ตอนที่ 13 : อยู่ได้ไม่นาน
“ เถาเถาไม่คิดเลยว่าเจ้าจะแกร่งได้ถึงขนาดนี้ ! ” หยางเฉินมองไปด้วยความตื่นเต้น เขาหาที่พึ่งได้แล้วสุดท้ายเขาก็มีคนให้พึ่งแล้ว
พู่กันลอยเข้ามาหาหยางเฉินก่อนจะหดขนาดลง แล้วกลับไปอยู่ในสภาพเดิม ก่อนที่จะลอยวนรอบตัวหยางเฉิน เสียงของเถาเถาได้ดังขึ้นจากพู่กัน “ อย่าเพิ่งดีใจไปตราบใดที่เจ้าบ่มเพาะอย่างหนัก ด้วยพรสวรรค์ของเจ้าแล้ว เจ้าต้องแข็งแกร่งกว่าข้าได้อย่างแน่นอน! ”
“ ใช้ข้าหยางเฉินน่ะมีพรสวรรค์ ข้าต้องแกร่งกว่าเจ้าได้แน่ ” หยางเฉินยิ้มออกมา
“ อย่าฝันกลางวันไปหน่อยเลยไปกันได้แล้ว เราไม่ควรจะอยู่ที่นี่นาน! ” พู่กันลอยไปเหน็บที่เอวหยางเฉินทันที
หลังจากที่หยางเฉินได้ยินแบบนั้นเขาก็ไม่กล้าจะอยู่ที่นี่ต่อ หลังจากที่เก็บหินเพชรไว้ในแหวนมิติหลายสิบก้อนเขาก็ได้มุดออกจากโพรงแล้วกลับไปบ้านทันที
“ หัวหน้าเจ้าไปทำอะไรมา? ” กั้วติงที่นอนอยู่บนเตียงเห็นหยางเฉินก็ยักคิ้วก่อนจะถามขึ้นมา
“ ไม่ได้ทำอะไรข้าออกไปด้านนอกเพื่อดูสาวๆเมื่อเจ้าหายดีแล้วเราค่อยไปด้วยกัน ” หยางเฉินเดินไปหากั้วติง ก่อนจะนั่งลงบนเตียงแล้วหัวเราะออกมา
“ เจ้าไม่รู้จักชวนข้าได้ยังไง ” กั้วติงยิ้มรับ
“ ข้าแค่ล้อเจ้าเล่น ข้าเป็นสุภาพบุรุษจะตายหือ ? แล้วเทียนเอ๋อล่ะใช่แล้ววันนี้หลานเอ๋อไม่มารึ ? ” หยางเฉินมองไปที่กั้วติงแล้วถามขึ้นมา
“ เทียนเอ๋อและหลานเอ๋อ อาจจะไปหาท่านพ่อ เขาออกไปตั้งแต่เช้ายังไม่กลับมาเลย ” กั้วติงส่ายหน้าด้วยท่าทีสลด “ เดาว่าเขาคงไปหาเหล้าดื่มสักที่ ”
“ เสี่ยวหยางน้องชายเจ้าคงอยู่ได้ไม่นาน ” เสียงของเถาเถาดังขึ้นในหูหยางเฉิน “ ข้าใช้การส่งผ่านเสียงเจ้าแค่ฟังก็พอไม่ต้องพูดอะไรข้าไม่อยากให้คนรู้เรื่องของข้า ”
เมื่อได้ยินที่เถาเถาบอกมาว่ากั้วติงคงอยู่ได้ไม่นาน หยางเฉินก็เผยสีหน้าตะลึงเขาอยากจะเอ่ยปากถามแต่หลังจากที่ได้ยินคำสั่งของเถาเถา เขาก็ต้องเงียบและตั้งใจฟังคำพูดของเถาเถา
“ มันมีพิษเหมันต์จำนวนมากในตันเถียนและเส้นเลือดของเขา แม้ว่าพิษเหมันต์นี้ไม่ได้ฆ่าเขาในตอนนี้ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะบ่มเพาะได้ เดาว่าพิษเหมันต์เหล่านี้ซ่อนอยู่ในตัวเขาแล้วปะทุขึ้นมา เมื่อพิษแผ่ไปยังเส้นเลือดและอวัยวะภายในแล้วเขาจะตายทันที ” เถาเถาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ ว่าไงนะ! ” หยางเฉินกลับตะโกนออกมาสีหน้าเขาแสดงความตะลึงออกมา
“ หัวหน้าเจ้าเป็นอะไรไป? ” กั้วติงมองไปที่หยางเฉินด้วยความสงสัย
“ กั้วติงเจ้ารู้สึกไม่สบายในร่างกายตรงไหนของเจ้ารึไม่? ” หยางเฉินจับแขนของกั้วติงเอาไว้และจ้องกั้วติงเขม็ง
“ หัวหน้าข้าสบายดีมีอะไรกัน? ” กั้วติงมองไปที่หยางเฉินด้วยสีหน้าสับสน ” อาการบาดเจ็บข้าเกือบจะหายดีแล้วเจ้าไม่ต้องกังวลไป ”
“ เสี่ยวหยางตอนที่ข้าอยู่กับนายท่านข้าเคยเห็นอาการคล้ายๆกันแบบนี้มาก่อน คิ้วและขมับของเขาจะแผ่ไอเย็นออกมาซึ่งเป็นเพราะพิษเหมันต์ในตัวเขาอ่อนแอ ในตอนที่เขาโดนวางพิษแต่ไม่ตาย มันแสดงให้เห็นว่ามันมีคนช่วยเขาเอาไว้ ” เถาเถาอธิบาย
ตาของหยางเฉินแดงก่ำกั้วติงเป็นพี่น้องของเขา เขาไม่มีทางยอมให้กั้วติงตายไปเช่นนี้ได้ไม่มีทาง!
“ มันมีสองทางที่จะช่วยเขา ทางแรกคือให้ยอดฝีมือดูดซับพิษเหมันต์ในร่างเขา ทางที่สองคือผลมังกรชนิดหนึ่ง ที่สามารถดูดซับพิษเหมันต์ในตัวเขาได้ วิธีที่สองนั้น เจ้าอาจจะทำได้ แต่วิธีแรกนั้นมันยากเกินไป การดูดซับพิษเหมันต์นั้นจะสร้างความเสียหายแก่ร่างกาย แน่นอนว่าคงไม่มีใครคิดช่วยเจ้า! ” เถาเถาเห็นสีหน้าหยางเฉินก็รู้ว่าหยางเฉินห่วงกั้วติงมากแค่ไหน
หลังจากที่หยางเฉินได้ยินสองวิธีนี้ ตาของเขาที่แต่เดิมแดงก่ำ ก็ค่อยๆกลับเป็นปกติเขามองไปที่กั้วติงแล้วยิ้มออกมา “ กั้วติงเจ้าดูแลตัวเองให้ดี ๆ อย่าเพิ่งเคลื่อนไหวนัก เดี๋ยวข้ารีบกลับมา! ” เมื่อพูดจบเขาก็ได้ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไปทิ้งกั้วติงอยู่กับความสับสน
หยางเฉินใส่หน้ากากแล้วมุ่งหน้าไปยังโถงเถีย เมื่อเห็นสีหน้ากังวลของหยางเฉิน เถาเถาในพู่กันก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ ‘เด็กนี่อ่อนไหวรักพวกพ้องและรักความถูกต้อง ดูเหมือนว่าข้าจะมองคนไม่ผิด พรสวรรค์ของเขาไม่อาจจะเอาคนทั่วไปมาเทียบได้ เฮ้อไม่รู้ว่าเขาจะก้าวข้ามนายของข้าได้รึไม่ ’
ไม่นานหลังจากนั้น หยางเฉินก็มาถึงโถงเถีย เมื่อเย่หลุนเห็นเสี่ยวหมิงที่เป็นหยางเฉินปลอมตัวมา เขาก็ยิ้มออกมาทันที
“ ท่านมาอีกแล้วเดาว่าครั้งนี้ท่านคงมีของดีติดตัวมาสินะ? ”
“ มีผลมังกรในโถงเถียรึไม่ ? ” หยางเฉินไม่คิดไร้สาระและถามออกมาตรงๆ
“ ผลมังกรรึ ? ” เย่หลุนเอาหนังสือออกมาค้นหาสักพัก ก่อนจะเงยหน้ามองหยางเฉินด้วยรอยยิ้ม “ ผลมังกรหมดแล้ว ”
สีหน้าของหยางเฉินเปลี่ยนไปทันที ไม่ ! งั้นมันก็หมายความว่าเขาไม่อาจจะช่วยกั้วติงได้งั้นรึ ? เมื่อคิดถึงชีวิตที่เขาอยู่ร่วมกับกั้วติงตั้งแต่เด็ก หยางเฉินก็กำหมัดแน่นสีหน้าเขาดูแค้นเคืองอย่างมาก
“ ตอนนี้เรายังไม่มีผลมังกร แต่มันจะมีอีกใน 1 เดือน หากท่านต้องการมันอย่างเร่งด่วนท่านค่อยกลับมาในอีก 1 เดือนจากนั้นเราจะทำการจัดประมูล ” เย่หลุนยิ้มออกมา
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่หลุน หยางเฉินที่ตกอยู่ในความสิ้นหวังก็เริ่มมีหวังขึ้นมา หากแค่เดือนเดียวเขาก็พอรอไหว
“ ข้าสงสัยว่าราคาเริ่มต้นประมูลผลมังกรครั้งที่แล้วนั้นอยู่ที่เท่าไหร่กัน ? เจ้าบอกข้าได้รึไม่ ? ” หยางเฉินถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“ บอกท่านไปก็ไม่ได้เสียหายอะไรราคาของผลมังกรอยู่ที่1.5 ล้าน ”
“ 1.5 ล้าน ”
หยางเฉินโล่งอกนิดๆหากแค่1.5ล้าน เขาก็น่าจะพอซื้อมันได้หากเขาเดาไม่ผิด กระดาษดำที่ใช้ซื้อพู่กันนั้นคือแผ่นยันต์เขายังมีเหลืออีก 2 ชิ้นกับตัว มันเพียงพอที่จะซื้อผลมังกรได้
แต่นี่แค่ราคาเริ่มต้น แม้ว่าเขาจะขายยันต์ไปสองแผ่น แต่ก็ไม่รู้ว่าจะซื้อผลมังกรมาได้รึไม่
“ ได้แล้วเจอกันในอีก1เดือน ” หยางเฉินพูดจบก็เดินจากไป
เมื่อมาถึงถนนที่เต็มไปด้วยผู้คนหยางเฉินก็คิดกับตัวเอง ‘ ยันต์สองแผ่นมีค่าแค่ 1.6 ล้านเดาว่าคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะซื้อผลมังกรมาด้วยเงินพวกนี้ ’
“ เสี่ยวหยางเจ้าคงจะกังวลเรื่องเงินสินะ ? ” เสียงของเถาเถาดังขึ้นในหูหยางเฉินการส่งผ่านเสียงนี้คือทักษะลับที่ต้องมีระดับการบ่มเพาะขอบเขตธุลีรึเหนือกว่านั้นถึงจะทำได้
“ ทำไม ? เจ้าหาเงินให้ข้าได้รึ ? ” หยางเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย ” หากเจ้ามีเงินเจ้าก็คงไม่ขโมยเงินข้าหรอกเจ้ายังมีหน้ามาคุยเรื่องนี้กับข้าอีกรึ ? ”
เถาเถายิ้มแห้งๆออกมา “ เจ้าเพิ่งบอกกั้วติงไปไม่ใช่รึ ว่าเจ้าเป็นสุภาพบุรุษ ? เมื่อเจ้าเป็นสุภาพบุรุษทำไมต้องสนใจเรื่องเก่าๆด้วย นี่ไม่ต้องพูดถึงในอนาคตข้ายังต้องการเงินมากกว่านี้อีก ”
“ ว่าไงนะ! ” หยางเฉินถึงกับตะโกนออกมากลางถนนผู้คนโดยรอบพากันหันกลับมามองเขา เมื่อเห็นว่าเป็นหยางเฉินทุกคนก็พากันแสดงท่าทีดูถูกออกมา กลับเป็นขยะคนนี้นี่เองไม่แปลกเลยที่เขาจะไม่มีมารยาท !
“ มองทำไมไม่เคยเห็นคนหล่อรึไง ? ” หยางเฉินด่าออกมาก่อนจะเดินเข้าไปในตรอก
“ ข้าอยากสั่งสอนเจ้าจริง ๆ แต่โชคร้ายที่ข้าไม่มีความสามารถพอ ! ” หยางเฉินดึงเอาพู่กันออกมาจากเอวแล้วมองไปยังพู่กันเขายิ้มออกมา “ เถาเถาเจ้าบอกว่าเจ้าต้องการเงิน ข้าได้ยินไม่ผิดสินะ ? ”
ร่างลวงตาของเถาเถาลอยออกมาจากพู่กันและมองมาที่หยางเฉินเขาพองแก้มแล้วพูดขึ้น “ บอกเจ้าไปก็ไม่เสียหายหากข้าอยากฟื้นฟูความแข็งแกร่งขึ้นมาข้าต้องกินเหรียญปราณจำนวนมาก แน่นอนว่าหากเจ้าหาเงินได้ยิ่งเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งดี! ”
หยางเฉินกรอกตาใส่ “ เจ้าเพิ่งกินเงินข้าหมด เจ้าคิดว่าเงินนั่นเป็นผักข้างทางรึไง ? หากเจ้าอยากได้มันเจ้าก็จะได้มันไปตามใจรึไง ? ”
เถาเถามองไปที่หยางเฉินราวกับมองดูคนโง่เขาเผยสีหน้าดูถูกออกมา “ เจ้าลืมที่ข้าบอกเจ้าไปแล้วรึอาชีพที่มีเกียรติที่สุดในโลกและทำกำไรที่สุดในโลก ”
“ นักพรต ! ” หยางเฉินตบหัวตัวเองอย่างแรง “ ข้าลืมเรื่องสำคัญแบบนี้ไปได้ยังไง? ”
“ งั้นเจ้าคงบอกว่าตัวเองโง่สินะ? ” เถาเถาไม่คิดปล่อยโอกาสที่จะได้เอาคืนไป
“ เถาเถาเจ้าคิดว่าด้วยความสามารถของข้าตอนนี้ข้าสามารถวาดยันต์ขึ้นมาใน 1 เดือนได้รึไม่? ” หยางเฉินมองไปที่เถาเถาด้วยความคาดหวัง
เถาเถามองไปที่หยางเฉิน “ ด้วยความสามารถที่เจ้ามีเจ้าอยากจะวาดยันต์ขึ้นมาใน 1 เดือนรึ ? นอกซะจากว่าเจ้าจะฝึกฝนมันทั้งวันทั้งคืนงั้นก็พอมีโอกาสอยู่บ้าง ”
“ แค่นี้ก็พอแล้ว! ” หยางเฉินสูดหายใจเข้าลึกๆเขาสาบานกับตัวเองว่าจะวาดยันต์ขึ้นมาใน 1 เดือนให้ได้
‘ มันดีที่มีเป้าหมาย เมื่อมีเป้าหมายงั้นก็เป็นไปได้ที่เจ้าจะวาดยันต์ได้ภายใน 1เดือน ! ’ หยางเฉินไม่รู้เลยว่าตอนนั้นเถาเถากลับหัวเราะในใจ เขาได้เข้าสู่เส้นทางการฝึกฝนของเถาเถาแล้ว
…
หลังจากที่กลับมาที่บ้านหยางเฉินก็ได้วิ่งไปยังชั้นใต้ดินและบอกคนอื่นๆว่าเขาอยากจะบ่มเพาะ ซงเทียนเอ๋อ,เว่ยหยานหลานและกั้วติงพากันมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ จากนั้นเว่ยหยานหลานและซงเทียนเอ๋อ ก็เผยรอยยิ้มยินดีออกมา สุดท้ายพี่เฉินของพวกนางก็มีแรงกระตุ้นที่จะบ่มเพาะอีกครั้งแล้ว
‘ หัวหน้ามีปัญหาแน่ๆ ! เขาโดนตีหัวมารึไง ? ’ กั้วติงมองต่างจากซงเทียนเอ๋อและเว่ยหยานหลาน
ในชั้นใต้ดินความชื้นและกลิ่นอับลอยคลุ่งไปทั่ว หยางเฉินแทบจะหายใจไม่ออก เขาใช้เวลาสักพักกว่าจะปรับตัวได้แล้วชินกลับกลิ่นนี้
“ เสี่ยวหยางนับจากวันนี้ไปเจ้าค่อย ๆ ดูดซับผงยาที่เหลือเข้าไปในร่าง ในเวลาเดียวกันก็เรียนรู้รูปแบบยันต์ไปด้วยอย่าประเมินการวาดยันต์ต่ำไป มันเป็นขั้นตอนที่ซับซ้อนอย่างมาก ขั้นตอนการวาดยันต์และรูปแบบของยัต์จะดึงปราณและพลังความคิดที่อยู่ในตันเถียนออกมา ”
ทันทีที่เถาเถาพูดถึงจุดนี้หยางเฉินก็ขัดขึ้นมา “ ดึงปราณและพลังความคิด งั้นไม่ใช่ว่าข้าบ่มเพาะเสียเปล่ารึ? ”
“ โง่จริง ๆ ! แม้ว่าปราณน้อยนิดของเจ้าจะถูกดึงออกมา แต่ในขั้นตอนนี้เพราะการไหลของปราณอย่างต่อเนืองเส้นชีพจรของเจ้าจะกว้าง และแข็งแกร่งขึ้น เมื่อเจ้าหยุดวาดยันต์ความเร็วในการดูดซับปราณจะเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก มันมีแต่จะบ่มเพาะได้เร็วขึ้นไม่ได้ช้าลงเลย ! ” เถาเถาสมกับเป็นคนที่เคยเห็นโลกมาก่อน และเข้าใจยันต์เป็นอย่างดี
“ กลับเป็นว่าการวาดยันต์ก็ส่งผลดีเช่นกัน ” หยางเฉินพบว่าเขาเริ่มหลงรักอาชีพนี้เข้าแล้วมันมีแต่ดีกับดี
‘เสี่ยวหยางข้าหวังว่าเจ้าจะไม่โทษข้าในอนาคต มันมีความลับบางอย่างที่ข้าไม่ได้บอกเจ้า นักพรตมักถูกสวรรค์อิจฉา... ’ เถาเถาถอนหายใจออกมาเขาเหมือนจะไม่คิดจะบอกหยางเฉินเรื่องนี้