px

เรื่อง : Seoul Station’s Necromancer จบแล้วอ่านฟรี!!!
บทที่ 124 Lich Jaenis (2) By...Star


ทั้งสองคนนั่งเงียบอยู่กันคนละฝั่งของโต๊ะเป็นระยะเวลาหนึ่ง

กาแฟที่ถูกนำมาเสิร์ฟโดยพนักงาน จากที่ร้อนควันโขมงก็กลายเป็นเย็นชืด ในที่สุดสตรีศักดิ์สิทธิ์ก็เอ่ยพูดขึ้นมา

"ท่าน รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับน้องโซอา แล้วใช่มั้ยคะ?"

"ฉันยังมีข้อสงสัยอยู่"

“...... .”

เงียบไปสักพักหนึ่งก่อนที่เมโลดี้จะตัดสินใจพูดออกมา

อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขา ...

"ท่านวางแผนจะจัดการอย่างไร?"

"ฉันจะทำอะไรได้ล่ะ?"

“...... .”

เธอเป็นน้องสาวของเขา

ถ้าเขาสามารถทำให้เธอดีขึ้นได้แน่นอนเขาจะทำ แต่เรื่องนี้มันไม่อาจทำอย่างนั้นได้ มันไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีปกติ สิ่งเดียวที่เขาทำได้มีเพียงสวดภาวนาให้เธอเท่านั้น

"ฉันไม่มั่นใจว่าใครจะมา ... มันยากกว่าที่ฉันจะคาดเดาได้"

"ค่ะ ท่าน"

“...... .”

"โซอาคงทรมานมาก"

“...... .”

วูชินรู้สึกขมขื่น เขาไม่สามารถบอกได้ว่าตอนนี้เขาปวดใจหรือไม่ปวดใจกันแน่ ตอนนี้เขาแค่รู้สึกเสียใจ...

ส่วนแม่ของเขาคงรู้สึกปวดใจมากๆ แน่ตอนนี้

โซอาก็ต้องทุกข์ทรมาน

"ขอโทษค่ะ ที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้"

"ช่างเถอะ ไม่ใช่ความผิดเธอ"

เมโลดี้รู้ดีกว่าใคร ว่าตอนนี้โซอากำลังเจ็บปวดด้วยเรื่องอะไร เธอเคยผ่านมันมาก่อนเมื่อตอนเธออายุยังน้อย เธอรู้ว่าตอนนี้โซอา กำลังจะต้องเลือกเส้นทาง

โซอาเป็นเมล็ดพันธุ์ของพระเจ้า

เขาไม่รู้ว่าเป็นเมล็ดพันธุ์ของใคร โซอาจะตื่นขึ้นมาเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเธอได้รับความประสงค์จากพระเจ้า

ความรู้สึกของวูชินผสมปนเปกันไปหมด แต่เขากลับรู้สึกสงบใจ นั่นทำให้เขาแปลกใจเล็กน้อยสงสัยเขาคงจะห่างไกลจากความเป็นมนุษย์ปกติ มากทีเดียว....

"ท่านมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันหรอคะ ... "

สตรีศักดิ์สิทธิ์กล่าวถามอย่างระวัง เมื่อสังเกตถึงวูชินที่กำลังแสดงท่าทางสับสน

“อ่อ ฉันต้องการให้เธอไปติดต่อสหรัฐเพื่อมากดดันรัฐบาลเกาหลีน่ะ"

"อะไรนะคะท่าน?"

"เหอะ ฉันจะให้อแลนดัลแยกตัวเป็นอิสระ แต่พวกมันไม่ยินยอม เธอคิดว่าฉันรู้สึกยังไงล่ะ? "

เมโลดีรีบคุกเข่าอย่างรวดเร็ว ดั่งกระต่ายหวาดราชสีห์

"ผู้อมตะ ได้โปรดระงับอารมณ์ ฉันขอใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน ... "

"หยุด เลิกทำอะไรไร้สาระ ฉันเคยบอกเธอแล้วไม่ใช่หรอ?"

"ขอโทษค่ะท่าน"

วูชินขมวดคิ้ว เขารู้สึกสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง เขาไม่ชอบให้เมโลดี้ปฏิบัติกับเขาราวกับพระเจ้า...

"ฉันไม่ได้ต้องการจะแตกหักอะไรแบบนั้น แต่ดูเหมือนเกาหลีจะพยายามผูกมัดฉัน ฉันแค่อยากมีอิสระ "

เธอเข้าใจว่า วูชินกำลังหมายถึงอะไร

"ค่ะพวกเขากำลังทำแบบเดียวกับจักรวรรดิ อุรูฮา"

“อ่า สถานการณ์คล้ายๆแบบนั้นล่ะ "

จักรวรรดิ อุรูฮา พยายามจะมอบตำแหน่งดยุคให้แก่ผู้อมตะ พวกเขาแม้กระทั่งส่งเจ้าหญิงให้มาอภิเษกด้วย แต่สุดท้ายสิ่งที่พวกเขาได้รับคือ ...การล่มสลายของอาณาจักร...

"ฉันจะทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้พวกเขารบกวนท่านอีกครั้ง"

สตรีศักดิ์สิทธิ์กัดริมฝีปากเล็กน้อย

"เอาล่ะ ฉันจะเจอคุณในอีก3วัน "

เวลาคุ้มกันเขามีเพียง12วัน แต่สำหรับเวลาในโลกภายนอกนั้นมีเพียงแค่3วัน อแลนดัลมีเรื่องที่ต้องทำ และตอนนี้เมโลดี้ก็มีเรื่องที่ต้องรีบจัดการ ตอนนี้วูชินคิดว่าจะต้องรีบไปกวาดล้างดันเจี้ยนให้มากที่สุด

"สามวัน…."

เมโลดี้พึมพำคำพูดซ้ำไปซ้ำมา

เธอมีเวลาแค่3วันในการทำให้โลกยอมรับอแลนดัลเป็นประเทศอิสระ ถ้าเธอทำไม่ได้เธอไม่อยากคิดเลยว่าผู้อมตะจะทำอะไร

ทั้งเมโลดี้และวูชิน เริ่มนับเวลาถอยหลัง3วัน แต่น้ำหนัก3วันของทั้งสองคนช่างแตกต่างกันมาก

***

วูชินกับลูกน้องได้มารอต้อนรับคนที่สนามบิน

"เฮ่ น้องคัง!"

"พี่ แพค!"

แพคจุงโด ยกมือขึ้นทักทายคังวูชินเขายิ้มด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่คนดังที่สุดในตอนนี้มาต้อนรับเขา “โอ้ ฮ่าฮ่า เยี่ยมมากๆ ที่ฉันได้เจอนายอีกครั้ง "

"ผมมีเรื่องจะติดค้างพี่สักหน่อย"

"ฮะ? ติดค้างอะไรกัน มาเถอะมีอะไรให้ฉันช่วย! "

เมื่ออแลนดัลขอใช้เครื่องบินส่วนตัวของแพคจุงโด เขาก็รีบมาที่นี่ทันที เมื่อเขาเหลือบไปเห็น ซังกู ข้างๆวูชิน ตาเขาเบิกกว้างขึ้น

"เฮ่ นายใช่ เพลิงพิสุทธ์ ซังกู รึเปล่า?"

"... ชื่องี่เง่านั่นมายังไงกัน?"

"โอ้ ฮ่าฮ่า มันดังจะตายในโซเชียล มาๆ มาถ่ายรูปกันก่อนไป"

แพคจุงโดโอบแขนซังกูก่อนจะโพสต์ท่าเพื่อ เซลฟี่

ในภาพมีวูชินที่กำลังทำหน้าเหวอ ติดอยู่เป็นฉากพื้นหลัง

"โฮ่โฮ่ นี่เจ๋งไปเลย รับรองได้เลยคนดูไม่ต่ำกว่าล้านวิวแน่ๆ "

"ฮี่ฮี่ หัวหน้าแพคผมจะช่วยอย่างเต็มที่ "

“โอ้วว ฮ่าฮ่า ถ้าเพลิงพิสุทธ์ซังกูช่วยล่ะก็ เรื่องทะลุ10ล้านวิวจะยากอะไร? "

“โอ้ ฮิฮิ ฉันจะดังก้องโลกก "

พวกเขาเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย วูชินส่ายหัวไปมาเมื่อมองทั้งคู่ ก่อนที่เขาจะเดินไปขึ้นเครื่องบิน

แพคจุงโดและผู้จัดการจุงชานซอง เลขาส่วนตัวของเขา เดินขึ้นเครื่องไปก่อน หลังจากนั้น ทางด้านอแลนดัล, คังวูชิน ,ฮงซังกู และเลขาวูซังฮุง ก็เดินตามเข้ามา

"อืม ที่ไหนที่เราจะไปเป็นที่แรก? "

"เราจะไปที่ญี่ปุ่นก่อนครับ"

ซังฮุนวาง แท็บเล็ต ที่ฉายแผนที่โลก พร้อมกับมีจุดสีแดงแสดงอยู่บนแผนที่ ไว้ด้านหน้าวูชิน

"มีทั้งหมดเท่าไร?"

"ทั้งหมด32 ครับ แต่ตอนนี้มี12แห่งที่เราต้องรีบไปจัดการ"

วูชินขมวดคิ้ว

"ทำไมมันมีน้อย?"

"ยังพอมีเวลาเหลืออยู่บ้าง พวกเขาเลยจะลองพยายามด้วยพลังของตัวเองดูก่อนครับ"

คำขอร้อง12รายการส่วนมากจะเป็นดันเจี้ยนที่กำลังจะแตกออก ตารางดันเจี้ยนที่ต้องจัดการจะถูกเรียงลำดับจากเวลาที่เหลือก่อนการแตกออก

"จุดสีน้ำเงิน นี่คือสถานที่พวกเขายังไม่ได้ส่งคำร้อง?"

วูชินขยายแผนที่ญี่ปุ่น มันมีจุดสีแดง2จุด สีน้ำเงิน4จุด

เนื่องจากที่นั่นมีสถานีรถไฟอยู่เป็นจำนวนมาก มีดันเจี้ยน6แห่งที่โผล่ออกมาและยังไม่ถูกเคลีย มีสองดันเจี้ยนในนั้นที่กำลังจะแตกออก

โอซากาหนึ่งที่ และโตเกียวอีกหนึ่งที่

"พวกเขาเห็นหายนะที่เกิดกับโซลแล้ว พวกเขายังจะกล้าจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ? เหอะ! ต่อให้พวกมีพลังระดับสูงของทั้งโลกจัดทีมพิเศษขึ้นมา ยังไม่มีปัญญาจะทำอะไรได้ "

“...... .”

ได้ฟังคำพูดแดกดันของวูชิน ซังฮุนไม่รู้จะโต้แย้งยังไง? แพคจุงโดและซังกูที่กำลังเมาท์มอยกันอยู่อย่างสนุกสนาน ก็เงียบลงเมื่อได้ยินคำพูดของวูชิน

"หืมม น้องคังมีอะไรผิดพลาดงั้นหรอ? "

“เปล่า ฉันคิดว่าเรื่องนี้มันน่าขันที่สุด "

"ยังไงหรอ?"

"มันน่าตลกตรงที่ พวกเขาจนปัญญาที่จะจัดการแล้ว แต่พวกเขายังจะโลภอยู่อีก"

“อืมมม เคยมีดันเจียนแตกออกสองที่ แต่เขาก็ดันทุรังจนป้องกันเอาไว้ได้ การจำกัดผลกระทบให้น้อยที่สุดใช้ทุนมหาศาลเลยทีเดียว"

"เหอะ หวังในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ก็มีแค่พวกโง่เท่านั้นล่ะ "

เขารู้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะเป็นยังไง

ถ้าวูชินไม่ได้ไปลงมือจัดการด้วยตัวเอง สุดท้ายเมื่อการเชื่อมต่อสำเร็จ ผู้ปกครองมิติจะโผล่ออกมา…

ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา

ตั้งแต่ที่เขาได้เป็นผู้ปกครองมิติ เขาก็เข้าใจแผนชั่วของพวกทราเน็ต ยิ่งเขารู้มากเท่าไรเขายิ่งรู้สึกแค้นใจมากขึ้น

เขาไม่สามารถหยุดหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ โลกกำลังจะตกลงสู่ขุมนรก แต่ประเทศต่างๆบนโลกยังมัวมาทะเลาะกันเองอย่างไร้สาระ เขาคนเดียวบนโลก ที่เคยเห็นนรกมาแล้ว

นี่คือเหตุผลที่เขาพยายามเตือนทุกคนให้เข้าใจ และเป็นเหตุผลที่เขาต้องการเป็นหัวหน้าสหภาพ แต่กิลด์แฮมเมอก็ไม่ยอม แล้วดูสิ่งที่พวกเขาทำ?

"พี่แพค เหลืออีกกี่วันที่การรวมตัวของผู้มีพลังจะเกิดขึ้น? "

"หือ? น่าจะอีก10วัน? แล้วทำไมนายทิ้งพวกแฮมเมอมาล่ะ?

"หึ พวกเขาบอกว่าจะจัดการกันเอง "

“ฮ่าฮ่า นายน่าจะตอบรับคำขอของฉันนะ ถึงกิลด์แฮมเมอร์จะเป็น1ใน3กิลด์ที่ใหญ่ แต่พวกมันก็เทียบอะไรไม่ได้กับกิลด์KHของฉัน ...เอจำได้ว่าฉันบอกนายเรื่องนี้ตั้งแต่อแลนดัลยังไม่ได้เป็นกิลด์เลยนี่ ฮ่าฮ่าฮ่า

วูชินหัวเราะไปกับคำพูดของแพคจุงโด เมื่อเขาคิดถึงเรื่องที่เขาจัดการพวกนักการเงิน ก็ไม่ได้มีคนของกิลด์ KHเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจหาประโยชน์จากดันเจี้ยน และมีเอี่ยวกับผู้ก่อการร้าย

"พี่ต้องการไปกวาดล้างดันเจียนกับฉันไหม"

ตาของแพคจุงโดเบิกกว้างมากที่สุดในชีวิต

"หือ นายจะให้ฉันตามไปด้วยจริงๆหรอ?"

คังวูชินโด่งดังโดยที่ไม่ได้เข้าร่วมทีมกับผู้มีพลังอื่นๆ ทีมของเขามีเพียงแค่ฮงซังกูและแฮซอลเท่านั้น

นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมฮงซังกูที่ติดตามคังวูชินถึงโด่งดังพอๆกับเขา ภาพถ่ายของเขาบนโซเชียลได้รับความนิยมไม่ต่ำกว่าสองล้านวิวทุกครั้ง "เอาสิ ฉันจะไปเที่ยวรอบโลกสัก3วัน กับนาย"

“ฮ่าฮ่า ฉันก็หวังไว้อย่างนั้น"

วูชินยิ้มกว้างและหัวเราะออกมาเมื่อเรื่องราวเป็นไปตามที่เขาต้องการ

เขาเป็นคนที่เหมาะสม

เขาคงไม่ได้เป็นคนที่เหมาะสม หากเขาไม่มีเครื่องบินส่วนตัว...

"หุหุหุ ต้องให้เพื่อนทั้งหมดบนโลกของฉันรู้เรื่องนี้ มาๆน้องคังเรามาเซลฟี่กันหน่อย"

“...... .”

วูชินถอนหายใจเมื่อเห็น แพคจุงโดยื่นแขนที่ถือกล้องออกไป

"ทำไมเราต้องทำอะไรแบบนี้?"

"ฮะ นายไม่รู้หรอ? นี่มันโลกยุคโซเชียล เวลาเราทำอะไร เราต้องประกาศให้ทุกคนรู้สิ"

"อ่า นี่มันก็ไม่ได้สำคัญอะไร ทำไมพี่ต้องประกาศทุกอย่าง? พี่จะบอกทุกคนด้วยหรอเวลาพี่ไปขี้? "

"ฮ๊ะ? นายรู้ได้ไงอะ?"

“...... .”

วูชินรู้สึกอ่อนใจ เมื่อเห็นแพคจุงโดแสดงท่าทีคาดหวังออกมา ดูเหมือนเขาจะจริงกับเรื่องแบบนี้มาก

“เอ๊า ยิ้มมมม ชีสสสสส”

วูชินยิ้มมองกล้องพร้อมชูสองนิ้ว

แม้ว่าโลกจะมีจำนวนของดันเจี้ยน มากกว่าดาวเคราะห์ดวงอื่นๆหลายสิบเท่า แต่ก็สามารถจัดการกับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว เหตุผลหลักคงไม่พ้นการสื่อสารที่รวดเร็วของโซเชียลเน็ตเวิร์ค

จะมีดาวเคราะห์สักกี่ดวงกัน ที่รู้ข่าวว่าดันเจียนอีกฟากหนึ่งของโลกแตกออก ในเวลาไม่ถึง10นาที

เครื่องบินส่วนตัวส่วนตัวของ KHG กำลังเตรียมพร้อมที่จะลงจอดที่สนามบินคันไซ

***

พื้นที่รอรับผู้โดยสาร ของสนามบินคันไซ

ผู้มีพลังระดับAของกิลด์เซ็นเซย์ ทากุชิ ขมวดคิ้วเมื่อมองไปที่ทางออกผู้โดยสาร เขากำลังรอต้อนรับบุคคลสำคัญแต่มีผู้คนอยู่เยอะเกินไป เขากังวลว่าจะเกิดปัญหา

"ทำไมวันนี้คนถึงมากขนาดนี้?"

"ข่าวเรื่องคังวูชินมาโอซาก้า ถูกโพสลงว่อนโซเชียลเลยครับ"

“หืม?”

สมาชิกกิลด์คนหนึ่งยื่นโทรศัพท์ให้ทากุชิดู

รอยยิ้มและใบหน้าตลกๆของคังวูชินปรากฏบนภาพเซลฟี่ระหว่างเขาและแพคจุงโดหัวหน้ากิลด์KH นอกจากนี้ยังมีคำอธิบายใต้ภาพอีกว่า

- ฉันกำลังอยู่ในทัวร์ถล่มดันเจี้ยนกับน้องชายที่น่ารัก เป้าหมายแรกคือโอซาก้า ...

- โฮ่ๆๆ สนามบินคันไซจ๋า ป๋าวูมาแล้วจ๊ะ!

ข้อความของหัวหน้ากิลด์KHแพคจุงโดถูกเปลี่ยนเป็นภาษาญี่ปุ่นให้เขาสามารถอ่านได้ จากเจ้าของบัญชีที่โพส ส่วนอีโมติคอนต่างๆนั้นไม่จำเป็นต้องแปล

"ใครเป็นเจ้าของบัญชีนี้?"

"เอ่อ คุณซากุระ ไอ ครับ"

เมื่อไอดอลในญี่ปุ่นโพสลงโซเชียลใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีผู้คนนับร้อยนับพันก็รู้กันอย่างรวดเร็ว

มีกลุ่มคนที่พกกล้องมารอเก็บภาพจำนวนมหาศาล

"นี่สินะที่เค้าเรียกว่าบาดลึกถึงทรวง .. "

นี่คือคำร้องขอแรกของกิลด์เซ็นเซย์เพื่อให้ตัววูชินมาช่วยจัดการดันเจี้ยน พวกเขารอต้อนรับแบบVIP แต่ไม่ทันไรข่าวก็รั่วซะแล้ว...

ทากุชิเริ่มคิดวิธีที่จะนำคังวูชินออกจากสนามบินคันไซ

"โอ้ นั่นใช่พวกเขาไหม? "

“...... .”

ทากุชิพูดไม่ออกเมื่อมองไปทางที่ลูกกิลด์เขาชี้ ตอนนี้มันไม่สำคัญแล้วว่าพวกเขาจะเตรียมการต้อนรับแบบVIPแค่ไหน

กี้ กี้ กี้

กลุ่มนักรบโครงกระดูก30ตน

กองทัพโครงกระดูกปรากฏตัวขึ้น แล้วพวกเขาก็ยกดาบขึ้นมา ทำให้ทุกๆคนถอยห่างออกไป

คังวูชินพูดกับวูซังฮุนขณะที่เดินตามกองทัพโครงกระดูกที่แหวกฝูงชนออกให้

"ฉันนึกว่า พวกเขาจะมารอต้อนรับเราซะอีก?"

"ครับ พวกเขาบอกว่าจะมา แต่เอ่อ..ภาษาญี่ปุ่นผมไม่ ... "

“อ่าว ฉันคิดว่าคุณอยากจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ "

“...... .”

ซังฮุนพูดไม่ออกเขาได้แต่ห่อเหี่ยว ไหล่ก็ตกลงอย่างน่าสงสาร

"มานี่สิ"

"ครับ?"

"ดื่มนี่"

"ครับ โปรดส่งมาให้ผม"

"ฉันจะป้อนคุณ"

“...... .”

ทำไมหัวหน้าถึงทำแบบนี้?

ซังฮุนคิดออกมามากมายว่าควรจะทำยังไง ในขณะที่เขากำลังจะตัดสินใจ

วูชินคว้าคางของเขาก่อนจะบีบให้ปากของเขาอ้าออก

“หะ..หัวหน้า? อ๊อค อึก อึก อึก.”

วูชิน นำยาแปลภาษากรอกปากของซังฮุนจนหมดขวด ก่อนที่เขาจะเก็บขวดเปล่ากลับใส่ช่องเก็บของ

"แคก แค่ก แคก!"

"ตอนนี้ไปหาพวกเขาได้ละ"

ซังฮุนไออยู่เป็นเวลานาน ก่อนที่เขาจะเปิดตากว้างแล้วมองไปรอบๆ

"นี่ ... นี่มัน!"

ช่างน่ามหัศจรรย์ ราวกับปาฏิหาริย์

พวกเขากำลังพูดภาษาญี่ปุ่นกันอยู่ แต่ตอนนี้เขาสามารถเข้าใจได้

“เฮ้ๆ ทำไมถึงมีพวกโครงกระดูกเต็มไปหมดเลยอ่า? "

"คังวูชินเขาไม่ต้องการพูดกับพวกเราหรอ?"

"เขากำลังดูถูกญี่ปุ่นอยุ่รึเปล่า?"

หูของเขาได้ยินบนสนทนาของผู้คนรอบๆมากมาย

แถมเขายังสามารถเข้าใจได้ทุกคำพูด

"เจ๋ง สุดยอดดดด"

ในขณะที่ซังฮุนกำลังตื่นเต้นกับความสามารถใหม่ จุงชานซองชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง ในฐานะที่มาจากกิลด์ใหญ่ แน่นอนจุงชานซองสามารถพูดญี่ปุ่นได้

"คนกลุ่มนี้มาจาก กิลด์เซ็นเซย์"

เขาชี้ไปยังกลุ่มที่ถือป้ายชื่อกลุ่มหนึ่ง ในขณะที่ซังฮุนยังคงตื่นเต้นและพึมพำกับตัวเอง

“โอ้ ว้าววววว ผู้จัดการจุงสนใจมาทำงานที่อแลนดัลไหม? "

“ฮ่าๆ ขอบคุณสำหรับคำเชิญครับ แต่ผมต้องติดตามหัวหน้าแพค"

วูชินยิ้ม ก่อนที่จะกล่าวคำพูดออกมาเสียงดังด้วยความสนุกสนาน หลังจากนั้นเขาก็เดินไปหาคนของกิลด์เซ็นเซย์

รีวิวผู้อ่าน