px

เรื่อง : ฉันเป็นหัวหน้าเผ่าดึกดำบรรพ์
บทที่ 30 การรักษาชีวิตคน


 บทที่ 30 การรักษาชีวิตคน 

 

หลังจากที่ออกจากกระท่อมมุงจากของผู้อาวุโส มู่เฟิง กลับไปที่ถ้ำของเขาที่เคยอยู่อาศัย

ในถ้ำมีของเพียงเล็กน้อยจนน่าสังเวช หญ้าที่ปูเอาไว้สำหรับนอน หนังสัตว์และโถหิน นอกจากนั้นไม่มีของใดๆ มู่เฟิง ถอนหายใจอีกครั้ง

“ไม่ว่าอย่างไรข้าเองก็เป็นถึงหัวหน้าเผ่าแต่ที่นอนที่อาศัยของข้ากลับยังคงว่างเปล่าถึงเพียงนี้ดูเหมือนว่าเผ่าต้าเจียงของเราจะต้องมีหลายอย่างที่ต้องปรับเปลี่ยน!”

 

เขาพูดกับตัวเอง และบ่นถึงเครื่องใช้ประจำวัน และที่อยู่อาศัยเขาลูบหัวของตัวเองแล้วถอนหายใจยาวดูเหมือนว่ามันไม่ง่ายที่จะเปลี่ยนสังคมดึกดำบรรพ์ให้เป็นสังคมสมัยใหม่

“ยังมีเรื่องสำคัญอีกมากมายแต่ตอนนี้คงต้องมุ่งหวังในเรื่องเดียวก่อน!”  มู่เฟิง คิดอยู่ในใจก่อนอื่นต้องรีบเร่งและทำเรื่องที่สำคัญกว่า

 

คิดไปคิดมาเขาก็เดินไปหาเองอีกครั้ง หลังจากที่ออกไปล่าสัตว์ด้วยกันถึง 3 ครั้ง หมิงกวง ก็เริ่มคุ้นเคยกับการแนะนำวิถีชีวิตของสัตว์ป่าเห็นได้ชัดว่าเขาคุ้นเคยกับป่าแห่งนี้อย่างมาก  มู่เฟิง ต้องการให้เขาแสดงจุดแข็งออกมาและพาเขาไปในหุบเขา

 

“ มู่เฟิง!”  เมื่อเห็น มู่เฟิง มาที่ปากถ้ำของตัวเอง  หมิงกวง ก็รีบวิ่งออกมาจากถ้ำของเขา

“ เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอันใด?”

“อื้ม!”  มู่เฟิง มองเห็นว่า หมิงกวง มีสีหน้าเศร้าหมอง

“เป็นอะไรหรือเปล่าลุง หมิงกวง?”

 หมิงกวงถอนหายใจ “ซั่วเฟิงเขา..”

“ ซั่วเฟิง!” มู่เฟิง ตกใจและคิดขึ้นมาได้ในทันที

 

 ซั่วเฟิง เป็นลูกชายของหมิงกวง  เขาติดตาม หมิงกวง ออกป่ามาตั้งแต่เด็กและคุ้นเคยกับป่าไม่น้อยไปกว่า หมิงกวง เลย คนที่ ไป๋หยา ชื่นชอบในครั้งแรกนั้นคือ ซั่วเฟิง เพราะเขาชอบหาผลไม้และนำมาให้นาง

 

ครั้งล่าสุดที่เผ่ามังกรเหมิงเข้าปล้นเผ่าต้าเจียง เหตุผลที่เขาหมดสติไปก็เพราะคนของเผ่ามังกรเหมิงใช้กระบองใหญ่ฟาดใส่เขาและตอนนั้น ซั่วเฟิง เองก็พุ่งตัวออกมาขวางทาง มู่เฟิง และถูกกระแทกเข้าที่ศีรษะ ส่วนสาเหตุที่ มู่เฟิง “ สลบ” น่าจะเป็นหลังจากที่ ซั่วเฟิง สกัดกั้นไว้และเขาก็โดนกระบองทุบตีอีกที

 

แต่ดูเหมือนว่าเจ้าของร่างเดิม มู่เฟิง คงจะตายมิเช่นนั้นเขาเองคงไม่ได้ข้ามมิติมา

ไม่ว่าอย่างไร ชายหนุ่มคนนี้ก็ได้ช่วย “ตัวเขาเอง”จนมาถึงจุดนี้ดังนั้น มู่เฟิง ไม่อาจละเลยได้

 

“ ซั่วเฟิง เขาเป็นยังไงบ้าง?” มู่เฟิง ถามอย่างร้อนรน

“เขายังไม่ฟื้น!”  ใบหน้าของ หมิงกวง เต็มไปด้วยความโศกเศร้า

“ ดูเหมือนตอนนี้เขาใกล้หมดลมหายใจแล้ว…”

“อะไรนะ?” เมื่อนึกถึงช่วง 2 วันที่ผ่านมา  หมิงกวง ยังทำตัวปกติจนเขาไม่เคยคิดว่าจะมีเรื่องร้ายแรงแบบนี้เกิดขึ้น 

“ทำไมท่านไม่บอกข้าล่ะ!”

“บอกไปก็ไร้ประโยชน์!”  หมิงกวง ส่ายหัว 

 

“ท่านผู้อาวุโสเคยบอกไว้ว่าเจ้าสองคนเจ็บหนักจะตื่นขึ้นมาได้อีกครั้งหรือไม่ขึ้นอยู่กับสวรรค์ อีกอย่างตอนนี้เผากำลังตกอยู่ในอันตราย และเผ่าต้องการเจ้ามากกว่าพวกเรา..”

 มู่เฟิง ไม่สนใจที่จะฟังพูด เขาเดินตรงเข้าไปยังถ่ำ

“ ซั่วเฟิง!”

 หมิงกวง รีบวิ่งตามหลังเข้ามา

 

เมื่อ มู่เฟิง เดินมาถึงในถ้ำเขาก็เห็นหญ้ามุงจากหนาวางอยู่บนพื้น บนพื้นมีเด็กหนุ่มนอนราบอยู่ ใบหน้าผอมแห้งผิวดำคล้ำ แต่ใบหน้ายังคงคมคายอย่างชัดเจน ดวงตาของเด็กหนุ่มปิดสนิท ร่างกายของเขายิ่งผอมลงเพราะนอนหลับมาหลายวันไม่ได้กินอะไรเลย โดยเฉพาะที่คอและใบหูยังมีคราบเลือดเล็กๆติดอยู่ดูแล้วน่าสังเวชมาก

 

“ ซั่วเฟิง!” หัวใจของ มู่เฟิง บีบรัด “ คงไม่ใช่…”

“ เฮ้อ…”  หมิงกวง เห็น มู่เฟิง เป็นเช่นนี้ก็ถอนหายใจอย่างจนปัญญา  มู่เฟิง ยื่นมือออกไปเพื่อสัมผัสที่ปลายจมูกของซั่วเฟิง อย่างระมัดระวัง และพบว่ายังมีลมหายใจที่อ่อนแรง ความกังวลที่อยู่ในใจของเขาก็คลายลง

 

ตราบใดที่เขายังมีลมหายใจอยู่เขาก็จะมีวิธีช่วย ซั่วเฟิง

“ เขายังมีชีวิตอยู่!”  มู่เฟิง รีบพูดประโยคนี้ออกมาเพื่อให้ หมิงกวง รู้สึกสบาย เป็นไปตามที่คาดหลังจากได้ยินประโยคนี้  หมิงกวง ตกตะลึงจากนั้นพูดด้วยความดีใจว่า “จริงหรือ?”

 

 มู่เฟิง พยักหน้า  หันหลังให้กับหมิงกวง ยื่นมือออกมาเหนือศีรษะของซั่วเฟิง และเริ่มใช้วิชารักษาอย่างเงียบๆ

 

ทันใดนั้นแสงสีเขียวอ่อนก็ปรากฏขึ้นในถ้ำและเริ่มไหลจาก ฝ่ามือของ มู่เฟิง  หมิงกวง รับรู้ถึงความผิดปกติ เขาเบิกตากว้างและจ้องมองแสงเหล่านั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย

“นี่คือ..” แววตาของ หมิงกวง ฉายแววคลั่งไคล้ตื่นเต้นจนพูดไม่ออก

 มู่เฟิง ก็เห็นจุดแสงสีเขียวนั้นเช่นกัน มันรวมตัวกันบนฝ่ามือของเขาและไหลเข้าไปยังศีรษะของ ซั่วเฟิง

 

 แตกต่างจากครั้งที่แล้วที่ใช้รักษาท่านผู้เฒ่า ครั้งนี้เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าแสงสีเขียวพุ่งออกจากฝ่ามือของเขาเหนือศีรษะของ ซั่วเฟิง  ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านออกมาทำให้เขารู้สึกสบาย และถัดมาก็คือเปลือกตาของเขาสั่นทำให้เขารู้สึกง่วงนอน

 

“บ้าเอ้ย คาถานี้มันสิ้นเปลืองพลังงานมาก!”  มู่เฟิงแอบกัดปลายลิ้นเพื่อไม่ให้ตัวเองหลับ เขายังคงส่งพลังไปที่ซั่วเฟิง

 ประมาณ 10 นาทีผ่านไปสำหรับ มู่เฟิง นั้นช่างทรมานเหลือเกินเขารู้สึกง่วงนอนมากแต่โชคดีที่  ซั่วเฟิง เริ่มรู้สึกตัว!

 

 ซั่วเฟิง ลืมตาขึ้น หลังจากที่ตื่นขึ้นมาเขามองไปที่ มู่เฟิง ที่พยายามฝืนเปลือกตาไม่ให้หลับอยู่บนหัวเตียงของเขา จากนั้นมองไปที่ หมิงกวง ที่ยืนอยู่ด้านข้าง ในที่สุดก็เปิดปากพูดว่า “ท่านพ่อ  มู่เฟิง?”

 

“ ฟื้นแล้ว ในที่สุดเจ้าก็ฟื้น!”  หมิงกวง ดีใจมาก  เขากระโดดโลดเต้นอย่างตื่นเต้น

“เยี่ยมไปเลย อุกะอุกะ!”

 

ส่วนมารดาของ ซั่วเฟิง ได้ยินก็รีบวิ่งเข้ามาหา ซั่วเฟิง แล้วร้องไห้ด้วยความดีใจ จากนั้นทั้งสองสามีภรรยาก็คุกเข่าลงแล้วทำความเคารพ มู่เฟิง

“ ขอบคุณท่านหัวหน้าเผ่า ขอบคุณท่านหัวหน้าเผ่า!”

 ซั่วเฟิง เพิ่งตื่นขึ้นมาก็ตกใจก่อนจะหันไปหา มู่เฟิง

“ หัวหน้าเผ่างั้นหรอ?”

 

 มู่เฟิง โบกมือฝืนเปลือกตาและพูดว่า

“ ท่านลุงไปจับไก่ที่อยู่ในกรงมา 1 ตัว ฆ่าแล้วทำความสะอาดจากนั้นเอาโถหินแล้วใส่ไก่ลงไป เติมน้ำให้เต็มแล้วตุ๋นให้ ซั่วเฟิง กิน!”

“ใช้โถหินตุ๋นงั้นหรอ?”  หมิงกวง ยังคงสับสนเล็กน้อย

 มู่เฟิง ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดว่า

“ท่านไปทำความสะอาดไก่เดี๋ยวข้าจะตุ๋นเอง!”

 

รีวิวผู้อ่าน