px

เรื่อง : ข้าจะเป็นราชาอมตะ (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี 3 วัน 1 ตอน
ตอนที่ 18 : สามขั้นตอน


ตอนที่ 18 : สามขั้นตอน


ที่ประตูของโถงเถีย ชายคนหนึ่งได้ก้าวออกมา เขาสวมหมวกฟาง มีผ้าดำปิดบังใบหน้าเพื่อไม่ให้ใครเห็นหน้าตา เขามุ่งหน้าไปยังประตูทางใต้ของเมือง และดูรีบร้อนราวกับกังวลอย่างมาก


“ เขาไปแล้วเราต้องตามไป !  ”  เสียงพึมพำดังขึ้นมาจากตรอกข้างๆ พร้อมกับมีหลายร่างที่ไล่ตามชายสวมหมวกฟางเมื่อตะกี้ไป ชัดแล้วว่าพวกนี้จับตาดูเขาอยู่ ความแข็งแกร่งของพวกนี้อ่อนแอ จึงทำให้อีกฝ่ายไม่รู้ตัว

ไม่นานหลังจากนั้นก็มีชายสวมหมวกฟางอีกคนออกมาจากโถงเถีย และมุ่งหน้าไปยังประตูทางตะวันตกของเมือง ไม่ใช่แค่นั้นแต่อยู่ๆก็มีคนสวมหมวกฟางกว่า10 คน เดินออกมาจากโถงเถียและแยกตัวกันออกไปทั้งแปดทิศทาง

ในตรอกนั้นวูเล่ยที่จับตาดูประตูโถงเถียอยู่ เมื่อเห็นชายคนแรกเดินออกไปเขาก็ไม่ได้เคลื่อนไหว แต่เมื่อเห็นคนมากมายโผล่มาสีหน้าของเขาก็หม่นลง


ไม่ใช่แค่วูเล่ยเท่านั้น ตอนนั้นโมซันและเหอเจียเองก็จับตาดูการเคลื่อนไหวที่หน้าโถงเถียอยู่ในตรอกด้วย ผลมังกรนั้นถูกประมูลไปด้วยราคา 4 ล้าน มันทำให้ทุกคนต่างก็ตะลึงมันต้องมีอะไรผิดปกติแน่

โมซันและเหอเจียเห็นกลุ่มคนแห่ออกมาจากประตูโถงเถีย สีหน้าของพวกเขาก็บิดเบี้ยวไปเหมือนกับวูเล่ย พวกเขาอยากตัดสินว่าใครกันที่เป็นตัวจริงจากคลื่นพลัง แต่พวกเขาก็พบว่าพวกนี้ต่างก็เป็นแค่คนอ่อนแอที่พลังต่ำกว่าขอบเขตกำลังภายในขั้น 9 ทั้งหมด

หยางเฉินได้ปลอมตัวเป็นเสี่ยวหมิง เสี่ยวหมิงนั้นอยู่ขอบเขตธุลี แต่วูเล่ยและคนอื่นๆไม่รู้สึกได้ถึงพลังของขอบเขตธุลีจากใครเลย มันจึงทำให้พวกเขาสับสน


“ เด็กนั่นขอให้ข้าเตรียมคนและหมวกฟางให้กับเขา แต่ข้ากลับไม่คิดเงินเขาเลยสักแดงเดียว ”  ในโถงเถีย เย่หลุนยิ้มออกมาและมองไปที่ประตู เขาไม่รู้จริงๆว่าหยางเฉินเป็นใครกันแน่

“ นายท่าน เด็กนั่นต้องอยู่ในหมู่ของคนพวกนี้แน่ ”  บนหลังคาบ้านหลังหนึ่ง หลงฉีและเทียนหลินจับตาดูถนนด้านล่าง และมองดูคนที่สวมหมวกฟางที่กระจายตัวไปตามทางต่างๆ แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะไล่ตามใครดี


“ ท่านพี่ เราต้องตามคนพวกนั้นไป ”  เทียนหลินมองไปทางใต้ของเมืองและพบว่ามีคนออกจากเมืองไป คนที่ออกจากเมืองไปนั้นจริงๆแล้วคือวูเล่ย มันยังมีชายหนุ่มที่เดินไปข้างๆวูเล่ยด้วย จมูกของชายหนุ่มดูแปลกประหลาดอย่างมาก มันมีเอ็นสีเขียวยื่นออกมาจากจมูก และมีเลือดสูบฉีดไปมาด้วยความเร็วสูง

“ นายท่านข้าได้กลิ่นแล้ว ”  ชายหนุ่มมองไปที่วูเล่ยและยิ้มออกมา

“ อาโก่ เจ้ามั่นใจนะว่ามันเป็นกลิ่นของผลมังกร ? ”  วูเล่ยแสดงท่าทีตื่นเต้นออกมาและมองไปที่ชายหนุ่มที่ชื่ออาโก่

“ ใช่นายท่านกลิ่นของผลมังกรนั้นแรงอย่างมากแม้ว่าจะอยู่ห่างแต่ข้าก็ยังได้กลิ่นมันอย่างชัดเจน ”  อาโก่พูดขึ้นด้วยท่าทีเคารพ

วูเล่ยยิ้มกว้างกว่าเก่า เขาไม่ใช่คนดีนัก เขาใจดีพอที่จะรับอาโก่มาเลี้ยง แต่ไม่คิดเลยว่าจะพบกับสมบัติ อาโก่นั้นมีความสามารถที่น่าทึ่ง ตราบใดที่เป็นสมบัติเกี่ยวกับธาตุไฟเขาจะได้กลิ่นมันผ่านจมูก

“ ไปเร็วเข้า รีบจับตัวเขาให้ได้ !”  วูเล่ยมั่นใจว่าหากเขาเอาชนะอีกฝ่ายได้ เขาต้องได้ผลมังกรนั่นมา

อาโก่พยักหน้าและวิ่งออกไป ไล่ตามอีกฝ่ายไปพร้อมกับวูเล่ย


ในเวลาเดียวกันที่ส่วนนอกภูเขาวูชาน เมื่อชายที่สวมหมวกฟางก็มาถึงที่ป่า เขาก็โล่งอกนิด ๆ ก่อนจะถอดหมวกออก ชายคนนี้คือหยางเฉินที่ปลอมตัวเป็นเสี่ยวหมิง !

“ เสี่ยวหยาง ข้าล่ะกังวลแทนเจ้าจริงๆ ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นคนแรกที่หนีออกมา ”  เสียงของเถาเถาดังขึ้นมาจากพู่กันที่เอวหยางเฉิน


“ หากข้าอยู่กับคนกลุ่มนั้น คนพวกนั้นอาจจะมองไม่ออก แต่คงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ พวกนั้นอาจจะไล่ตามตรวจสอบ 2-3 คน แล้วพบข้า ดังนั้นมันคงดีกว่าที่จะเสี่ยงเช่นนี้ ”  หยางเฉินยิ้มออกมา “พวกนั้นคงคิดว่าคนที่ออกมาจากโถงเถียคนแรกไม่ใช่ข้าแน่ ”  

“ ถูกแล้วคนที่ตามรอยเจ้ามาต่างก็อ่อนแอ เราสลัดพวกนั้นได้โดยง่าย พวกคนแข็งแกร่งอาจจะไล่ตามคนอื่นๆไป ”  เสียงของเถาเถายังดังออกมาจากพู่กัน  “เพราะหากเป็นข้า ข้าคงไม่เลือกที่จะตามคนแรกที่โผล่ออกมาแน่ๆ ”  


“ ดูเหมือนว่าเงิน 8 แสน นี่ไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว ”  หยางเฉินยืนมือเท้าสะเอวและยิ้มออกมาอย่างพอใจ

“ เจ้าน่าจะเป็นเสี่ยวหมิงจากหน่วยทลายอสูรสินะ ? ” ตอนนั้นเองกลับมีเสียงหัวเราะดังขึ้นจนทำให้หยางเฉินต้องตกใจ
หยางเฉินหันกลับไปและพบกับวูเล่ยและอาโก่ที่ตามมาจากป่า เมื่อเห็นสองคนนั้น สีหน้าของหยางเฉินก็เปลี่ยนไปทันที แต่สุดท้ายเขาก็โล่งอก เพราะด้วยความแข็งแกร่งของวูเล่ยแล้ว อีกฝ่ายไม่อาจจะรับมือกับพู่กันได้ !


“ ข้าจะเป็นเสี่ยวหมิงรึไม่นั้นก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเจ้าเลย !”  คลื่นพลังของหยางเฉินได้เพิ่มขึ้นมาขอบเขตธุลี ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาใช้ยันต์อยู่ ดังนั้นเขาจึงปรับเปลี่ยนคลื่นพลังได้ตามใจ

“ ไม่ว่าเจ้าจะเป็นเสี่ยวหมิงรึไม่ แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับข้าหรอก ”  น้ำเสียงของวูเล่ยเปลี่ยนไป เขายิ้มออกมา ”  แต่เจ้ามีผลมังกรกับตัว สิ่งนั้นมันสำคัญต่อข้าอย่างมาก ”  

“ หือ? เจ้าคิดจะแย่งผลมังกรนี่รึ ? ”  หยางเฉินฮึดฮัดออกมา ”  เจ้าคิดจะมีเรื่องกับหน่วยทลายอสูรงั้นรึ ? ”  


ตอนที่หยางเฉินขู่วูเล่ยนั้น เถาเถาก็ได้ควบคุมพู่กัน หากมีปัญหาเขาก็พร้อมจะลงมือ การโจมตีในช่วงที่คาดไม่ถึงน่าจะฆ่าวูเล่ยได้

เป็นเพราะเขามั่นใจในพู่กันจึงทำให้หยางเฉินไม่ได้กลัววูเล่ยเลยแม้แต่น้อย


“ เจ้าเฒ่าวู หากข้าอยู่ที่นี่ เจ้ายังคิดจะแย่งผลมังกรอีกรึไม่ ? ” ชายคนหนึ่งโผล่มาจากในป่า ชายคนนี้คือโมซัน กลับเป็นว่าเมื่อวูเล่ยได้ผลมังกรไป วูเล่ยจะขึ้นไปถึงขอบเขตปรมาจารย์ได้ ดังนั้นเมื่อเขาเห็นวูเล่ยออกมาจากเมืองเขาก็รีบตามมาทันที

‘ มีปัญหาแล้ว มีถึงสองคน ! ‘ หยางเฉินอดไม่ได้ที่จะกังวลขึ้นมา แต่เมื่อเขาคิดถึงสิ่งที่โมซันพูดมาเมื่อตะกี้ ก็พอจะมองออกว่าพวกนี้เหมือนจะไม่ใช่พวกเดียวกัน ตราบใดที่พวกนี้ไม่ได้ร่วมมือกัน งั้นเขาจะกังวลไปทำไม


“ โมซัน หากเจ้าไม่ขวางทางข้า ข้ารับปากว่าจะตอบแทนเจ้าในอนาคต ! ”  วูเล่ยมองไปที่โมซันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ยังไงเขาก็ต้องเอาผลมังกรนี้มาให้ได้ !
โมซันไม่ได้สนใจคำพูดของวูเล่ยแม้แต่น้อย แต่กลับหันไปมองหยางเฉินและยิ้มออกมา ”  น้องเสี่ยวหมิง เจ้าบอกทีว่าข้าควรช่วยใคร ? ”

‘ชัดแล้วว่า ชายคนนี้ไม่อยากให้วูเล่ยได้ผลมังกรไป แต่เขาเหมือนจะกดดันข้ารึ ? ข้าไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ! ’หยางเฉินสบถในใจ แต่ก็ยังคงยิ้มออกมา ”  หากพี่โม่ยืนเฉย ๆ รึช่วยข้า ข้าจะซาบซึ้งอย่างมาก แล้วข้าจะเตรียมของขวัญไปเยี่ยมเจ้าในอนาคต ! ”


“ ข้าขอไม่ปิดบังน้องเสี่ยวหมิงก็แล้วกัน ข้าอยากเห็นว่าเจ้ากับข้าเป็นพวกเดียวกัน ข้ายอมช่วยเจ้าทุกอย่างน้องเสี่ยวหมิง ไม่จำเป็นต้องขอบคุณอะไรเลย ”  โมซันพูดขึ้น

‘ พวกเดียวกันกับผีสิ ไอ้บ้านี่ไม่เปลี่ยนท่าทีเร็วไปหน่อยรึ ? แต่ก็ดี เขาตกลงกับเสี่ยวหมิงไม่ใช่ข้า หยางเฉิน เมื่อผีเสี่ยวหมิงไปหาเจ้า เจ้าก็อย่ามาบ่นข้าก็แล้วกัน ’ หยางเฉินหัวเราะในใจ


สีหน้าของวูเล่ยบิดเบี้ยวไป ตอนนั้นอาโก่ที่อยู่ข้างๆ ก็ได้ถามขึ้นมา  “นายท่าน เราจะทำยังไงกันดี ? ”

“ เสี่ยวหมิง ไม่ได้เจอกันนาน ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้ายิ่งกว่าเก่า ”  ตอนที่วูเล่ยกำลังจะกลับไปจากที่นั่น จู่ๆก็มีอีกคนโผล่มาข้างๆเขาราวกับผี  ชายคนนี้คือคุยเชิง


เท้าของคุยเชิงมีอากาศบาง ๆ ห่อหุ้มรอบ ๆ เท้าของเขาไม่ได้แตะพื้นแม้แต่น้อย และเคลื่อนที่ได้รวดเร็วอย่างมาก

“ ขอบเขตปรมาจารย์ !  ” สีหน้าของโมซันเปลี่ยนไปทันที การใช้ปราณห่อหุ้มตัวมีแค่ขอบเขตปรมาจารย์เท่านั้นที่จะมีได้
การใช้ปราณพันรอบตัวราวกับเกราะ ความร้อนและความหนาวเย็นไม่อาจจะรุกล้ำเข้าไปได้ แค่ยกเท้าขึ้นก็เหมือนจะมีพลังพอที่จะผ่าภูเขาออกจากกันได้แล้ว !

 
‘บัดซบ ! ทำยังไงดี ? ทำไมถึงมีผู้บ่มเพาะขอบเขตปรมาจารย์ที่นี่ได้ ! ’ หยางเฉินสบถในใจ เขารู้ว่าเขาพอจะหนีได้เมื่อเผชิญหน้ากับวูเล่ย แต่ตอนนี้มันกลับไม่เป็นแบบนั้น


“ เสี่ยวหมิงเจ้ามีแค่คนเดียว แม้ว่าหน่วยทลายอสูรจะแข็งแกร่ง แต่พวกเขาคงไม่ได้มาช่วยเจ้าที่นี่ ? ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าก็แค่สมาชิกทั่วไปของหน่วยทลายอสูร ”  คุยเชิงยิ้มออกมาก่อนจะหันกลับไปมองวูเล่ย “ วูเล่ยเจ้าสบายใจได้ ข้าจะช่วยเจ้าชิงผลมังกรมาเอง !”  

“ ขอบคุณพี่คุย !”  วูเล่ยแสดงท่าทียินดีออกมา


‘วูเล่ยรู้จักคุยเชิงด้วยรึ ? ไม่แปลกเลยที่เขาจะกล้าประมูลแข่งกับคุยเชิง คุยเชิงถึงกับยอมแพ้ ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ธรรมดาแน่ๆ ! ‘ โมซันอึ้งหลังจากที่ตะลึงได้ไม่นานเขาก็มองไปที่หยางเฉินแล้วฮึดฮัดออกมา  “เสี่ยวหมิงข้าแนะนำให้เจ้ายกผลมังกรให้กับเขาซะ ไม่งั้นแล้วอย่าหาว่าข้าหยาบคายกับเจ้า !”  

‘ไอ้บัดซบนี่ข้าจะฆ่าเขาให้ได้ ! ’หยางเฉินไม่คิดเลยว่าโมซันจะเปลี่ยนข้างเร็วแบบนี้และคิดจะจัดการกับเขาแทน นี่มันเปลี่ยนท่าทีเร็วเกินไปแล้ว


“ เสี่ยวหยางตอนที่ข้าโจมตี เจ้าต้องใช้โอกาสนี้หนีไปซะ ! ”  

ทันทีที่บอกกับหยางเฉินผ่านการส่งผ่านเสียงจบ พู่กันก็ได้บินออกมาจากเอวหยางเฉินทันที มันรวดเร็วดั่งสายฟ้าและขยายตัวยาวขึ้นแล้วพุ่งเข้าใส่คุยเชิงในพริบตา


แค่สะบัดก็ราวกับพู่กันตัดผ่านมิติได้ พู่กันได้ฟันเข้าใส่คุยเชิง ความเร็วนั้นเร็วจนน่าเหลือเชื่อ ไม่มีใครเห็นว่าพู่กันโผล่มาได้ยังไงแม้แต่คุยเชิงเองก็เช่นกัน ตอนที่คุยเชิงได้สติพู่กันก็มาถึงตรงหน้าแล้ว !

ตอนที่หยางเฉินอยู่ในโถงเถีย เขาได้ให้เงิน 8 แสนเหรียญกับเถาเถาเอาไว้ เถาเถาได้ทำการดูดเงินนั่นเข้าไป ดังนั้นการโจมตีของพู่กันจะอ่อนแอได้ยังไง ? หากไม่ใช่เพราะได้รับความเสียหายอย่างหนัก มันคงฆ่าคุยเชิงด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวแล้ว !


เมื่อเห็นพู่กันพุ่งเข้ามา คุยเชิงก็สีหน้าบิดเบี้ยวไป อกของเขามีปราณอัดแน่น และมีโล่ปราณสีขาวปกป้องส่วนอกเอาไว้  ปัง ! พู่กันได้เฉือนเข้าใส่ที่อกของคุยเชิง จนทำให้เกิดประกายไฟกระเด็นออกมา


พลังอันคมกริบตัดผ่านชั้นปราณและโจมตีเข้าใส่อกของคุยเชิงต่อ คุยเชิงฮึดฮัดออกมา เขาถอยกลับไปกว่า100 เมตร ก่อนจะประคองร่างกายเอาไว้ ที่อกของเขามีแผลปราณ และเลือดของเขาก็ปะทุออกมาด้วยความปั่นป่วน
ทุกอย่างเกิดขึ้นในพริบตา ตอนที่โมซันและวูเล่ยได้สติ พู่กันก็ได้สั่นไหวอย่างรุนแรงแล้วหดขนาดลง ตอนนั้นพู่กันสะบัดตัวสองครั้งโจมตีเข้าใส่โมซันและวูเล่ยต่อ !


เสียงตัดอากาศดังขึ้น พู่กันได้ตัดอากาศออกจากกัน โมซันและวูเล่ยพากันถอยกลับด้วยความตกใจ พวกเขาทำได้แค่ต้องถอยกลับออกมา ไม่งั้นแล้วไม่ต้องเดาเลยว่าพวกเขาต้องตาย แม้แต่ผู้บ่มเพาะขอบเขตปรมาจารย์ก็ยังไม่อาจจะหยุดการโจมตีนี้ได้แล้วพวกเขาจะกล้ารับการโจมตีนี้ได้ยังไง ?

ตอนที่พวกนั้นถอยและหลบออกมานั้น หยางเฉินก็ได้หนีออกไปด้วยความเร็วสูงสุดที่มี !






รีวิวผู้อ่าน