px

เรื่อง : ฉันเป็นหัวหน้าเผ่าดึกดำบรรพ์
บทที่ 23 เกษตรกรที่ยากจน


บทที่ 23  เกษตรกรที่ยากจน

 

หลังจากนั้นพวกเขาก็พากันผูกแกะทั้งหมดในกับดักขึ้นมาโดยใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง ความเร็วนี้ไม่ต้องพูดถึงแม้แต่ มู่เฟิง ยังประหลาดใจ

“แกะป่าพวกนี้ มีสติปัญญาไม่เท่าแกะในชาติก่อน!” มู่เฟิง ถอนหายใจ พอคิดอีกทีก็นึกขึ้นได้ว่า แกะป่าพวกนี้ไม่เคยเห็นกับดักมาก่อนแน่นอนว่ามันก็ไม่เคยคิดว่าจะถูกจับได้เช่นนี้

 

เขาเชื่อว่าหลังจากนี้กับดักจะใช้บ่อยขึ้นและแกะป่าพวกนี้ก็จะมีภูมิต้านทานเกี่ยวกับกับดัก เมื่อถึงเวลานั้น มู่เฟิง เชื่อว่าเขาคงจะสามารถเลี้ยงแกะทำเป็นฟาร์มปศุสัตว์ได้แล้วและไม่จำเป็นต้องออกมาจับแกะอีกต่อไป

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ มู่เฟิง แสยะยิ้มและหัวเราะดังๆ “ฮ่าๆๆ ไม่เลว ไม่มีตัวไหนสามารถหนีรอดไปได้!”

 หมิงกวง พูดด้วยความตื่นเต้นว่า “ มู่เฟิง  วิธีการของเจ้านั้นใช้งานได้ดีมาก เจ้าสามารถจับแกะป่าได้มากมายขนาดนี้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้พวกเราไม่เคยจับมันได้แม้แต่ตัวเดียว!”

 

คนอื่นมองไปที่ มู่เฟิง อย่างตื่นเต้นแววตาของเขาเต็มไปด้วยความคลั่งไคล้ บางคนจะยิ้มและเสนอว่า

“พวกเราเอาแกะพวกนี้ไปฆ่าแล้วย่างเนื้อฉลองกันเถอะ!”

ทุกคนตอบรับแต่ มู่เฟิง กับโบกมือหยุดพวกเขาและกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า 

“เราไม่สามารถฆ่าพวกมันทั้งหมดได้เราจะเอาพวกมันกลับไปเลี้ยง!”

“เลี้ยงนั้นหรอ?”บางคนเริ่มสงสัย “แต่อาหารของพวกเราเองยังไม่เพียงพอแล้วจะมีปัญญาเลี้ยงพวกมันได้ยังไง?”

 

 มู่เฟิง มองไปที่ชายคนนั้นและกล่าวว่า

“แม้ว่าอาหารในเผ่าของเรานั้นจะมีไม่มากแต่ก็ใช่ว่าจะไม่เพียงพอ เราสามารถกินแกะป่าบางส่วนและยังมีปลาและอื่นๆ ส่วนแกะที่เหลือเราสามารถเลี้ยงไว้เพื่อให้มันกำเนิดลูกแกะ และเลี้ยงลูกแกะให้ใหญ่โตขึ้นเพื่อเป็นอาหารในภายภาคหน้า ด้วยวิธีนี้เราจะมีแกะให้กินไม่มีวันหมด และเผ่าของเราก็จะมีอาหารอุดมสมบูรณ์ทำให้เด็กน้อยเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและเผ่าจะแข็งแกร่งขึ้น!”

 

ดวงตาของคนรอบข้างสว่างขึ้นราวกับพวกเขาได้เห็นสิ่งที่ มู่เฟิง พูดในเวลาเดียวกันก็มีคนสงสัยอีกครั้ง

“แต่อาหารของเราไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงพวกมันจนกระทั่งออกลูกและรอให้พวกมันเติบโต!”

 

 มู่เฟิง ยิ้มและกล่าวว่า “ก่อนที่ลูกแกะจะโตพวกเราสามารถล่าเหยื่อตัวอื่นได้ เราสามารถกินปลา มังกรขนดอก หรือกวางเขา ต่อไปเผ่าของเรานอกจากจะเลี้ยงแกะแล้ว ยังจะเลี้ยงมังกรขนดอก กวางเขา และสัตว์ป่าตัวอื่นๆอีก!”

 

มู่เฟิง อยากจะพูดคำว่า “ วัว หรือว่าหมู” แต่ตอนนี้เขายังไม่แน่ใจว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่รอบๆเผ่าหรือไม่และชื่อของพวกมันอาจจะไม่ได้เรียกเช่นเดียวกับยุคปัจจุบัน สุดท้ายเขาจึงกล่าวต่อ

“ในอนาคตเผ่าต้าเตียงของเราจะแข็งแกร่งมาก มีสัตว์เลี้ยงมากมาย จึงไม่จำเป็นต้องให้คนออกไปล่าสัตว์ และสุดท้ายพวกเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสูญเสียชีวิตกับการล่าสัตว์อีกต่อไป!”

 

“หา?” หมิงกวง ตกตะลึง

“ มู่เฟิง  ถ้าพวกเราไม่ล่าสัตว์และพวกเราจะทำอะไรได้อีกล่ะ?”

“ฮ่าๆๆ”  มู่เฟิง อารมณ์ดีและพูดด้วยรอยยิ้ม

“วางใจเถอะเมื่อถึงเวลานั้นจะต้องมีอย่างอื่นให้พวกเจ้าทำอย่างแน่นอนตอนนี้เอาแกะกลับไปก่อน!”

“รับทราบ อุกะอุกะ” ทุกคนช่วยกันตามคำสั่งของ มู่เฟิง พวกเขามัดแกะป่าตัวที่ 1 ด้วยเชือกเอ็นแล้วมองไปที่ มู่เฟิง  มู่เฟิง ยิ้มอย่างจนปัญญา

 

“คนแรกที่จูงแกะให้นำหญ้าที่มีน้ำเกลือมาล่อ ส่วนที่เหลือปิดกั้นรอบๆเพื่อป้องกันไม่ให้แกะหลุดออกจากเชือกเอ็น อ๋อจริงสิ กับดักของพวกเรายังใช้ได้อยู่เอากิ่งไม้มาปูไว้เหมือนเดิมให้เรียบร้อย ใช้หญ้าคุมเอาไว้อีก 2 วันเราค่อยมาดูกัน!”

“อุกะอุกะ!”

 

ความจริงได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า  มู่เฟิง คิดมากเกินไป แม้แต่แกะป่าเหล่านี้ก็ยังคงชอบกินรสเค็ม โดยไม่สนใจว่าจะมีเชือกเอ็นมัดอยู่กับร่างกายหรือไม่พวกมันยืดศีรษะออกไปและกินหญ้าที่หลอกล่ออยู่ด้านหน้า 

“ ที่แท้สัตว์ป่าดึกดำบรรพ์นั้นมีสติปัญญาต่ำขนาดนี้นี่เอง!”

 มู่เฟิง ทำความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจในยุคดึกดำบรรพ์อีกครั้ง แกะป่าโง่ๆแบบนี้กับถูก หมิงกวง  พูดว่า “พวกมันเป็นสัตว์ฉลาด” นี่แสดงให้เห็นถึงปัญหาภูมิปัญญาของคนดึกดําบรรพ์  มู่เฟิง ขมวดคิ้วอย่างจนปัญญา “ช่างหนักใจยิ่งนัก!”

 

เมื่อกลับมาถึงเผ่า แกะป่ากว่า 30 ตัวก็ปรากฏขึ้นในเผ่าดึงดูดผู้คนให้มามุงดู

“ดูสิครั้งนี้ หมิงกวง และคนอื่นๆกลับมาเร็วขนาดนี้แถมยังจับแกะป่าได้เยอะแยะ!”

“มีแกะป่าเยอะแยะมากมายเราคงพอกินไปซักระยะหนึ่ง!”

“ครั้งนี้หัวหน้าเผ่าได้ออกล่าด้วยตนเองดังนั้นจึงได้เหยื่อกลับมามาก!”

“วันก่อนก็เช่นกันหัวหน้าเผ่าพาทุกคนไปจับปลาก็ได้ปลากลับมามากมาย!”

“สมกับเป็นหัวหน้าเผ่าของพวกเรา!”

 มู่เฟิง ไม่ได้อธิบายให้คนอื่นฟัง เขาบอกกับคนที่ควรจะบอกไปแล้วเกี่ยวกับกับดัก และเชื่อว่าพวกคนหนุ่มสาวเหล่านั้นจะเข้าใจก็ต่อเมื่อได้ออกมาปฏิบัติด้วยตนเอง และการมีหลี่หูเขาก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะสิ่งที่เขาต้องการทำต่อไปก็คือการสร้างคอกแกะ!

 

การเลี้ยงแกะย่อมพบกับปัญหาเรื่องกลิ่นปัสสาวะและอุจจาระของมัน ดังนั้นการเลือกตำแหน่งของคอกแกะเป็นสิ่งสำคัญมาก

คิดไปคิดมาเขาก็เลือกสถานที่แห่งหนึ่งที่เหมาะสม มันตั้งอยู่ที่เชิงเขาทางตอนเหนือสุดของเผ่า ที่นั่นมีเถาวัลย์ขนาดใหญ่และพุ่มไม้มากมาย ซึ่งเกิดตามธรรมชาติทำให้ง่ายต่อการหยิบจับวัสดุมาสร้างคอกแกะ 

 

ที่สำคัญกว่านั้นการเลี้ยงแกะป่าเป็นอาหารสำรองเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง แน่นอนว่าต้องอยู่ในตำแหน่งที่คนทั้งเผ่าสามารถมองเห็น

 

ดังนั้นภายใต้การแนะนำของ มู่เฟิง  กำแพงรั้วที่ทำจากกิ่งไม้ยาว 2 เมตรถูกล้อมรอบ บนผนังเต็มไปด้วยเถาวัลย์ไม้พุ่ม อย่าว่าแต่แกะป่าเลย แม้แต่คนที่ต้องการเข้าใกล้กำแพงรั้วก็อาจจะต้องบาดเจ็บ แกะป่าถูกคลายเชือกเอ็นแล้วใส่ไว้ในคอกแกะ เห็นได้ชัดว่ามันยังไม่สามารถปรับตัวได้ หลังจากมันพยายามชนกำแพงรั้วหลายครั้งจนถูกเถาวัลย์แหลมแทงพวกมันก็เริ่มที่จะเรียนรู้ไม่เข้าใกล้และถอยออกอย่างไม่พอใจ แกะป่าที่สูญเสียอิสรภาพร้อง “แอะๆ”อยู่ในคอกแกะแต่ไม่มีใครรู้สึกรำคาญ

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มู่เฟิง  เมื่อมองไปที่คอกแกะขนาดใหญ่แต่กลับมีแกะอยู่เพียง 30 ตัวเท่านั้นทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและรู้สึกเสียใจเล็กน้อย เขาลูบคางโดยไม่รู้ตัว “ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะมีโชคลาภน้อยเกินไป เกษตรกรอย่างเราค่อนข้างยากจน”



รีวิวผู้อ่าน