px

เรื่อง : ข้าจะเป็นราชาอมตะ (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี 3 วัน 1 ตอน
ตอนที่ 15 : วรยุทธ


ตอนที่ 15 : วรยุทธ

 
หยางเฉิน ฝึกเขียนยันต์ในชั้นใต้ดิน เขาคงไม่รู้เลยว่าผลกระทบที่เขาได้สร้างไว้ในคลังวันนั้นมีมากแค่ไหน
หลังจากที่เขาออกจากคลังในวันนั้น ไม่นานหลังจากนั้นก็มีคนอีก 4 คนมาที่นั่น ทั้งสี่คือ โมซัน, วูเล่ย, ถูเชิน คนสุดท้ายนั้นผอมแห้งแก้มตอบ สายตาเขาแสดงความดุดันออกมา เขาคือ เหอเจีย
สี่คนที่แกร่งที่สุดในเมืองซูเซียนกลับมารวมตัวกัน  ทั้งสี่มองไปยังรอยตัดที่พื้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด รอยตัดนี้แทงลึกเข้าไปในแผ่นหินจมกว่า 10 ซม.นี้เกิดขึ้นเพราะพู่กัน


“ เจ้าเฒ่าวู เจ้ามั่นใจนะว่าสิ่งที่โจมตีเจ้าเป็นพู่กันจริงๆ ? ”  ถูเชิน ละสายตาจากพื้นมองไปที่ วูเล่ย
โมซัน และ เหอเจีย มองไปที่ วูเล่ย  พู่กันกลับโจมตีคนก่อนรึ ? มันเพียงพอแสดงให้เห็นว่าพู่กันนี้เป็นอาวุธจิตขอบเขตราชันย์ ด้วยความรอบรู้ที่พวกเขามีแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเคยเห็นอาวุธจิตระดับนี้


ต้องรู้ก่อนว่าสามกองกำลังใกล้กับซูเซียนอย่างวังวูหลิน, จักรวรรดิดาฮันและจักรวรรดิแตวู มีอาวุธจิตขอบเขตราชันย์แค่ที่ละชิ้นเท่านั้น มีแค่อาวุธจิตขอบเขตราชันย์ขึ้นไปเท่านั้นที่จะโจมตีได้เอง ต้องบอกว่าเมืองซูเซียนที่แม้แต่นกยังไม่สนใจนั้นกลับมีอาวุธจิตขอบเขตราชันย์อยู่ มันไม่อาจจะเชื่อได้ !


“ หากมันเป็นอาวุธจิตขอบเขตราชันย์โจมตีเจ้าจริงๆ เจ้าก็ไม่มีโอกาสรอด แม้แต่คนที่อยู่ขอบเขตปรมจารย์ก็ยังไม่อาจจะรับการโจมตีจากอาวุธจิตขอบเขตราชันย์ได้ ”  โมซัน พูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ เจ้าไม่เชื่อที่ข้าพูดไปรึ ? ”  วูเล่ย มองไปที่ โมซัน ด้วยสีหน้าบิดเบี้ยวไป


โมซัน ส่ายหน้า  “ มันไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อที่เจ้าพูดมา แต่ข้าอยากบอกว่ามันไม่น่าจะเป็นอาวุธจิตที่เหนือกว่าขอบเขตราชันย์ได้ ”
“ ข้าคิดว่ามันไม่ใช่อาวุธจิตที่เหนือกว่าขอบเขตราชันย์เช่นกัน ”  เหอเจีย มองไปยังรอยตัดที่พื้น “ ว่ากันว่าอาวุธจิตขอบเขตราชันย์มีพลังทำลายดินแดนได้ การโจมตีระดับนี้อย่างมากก็เป็นแค่พลังของคนที่เพิ่งขึ้นไปขอบเขตราชา ”

“ แปลก หากไม่ใช่อาวุธจิตขอบเขตราชันย์ มันจะโจมตีคนเองได้ยังไง ? ”  วูเล่ย อดไม่ได้ที่จะสงสัย
“ หากเป็นอาวุธจิตขอบเขตราชันย์ พลังมันจะอ่อนแอระดับนี้ได้ยังไง ? ”  ถูเชิน ที่เงียบอยู่นานพูดขึ้นมา


เมื่อได้ยินที่ ถูเชิน พูดมา อีกสามคนก็มองหน้ากัน พวกเขารู้สึกว่ามันมีความเป็นไปได้แค่อย่างเดียว อาวุธจิตขอบเขตราชันย์ที่เสียหายจึงทำให้การโจมตีนั้นอ่อนแอลงอย่างมาก แน่อนว่าอาวุธจิตขอบเขตราชันย์ที่เสียหายบ้างชิ้นและเสียจิตไปจะทำให้พลังโจมตีของมันลดลงกว่าเดิมอย่างมาก


พวกเขาคิดถึงพู่กันที่ได้รับความเสียดายที่เป็นอาวุธจิตขอบเขตราชันย์ หาก เถาเถา ได้ยินที่พวกนี้พูด เขาคงจะสบถออกมา

‘ ข้าจะระดับต่ำแบบนั้นได้ยังไง ’
“ เจ้าเฒ่าวู เจ้าเห็นหน้าตาคนที่แอบเข้ามาในคลังรึไม่ ? ” โมซัน มองไปที่ วูเล่ย แล้วถามขึ้นมา
วูเล่ย พยักหน้า “ เห็น เขาน่าจะเป็นนักล่าอสูร ! ตราบนอกเขาสลักว่าหน่วยทลายอสูรเอาไว้ มันแทนถึงหน่วยทลายอสูร ”
“ หน่วยทลายอสูร  ! ” โมซัน และคนอื่นๆพากันมองหน้ากัน สีหน้าของพวกเขาหม่นลง พวกเขาไม่อาจจะมีเรื่องกับหน่วยทลายอสูรได้

“ เรื่องนี้สิ้นสุดแค่นี้ ห้ามพูดต่อ ! ” โมซัน พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด


...


แน่นอนว่า หยางเฉิน ไม่รู้เลยว่า โมซัน และคนอื่นๆพูดคุยอะไรกัน ตอนนี้เขาจมอยู่กับการเขียนยันต์ การสลักตัวหนังสือลงไปบนหินก็ยากพอตัวแล้ว ที่ยากกว่านั้นคือการควบคุมความลึกในการเขียนตัวหนังสือเหล่านี้
นี่ไม่ใช่การสลักทั่วไปแต่เป็นการใช้ปราณผ่านพู่กันเขียนตัวหนังสือขึ้นมา หากควบคุมปราณได้ไม่ดี มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำได้สำเร็จ


“ เสี่ยวหยาง ฝึกควบคุมปราณนั้นไม่ใช่แค่จะส่งผลดีต่อการวาดยันต์ หลังจากนั้นเมื่อเจ้าบ่มเพาะวรยุทธ์ เจ้าจะรู้ถึงข้อดีของความสามารถนี้ ” หลังจากที่เห็น หยางเฉิน ล้มเหลวมาหลายครั้ง เถาเถา ที่ลอยอยู่ในอากาศก็พูดขึ้น
“ มันช่วยต่อการบ่มเพาะวรยุทธ์รึ ? ” หยางเฉิน เงยหน้าขึ้นมอง เถาเถา ด้วยสีหน้าสงสัย


“ ปราณในโลกนี้มีพลังและความสามารถหลายอย่าง หากเจ้าควบคุมปราณไม่ได้ เจ้าก็ไม่อาจจะบ่มเพาะวรยุทธ์ได้ ” เถาเถา พูดขึ้นมาด้วยรอยิ้ม  “ ข้าจะแสดงให้ดูว่าวรยุทธ์นั้นหมายถึงอะไร ” เขาพูดขึ้นแล้วสะบัดมือไปมาช้าๆ
ตอนที่ เถาเถา สะบัดมือนั้นอากาศรอบๆมือก็สั่นไหว กระแสอากาศก่อตัวเป็นปราณหมุนวนรอบมือของ เถาเถา ราวกับเส้นสีเงินนับไม่ถ้วนที่แหวกว่ายในอากาศ
หยางเฉิน อึ้ง... ‘ ดึงปราณมาอยู่รอบฝ่ามือได้ยังไงกัน ? ’


“ เสี่ยวหยาง นี่คือวรยุทธ์ที่ทรงพลังอย่างมาก ข้าไม่ได้ใช้มันอย่างเต็มที่ ไม่งั้นแล้วข้าจะทำลายชั้นใต้ดินนี่ ! ” กระแสอากาศรอบมือ เถาเถา ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงก่อนจะรวมตัวกันในฝ่ามือของเขา
เถาเถา มองไปที่แผ่นหินแล้วสะบัดมือเข้าใส่แผ่นหิน ปัง ! ธาตุไฟที่รวมตัวกันในมือได้ระเบิดออกมากลายเป็นมีดเสี้ยวพระจันทร์ที่คมกริบ


หยางเฉิน อึ้งไป ในเวลาเดียวกันแผ่นหินก็โดนตัดขาดอออกจากกันอย่างง่ายดาย ปราณไฟกระจายไปทั่วแผ่นหินที่ขาดเป็นสองส่วนก่อนที่แผ่นหินทั้งสองจะมีไฟลุกไหม้ขึ้นมาแล้วโดนเผากลายเป็นเถ้า อากาศด้านล่างตอนนี้เต็มไปด้วยกลิ่นไหม้
“ พลังของมีดไฟจันทราทรงพลังอย่างมาก ด้วยความแข็งแกร่งของข้าตอนนี้แล้ว ข้าไม่อาจจะแสดงพลังที่แท้จริงของมันออกมาได้ ” เถาเถาถอนหายใจออกมา


“ ช่างเป็นพลังที่น่ากลัวจริงๆ ! ” หยางเฉิน นึกถึงเรื่องในคลังเมื่อวันก่อน หากไม่ใช่เพราะเถาเถา เขาคงตายด้วยน้ำมือของ วูเล่ย ที่ใช้การควบคุมปราณออกมา เขาไม่รู้เลยว่า วูเล่ย ใช้แค่ทักษะระดับทั่วไป  เขาไม่รู้เลยว่าวรยุทธ์นั้นโดดเด่นแค่ไหน
“ เถาเถา เมื่อไหร่เจ้าจะสอนวรยุทธ์ข้ากัน ? ” หยางเฉิน มองไปที่ เถาเถา ด้วยสีหน้าคาดหวัง
“ เจ้าน่ะรึ ? ” เถาเถา กรอกตาใส่แล้วอธิบาย “ ตอนที่สร้างมีดไฟจันทรานั้นเจ้าต้องพึ่งพลังในการควบคุมปราณเพื่อดึงธาตุไฟออกมาจากปราณในโลก หากเจ้าต้องการบ่มเพาะมัน เจ้าต้องขึ้นไปถึงขอบเขตธุลีให้ได้ก่อน เพราะเจ้าไม่อาจจะแผ่ปราณออกมาจากตัวได้ หากเจ้าไม่อาจจะใช้ปราณออกมาจากตัวได้ เจ้าจะดึงธาตุไฟออกมาจากปราณได้ยังไง ? ”


หยางเฉิน ส่ายหน้า “ ดูเหมือนว่าข้าคงได้แต่ต้องฝึกเขียนต่อไป ”
“ แม้วาเจ้าจะบ่มเพาะวรยุทธ์ขั้นสูงไม่ได้แต่ข้าก็มีวรยุทธ์ขั้นต้นอยู่ เฮ้อ ของพวกนี้น่ะไร้ค่า แต่เดิมแล้วข้าคิดจะโยนมันทิ้งแต่ไม่คิดเลยว่าเจ้ากลับไม่สนใจ ! ” เถาเถา ส่ายหน้าด้วยท่าทีหมดหนทาง
“ มันมีทักษที่บ่มเพาะได้โดยไม่ต้องปล่อยปราณออกมาจากร่างด้วยรึ ? ” หยางเฉิน ลูบจมูกและมองไปที่ เถาเถา ด้วยรอยยิ้ม
“ มีสิแต่อย่าเพิ่งดีใจไป การให้วรยุทธ์กับเจ้าตอนนี้มีแต่ทำให้เจ้าไข้วเขว เจ้ายังต้องฝึกเขียนยันต์อยู่ ” เถาเถา ยิ้มออกมา เขาเหมือนจะจงใจจะพูดว่ามีวรยุทธ์อยู่เพื่อกระตุ้นให้ หยางเฉิน ขยันในการฝึกเขียน
หากเขาฝึกเขียนได้สำเร็จ เถาเถา ก็จะยกวรยุทธ์ให้ ไม่งั้นแล้วก็อย่าฝัน !

แน่นอนว่า หยางเฉิน รู้ความคิดของ เถาเถา เขาได้แต่ถอนหายใจออกมา “ เถาเถา เจ้าละก็  ข้าอยากได้มันจริงๆ ! ” หลังจากที่พูดจบเขาก็เริ่มทำการฝึกเขียนอีกครั้ง


เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ตัวเลยก็ผ่านไปถึง 10 วัน หลังจากที่ทำลายแผ่นหินกว่าร้อยแผ่นสุดท้าย หยางเฉิน ก็สลักตัวหนังสือไว้บนแผ่นหินได้ ตอนที่เขียนตัวหนังสือตัวสุดท้ายลงไป หยางเฉิน ก็ถอนหายใจออกมา แผ่นหินนี่ไม่แตกออก มันบ่งบอกว่าเขาทำได้สำเร็จ !
การควบคุมปราณของ หยางเฉิน ยกระดับกว่าเดิมถึงสิบเท่า หากไม่ใช่เพราะตลอดหลายวันมานี้เขาฝึกฝนตลอดทั้งวันทั้งคืนเขาคงไม่อาจจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ มันเพราะเขาคือคนที่ทุ่มเทและแน่วแน่


“ เจ้าใช้เวลา 15 วัน เจ้าทำได้ตามกำหนด ” เถาเถา ยิ้มออกมา “ ต่อไปเจ้ายังไม่ต้องเริ่มเขียนยันต์ ข้าจะสอนวรยุทธ์ให้เจ้าก่อน ! ”
“ สอนวรยุทธ์ให้ข้าก่อนรึ ? ทำไมกัน ? ” หยางเฉิน เตรียมที่จะลองวาดยันต์ดูแล้วแต่เขาไม่คิดเลยว่า เถาเถา จะทำให้เขาต้องแปลกใจเช่นนี้


“ ระดับการควบคุมปราณของเจ้าถือว่าดีแล้ว แต่มันก็แค่ระดับพื้นๆ อีกอย่างข้าอยากเห็นว่าหากเจ้าควบคุมปราณได้ชำนาญรึไม่เมื่อบ่มเพาะวรยุทธ์ ” เถาเถา อธิบายออกมา
“ วรยุทธ์อะไรกัน ? รีบแสดงให้ข้าดูที ! ” หยางเฉิน อดใจรอไม่ไหว
“ เจ้าลองดูเอง ” เถาเถา พลิกมือพร้อมกับโยนคัมภีร์ม้วนเล็กๆให้กับ หยางเฉิน


หยางเฉิน รับคัมภีร์เอาไว้แล้วเลียปาก เขาทำราวกับเห็นสาวงาม เขาแสดงท่าทีหิวโหยออกมา ตอนที่เขาคลี่คัมภีร์ออกก็ได้ส่งเสียงดังออกมา “ วรยุทธ์  ก้าววายุอัสนี บ่มเพาะถึงขีดสุดสามารถไล่ตามลมและสายฟ้าได้ ถ่ายเทปราณลงไปยังขา ...”
“ ก้าววายุอัสนีรึ ? ชื่อค่อนข้างตลก ข้าไม่รู้ว่ามันจะทรงพลังรึไม่ ? ”  หยางเฉิน ตาเป็นประกาย สุดท้ายเขาก็ได้วรยุทธ์มาครอง !
“ มันแค่วรยุทธ์ทั่วไป เจ้าจะดีใจอะไรนักหนา ” เถาเถา ดูหมิ่น หยางเฉิน ทุกทีที่มีโอกาส


หยางเฉิน ไม่สนใจ เถาเถา และเริ่มอ่านต่อ คัมภีร์นี้ไม่ใช่แค่บอกวิธีการถ่ายเทปราณไปที่ขาแต่ยังรวมถึงเส้นทางการไหลของปราณในเส้นเลือดด้วย มันมีภาพสาธิตด้วย เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา “ คนที่เขียนคัมภีร์นี้ขึ้นช่างรอบคอบและช่างคิดจริงๆ ! ”


หยางเฉิน วางคัมภีร์ลงและทำตามวิธีที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ เขาทำการเพ่งสมาธิไปยังตันเถียนและโคจรปราณไปที่ขา ปราณโคจรตามเส้นทาง สุดท้ายเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังในขาตนเอง
หากการควบคุมปราณไม่แม่นยำ มันก็ไม่ใช่แค่ไม่อาจจะส่งปราณไปที่ขาได้ มันอาจจะทำให้เส้นเลือดในขาระเบิดออก วรยุทธ์นั้นไม่ใช่ว่าจะฝึกฝนได้ง่ายๆ


หลังจากที่ปราณโคจรเข้าไปในขา หยางเฉิน ก็ก้าวออกไปตามบันทึกในคัมภีร์ทั้งมุมและทิศทางรวมถึงแรงในแต่ละก้าวเขาต้องควบคุมมันอย่างแม่นยำ ไม่งั้นแล้วมันจะล้มเหลวในทันที
ตอนแรก หยางเฉิน ทำแค่เลียนแบบในคัมภีร์ไม่กล้าจะเร่งความเร็วแต่หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้นช้าๆ ในชั้นใต้ดินนั้นร่างของเขาโดดไปมา ซ้ายทีขวาทีจนเกิดลมพัดขึ้น


ใช้เวลากว่า 2 วันกว่าที่เขาจะฝึกฝนวรยุทธ์ก้าววายุอัสนีแต่ เถาเถา ก็ยังแอบชมในใจ ‘ บ่มเพาะได้รวดเร็วจริงๆ ’
การบ่มเพาะวรยุทธ์ได้นี้บ่งบอกว่าความสามารถควบคุมปราณของ หยางเฉิน ขึ้นมาถึงระดับมาตรฐานแล้ว เขาน่าจะสามารถวาดยันต์ขึ้นมาได้แล้ว


“ เสี่ยวหยาง เจ้าฝึกวาดยันต์ได้แล้ว แต่ข้าต้องเตือนเจ้าก่อนว่าเจ้าห้ามทำให้กระดาษยันต์เสียเปล่า ข้ามีเหลือไม่มาก ”
“ เข้าใจแล้ว ข้าจะระวัง ! ”
หยางเฉิน ยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ เขานั่งลงที่เก้าอี้ก่อนจะจับพู่กันเอาไว้เพื่อจะวาดยันต์ หลังจากที่สะบัดพู่กันครั้งแรกกระดาษยันต์ก็ไม่ได้ระเบิดออก  หยางเฉิน ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและเริ่มเขียนตัวที่สองต่อทันที !




รีวิวผู้อ่าน