px

เรื่อง : ข้าจะเป็นราชาอมตะ (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี 3 วัน 1 ตอน
ตอนที่ 8 : ใบหน้า


ตอนที่ 8 : ใบหน้า


เสี่ยวหมิงนอนกองกับพื้น  ตาของเขาเบิกกว้าง เขาตกตะลึงที่ถูกสาวน้อยขอบเขตกำลังภายในฆ่า มันเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน ? เดาว่านี่อาจจะเป็นความคิดก่อนที่เขาจะตายไป


“ โชคดีที่เขาอยู่ขอบเขตธุลีขั้น 6 ไม่งั้นแล้ว ข้าคงไม่อาจจะช่วยพี่เฉินได้ ”  ใบหน้าของเว่ยหยานหลานซีดอย่างมากนางมองมาที่หยางเฉินแล้วยิ้มออกมา 

“ พี่เฉินหลานเอ๋อจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเจ้า ”


 ‘ เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าข้าเป็นเหมือนเด็กน้อยที่ได้แต่รอความตาย ? ’ หยางเฉินรู้สึกขมขื่นในใจ แต่เขานั้นขอบคุณเว่ยหยานหลานจริงๆ เขาไม่ได้ถามว่าเหตุใดเว่ยหยานหลานถึงได้แกร่งแบบนี้ สาวน้อยคนนี้นั้นลึกลับอยู่แล้ว


ยิ่งกว่านั้นหยางเฉินไม่อยากบังคับนาง หากเว่ยหยานหลานคิดจะบอกความลับออกมางั้นไม่นานนางก็จะบอกเขาเอง แต่เขารู้สึกตะลึงในใจ การฆ่าผู้บ่มเพาะขอบเขตธุลีได้ด้วยระดับการบ่มเพาะขอบเขตกำลังภายในขั้น 9 นั้น  หากเขาพูดเรื่องนี้ไปงั้นคนอื่นคงหาว่าเขาเป็นบ้า


ซงเทียนเอ๋อเห็นว่าหยางเฉินไม่เป็นอะไรก็ได้เผยรอยยิ้มออกมา นางเองก็ไม่ได้ถามว่าเหตุใดเว่ยหยานหลานถึงได้แกร่งแบบนี้ได้นางเองก็คิดแบบเดียวกับหยางเฉิน


 ‘ โชคดีที่ไม่มีคดีฆาตกรรมในโลกนี้ไม่งั้นแล้วคงยุ่งยากแน่ๆ ’  หยางเฉินเดินไปข้างกายเสี่ยวหมิงแล้วเผยรอยยิ้มออกมา ”

‘ ข้าไม่ได้จัดการได้ง่ายๆ เจ้าเป็นถึงนักล่าอสูรเจ้าคงไม่ได้จนเหมือนเจ้าแก่ขี้เมาหรอกนะ ? ’


หยางเฉินหัวเราะออกมาพร้อมกับเอามือไปค้นตามตัวเสี่ยวหมิง  เสี่ยวหมิงไม่ได้มีแหวนมิติ ของนั้นเขาน่าจะเก็บไว้กับตัว
“ บัตรปราณ! ”  หยางเฉินเอาบัตรสีดำออกมาจากร่างเสี่ยวหมิง  สีของมันเป็นสีดำ บ่งบอกว่าบัตรนี่เป็นบัตรเก็บเงิน บนบัตรบ่งบอกว่ามันเป็นบัตรของตึกเถีย


 ‘ พระเจ้ามีเงินด้านใน 30,000 เหรียญ ! ’ เมื่อเห็นตัวเลขบนบัตรหยางเฉินก็เลียปาก  สุดท้ายเขาก็มีเงินสักทีตอนนี้เขาสามารถทำการกลั่นและชำระล้างร่างกายด้วยยาได้สักที


“ พี่เฉินเจ้าอย่าเพิ่งดีใจไป เราจะทำยังไงกับศพของเสี่ยวหมิงดี ? ” ซงเทียนเอ๋อและเว่ยหยานหลานเดินมาข้างกายหยางเฉินก่อนที่ซงเทียนเอ๋อจะพูดขึ้นเรียกสติหยางเฉิน


“ ทุกคนในเมืองซูเซียนต่างก็รู้ว่าเราออกมากับเสี่ยวหมิง แต่พวกนั้นไม่คิดแน่ ว่าเป็นเราที่ฆ่าเสี่ยวหมิง ”  หยางเฉินถอนหายใจออกมา  

“ เราต้องฝังร่างของเขาก่อนแล้วค่อยเดินทางกลับหากมีใครถามเราจะบอกว่าเสี่ยวหมิงมีเรื่องด่วนต้องไปจัดการสำหรับว่าเขาไปไหนนั้นเราไม่รู้ ”


เว่ยหยานหลานและซงเทียนเอ๋อพากันพยักหน้าตอบรับ


“ หลานเอ๋อ เทียนเอ๋อพวกเจ้ารอที่นี่ ข้าจะฝังศพเขาแล้วกลับมาหาพวกเจ้า ” หยางเฉินอุ้มศพเสี่ยวหมิงก่อนจะเดินเข้าไปในป่าลึกเขามีพลังเพียงพอที่จะทำลายหินเพชร 3 ก้อน มันง่ายที่จะอุ้มตัวคน เขาเองก็ถือว่ามีแรงเยอะพอตัวหากเป็นในโลกเดิมเขาคงไปเป็นนักมวยได้


เมื่อเข้ามาในส่วนลึกของป่า หยางเฉินก็ได้หาที่ลับตาคนแล้ววางร่างเสี่ยวหมิงลงไป จากนั้นเขาก็ได้ไปหากิ่งไม้เพื่อใช้ขุดพื้นตอนที่เขากำลังจะวางร่างเสี่ยวหมิงในหลุม เขาก็นึกบางอย่างออกก่อนจะวางร่างของเสี่ยวหมิงไว้กับพื้นอีกครั้ง


หยางเฉินหลับตาลงคิ้วของเขากลับร้อนขึ้นมาและมีแสงสีดำส่องประกายออกมาคลื่นพลังในตัวเขาเพิ่มขึ้นมาอีกรอบทัดเทียมกับคลื่นพลังของเสี่ยวหมิง


“ แน่นอนว่า ตราบใดที่ข้าเพ่งพลังจิตไว้ที่หว่างคิ้ว คลื่นพลังในตัวข้าจะแกร่งขึ้น ”  หยางเฉินลูบคิ้วตัวเองแล้วพึมพำออกมา  

“ หากข้าเข้าใจไม่ผิด ในกล่องดำนั่น ของที่พุ่งมายังหว่างคิ้วข้านั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมข้าถึงแกร่งขึ้นเช่นนี้ แต่มันคืออะไรกัน? ”


ไม่นานมานี้เขาโดนเสี่ยวหมิงบีบคอ คลื่นพลังในตัวเขาเพิ่มขึ้น สุดท้ายตอนนี้เขาก็เข้าใจแล้วเหตุผลมันคืออะไรแต่ไม่เข้าใจว่ามันมีอะไรอยู่ในหว่างคิ้วของเขา?


“ ช่างเถอะข้าคิดไม่ออกอยู่ดี ”  หยางเฉินหัวเราะออกมา  

 

“ แม้ว่ามันไม่อาจจะทำให้ข้าแกร่งขึ้นแต่ก็ทำให้ข้ามีคลื่นพลังขอบเขตธุลีได้หากข้านำห่อนั่นไปประมูลข้าเดาว่าคงไม่มีใครกล้าจะเข้ามายุ่งกับข้าไม่ใช่รึ? ”


เมื่อเห็นเสี่ยวหมิงที่ตายไปด้วยความตะลึง หยางเฉินก็ยิ้มออกมา  “ เพื่อนยากข้ายืมหน้าเจ้าไปใช้ก่อนยังไงซะ เจ้าก็ตายไปแล้วเจ้าคงไม่ถือสาข้าหรอกนะ? ”  ระหว่างที่พูดนั้นหยางเฉินก็ดึงมีดออกมาแล้วลอกหนังหน้าของเสี่ยวหมิงออกมา


หลังจากที่ลอกหนังหน้าของเสี่ยวหมิงออกมาได้แล้ว หยางเฉินก็ลูบจมูกแล้วพูดขึ้นมา “ ข้าสลับตัวตันไม่ใช่เรื่องแปลกองค์กรที่ข้าอยู่ในชีวิตที่แล้ว ชำนาญเรื่องนี้อยู่แล้วหลังจากที่ข้ากลับไปข้าก็สามารถใช้ตัวตนของเสี่ยวหมิงในการเข้าร่วมประมูลได้ ข้าไม่เชื่อว่าจะมีใครกล้าหักหน้าคนของหน่วยล่าอสูร ด้วยเงินที่หามาได้ข้าก็สามารถทำให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นได้ ”


หลังจากนั้นหยางเฉินก็ได้ถอดเสื้อผ้าเสี่ยวหมิงออกและฝังร่างของเสี่ยวหมิงจากนั้นเขาก็ได้กลับไปหาสาวน้อยทั้งสองแล้วเดินทางกลับไปที่เมือง คนในเมื่อพากันถามว่าเหตุใดทั้งสามถึงได้กลับมาหยางเฉินและสาวๆได้คิดคำตอบไว้รอแล้วและสามารถปกปิดเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี


เช้าวันต่อมามีฝนตกตั้งแต่เช้ามืดอากาศในเมืองนั้นสดชื่นอย่างมากหลังจากที่ฝนหยุด

 

ในส่วนที่คึกคักที่สุดในเมือง


ชายในชุดหนังสัตว์และรองเท้าหนังเขาเดินตัดตามท้องถนนไปมาทุกที่ที่เดินผ่านมักจะมีสายตาของสาวๆมองมาที่เขา เขายังคงพึมพำออกมาเบาๆ  “ เล็กไป...ใหญ่ไป.... ”


ด้วยการที่โดนนักล่าอสูรที่ดูแข็งแกร่งและทรงเสน่ห์มองมาสาวๆต่างก็พากันก้มหน้าด้วยความอาย ตาของพวกนางเป็นประกาย
“ สวยจริงๆแต่ก็สู้สองคนที่อยู่กับข้าไม่ได้ ”  เขาหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะไปหยุดที่หน้าประตูที่มีป้ายเขียนเอาไว้ เถีย


เถียคือหนึ่งในสองตึกการค้าในเมืองที่ร่ำรวยและมีอำนาจอย่างมากคนทั่วไปไม่กล้าจะมีเรื่องกับพวกนี้บอกได้ว่ากลุ่มเถียนี้มีร้านค้าย่อยมากมายมันเพียงพอแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกนี้มีอำนาจแค่ไหน


“ นายท่าน ท่านคิดจะขายอะไรกัน? ” เมื่อเห็นนักล่าอสูรเดินเข้ามาในร้านชายแก่ที่โต๊ะก็ได้ถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม


“ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้ามีของมาขาย ? ” ”นักล่าอสูรได้ถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม


“ ท่านเป็นนักล่าอสูร นักล่าอสูรที่มาที่นี่กว่า 9 ใน 10 มาเพื่อขายของ ”  ชายแก่ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม  

“ หากท่านไม่คิดจะขายของ ท่านก็มาที่นี่เพื่อให้เราจัดการประมูลให้  เราจะหักค่านายหน้า 1 ใน 20 ”


 ‘ ขี้ตืดจริงๆหักค่านายหน้าตั้ง 1ใน 20 ’ นักล่าอสูรบ่นในใจแต่สีหน้าเขาก็ยังยิ้มแย้มตามเดิม  

“ ข้ามีผลึกเลือดของอสูรขอบเขตทหาร ข้าไม่รู้ว่าจะนำมันไปประมูลได้เมื่อไหร่กัน ? ”


“ นายท่าน  ท่านคงจะเป็นสมาชิกของหน่วยล่าอสูรสินะ ? ”  ชายแก่มองไปที่ตราบนอกนักล่าอสูรมันสลักคำว่า ‘ ล่าอสูร’เอาไว้


“ ใช่เจ้ารู้ได้ยังไง ? ” นักล่าอสูรหัวเราะออกมา “ รึว่าคนของหน่วยล่าอสูรไม่อาจจะทำการประมูลที่นี่ได้ ? ”


“ แน่นอนว่าไม่ใช่ เช่นนั้นหากท่านเป็นสมาชิกของหน่วยล่าอสูรจริง ๆ เราจะลดค่านายหน้าให้ท่านต้องจ่ายแค่ 1 ใน 15 เท่านั้น ”  ชายแก่ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม


“ หือ? ”  นักล่าอสูรยิ้มรับ “ งั้นก็ใช่ข้ามาจากหน่วยล่าอสูรหากราคาของผลึกเลือดที่นำประมูลดูเข้าท่า ข้าอาจจะนำของอย่างอื่นมาประมูลด้วยเจ้าไม่มีทางผิดหวังแน่ ”


“ สบายใจได้ การบริการของเราดีกว่าตึกสมบัติแน่นอน ”  ชายแก่หัวเราะออกมาแม้แต่คำพูดทั่วไปก็ยังเป็นการด่าคู่แข่งไปด้วย


 ‘ ชายแก่คนนี้เจ้าเล่ห์จริงๆไม่ใช่แค่โฆษณาตัวเองแต่ยังลดความน่าเชื่อถือของคู่แข่งไปด้วย ’ นักล่าอสูรบ่นในใจก่อนจะถามขึ้นมา “ ข้าไม่รู้ว่าจะเริ่มประมูลได้เมื่อไหร่กัน ? ”


“ ท่านนำขึ้นประมูลตอนไหนก็ได้ ตราบใดที่กระจายข่าวเรื่องผลึกเลือดแล้ว มันจะมีคนเข้าร่วมประมูลอย่างแน่นอน ”  น้ำเสียงของชายแก่เปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนจะถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

“ ข้าไม่รู้ว่าท่านชื่ออะไรกัน ? ”


“ เสี่ยวหมิง ”  นักล่าอสูรหัวเราะออกมา

“ เรื่องผลึกเลือดนี้ข้าหวังว่าเจ้าจะกระจายข่าวออกไปโดยเร็วที่สุด ” เขาเอาห่อออกมาจากแขนเสื้อแล้วส่งให้กับชายแก่
ชายแก่รับห่อนั้นมาแล้วเปิดออกเขาตรวจสอบสักพักเมื่อยืนยันว่ามันคือของจริงเขาก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นมา

 “ ข้าจะพาท่านไปพักยังห้องประมูลก่อน ”


หญิงสาวหุ่นอวบอั๋นในชุดแดงได้พาเสี่ยวหมิงไปยังห้องประมูลมันราวกับห้องเรียนที่มีที่นั่งเรียงกันเป็นระเบียบมันมีห้องพิเศษอยู่สองฝั่งข้างทางเสี่ยวหมิงถูกนำไปยังห้องพิเศษห้องหนึ่ง


แน่นอนว่าเสี่ยวหมิงคนนี้คือหยางเฉิน ของลึกลับที่อยู่ในคิ้วสามารถเปลี่ยนคลื่นพลังของเขาได้ เมื่อรวมกับหน้ากากกำลังภายในที่เขาทำขึ้นมาเองด้วยแล้วนอกจากรูปร่างที่ผอมบางแล้ว ก็แทบแยกจากเสี่ยวหมิงจริงๆไม่ได้เลย


กลุ่มเถียทำงานได้อย่างเป็นมืออาชีพ หยางเฉินมองออกไปจากหน้าต่าง ในห้องก็พบว่ามีคนหลายคนเข้ามากันเรื่อย ๆ ไม่นานก่อนที่ห้องนั้นจะเต็มไปด้วยผู้คน


“ ผลึกเลือดของสัตว์อสูรขอบเขตทหารผลึกหนึ่งน่าจะมีราคามากกว่าแสนเหรียญไม่ใช่รึ ? ” หยางเฉินลูบจมูก

“ บวกกับเงินในบัตรแล้วมันน่าจะซื้อของปรุงยาได้หลายอย่างข้าหวังว่ายาที่ปรุงมาจะใช้ได้ผลไม่งั้นแล้วข้าจะทำลายจี้นี่ทิ้งจริงๆ! ”


ไม่นานหลังจากนั้น การประมูลก็เริ่มต้นขึ้น ชายแก่คนเดิมได้เผยรอยยิ้มก่อนจะบอกกับทุกคน “ สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลายข้าเย่หลุน คือผู้ดูแลการประมูลครั้งนี้ มันมีของ 3 ชิ้นในการประมูลครั้งนี้ อย่างแรกคือผลึกเลือดของสัตว์อสูรขอบเขตทหารราคาเริ่มต้นที่ 200,000 เหรียญ ”


“ สองแสนรึ ? ” หยางเฉินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา   ‘ เจ้าเฒ่านี่ตั้งราคาเริ่มต้นที่สองแสนเขาใจดำจริงๆผลึกเลือดกลับเป็นของชิ้นแรกที่นำขึ้นประมมูล มันมีของที่ดีกว่าผลึกเลือดด้วยรึ ? ’


ยิ่งสินค้าขึ้นประมูลภายหลังเท่าไหร่ของยิ่งมีค่าเท่านั้น


“ 211,000! ”


“ 220,000! ”


คนที่สามเพิ่มราคาถึง280,000เหรียญ แน่นอนว่าหลังจากที่ราคานี้ถูกประกาศออกมาก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาอีก
หยางเฉินอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา

 

“ เพิ่มอีกสิเพิ่มอีก ขี้งกกันจริงๆแม้แต่ข้าก็ยังไม่ใจแคบเช่นนี้! ”


“ 280,000 ขาย! ”  เย่หลุนยิ้มออกมา  

“ ต่อไปเป็นสินค้าชิ้นที่สองมันคือพู่กัน มันแข็งซะจนแม้แต่ผู้บ่มเพาะขอบเขตธุลีก็ไม่อาจจะทิ้งรอยขีดข่วนไว้ได้ หลังจากที่เราได้ทดสอบแล้ว เขาก็เดาว่ามันเป็นอาวุธจิตระดับสูง! ”


เมื่อได้ยินคำพูดของเย่หลุนแล้ว ทุกคนก็พากันสูดหายใจเข้าลึกๆ แต่จากนั้นก็เผยสีหน้าตะลึงออกมาอะไรคืออาวุธจิต ? มันคืออาวุธที่ใช้โดยคนที่บ่มเพาะพลังจิต


อาวุธจิตนั้นแบ่งขั้นเป็นระดับทั่วไป,ล่าง,กลาง ,สูงและราชันย์ ...ต้องรู้ก่อนว่าอาวุธจิตระดับสูงนั้น มีแต่กองกำลังใหญ่ที่มีมัน แม้แต่กองกำลังใหญ่บางจักรวรรดิ ก็มีอาวุธพวกนี้เพียงชิ้นเดียว ไม่คิดเลยว่าในเมืองที่ห่างไกลเช่นนี้กลับมีอาวุธจิตระดับสูงอยู่

ใครจะไปทำใจเชื่อได้กัน ?


รีวิวผู้อ่าน