหรือต้องรู้ว่าบาดแผลที่อยู่ในร่างกายของปรมาจารย์หยุนนั้นร้ายแรงเพียงใด

 

“ หมอเทวดาไป๋ ได้โปรดช่วยพ่อของฉัน” ใบหน้าของ หยุนหม่าน ดูเป็นกังวล

“ไม่เป็นไร ลูกรัก พ่อเข้าใจอาการบาดเจ็บของตัวเองดี”

 

 เย่หลี่ หัวเราะในใจ  เขาไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ตอนแรกเพราะต้องการที่จะเห็นทักษะการแพทย์ที่เรียกว่า หมอเทวดาไป๋  เขาคิดว่าหมอเทวดาไป๋ จะมีฝีมือมากแต่กลับกลายเป็นว่าไม่มีอะไรมากไปกว่านี้

 

“ผู้เฒ่าหยุน ฉันสามารถรักษาอาการบาดเจ็บที่ซ่อนเร้นของคุณได้”  เย่หลี่ พูดช้าๆ เขาไม่มีเวลาฟังหมอพวกนี้พิจารณาอาการ ถ้ารักษาให้หายขาดได้ก็ดี ถ้ามันรักษาไม่ได้ก็ช่างมันเถอะ

ทันทีที่ เย่หลี่ พูดคำนี้ออกมา ผู้คนที่อยู่ในห้องโถงต่างจดจ้องไปที่เขาคนเดียว

“คุณสามารถรักษาอาการบาดเจ็บที่ซ่อนเร้นไว้ของปรมาจารย์หยุนได้จริงหรือ?”  หมอเทวดาไป๋ ต้องไปที่ เย่หลี่

 

“ ช่างน่าตลกเสียจริงแม้แต่หมอเทวดาก็ยังช่วยอะไรเขาไม่ได้แต่ไอ้เด็กเหลือขอแบบนายนี่มีประโยชน์อะไร”

“แม้แต่เม็ดข้าวก็เปล่งแสงได้ ไม่รู้ความหมายของสิ่งนี้จริงๆหรอ”

หมอคนอื่นๆและ หมอเทวดาไป๋ ต่างพากันเยาะเย้ย เย่หลี่

“ ฮ่าๆ พวกคุณรู้ได้อย่างไรว่าฉัน  เย่หลี่ มีความสามารถอะไรบ้าง”  เย่หลี่ พูดดูถูกขณะมองไปยังกลุ่มแพทย์ที่อยู่ข้างหน้าเขา

 

เงียบ…..

 หมอเทวดาไป๋ กับกลุ่มหมอไม่เคยคิดว่า เย่หลี่ จะกล้าพูดเช่นนี้

“เด็กน้อยรู้ไหมว่ากำลังพูดอยู่กับใคร”หมอเทวดาไป๋ ตะโกนขึ้นอย่างเย็นชา

 เย่หลี่ ไม่ต้องการเสียลมหายใจให้กับคนเหล่านี้เขาจึงมองไปที่ หยุนมู่

“ ท่านผู้เฒ่าหยุน บอกฉันมาสิว่าคุณต้องการให้ฉันรักษาหรือไม่”

“เออนี่….”

 หยุนมู่ รู้สึกลังเลเขายังไม่รู้จัก เย่หลี่ ด้วยซ้ำไม่ต้องพูดถึงอายุของ เย่หลี่ …..

 

“พ่อคะ ฉันคิดว่าควรให้เขาได้ลองบ้าง พลังของเขาแข็งแกร่งมาก”  หยุนหม่าน มองไปที่ เย่หลี่ และกล่าว

“อันที่จริงคุณสามารถเลือกได้ที่จะไม่ให้ฉันรักษาคุณ เพราะว่าฉันเองก็ไม่จำเป็นต้องสูญเสียอะไร”  เย่หลี่ กล่าวอย่างแผ่วเบา

ถ้าหาก เย่หลี่ ไม่ต้องการหาผู้สนับสนุนให้กับ เสี่ยวฮุย เขาคงจากไปนานแล้ว ชีวิตหรือความตายของหยุนมู่ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา

“ได้สิ”

  หยุนมู่ พยักหน้าและเงียบไปไม่กี่วินาที   เย่หลี่  ยกมือและมีแสงสีฟ้าปรากฏออกมาหลังจากนั้นเขาวางมือบนด้านหลังของ หยุนมู่  และทักษะศิลปะบำบัดก็เริ่มหมุนเวียนอยู่ในฝ่ามือของเขา หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เย่หลี่ ก็ค่อยๆเปิดปากพูด “เสร็จแล้ว”

 เย่หลี่ ถอนมือกลับไป

“เด็กน้อยตอนแรกฉันคิดว่านายจะมีความสามารถบางอย่าง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่านายไม่รู้กระทั่งทักษะการแพทย์”  หมอเทวดาไป๋  จ้องมองไปที่ เย่หลี่ อย่างเย็นชา ดวงตาของเขาแสดงถึงความดูถูกเหยียดหยาม

 

 เย่หลี่ ยิ้ม “กบตัวหนึ่งในบ่อน้ำ จะรู้ได้อย่างไรว่าท้องฟ้าสูงแค่ไหนและผืนดินกว้างแค่ไหน”

“แกพูดอะไร!”หมอเทวดาไป๋ จ้องมองไปที่ เย่หลี่

“ ไอ้หนู รู้ไหมว่าหมอเทวดาไป๋นั้นมาจากตำหนักเทพยา” ชายชราคนหนึ่งตะโกนขึ้น

“แล้วยังไง”

“นี่แก…”  หมอเทวดาไป๋ จ้องมองไปที่ เย่หลี่ และไม่เข้าใจว่าทำไม เย่หลี่ เมื่อได้ยินว่าเขามาจากตำหนักเทพยาแล้วยังคงอยู่เฉยอยู่ได้

 

“ทำไมคุณไม่ตรวจชีพจรผู้เฒ่าหยุนอีกครั้งด้วยตัวเองล่ะ?” เย่หลี่ พูดช้าๆ

ในที่สุด หยุนมู่ ก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้งหลังจากได้ยินแบบนี้ เขาใช้เทคนิคลับทันทีและพบว่าเขาไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่บีบคั้นหัวใจอีกต่อไป

“ฉันหายแล้ว ...ฉันหายแล้ว!”  หยุนมู่ ตะโกนขึ้นด้วยความยินดี

เมื่อทุกคนที่อยู่ในห้องได้ยินเช่นนั้นพวกเขาต่างจ้องมองไปที่หยุนมู่อย่างไม่เชื่อ



รีวิวผู้อ่าน