px

เรื่อง : ฉันเป็นหัวหน้าเผ่าดึกดำบรรพ์
บทที่ 25 วิธีในการจับไก่


บทที่ 25 วิธีในการจับไก่

 

มังกรขนดอกเป็นไก่ในยุคดึกดำบรรพ์ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของไก่นั่นเอง ในความคิดของ มู่เฟิง มันสมควรถูกเรียก “ไก่” เพราะแม้ว่าพวกมันจะเป็นบรรพบุรุษในรุ่นไดโนเสาร์ที่สง่างามแค่ไหนก็ตามแต่มันก็เป็นเพียงแค่นกที่บินไม่ได้

 

คราวนี้เขายังคงถามเกี่ยวกับนิสัยของไก่ดึกดำบรรพ์และรู้ถึงพื้นที่อยู่อาศัยและนิสัยของพวกมัน เขาแอบคิดเล็กน้อยอยู่ในใจต้องบอกว่าแม้ว่า หมิงกวง จะตอบสนองช้าไปสักหน่อยแต่การเข้าใจธรรมชาติของสัตว์นั้นถือว่าคุ้มค่ามาก

 

 มู่เฟิง ลองเปรียบเทียบไก่ทั้ง 2 ยุคแล้วรู้สึกว่าไก่ดึกดำบรรพ์นั้นนอกจากจะดุร้ายแล้วยังตัวใหญ่กว่าเล็กน้อยส่วนที่เหลือไม่มีอะไรพิเศษ

 หมิงกวง กล่าวว่า “แม้ว่ามังกรขนดอกจะตัวไม่ใหญ่เท่าแกะป่าแต่ความเร็วของมันในการวิ่งเร็วยิ่งกว่าพวกมันกินหญ้าเหมือนกับแกะป่า

“พวกมันกินเมล็ดดอกไม้แมลงตัวเล็กๆหรือแมงป่องมีพิษก็กินเช่นกัน”

เมื่อ มู่เฟิง ได้ยินเขาแนะนำดังนั้นก็อดยิ้มไม่ได้ในใจคิดว่า

“ตราบใดที่มันสามารถกลืนลงไปได้มันไม่สนใจหรอกว่าของพวกนั้นจะกินได้หรือไม่!”

 

เขายิ้มและพูดกับ หมิงกวงว่า“ เอาล่ะพรุ่งนี้นำตาข่ายเถาวัลย์ หอกไม้ไผ่ เชือกเส้นเอ็น และก็ต้นหนามอีกเล็กน้อย ห่อให้เรียบร้อยพรุ่งนี้เอามาด้วย จริงสิ เอาปลาตัวใหญ่จากในถ้ำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆด้วยนะ”

“เอาปลาไปทำอะไร?” หมิงกวง ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ

“ไม่จำเป็นต้องขุดกับดักเหมือนวันนี้อย่างนั้นหรอ?”

“ไม่จำเป็น การจับไก่ใช้แค่ของพวกนี้ก็พอ!”

“ไก่?” หมิงกวงประหลาดใจอีกครั้ง 

“โอ้ววว คือว่า… มันคือชื่อของมังกรขนดอกอีกชื่อหนึ่ง การเรียกมันว่ามังกรขนดอกนั้น เป็นการดูถูกมังกรตัวจริง ดังนั้นต่อไปจะเรียกมันว่าไก่!”

 มู่เฟิง ได้ข้อสรุปคำเรียกชื่อไก่ ถ้าไก่พูดได้ไม่รู้ว่ามันจะรู้สึกอย่างไร

“อุกะอุกะ!”  หมิงกวง ไม่สับสนอีกต่อไป

 

เช้าวันรุ่งขึ้น มู่เฟิง หาคน 7-8 คนไปดูกับดักแกะเมื่อวานนี้ ส่วน มู่เฟิง และ หมิงกวง พาคน 30-40 คนไปอีกทิศทางหนึ่ง เพราะมีอุปกรณ์ที่เตรียมไปน้อยมากทำให้คนที่ติดตามเขาไม่อยากจะเชื่อว่าพวกเขากำลังออกไปล่า

“ มู่เฟิง!”  หมิงกวงกลับมาถาม

“พวกเราไม่ได้เอาไม้กระบองกระดูกมาด้วย จะจับไก่ได้หรอ?”

“ได้แน่นอน!”  มู่เฟิง ต่อ 

“ตราบใดที่พวกเราเจอมัน จะจับพวกมันได้อย่างแน่นอน!”

 

“เข้าใจแล้ว!อุกะอุกะ!”  หมิงกวง รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งราวกับว่าตราบใดที่ มู่เฟิง กล่าวประโยคนี้ เขาก็จะสามารถรู้สึกสบายใจได้

 ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงจุดหมาย ถ้านับตามเวลาแล้วยังไม่ถึงครึ่งของเมื่อวาน นี่ทำให้ หมิงกวง และคนในหน่วยล่าสัตว์รู้สึกว่านี่ไม่ใช่การล่าของจริง  เพราะพวกเขาไม่เคยเข้าใกล้ พวกมันได้มาก่อน

 

แต่นับตั้งแต่ มู่เฟิง มีส่วนร่วมในการล่าสัตว์ทุกครั้งที่พวกเขาเดินทางไม่ไกลจากเผ่าแต่พวกเขากลับสามารถล่าเหยื่อได้เต็มพิกัด

 

“ถึงแล้วมันอยู่ตรงนี้!”  หมิงกวง ที่หยุดเดินชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง

“พวกเราควรทำยังไงต่อไป มู่เฟิง?”  ทุกคนหันไปมอง มู่เฟิง

“ ง่ายมาก! เอาเนื้อปลาที่หั่นเสร็จแล้วมาให้ข้า!”

 หมิงกวง รีบยื่นปลาที่หอด้วยหนังสัตว์ให้  มู่เฟิง รับมันมาและเริ่มโปรยชิ้นส่วนลงบนพื้นจากนั้นก็หยิบอีก 1 กำมือโดยไปรอบๆ

 

“นี่มันอะไรกัน?”ทุกคนมองไปที่ มู่เฟิง ด้วยความสงสัย แต่ มู่เฟิง ไม่ได้อธิบายเขาเงยหน้ามองไปรอบๆพบว่า มีต้นไม้ใบใหญ่ที่ดูเหมือนต้นป็อปลาร์ เขาหันหน้าไปมองหมิงกวง

“ เอาเชือกเอ็นกับหอกไม้ไผ่มาให้ข้า!”

 หมิงกวง มอบของทั้งสอง ให้กับ มู่เฟิง

 มู่เฟิง รับมันมาและผูกไว้กับเชือกเอ็น มีความสูงประมาณ 4 เมตรปลายด้านหนึ่งผูกหอกไม้ไผ่เอาไว้จากนั้นใช้มือโยนหอกไม้ไผ่ใส่กิ่งไม้กิ่งหนึ่ง  เมื่อหอกไม้ตกลงมาอีกด้านหนึ่งเชือกเอ็นก็แขวนบนต้นไม้พอดี  มู่เฟิง  เชือกเอ็นแน่น สองแขนกระชากลงมา ได้ยินเพียงเสียง “ปัง!” กิ่งไม้และใบไม้ตกลงมา

 

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ทุกคนสับสนมากยิ่งขึ้น

 มู่เฟิง ยังคงไม่อธิบาย เขาเด็ดใบไม้ออกมาใบหนึ่งซึ่งมีขนาดเท่าฝ่ามือ บีบก้านใบออก พับใบตามลายก้านใบแล้วพับแนวขวางอีกเล็กน้อยจากนั้นใช้มือกางออกตรงกลางเป็นชามสามเหลี่ยมใบเล็ก 

เขาหันกลับมาหา หมิงกวง แล้วพูดว่า “เอาต้นหนามมาให้ข้า!”

หมิงกวง ยังคงทำตามด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ  มู่เฟิง รับต้นหนามมาแล้วผูกกับใบที่พับเป็นชามเล็กๆ นั่นเท่ากับว่าใช้ต้นน้ำเสียบเข้ากับรูปร่างของชามใบเล็ก

 

จากนั้น มู่เฟิง ก็หยิบเนื้อปลาออกมาแล้วโยนไว้ในชามใบเล็กพร้อมกับ บริเวณใกล้ๆ เขาหันไปมองคนรอบข้าง

“ยืนอึ้งอยู่ทำไมทำตามที่ข้าทำไปเมื่อครู่สิ!!”

“แค่นี้หรอ?”  หมิงกวงเกาหัว 

“ มู่เฟิง แบบนี้จะจับมังกรขน เฮ้ยไม่ใช่ ไก่ ได้อย่างไร?”

คนอื่นๆมอง มู่เฟิง ด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อเห็นได้ชัดว่าพวกเขาสงสัย

 มู่เฟิง ถอนหายใจและพูดว่า “ไม่ต้องกังวลตราบใดที่ ไก่ปรากฏตัวที่นี่มันจะต้องถูกจับ!”

 

“เข้าใจแล้ว อุกะอุกะ!” คนอื่นๆพากันเดินไปข้างหน้าเพื่อเด็ดใบไม้และพับเป็นชามเล็กๆ จากนั้นก็แทงด้วยต้นหนามใส่ปลาแล้วโยนอยู่กับพื้น พวกเขาเป็นผู้ที่มีพละกำลังมากบวกกับกระบวนการที่เรียบง่ายอยู่แล้วดังนั้นไม่นานบนพื้นก็มีชามใบเล็กๆวางไว้ถึง 200 ใบ

 

 มู่เฟิง มองชามใบเล็กเหล่านั้นอยู่บนพื้นแล้วยิ้มก่อนจะกล่าวว่า

“เอาล่ะทีนี้ก็รอแค่ไก่มาติดกับดัก!”





รีวิวผู้อ่าน