px

เรื่อง : ข้าจะเป็นราชาอมตะ (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี 3 วัน 1 ตอน
ตอนที่ 21 : กระบี่อสนีโลกันตร์


ตอนที่ 21 : กระบี่อสนีโลกันตร์


เช้าวันต่อมา รอบตัวก็ยังเต็มไปด้วยหมอกราวกับว่าหมอกนี้จะคงอยู่ไปชั่วนิรันดร์  หยางเฉินเดินเข้าไปในป่าด้วยความระมัดระวัง เขาถูกเถาเถาบังคับให้ออกมาจากถ้ำ เพื่อออกมาล่าสัตว์อสูรในป่า เขาได้หนังสัตว์มาหลายผืนแล้ว ในแหวนมิติทั้งหมดต่างก็เป็นหนังของสัตว์อสูรขอบเขตกำลังภายในทั้งหมดที่ถูกเขาฆ่าไป

 

ก่อนที่จะออกมาเถาเถาได้บอกกับหยางเฉิน  ‘ หากพบกับอันตราย ข้าจะไปช่วยเจ้า แค่ต้องหาสัตว์อสูรขอบเขตกำลังภายใน หากเจ้าหามันพบเจ้าก็ฆ่ามันทันที’

  
หยางเฉินจดจำคำพูดของเถาเถาเอาไว้ แต่หลายครั้งที่เขาพบกับสัตว์อสูรที่เหนือกว่าขอบเขตกำลังภายใน แม้เขาเกือบจะตายแต่เถาเถาก็ยังนิ่งเฉย ไม่ลงมือทำอะไร มันราวกับว่าเถาเถาไม่คิดจะช่วยเขา ดังนั้นหยางเฉินจึงไม่เชื่อคำพูดเถาเถาอีกต่อไป ดูเหมือนว่าเขาได้แต่ต้องพึ่งพาตัวเอง
 

“ เสี่ยวหยางมันมีคนอยู่ตรงหน้าเจ้า เจ้าควรหาที่ซ่อนก่อน ” เสียงของเถาเถาดังออกมาจากพู่กัน มันเป็นครั้งแรกที่เถาเถาเตือนเขา ถึงเขาจะบอกว่าไม่เชื่อคำพูดเถาเถา แต่อันที่จริงแล้วเถาเถาพูดยังไม่ทันจบเขาก็ได้ไปซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้แล้ว


ตอนที่หยางเฉินซ่อนตัวนั้น มันก็มีชายหนุ่มอายุประมาณ 20 ปี 3 คน โผล่มา พวกนั้นใส่ชุดนักล่าอสูร ทุกคนต่างก็มีพลังขอบเขตธุลี อาวุธในมือพวกเขาอยู่ระดับทั่วไป   รังสีอาฆาตที่แผ่ออกมาจากตัวพวกเขานั้นหนักหน่วงอย่างมาก สายตาของพวกเขาแสดงถึงแรงอาฆาตออกมา วิธีการต่อสู้ก็ดุดัน และเป็นเพราะพวกเขารอดจากความตายมาได้หลายครั้ง หากเถาเถาไม่ลงมือ ไม่ว่าจะเป็นใครในสามคนนี้ก็สามารถฆ่าหยางเฉินได้ในพริบตาแน่


 “ ข้าไม่รู้ว่าหัวหน้าหน่วยคิดอะไร ถึงได้ส่งเรามาตามหาคนที่นี่”

 “ ใช่หากข้าพบกับคนคนนั้นจริง ๆ ข้าเกรงว่าข้าคงไม่มีโอกาสแม้แต่จะหนี !”
 

“ ข้าได้ยินมาว่าเขาบาดเจ็บ ข้าคิดว่าคงบาดเจ็บหนักด้วย ไม่งั้นแล้วหัวหน้าหน่วยคงไม่ส่งเรามาตามหาเขา”

 “ ถึงเขาจะบาดเจ็บแต่ก็ใช่ว่าเราจะเอาชนะเขาได้”
...


เมื่อได้ยินบทสนทนาของทั้งสาม หยางเฉินก็อดไม่ได้ที่จะคิดในใจ ‘คนของหน่วยล่าอสูรเซียวเทียนรึ ? พวกเขาพูดถึงใครกัน ? ภารกิจที่หัวหน้าหน่วยพวกนั้นให้มาคืออะไร ? ’

 “ อีกอย่างแล้วนี่มันอะไรกัน ? เราไม่อาจจะตัดมันได้แม้ว่าจะใช้แรงทั้งหมด ?”  ชายหนุ่มคนหนึ่งหยิบเอาหยกดำออกมาจากกระเป๋าด้านหลัง หยกดำนี้แผ่แสงสีดำออกมา
 

“ นั่นมัน... ”  เสียงของเถาเถาดังขึ้นมาในหูของหยางเฉินด้วยความแปลกใจ  “ เสี่ยวหยางเจ้าต้องเอามันมาให้ได้ !”

หยางเฉินไม่อาจจะส่งข้อความกลับได้ ดังนั้นเขาจึงได้แต่ฟัง แม้ว่าในใจของเขาจะสับสน แต่ก็ไม่กล้าหลุดปากจะถามเถาเถาออกไป
 

“ ถูกแล้วมันคือหยกทมิฬ เสี่ยวหยางเมื่อพวกนั้นผ่านที่นี่ไปข้าจะลงมือฆ่าพวกเขา เจ้าต้องซ่อนตัวอยู่ที่นี่ ห้ามออกมา”  น้ำเสียงของเถาเถาฟังดูจริงจังอย่างมาก


‘ บัดซบแม้ว่าเถาเถาจะดูไร้พิษภัย แต่เขากลับไม่ลังเลเลยเมื่อต้องฆ่าใคร ’ หยางเฉินแอบตกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะมีส่วนร่วมกับการฆ่าคน เขาทั้งตื่นเต้นและกังวล แต่โชคดีที่เขาไม่ได้ลงมือด้วย

ซู่ ! พู่กันพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วดั่งสายฟ้า สีหน้าของทั้งสามคนเปลี่ยนไปทันที พวกนั้นกระจายตัวและหนีออกไปคนละทิศละทาง แต่มันก็สายเกินไปแล้ว พู่กันได้สะบัดออกไปสามครั้ง ก่อนจะมีเสียงตัดอากาศดังขึ้นก้องไปทั่ว นัยน์ตาของทั้งสามหดลง ตอนนั้นพู่กันที่รวดเร็วดั่งสายฟ้านี้ ได้เฉือนเข้าที่ลำคอของพวกเขาพร้อมกับเลือดที่พุ่งออกมา


หยางเฉินสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขาถึงกับเบิกตากว้างเมื่อเห็นหัวของทั้งสามคนที่กระเด็นหลุดจากบ่าพร้อมกับร่างที่ทรุดลงกับพื้น
แม้ว่าหยางเฉินจะเคยฆ่าสัตว์อสูรมาแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยฆ่าคน บางทีเขาอาจจะเคยมาบ้าง แต่ก็ในความฝันเท่านั้น ยังซะเขาก็ไม่เคยฆ่าใครจริง ๆ และตอนนี้เมื่อเห็นคนตายตรงหน้า เขาก็ไม่อาจจะหลบเลี่ยงความตกตะลึงในใจได้

หลังจากที่แน่นิ่งไปไม่นาน หยางเฉินก็ค่อย ๆ สงบสติอารมณ์ได้ การฆ่าคนไม่ใช่เรื่องยาก การหลอกคนกับการฆ่าคนไม่เหมือนกัน แต่มันก็ส่งผลเสียต่อผู้คนเช่นกัน นั่นคือสิ่งที่เขาคิด เขาจึงไม่ได้รู้สึกหนักใจกับเรื่องนี้นัก   “ เถาเถาหยกดำนั่นมันอะไร ?”  หยางเฉินโผล่ออกมาจากพุ่มไม้และมองไปที่พู่กันก่อนจะถามขึ้นมา


เถาเถาโผล่ออกมาจากพู่กัน เขากำมือก่อนที่หยกดำจะลอยเข้ามาในมือของเขา ก่อนจะหันกลับไปมองหยางเฉินแล้วยิ้มออกมา
“ ก่อนอื่นรีบออกจากที่นี่กันก่อนแล้วค่อยคุยกัน เลือดมีแต่จะดึงดูดสัตว์อสูรมาที่นี่”

 “ งั้นเจ้าก็ไปก่อน ” หยางเฉินเก็บกระเป๋าของทั้งสามเข้าไปในแหวนมิติ แล้วรีบตามไป เขาไม่ลืมที่จะใช้ก้าววายุอสนี

หลังจากที่ออกห่างจากที่นั่นได้สักพัก หยางเฉินและเถาเถาก็ได้หยุดลง

 

เถาเถาไม่ได้บอกหยางเฉินว่าหยกดำนี้คืออะไร แต่กลับพูดขึ้น “ เสี่ยวหยางเอามือเจ้าออกมา”

 “ เจ้าจะทำอะไรกับมือข้า ?”  ถึงจะสับสนแต่หยางเฉินก็ยังคงยื่นมือออกมาอยู่ดี

เถาเถาได้ใช้พู่กันเฉือนที่นิ้วของหยางเฉิน เพราะหยางเฉินไม่ทันระวังตัวจากเถาเถา รวมกับความเร็วของพู่กันที่สูง ดังนั้นหยางเฉินจึงไม่ทันได้หลบ ที่นิ้วชี้ของเขาจึงโดนเฉือนและมีเลือดไหลออกมา
 

“ เจ้า...คิดจะทำอะไร ?  ” สีหน้าของหยางเฉินเปลี่ยนไป แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บแค่เพียงเล็กน้อยแต่เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเถาเถาถึงได้ทำเช่นนี้
 

“ ข้าไม่ได้จะทำร้ายเจ้า เร็วเข้า ! อย่าให้เลือดเสียเปล่า !” เถาเถายัดหยกดำเข้าไปในมือของหยางเฉินและหยดเลือดลงไปใส่หยกดำ หยกดำกลับสูบเลือดเข้าไปทันที


 “ นี่มันอะไรกัน ?”  หยางเฉินมองไปที่หยกดำ สีหน้าของเขาดูสับสนยิ่งกว่าเก่า หยกนี่กลับสูบเลือดของเขาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ !

หยกดำทำการดูดซับเลือดไปอย่างต่อเนื่อง หยางเฉินเงยหน้ามองเถาเถาและอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา “ เถาเถา เมื่อไหร่ที่หยกนี่จะสูบเลือดเสร็จ ?”
 “ เดี๋ยวก็เสร็จ สบายใจได้ ข้ารับรองกับเจ้าได้ว่าเจ้าจะไม่เสียดายกับการที่ให้มันสูบเลือดของเจ้า”  เถาเถาหัวเราะออกมาด้วยท่าทีลึกลับ


 “ ข้าเริ่มรู้สึกเสียดายเข้าแล้ว”  หยางเฉินกลอกตาใส่ หลักการของเขาคือเขายอมให้คนอื่นเจ็บตัว แทนที่เขาจะต้องมาเจ็บตัวเอง และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าเป็นเขาเองที่ต้องเจ็บตัว แล้วเขาจะพอใจได้ยังไง
 

“ เจ้ารีบปิดแผลได้แล้ว” เถาเถาพูดขึ้น

หยางเฉินทำการปิดแผลด้วยปราณ แต่สายตาของเขาก็ยังจับจ้องไปที่หยกดำในมือของเถาเถาแล้วถามขึ้นมาด้วยความสงสัย “ เถาเถา หยกนี่มีไว้ใช้ทำอะไรกัน ?”


 “ เดี๋ยวเจ้าก็รู้เอง” เถาเถายิ้มออกมา เขาไม่ได้บอกหยางเฉิน มันจึงยิ่งทำให้หยางเฉินสับสนขึ้นไปอีก  แต่ตอนนั้นตาของหยางเฉินก็ต้องเบิกกว้างราวกับเห็นบางอย่างที่น่าเหลือเชื่อ หยกดำนั้นค่อยๆเปลี่ยนรูปร่าง มันราวกับปรอทที่หยดลงไปที่พื้น ในพริบตาหยกดำที่ยาวกว่า1ฟุต ก็ละลายลงไปบนพื้น แต่ส่วนที่น่าทึ่งที่สุดคือหลังจากที่หยกดำละลายไปนั้นมันกลับมีกระบี่อยู่ด้านใน กระบี่สีฟ้ามันมีตัวหนังสือสลักไว้ที่ด้ามกระบี่  นอกจากกระบี่แล้วยังมีคัมภีร์อยู่อีก มันดูคล้ายกับคัมภีร์ที่บันทึกวรยุทธ์เอาไว้

 “ นี่...”  หยางเฉินอดไม่ได้ที่จะอึ้งในใจและสับสนอย่างมาก ‘ นี่มันบ้าอะไรกัน ? มีกระบี่ในหิน ? มันถึงกับมีคัมภีร์อยู่ด้วย? ‘

 “ หยกทมิฬเป็นของมีค่า สถานะดั้งเดิมของมันคือของเหลว แต่เมื่อโคจรปราณเข้าไปมันจะกลายเป็นของแข็งในทันที เมื่อมันพันรอบสมบัติ มันจะปกปิดพลังของสมบัติเอาไว ตอนที่ผู้คนกำลังจะตายพวกเขาจะใช้มันเก็บสมบัติเอาไว้ ทางเดียวที่จะทำให้หยกละลายลงได้ก็คือให้เลือดกับมัน ดังนั้นคนส่วนมากจึงไม่อาจจะได้สมบัติที่โดนผนึกอยู่ด้านใน เพราะพวกเขาไม่รู้วิธี”  เถาเถาอธิบายออกมา

หยางเฉินเข้าใจในทันที เขาได้ไปหยิบกระบี่ที่พื้นขึ้น กระบี่นั้นบางราวกับปีกจักจั่น ตัวกระบี่สลักตัวหนังสือ ‘ อสนีโลกันตร์ ’ เอาไว้

 

กระบี่อสนีโลกันตร์ !


 “ ระดับของกระบี่นี้ค่อนข้างสูง มันเป็นสมบัติจิตระดับกลาง เฮ้อดูเหมือนว่าข้าจะดีใจไปหน่อย ข้าคิดว่ามันจะเป็นสมบัติระดับสูงซะอีก” เถาเถาถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวัง

 “ สมบัติระดับกลางยังไม่ดีอีกรึ ?”  หยางเฉินถึงกับพูดอะไรไม่ออก มุมมองของเถาเถานี่จะสูงเกินไปแล้ว

 “ ช้าก่อนกระบี่นี่ดูต่างไปนิดๆ”  เถาเถาดึงกระบี่จากมือของหยางเฉินไปตรวจสอบ หลังจากนั้นสักพักเขาก็เผยสีหน้ายินดีออกมา “ มันกลับทำมาจากแม่เหล็กสายฟ้า เสี่ยวหยาง เจ้าได้สมบัติที่ดีมาครองแล้ว”

 
 “ แม่เหล็กสายฟ้างั้นรึ ? มันคืออะไรกัน ?”  หยางเฉินอดไม่ได้ที่จะสงสัยในตำราของชายแก่ขี้เมา เพราะมันมีแต่สมุนไพรเขาจึงไม่รู้ว่าอะไรคือแม่เหล็กสายฟ้า


 “ เจ้าลองเอามันฟันดู !” เถาเถาไม่ได้อธิบายอะไร และโยนกระบี่ให้กับหยางเฉิน

หยางเฉินรับกระบี่เอาไว้แล้วลองกวัดแกว่งดูตามที่เถาเถาบอก

ฉัวะ !

 

ปราณกระบี่สีฟ้าได้พุ่งออกไป พุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลโดนตัดออกโดยกระบี่ปราณทันที  ตูม!  ปราณสายฟ้าทำให้พุ่มไม้ไหม้เกรียมในพริบตา


 “ ปะ...เป็นไปได้ยังไง ?”  หยางเฉินแสดงสีหน้าเหลือเชื่อออกมา ตะกี้นี้ปราณในตัวของเขาโดนกระบี่ดูดเข้าไป แต่ที่น่าเหลือเชื่อไปกว่านั้นคือเขากลับสามารถใช้ปราณกระบี่ออกมาได้ด้วยแค่การสะบัดกระบี่เท่านั้น  หากคิดจะปล่อยปราณกระบี่ออกมา งั้นเขาก็ต้องแผ่ปราณออกมาภายนอกให้ได้เสียก่อน แต่เขาอยู่แค่ขอบเขตกำลังภายในขั้น 3 ดังนั้นเขาจึงไม่อาจจะแผ่ปราณออกมาภายนอกได้


 “ กระบี่อสนีโลกันตร์นี่ทำขึ้นมาจากแม่เหล็กสายฟ้า มันหายากอย่างมาก มันจะดูดปราณในร่างมนุษย์ออกมาเอง และสามารถสร้างภาพลวงตาว่าเจ้าสามารถปล่อยปราณออกมาได้ ” เถาเถายิ้มออกมา

 “ น่าเหลือเชื่อที่มีของเช่นนี้อยู่ ” หยางเฉินตื่นเต้นและตกหลุมรักกระบี่นี่ทันที

 “ สำหรับคนเหนือกว่าขอบเขตธุลี การดูดซับปราณนี้ถือว่าเล็กน้อย”  เถาเถายิ้มออกมา “ อีกการทำงานหนึ่งของแม่เหล็กสายฟ้าคือ หากเจ้าใส่ปราณเข้าไปจำนวนมาก มันจะยิ่งรุนแรงขึ้น มันน่าจะใช้ความสามารถนี้ได้เต็มที่”


ตอนที่พูดนั้น เถาเถาก็ได้ดึงกระบี่ในมือของหยางเฉินไป เขามองไปที่ต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลออกไป ก่อนจะฟันกระบี่ออกไปอย่างแรงกระบี่นั้นสั่นไหวราวกับว่ามันกำลังคลั่ง มันราวกับงูที่แหวกว่ายไปมาในอากาศ

เพราะกระบี่นั้นสั่นไหวรุนแรงเกินไป หยางเฉินจึงเหมือนเห็นกระบี่เป็นร้อยเล่มสั่นไหวไปมา เงาของกระบี่กระจายไปทั่วทุกทิศทาง เสียงแทงทะลุดังขึ้นไม่รู้จบ


เมื่อเถาเถาหยุดโคจรปราณเข้าไปในกระบี่ ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไกลออกไปก็ราวกับรังผึ้ง มันเต็มไปด้วยรูที่โดนกระบี่แทงทะลุ นี่เถาเถาแค่ฟันไปมั่ว ๆ ก็ยังทำให้เกิดความเสียหายที่น่ากลัวเช่นนี้ได้ !

รีวิวผู้อ่าน