ตอนที่ 5 : การทำงานของเตา
ภายในมิติด้านในจี้รูปเตายา หยางเฉินนั่งขัดสมาธิและทำการบ่มเพาะทักษะกุยหยวนดูดซับปราณอย่างต่อเนื่องแต่น่าเสียดายที่ความเร็วในการดูดซับปราณนั้นช้าอย่างมาก
“ แม้ว่าจะบ่มเพาะได้แต่ความเร็วในการบ่มเพาะนี่มันช้าจริงๆ ! ” หยางเฉิน ที่เพิ่งดีใจมา ก็ต้องสลดไป 1 ปีจากนี้เขาต้องเอาชนะหลิวหยู หากวัดจากความเร็วตอนนี้แล้ว นอกซะจากว่าหลิวหยูจะยืนเฉยๆและปล่อยให้เขาโจมตีแล้ว เขาก็ไม่อาจจะเป็นคู่ต่อสู้ของ หลิวหยู ได้
ต่อหน้าเว่ยหยานหลานและคนอื่นๆ แม้ว่าเขาจะไม่ใส่ใจแต่ในใจเขาก็ไม่อยากแพ้ให้กับหลิวหยู มันยังมีเชินเจียนเซียว ที่ฆ่า หยางเฉินคนเดิมไปอีก การเอาชนะคนเหล่านี้เป็นเป้าหมายของเขาแต่....ความเร็วในการบ่มเพาะกลับช้าเป็นเต่าคลาน
“ นี่ข้าโกงมากไปในชีวิตที่แล้ว ตอนนี้ข้าเลยต้องรับกรรมในโลกนี้รึไง ? ” หยางเฉินมองไปที่เตาตรงหน้าและถอนหายใจออกมา
“ หือ ? ตัวหนังสือส่วนนี้เหมือนจะไม่ใช่การบ่มเพาะ ! ”
หยางเฉินเห็นตัวหนังสือบนจี้ ตัวหนังสือเหล่านี้ไม่ใช่เนื้อหาของทักษะแน่ๆ มันได้เขียนเอาไว้ว่า
‘การชำระร่างกายด้วยยา ด้วยผลของการชำระล้างร่างกาย, กล้ามเนื้อและเส้นเลือดจะทำให้ดูดซับปราณได้เร็วขึ้น.... ’
“ เร่งความเร็วในการดูดซับปราณรึ ? ” หยางเฉินเบิกตากว้าง หากเขาไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า งั้นเขาจะไปเชื่ออะไรได้อีก ?
หยางเฉินกดความตื่นเต้นในใจและแสดงสีหน้าขมขื่นออกมา “ การจะรวบรวมสมนไพรได้ต้องใช้เงินอย่างน้อย 100,000 เหรียญปราณ คนที่รวยที่สุดในเมืองก็มีเงินไม่กี่ล้านเองไม่ใช่รึ ?”
เหรียญปราณเป็นค่าเงินของที่ราบกลาง มันคล้ายกับเหรียญทองแต่เป็นสีเงินขาว
“ แม้ว่าเตานี่จะปรุงยาขึ้นมาได้เองแต่วัตถุดิบในการปรุงยาก็ต้องใช้เงินอย่างน้อยหลายหมื่นเหรียญปราณ นี่มันเตาผลาญเงินชัดๆ ! ” หยางเฉินมองไปที่เตาด้วยสายตาราวกับโกรธแค้นมาแต่ชาติปางก่อน เขาแทบอยากจะทุบมันทิ้ง
พูดโดยทั่วไปแล้วการปรุงยานั้นต้องทำโดยนักปรุงยาแต่เตาปรุงยาราชาอมตะนี้สามารถปรุงยาขึ้นมาได้เองแต่เงินที่ใช้ก็สูงเช่นกัน มันต้องใช้เงินจำนวนมากและใส่สมุนไพรเข้าไปในเตา เขาไม่จำเป็นต้องทำอะไร เตาก็จะปรุงยาออกมาได้เอง
แม้ว่าจะมีบันทึกในเตาปรุงยาราชาอมตะบอกไว้ว่า นอกจากยาที่มีในบันทึกภายในเตาแล้ว ยาอื่นๆนั้นไม่อาจจะปรุงขึ้นมาได้ เมื่อปรุงมันขึ้นมา ยาจะระเบิดออก แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นหากคนอื่นรู้ว่า หยางเฉินมีเตานี้ในมือ งั้นมันก็ต้องมีการไล่ล่าเขาขึ้นมาแน่ๆ !
“ เฮ้อ เตาปรุงยานี่เป็นสมบัติก็จริง แต่ข้ากลัวว่าเมื่อคนอื่นรู้เรื่องนี้เข้าคงคิดจะแย่งชิงมันแน่ เมื่อมันตกอยู่ในมือคนจนแบบข้า มันก็เป็นได้แค่เตาที่ไร้ค่า ” หยางเฉิน ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
“ การขโมยก็เป็นทางเลือกหนึ่งแต่ข้าไม่อาจจะทำสำเร็จทุกครั้งไม่ใช่รึ ? ด้วยความแข็งแกร่งของข้าแล้ว แค่เด็กน้อยก็อัดข้าจนปางตายได้แล้ว ”
“ ช้าก่อน ข้านี่โง่จริงๆ ! ” หยางเฉิน ตบหัวตัวเอง
“ มันมีสมุนไพรมากมายในบ้านของชายแก่ บางทีมันอาจจะมีประโยชน์ ”
หยางเฉิน มองไปยังมิติที่รายล้อมไปด้วยหมอกแล้วยิ้มออกมาอย่างชมขื่น “ แล้วข้าจะออกจากที่นี่ยังไง ? ”
เขาเพิ่งคิดหาวิธีออกจากที่นี่ ก็มีแรงดูดอันรุนแรงโผล่มาจากท้องฟ้าดูดเขาขึ้นไป ในพริบตาเขาก็ได้กลับออกมาที่ห้องยา ก้นของเขากระแทกกับพื้นอย่างแรงจนทำให้เขาร้องออกมา ข้างกายเขามีจี้ตกอยู่ข้างๆ
หยางเฉินลูบก้นตัวเองแล้วมองไปยังศพที่อยู่ข้างๆ “ ปล่อยให้ปู่จัดการดีกว่า ข้าต้องรีบขโมยสมุนไพรก่อน ”
หยางเฉินพลิกฝ่ามือ แหวนมิติที่ชายที่ตายไปให้มานั้นโผล่มาในมือเขา เมื่อมองไปที่แหวนนี้หยางเฉิน พึมพำออกมา
“ ตามที่ตำราบอกมา ตราบใดที่ผูกมัดด้วยเลือด งั้นก็จะควบคุมแหวนมิติได้ ”
หยางเฉิน กัดนิ้วแล้วหยดเลือดลงไปบนแหวน ตอนนั้นเองหยางเฉินก็เห็นมิติภายในแหวน มิติไม่ได้ใหญ่นัก มันสูงและกว้างแค่ 4-5 ม. มันไม่ได้มีอะไรอื่นอยู่อีก มันทำให้หยางเฉิน ทบจะสบถออกมา
เมื่อมองไปยังเตาตรงหน้า หยางเฉิน ก็ทำการควบคุมแหวนก่อนจะมีแรงที่มองไม่เห็นเกิดขึ้นจากแหวนรวมถึงตัวเตาด้วย
หยางเฉินใส่แหวนและมองไปที่เตาสีดำบนพื้นแล้วพึมพำออกมา “ จี้เตานี่ หยางเฉินใส่มาตั้งแต่เด็ก มันคือเตาปรุงยาราชาอมตะรึไง ? เหตุใดมันถึงเป็นสีดำ ? ข้าโดนมันสูบเข้าไปเมื่อตะกี้ รึว่าเตานี่จะใช้เก็บของได้ด้วย ?”
หยางเฉิน ยกเตาขึ้นมาดูและเพ่งสมาธิพยายามลองควบคุมเตาแต่เตานั้นกลับไม่ตอบสนองแม้แต่น้อย
“ ไม่ตอบสนองเลยรึ ? ” หยางเฉินลูบจมูกแล้วถอนหายใจออกมา “ หากเป็นเช่นนี้ข้าคงไม่อาจจะเข้าไปด้านในอีกได้ แล้วมีอะไรอยู่ด้านหลังประตูหินกัน ? ช่างเถอะ หากไม่อาจจะเข้าไปด้านในได้ก็ช่างมัน...”
หยางเฉินส่ายหน้าไม่คิดว่ามีอะไรอยู่ด้านหลังประตูหินอีก เขาทำการใส่สร้อยกลับไปที่คอแล้วลุกขึ้นยืนก่อนจะมองไปยังสมุนไพรรอบตัว ตาเขาเป็นประกายขึ้นมา เขาเลียปากก่อนจะทำการเก็บสมุนไพรทั้งหมด...
“ เฮ้อ สมกับเป็นไอ้แก่ขี้เมา เขามีแต่สมุนไพรทั่วไปที่หาได้ง่ายในแถบนี้ ” หยางเฉิน เริ่มด่าชายแก่อีกครั้ง
“ จนจริงๆ ! ทำไมถึงไม่หาสมุนไพรที่มีค่ากว่านี้มา ?”
“ ไม่สิ ข้าเกือบลืมไปเลย กั้วติงยังรอข้าปรุงยาให้อยู่ ! ” หยางเฉิน รีบเก็บสมุนไพรก่อนจะวิ่งออกมาจากบ้าน
ที่ที่กั้วติงและคนอื่นๆอยู่นั้นคือบ้านของชายแก่ มันคือที่ที่หยางเฉิน, ซงเทียนเอ๋อ และ กั้วติงอยู่มาตั้งแต่เด็ก ทั้งสามโตกันมาจากที่นี่ มันมีความทรงจำในวัยเด็กของพวกเขา แน่นอนว่าไม่นับรวมถึงชีวิตในวัยเด็กของหยางเฉินในดาวโลก
ตอนเขายังเป็นเด็ก เขาโดนชายแก่ขี้เมารับเลี้ยงมา ชื่อของเขานี้ชายแก่เป็นคนตั้งให้ เมื่อเก็บกั้วติง และซงเทียนเอ๋อมาเลี้ยง เพื่อจะไม่ต้องสับสน ดังนั้นทั้งสามจึงมีชื่อของตัวเอง
ตอนที่กลับมาที่บ้าน หยางเฉินก็รีบวิ่งเข้าไปพร้อมกับตะโกนขึ้นในใจ ‘ รอก่อนเถอะ เชินเจินเซียว สิ่งที่เจ้าทำไว้กับ หยางเฉิน หยางเฉินคนนี้ จะเอาคืนเป็นสิบเท่า ! ’
ในบ้านของชายแก่ขี้เมา หยางเฉินได้เดินเข้าไปในห้องช้าๆ
“ กั้วติง ยามาแล้ว ” เมื่อเห็นซงเทียนเอ๋อ และเว่ยหยานหลาน หยางเฉินก็ยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้น “ ร่างกายของกั้วติงน่ะแข็งแรง หากพวกเจ้าอยากอยู่ดูก็อยู่ในห้องนี่แหละ ”
เว่ยหยานหลาน และซงเทียนเอ๋อหน้าแดงขึ้นมาทันที พวกนางมองไปที่ หยางเฉินแล้วรีบเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้เหลือแต่ กั้วติงและ หยางเฉินในห้อง
“ หัวหน้า เจ้าขโมยสมุนไพรของเขาอีกแล้วรึ ? ” กั้วติง ค่อยๆลุกขึ้นนั่งแล้วมองมาที่ หยางเฉิน
“เขามีสมุนไพรเก็บไว้ตั้งเยอะ ข้าแค่เอามาเล็กๆน้อยๆ อย่าพูดว่าขโมยสิ มันฟังดูไม่ดี ! ” หยางเฉิน นั่งลงบนเตียงแล้วยิ้มออกมา “ ข้าแค่เป็นห่วงเรื่องอาการบาดเจ็บของเจ้า ”
“ หัวหน้าหากเราบ่มเพาะได้ งั้นเราก็ไม่ต้องกลัวเชินเจียนเซียว ! ” กั้วติง ถอนหายใจและเผยสีหน้าสลดออกมา
“ กั้วติง เมื่อเจ้าฟื้นจากอาการบาดเจ็บ ข้าจะทำให้เจ้าแปลกใจเอง ” หยางเฉินยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มลึกลับ เขาตั้งใจจะให้ กั้วติงหายดีก่อนแล้วค่อยบอกเรื่องจี้กับ กั้วติง
“ เรื่องแปลกใจรึ ? ” กั้วติง มองไปที่ หยางเฉินด้วยสีหน้าอึ้ง “ หัวหน้า เรื่องแปลกใจอะไร ? ”
“ หากข้าบอกเจ้าไปตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใจสิ หากเจ้าอยากให้ข้าบอกเจ้า งั้นเจ้าก็รีบหายดีซะ ” ตอนที่พูดนั้น หยางเฉิน ก็ได้ถอดเสื้อ กั้วติงออกแล้วใช้ผงยาทาไปตามตัว กั้วติง ความเย็นแผ่ซ่านไปทั่วตัว กั้วติงในทันที
“ ท่านพี่ พ่อกลับมาแล้ว ! ” เสียงของซงเทียนเอ๋อ ดังขึ้นมาจากด้านนอกห้อง ซงเทียนเอ๋อนั้นต่างจาก หยางเฉิน และกั้วติง นางเรียกชายแก่ว่า ‘ พ่อ ’
“ เดาว่าคงเมามาอีกแล้ว 365 วันเขาเมาอย่างน้อย 184 วัน วันที่เหลือเอาแต่นอน ” หยางเฉิน ถอนหายใจออกมา เขาได้ห่มผ้าให้กับ กั้วติงก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกมาจากห้อง
“ หัวหน้า หาอะไรให้พ่อกินด้วย ! ” ตอนที่หยางเฉินเดินออกมา เสียงของกั้วติงก็ดังตามมาจากด้านหลัง
หยางเฉิน ยกมือขึ้นแล้วโบกไปมา “ เข้าใจแล้ว ” เขาตอบกลับพร้อมเดินออกมาจากห้อง
ที่ด้านนอกห้องมีแค่เก้าอี้ตัวเดียว ซงเทียนเอ๋อและ เว่ยหยานหลานประคองชายแก่ ไปนั่งที่เก้าอี้ชายแก่คนนี้ดูสภาพไม่ต่างจากขอทานเลย เขาดูแก่อย่างมาก ในตอนหนุ่มเขาคงดูหล่อเหลาอย่างมากแต่ตอนนี้ถลับถูกปกปิดด้วยรอยเปื้อนบนใบหน้า ผมของเขาเต็มไปด้วยฝุ่น บวกกับชุดสีฟ้าที่ขาดแล้ว เขาดูเหมือนกับขอทานจริงๆ ! นี่คือไอ้แก่ขี้เมา !
“ พวกขยะ ดูพ่อเจ้าให้ดีๆ อย่าให้เขามาขโมยเหล้าอีกไม่งั้นข้าจะหักขาเขาซะ ! ” เสียงตะโกนด้วยความโกรธดังขึ้นมาจากด้านนอกบ้านพร้อมกับเสียงเท้าที่เดินจากไป
‘ หากหักขาเขา ชีวิตของเจ้าก็จะจบเข่นกัน ’ หยางเฉินฮึดฮัดในใจ เขารับปากกับหยางเฉินคนเดิมแล้วว่าจะดูแลชายแก่คนนี้ นี่ไม่ต้องพูถึงการที่เขาอยู่กับชายแก่คนนี้มากกว่า 9 ปีแล้ว เขาถือว่าชายแก่คนนี้เป็นญาติของเขา เขาไม่อาจจะปล่อยให้ใครทำร้ายญาติของเขาได้ !
....
หลังจากที่แบกชายแก่ไปนอนที่เตียง ฟ้าก็เริ่มมืดลง เว่ยหยานหลานก็ได้กลับไปบ้านของนาง
ในบ้านที่หยางเฉินและคนอื่นๆอยู่นั้น ซงเทียนเอ๋อและหยางเฉินนั่งอยู่ปลายเตียงของกั้วติง ทั้งกั้วติงและซงเทียนเอ๋อ พากันมองมาที่หยางเฉิน หยางเฉินถือห่อดำๆในมือซึ่งซงเทียนเอ๋อ และกั้วติงพบมันจากร่างของนักล่าอสูร
เพราะห่อนี่ทำให้กั้วติงโดน เชินเจียนเซียวและคนอื่นๆ อัด
นักล่าอสูรนั้นเป็นอาชีพระดับสูงแต่โอกาสเสียชีวิตก็สูงเช่นกันโอกาสทำเงินในอาชีพนี้สูงมาก มันมีหลายกองกำลังในเขตกลาง มันมีสัตว์อสูรและสมบัติหลายตัวรอพวกเขาอยู่ แต่สัตว์อสูรขอบเขตธุลีนั้นแกร่งอย่างมาก หากมีความแข็งแกร่งไม่เพียงพองั้นก็ไม่ควรที่จะเป็นนักล่าอสูร นักล่าอสูรที่ซงเทียนเอ๋อ และกั้วติงพบนั้น หากไม่ใช่เพราะอ่อนแอเกินไปเดาว่าคงโชคร้ายอย่างมากจนพบกับสัตว์อสูรขอบเขตธุลีที่แข็งแกร่งเข้าก่อนจะหนีมาที่ซูเซียนหลังจากที่บาดเจ็บหนัก