px

เรื่อง : ข้าจะเป็นราชาอมตะ (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี 3 วัน 1 ตอน
ตอนที่ 7 การเปลี่ยนแปลง


ตอนที่ 7  การเปลี่ยนแปลง


เสี่ยวหมิงได้พาหยางเฉินและคนอื่นๆออกมาจากโถงวรยุทธ หลังจากที่ออกมาจากโถงวรยุทธแล้ว หยางเฉินก็ได้เผยรอยยิ้มใสซื่อออกมา “ ลอร์ดเสี่ยวหมิง เราค่อยไปวันหลังได้รึไม่ ? ”


“ วันหลังรึ ? ” สายตาของเสี่ยวหมิง แสดงความเย็นชาออกมา “ หัวหน้ารอพวกเจ้าอยู่ หากพวกเจ้าไม่อยากตาย พวกเจ้าควรจะตามข้ามาจะดีกว่า ”


‘ พวกนี้ไม่ใช่คนดีแน่ หากออกจากที่นี่ไป ดูเหมือนว่าหน้ากากของเขาจะหลุดออกทันที ตอนนั้นข้าจะทำยังไง ? ’

ด้วยจิตใจที่แข็งแกร่งก็ทำให้หยางเฉินไม่ได้รู้สึกกังวลมากนัก เขายิ้มออกมาและพูดขึ้น “ ลอร์ดเสี่ยวหมิง  ข้าแค่พูดเล่น ”

เว่ยหยานหลานและซงเทียนเอ๋อเห็นสีหน้าของ เสี่ยวหมิง ก็พากันมองหน้ากันและรู้สึกอึดอัดใจขึ้นมา


‘ บัดซบ หากหนีไปตอนนี้เขาอาจจะไปหาเรื่อง กั้วติงและไอ้แก่ขี้เมา ดูเหมือนว่าตอนนี้เราได้แต่ต้องไปกับเขาก่อน ’ หยางเฉิน ตามเสี่ยวหมิงไปแต่ในหัวของเขานั้นคิดหาวิธีเอาตัวรอดจากอันตรายนี้อยู่


เว่ยหยานหลานและซงเทียนเอ๋อไม่รู้ว่าหยางเฉินคิดอะไร พวกนางไม่รู้เลยว่าหยางเฉินนั้นสงสัยว่าเสี่ยวหมิงมาที่นี่ก็น่าจะเป็นเพราะห่อที่พวกเขาเจอเมื่อวานนี้   เสี่ยวหมิงได้ออกจากเมืองซูเซียนพร้อมกับหยางเฉินและสาวๆทั้งสอง ตรงไปยังป่า เมื่อเดินลัดเลาะป่ามาพวกเขาก็มาถึงเมืองลั่วเซีย


“ สาวน้อย เมื่อวานเจ้าไปที่ส่วนนอกภูเขาวูชานมารึไม่ ? ” เสี่ยวหมิง เผยรอยยิ้มออกมาและมองมาที่ซงเทียนเอ๋อ และเว่ยหยานหลาน


“ ส่วนนอกภูเขาวูชานรึ ? ” เว่ยหยานหลานและซงเทียนเอ๋อ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที สุดท้ายพวกนางก็เข้าใจแล้วว่าตะกี้เหตุใดพวกนางถึงรู้สึกอึดอัดใจ ชายคนนี้มาเพราะห่อที่พวกเขาเก็บได้จริงๆ


‘ จริงๆด้วย ’ สีหน้าของหยางเฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย  เสี่ยวหมิงนี่อยู่ขอบเขตธุลี ทั้งสามคนไม่อาจจะรับมือไหว  มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นคู่ต่อสู้กับอีกฝ่ายได้
ตอนที่เว่ยหยานหลาน และซงเทียนเอ๋อยังไม่ทันได้ตอบกลับ  หยางเฉินกลับหัวเราะออกมา “ ลอร์ดเสี่ยวหมิง เราไปที่ส่วนนอกภูเขาวูชานมาจริงๆ ”


เมื่อได้ยินคำตอบของหยางเฉิน เว่ยหยานหลานและซงเทียนเอ๋อก็พากันเครียดขึ้นมาทันที พวกนางต่างก็พากันประหลาดใจว่าทำไม หยางเฉิน ถึงได้ตอบเช่นนี้  ?


“ น้องชาย ดูสภาพเจ้าแล้วข้าก็รู้ว่าเจ้าเป็นเด็กที่ซื่อสัตย์  ข้ามั่นใจว่าข้ามองไม่ผิด ”  เสี่ยวหมิงยิ้มออกมาดูเหมือนว่าเขาจะพอใจกับคำตอบของหยางเฉิน เหตุผลว่าทำไมเขานำหยางเฉินมาด้วยก็เพราะเขาได้ตรวจสอบมาแล้วว่าในเมื่อวานคนในเมืองซูเซียนที่ไปยังส่วนอกภูเขาวูชานมีแค่หยางเฉินและสาวๆเหล่านี้


เขามาเพราะห่อนั่นจริงๆ สำหรับเรื่องการรับศิษย์แล้วเขาแค่แต่งเรื่องขึ้นมา เขาคิดถูกว่าไม่มีใครคิดสงสัยเรื่องนี้
ไม่กี่วันก่อนพวกเขาได้ทำการล้อมทีมนักล่าอสูรเอาไว้เพื่อจะแย่งห่อนั่นมาแต่โชคคร้ายที่แม้ว่าจะเอาชนะกลุ่มนักล่าอสูรพวกนั้นได้แต่ก็มีคนหนึ่งที่หนีไปได้พร้อมกับห่อนั่น ดังนั้นพวกเขาจึงทำการค้นหาทั่วทั้งภูเขาแต่สุดท้ายก็พบแต่ศพ ห่อนั้นได้หายไปแล้ว


‘หือ ? หากข้าเป็นคนซื่อสัตย์ งั้นคนในโลกนี้ก็เป็นคนซื่อสัตย์กันทั้งโลกแล้ว ’ หยางเฉินพึมพำในใจก่อนจะยิ้มออกมา “ ลอร์ดเสี่ยวหมิง ตอนที่เราไปยังส่วนนอกภูเขาวูชานเมื่อวานนี้ เราพบคนสามคนจากเมืองชีหยานที่เหมือนจะเก็บบางอย่างจากนักล่าอสูรที่บาดเจ็บไป ”


พูดไปแล้วหยางเฉินก็คิ้วขมวด เขาทำท่าคิดสักพักแล้วพูดขึ้นมา “สำหรับว่ามันคืออะไรนั้น ข้ามองไม่ชัด ”


“ คนจากเมืองชีหยานรึ ? ”  เสี่ยวหมิง แสดงสายตาไม่พอใจออกมา


เมื่อเห็นท่าทีอาฆาตของเสี่ยวหมิง หยางเฉินก็แอบดีใจ ‘ เชินเจียนเซียว หลิวหยู นี่เป็นโอกาสหายาก ข้าต้องคว้ามันเอาไว้ไม่อาจจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ ’


เมื่อเว่ยหยานหลานและซงเทียนเอ๋อ ได้ยินคำพูดของหยางเฉิน  พวกนางก็แอบดีใจใครกันที่บอกให้พวกนั้นมาหาเรื่อง หยางเฉินพวกนั้นสมควรโดนแล้ว !


“ น้องชาย งั้นเจ้าควรไปกับข้ายังเมืองชีหยาน ”  เสี่ยวหมิง ยิ้มออกมาและมองไปที่ หยางเฉิน


“ ลอร์ดเสี่ยวหมิง เราไม่ได้ไปพบกับหัวหน้าท่านรึ ? ทำไมเราต้องไปยังเมืองชีหยานกัน ? ”  หยางเฉิน เกาหัวและแสดงสีหน้าสับสนออกมา เขาสมกับเป็นนักต้มตุ๋นจริงๆ


เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฉิน  เสี่ยวหมิงก็กลัวขึ้นมา เขาบอกว่าจะพาหยางเฉินกับคนอื่นๆไปยังเมืองลั่วเซียเพื่อพบกับหัวหน้า ตอนนี้เขากลับเปลี่ยนเป้าหมายซึ่งนั่นก็ต้องทำให้หยางเฉินกับคนอื่นๆสงสัย  เขาคิดสักพักแล้วพูดขึ้นมา “ น้องชาย ข้าเพิ่งนึกออกว่าหัวหน้านั้นจะเดินทางไปยังเมืองชีหยานในไม่ช้า หากเรารีบไปตอนนี้ เราอาจจะได้พบกับหัวหน้าที่นั่น ”


เขากังวลว่าหยางเฉินจะหลอกเขา ดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะปล่อยให้หยางเฉินกับคนอื่นๆไป


‘ คำโกหกง่อยๆแบบนี้เจ้าคิดว่าข้าเป็นเด็ก 3 ขวบรึไง ! ’ หยางเฉิน แอบสบถในใจ  หยางเฉินตบหัวตัวเองแล้วพูดขึ้นมา “ ข้าจำได้ว่านักล่าอสูรที่บาดเจ็บนั้นโดนชิงห่อบางอย่างไป ”


“ ใช่ ใช่ น้องชาย เขามีห่อบางอย่างกับตัวด้วย  มันคือของที่เขาแย่งมาจากหน่วยล่าอสูรของเรา เราต้องเอามันคืน ”  เสี่ยวหมิง แสดงท่าทีตื่นเต้นออกมาและจับมือ หยางเฉิน เอาไว้


‘เจ้าโง่ เจ้าจะทำมือข้าหัก ’ หยางเฉิน สบถในใจแต่เขาไม่กล้าด่าออกมา


เว่ยหยานหลานและซงเทียนเอ๋อ รู้ว่าหยางเฉินนั้นพึ่งได้แน่ๆ ดังนั้นจึงไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่น้อยเพราะกลัวว่าจะทำลายแผนของหยางเฉิน


“ ถูกแล้ว ลอร์ดเสี่ยวหมิงนักล่าอสูรบอกว่าของห่อนั่นเป็นของหน่วยล่าอสูร ”  หยางเฉิน ถอนหายใจออกมา “ หลังจากที่คนจากเมืองชีหยานได้ยินเรื่องนี้ พวกนั้นไม่ใช่แค่ไม่ช่วยเขาแต่ยังฆ่าเขาก่อนจะชิงห่อนั่นไป เราซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลนักและเห็นสิ่งที่พวกนั้นทำ พวกนั้นช่างชั่วร้ายจริงๆ ”


“ เขาบอกจริงๆรึว่าห่อนั่นเป็นของหน่วยล่าอสูร ?” สีหน้าของ เสี่ยวหมิง เปลี่ยนไปทันที เขาหรี่ตาลงและมองมาที่ หยางเฉิน

“ เจ้าได้ยินเขาพูดแบบนั้นจริงๆรึ ?”


‘ อะไรกัน เจ้าบอกเองไม่ใช่รึว่าห่อนั่นเป็นของหน่วยล่าอสูร ? ข้าพูดผิดไปงั้นรึ ? ’ หยางเฉิน ใจสั่น  

“ ไม่ ชายคนหนึ่งบอกว่าของนี่เขาชิงมาจากหน่วยล่าอสูรแต่คนที่พูดนั้นไม่ใช่นักล่าอสูรที่บาดเจ็บ บางทีนักล่าอสูรอาจจะโดนพวกนั้นจัดการเอา สุดท้ายพวกนั้นก็พูดโอ้อวดก็ได้ ”


“ เด็กน้อย เจ้ามั่นใจรึว่าเขาบอกว่าห่อนั่นเป็นของหน่วยล่าอสูรจริงๆ ? ”  เสี่ยวหมิง มองไปที่ หยางเฉิน ด้วยสายตาเย็นชา ปราณอันน่ากลัวได้แผ่ออกมาจากตัวเขา


“ ฮาฮา...” หยางเฉินหัวเราะออกมาและพากันก้าวถอยกลับเพื่อถอยห่างจาก เสี่ยวหมิง


“ เด็กน้อย เจ้าหัวเราะอะไรกัน ?” เสี่ยวหมิง สับสนขึ้นมาทันที


เว่ยหยานหลานและซงเทียนเอ๋อพากันยักคิ้ว พวกนางเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใด หยางเฉิน ถึงได้หัวเราะออกมา


“ ลอร์ดเสี่ยวหมิง แน่นอนว่าข้าหัวเราะนักล่าอสูรนั่น เขาอ้างชื่อหน่วยล่าอสูรของท่านเพื่อขู่ผู้คน คนอื่นๆกลับฆ่าเขาตาย มันแสดงให้เห็นว่าคนกลุ่มนั้นไม่ไว้หน้ากลุ่มของท่านเลยแม้แต่น้อย ! ”  หลังของหยางเฉินชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขาไม่รู้ว่าเขาจะหลอก เสี่ยวหมิง ได้รึไม่


‘ ใช่สิ เขาต้องตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ ดังนั้นเขาจึงอ้างชื่อกลุ่มของเราเพื่อขู่ผู้คน ดูเหมือนว่าเด็กนี่จะไม่ได้โกหก ’

เสี่ยวหมิง ถอนหายใจออกมา  ‘หากเป็นเช่นนั้นจริง งั้นคนจากเมืองชีหยานก็ไม่คิดไว้หน้าหน่วยล่าอสูรของเราจริงๆ ’


‘ ไม่ ข้าไม่ได้บอกว่าชายคนนั้นมาจากหน่วยล่าอสูร เด็กนี่พูดขึ้นมาเอง มันขัดกับความจริง ’

 เสี่ยวหมิง มองไปที่ หยางเฉิน แล้วยิ้มออกมา “ เด็กน้อย ทั้งๆที่ยังเด็กแต่เจ้าก็ยังเจ้าเล่ห์ถึงเพียงนี้ หากข้าเข้าใจไม่ผิด ห่อนั่นคงอยู่กับเจ้าสินะ ? ”


หยางเฉิน อึ้งแต่ยังแสดงท่าทีเยือกเย็นออกมา เขาพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “ ลอร์ดเสี่ยวหมิง ข้าไม่เข้าใจว่าท่านพูดถึงอะไร”


“ จิ้งจอกน้อย เจ้ายังกล้าเสแสร้งอีกรึ ! “ เสี่ยวหมิงพุ่งหาหยางเฉิน  การโจมตีของเขาค่อนข้างรวดเร็ว ด้วยความแข็งแกร่งของ หยางเฉินแล้ว  หยางเฉินไม่มีโอกาสแม้แต่จะหลบ


“ พี่เฉิน ! “


“ ท่านพี่ ! “


เว่ยหยานหลานและซงเทียนเอ๋อ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที พวกนางบิดเอวแล้วพุ่งออกมาต่อยเข้าใส่ที่หัวเสี่ยวหมิง ตามคำพูดที่บอกกันมา มีเรื่องกับโจรดีกว่ามีเรื่องกับผู้หญิง แน่อนว่าสองสาวนี้ลงมือสุดกำลังและเล็งไปที่จุดสำคัญ


“ สาวน้อยอย่างพวกเจ้าไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ! ”  เสี่ยวหมิง แผ่พลังออกมากระจายไปทั่วทุกด้าน พลังนั้นได้ชนกับเข้าสาวน้อยทั้งสองก่อนที่ทั้งสองจะกระเด็นออกไปกองกับพื้น


ขอบเขตธุลีนั้นเหนือกว่าขอบเขตกำลังภายใน เว่ยหยานหลานและซงเทียนเอ๋อ ไม่อาจจะเป็นคู่มือของเสี่ยวหมิงได้แม้แต่น้อย  ยิ่งกว่านั้น เสี่ยวหมิง ก็ยังไม่ได้ใช้ทักษะใดๆ หากเขาใช้ทักษะจริงๆ งั้นทั้งสองก็ยิ่งไม่อาจจะรับมือได้


“ บังอาจ ! ”  เมื่อเห็น เว่ยหยานหลานและซงเทียนเอ๋อบาดเจ็บ สีหน้าของหยางเฉินก็เปลี่ยนไปทันทีแต่เขาก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ ตอนนั้นมือของ เสี่ยวหมิง ได้บีบคอเขาเอาไว้แล้ว


“ ไอ้เด็กตัวเหม็น ข้าเกือบโดนเจ้าหลอก บอกมา ! ห่อนั่นอยู่ไหน ? ”  เสี่ยวหมิง มองไปที่ หยางเฉิน ด้วยสายตาเย็นชา แรงในมือเพิ่มขึ้นจนทำให้ หยางเฉิน หน้าแดงขึ้นมา


หยางเฉิน ยกมือขึ้นและชี้ไปที่คอราวกับจะสื่อว่า บัดซบ ข้าพูดไม่ได้ !


“ ไอ้เด็กตัวเหม็น อย่าคิดหลอกข้าอีก ! ”  เสี่ยวหมิง ค่อยๆคลายมือออก ตอนที่เขาคลายมือออกนั้น หยางเฉินกลับเตะเข้าที่เป้าของเขา !


อ๊าก ! มันไม่ใช่ เสี่ยวหมิง ที่กรีดร้องออกมาแต่กลับเป็นหยางเฉินที่ร่วงลงไปที่พื้นแล้วกุมเท้าตัวเองด้วยความเจ็บปวด ‘พระเจ้า เป้ามันแข็งจัง มันยังเป็นคนอยู่รึไม่ ? ’


“ ไอ้เด็กตัวเหม็น หากไม่ใช่เพราะข้าปราณี ปราณที่ข้าปล่อยออกมาตะกี้คงหักเท้าเจ้าไปแล้ว “ เสี่ยวหมิง นั่งลงไปตบหน้า หยางเฉิน แล้วพูดขึ้นมา


“ อย่าทำร้าย พี่เฉิน ! ”  เสียงของเว่ยหยานหลานดังขึ้นมาจากด้านหลัง


“ สาวน้อย เหมือนว่าเจ้าจะเบื่อชีวิตแล้ว ! ”  เสี่ยวหมิง ไม่ได้สนใจเว่ยหยานหลานแม้แต่น้อย เขาได้บีบคอหยางเฉินอีกรอบ
ตอนนั้นหยางเฉินแทบจะหายใจไม่ออกแต่เขากลับรู้สึกว่าที่คิ้วของเขาร้อนขึ้นมาพร้อมกับแสงสีดำที่ส่องประกายออกมา คลื่นพลังของเขากลับแกร่งขึ้น มันเกือบจะทัดเทียมกับพลังของ เสี่ยวหมิง ได้


“ เจ้าบังคับข้าเองนะ ! ”  ตอนที่เสี่ยวหมิงรู้สึกว่าคลื่นพลังของหยางเฉินนั้นแกร่งขึ้น  เสียงของเว่ยหยานหลานก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง


ด้วยสัญชาตญาณจากการรับรู้ได้ถึงอันตราย เสี่ยวหมิงก็ไม่ได้สนใจคลื่นพลังที่เปลี่ยนไปของหยางเฉิน เขาลุกขึ้นและหันกลับไปก่อนจะพบว่าที่มือของเว่ยหยานหลาน นั้นมีแสงสีทองส่องประกายออกมา แสงสีทองนี้บิดตัวไปมาและพุ่งเข้ามาหาเขา !


เสี่ยวหมิง รับรู้ได้ถึงอันตรายที่ถึงแก่ชีวิต เขาหรี่ตาลง เขาแทบไม่มีเวลาให้คิดและรีบถอยกลับ มือของเขาได้สะบัดไปมาก่อนจะมีโล่สีฟ้าโผล่มาตรงหน้าเขา


โล่ขั้นต้น !


แต่เขาก็ต้องผิดหวัง โล่ที่มีพลังป้องกันสูงที่สุดสำหรับขอบเขตธุลีที่เขาได้เสียเงินจำนวนมากซื้อมันมากลับพังทลายได้ง่ายๆโดยแสงสีทองนี้ แสงที่กระจายโดยรอบนั้นทำให้อุณหภูมิรอบตัวเพิ่มขึ้น ตอนนั้นเองแม้แต่ต้นหญ้าโดยรอบก็กลายเป็นสีเหลืองอย่างรวดเร็ว


ตอนนั้นหยางเฉินกลับต้องอึ้ง แสงสีทองนี้ได้พุ่งทะลุอกของเสี่ยวหมิงไป พลังของมันลดลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพลังของมันได้อ่อนแอลงเมื่อพุ่งไปได้กว่า 100 ม.


ปัง ! ร่างของ เสี่ยวหมิง ได้หล่นกระแทกพื้นอย่างแรง เขากลับโดนฆ่าในทันที





 

รีวิวผู้อ่าน