ตอนที่ 29 : ผลประโยชน์
ถ้ำเต็มไปด้วยเสียงมังกรคำราม สายฟ้านับไม่ถ้วนกระจายไปทั่วอากาศ ภายใต้วงล้อมของมังกรสายฟ้าเหล่านี้ พู่กันได้สะบัดตัวไปมาอย่างต่อเนื่องราวกับขีดเขียนอะไรบางอย่าง มันได้สะบัดตัวไปมาทุกทิศทางก่อนจะมีเงาสามร่างพุ่งไปหาทางที่พู่กันอยู่ หยางเฉินที่อยู่ไม่ไกลนักเมื่อเห็นเงาที่พุ่งเข้ามา เขาก็อดไม่ได้ที่จะสีหน้าเปลี่ยนไป พวกนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก เซ่ามู, ซงซาน และหลงฉี
ทุกคนต่างก็อยากได้พู่กัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะลงมือ
ผู้บ่มเพาะขอบเขตปรมาจารย์คิดจะยึดครองพู่กัน ด้วยความแข็งแกร่งของพู่กันแล้วก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะต้านทานทั้งสี่ได้ หยางเฉิน อดทนต่อความเจ็บปวดและลุกขึ้นยืนด้วยตัวที่สั่นเทา เขารีบครุ่นคิดแต่ก็ไม่อาจจะหาทางช่วยเถาเถาได้เลย
โชคดีที่ทั้งสี่คนซึ่งล้อมพู่กันอยู่นั้นไม่ได้ร่วมมือกัน เมื่อเทียนหลินเห็นเซ่ามูและซงซานมาที่นั่น เขาก็ได้ฟาดค้อนเขาใส่ทั้งสองคนก่อน
จะมีมังกรสายฟ้า 7 ตัวพุ่งเข้าใส่
เมื่อเห็นมังกรสายฟ้าทั้ง 7 ตัวพุ่งเข้ามา เซ่ามูและซงซานต่างก็พากันโต้กลับทันที
“ หมัดหมาป่าไฟ”
“ ดาบสายฟ้า !”
หมาป่าไฟและดาบสายฟ้าได้พุ่งออกมาปะทะกับมังกรสายฟ้าทั้ง 7 พลังได้กระจายไปทั่วทุกด้านและทำให้ถ้ำเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรงขึ้นมา
“ พวกเจ้าจะมาแย่งอาวุธจิตจากข้ารึ ข้าไม่รู้จริงๆว่าพวกเจ้าเอาความกล้ามาจากไหนกัน ! ” เทียนหลินฮึดฮัดออกมา “ ข้าว่าพวกเจ้าควรออกจากที่นี่ไปเสีย ไม่งั้นแล้วก็อย่าหาว่าข้าไม่ไว้หน้าหน่วยเซียวเทียน !”
เซ่ามูและซงซานสีหน้าบิดเบี้ยวไป แม้ว่าเทียนยหลินจะอยู่ขอบเขตปรมาจารย์เหมือนกับพวกเขา แต่ก็อยู่ถึงขั้น 9 ซึ่งเขาได้ขึ้นไปขอบเขตบรรพจารย์ได้ครึ่งก้าวแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเทียนหลินก็มีอาวุธขั้นสูงอยู่ในมือ มันทรงพลังอย่างมาก บอกได้ว่าหากสู้กับคนที่ขอบเขตเหนือกว่าเขาก็ยังรับมือได้ ในขอบเขตปรมาจารย์นั้นไม่อาจจะมีใครเป็นคู่มือเขาได้เลย
ฟู่ ! ตอนที่ทุกคนกำลังสู้กันอยู่นั้น พู่กันก็ได้บินไปยังกำแพงถ้ำ ปลายของพู่กันสะบัดออกไปพร้อมกับแร่ที่ตกลงมาอีกครั้ง มันได้ทำการดูดซับแร่ไปทันที ในพริบตาพู่กันก็สะบัดออกไปกว่าสิบครั้งพร้อมกับกลืนกินแร่บนกำแพงนับไม่ถ้วน
“ มันคิดจะทำอะไร ? ท่าไม่ดีแล้ว ! เราไม่อาจจะปล่อยให้มันทำแบบนี้ได้ !” สีหน้าของหลงฉีและเทียนหลินเปลี่ยนไป เทียนหลินอ้าปากแล้วคำรามออกมา เสียงคำรามนี้ราวกับฟ้าผ่า คลื่นเสียงได้พุ่งเข้าหาพู่กันเหมือนกับดาบที่มองไม่เห็น !
ฟู่ ! พู่กันเหลือแต่เงาและหลบคลื่นเสียงเหล่านั้น คลื่นเสียงจึงอัดเข้ากับกำแพงแทน รูขนาดเท่ากับนิ้วโป้งได้ปรากฏขึ้นมาที่กำแพงพร้อมกับรอยร้าวที่กระจายไปทั่ว
แกร๊ก...รอยร้าวเริ่มเชื่อมต่อกันก่อนที่กำแพงจะถล่มลงมาอย่างแรง ทุกคนต่างก็อึ้ง กำแพงด้านหลังกลับพังลงจนเผยให้เห็นถ้ำอีกแห่ง
มันมีหมอกขาวไหลออกมาจากถ้ำนั้น หมอกนี้ครอบคลุมไปทั่วทั้งถ้ำ หลังจากที่ทุกคนโดนหมอกนี้กลืนเข้าไป สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที “ ปราณหนาแน่นจริงๆ !”
หยางเฉินที่แต่เดิมแล้วบาดเจ็บเพราะแรงระเบิด หลังจากที่โดนปราณครอบคลุมเข้าไป ความเจ็บปวดที่มีก็ได้หายไป
‘ รึว่ามีบ่อปราณอยู่ที่นี่ ’ นี่คือสิ่งที่ทุกคนคิดในใจ พวกเขาพากันเผยสีหน้ายินดีออกมาและวิ่งเข้าไปในถ้ำที่มีปราณหนาแน่นแผ่ออกมา ตอนที่เทียนหลินและคนอื่นๆกำลังจะพุ่งเข้าไปในถ้ำนั้น พู่กันที่อยู่ใกล้ถ้ำที่สุดก็ได้บิดตัวแล้วพุ่งออกไป !
เมื่อเห็นแบบนั้น เทียนหลินก็สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขารีบใช้ความเร็วทั้งหมดที่มีเพื่อพุ่งเข้าไปน้ำ
หยางเฉินสูดหายใจเข้าลึกๆ ตอนที่ทุกคนรีบเข้าไปในถ้ำนั้นเขาก็ได้ใช้ก้าววายุอสนีพุ่งตามเข้าไป ตอนที่เขาเข้าในถ้ำก็พบว่าปราณหนาแน่นยิ่งกว่าเก่า มันราวกับหมอกที่คงอยู่ไปชั่วนิรันดร์
เมื่อหายใจในปราณที่หนาแน่นแบบนี้ หยางเฉินก็รู้สึกสบายแบบไม่อาจจะอธิบายได้ ไม่รู้ตัวเลยว่าเขามาถึงทางตันเมื่อไหร่ เมื่อมาถึงจุดสิ้นสุดของถ้ำแล้ว เขาก็เห็นกำแพงหินที่อัดแน่นไปด้วยลูกปัดสีเงินขนาดเท่ากับไข่เป็ด
“ ลูกลูกบอลปราณ!”
ลูกบอลปราณคือของที่หายากและแทบไร้ราคา ทุกคนที่บ่มเพาะต่างก็อยากได้สมบัติแบบนี้มา ด้วยสมบัติแบบนี้ ความเร็วในการบ่มเพาะของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นมาอย่างแน่นอน ลูกปัดที่ฝังบนกำแพงนี้คือลูกบอลปราณ และมีแค่ลูกเดียวที่เป็นของจริง ส่วนที่เหลือต่างก็เป็นของปลอม
หยางเฉินเคยเห็นในตำรามาว่าลูกบอลปราณนั้นจะสร้างลูกบอลปราณปลอมขึ้นมาเพื่อหลอกผู้คน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบอลปราณนั้นจะมีชีวิต ลูกบอลปราณกำเนิดขึ้นมาเพราะปราณจำนวนมากที่รั่วไหลออกมา ส่วนลูกบอลปราณปลอมสร้างมาจากฝุ่นในอากาศมารวมตัวกันจนกลายมาเป็นผลึก
เทียนหลินและคนอื่นๆได้พุ่งเข้าไปในถ้ำนั้น เมื่อหยางเฉินเห็นพวกนั้น เขาก็ได้หยุดทันที
แต่เมื่อหยางเฉินไม่เห็นพู่กันก็สีหน้าเปลี่ยนไปทันที ตอนนั้นเสียงของเถาเถาก็ดังขึ้นมาในหู “ เสี่ยวหยาง ให้พวกเขาสู้กันก่อน แล้วเราค่อยแอบไปเก็บผลประโยชน์ภายหลัง ”
“ เถาเถา !” หยางเฉินมองไปรอบๆแต่ก็ไม่พบร่างของพู่กัน
“ ข้าอยู่นี่ ไม่ต้องพูด ไม่อย่างนั้นพวกมันจะหาเราพบ” ที่ใต้พื้นดินไม่ไกลจากหยางเฉินมากนัก ได้มีบางอย่างพุ่งออกมาและบินเข้ามาหา หยางเฉิน มันบางพอๆกับเส้นผม แต่กลับเป็นพู่กันหลังจากที่หดตัวลงแล้ว
หยางเฉินเบิกตากว้าง ไม่ใช่ว่าพู่กันไม่เคยหดตัวแต่การหดตัวครั้งนี้มันไม่เล็กไปหน่อยรึ ? ไม่แปลกเลยที่เทียนหลินและคนอื่นๆจะหาพู่กันไม่พบ เขาไม่รู้เลยว่าการที่พู่กันหดตัวเล็กแบบนี้ได้เป็นเพราะแร่เหล็กจำนวนมากที่กินเข้าไปจนทำให้ฟื้นฟูพลังกลับมาหรือไม่
พู่กันได้บินเข้ามาข้างๆหยางเฉิน ก่อนที่เถาเถาจะพูดขึ้น “ เสี่ยวหยาง พวกเขาไม่อาจจะหาลูกบอลปราณของจริงเจอได้ แต่เจ้าทำได้ เจ้าโคจรปราณเข้าไปในยันต์แล้วเจ้าจะรับรู้ถึงลูกบอลปราณของจริง !”
หยางเฉินแสดงสีหน้ายินดีออกมา เขารีบโคจรปราณเข้าไปในยันต์ตามที่เถาเถาบอก ในตอนนั้นคิ้วของเขาส่องแสงสีดำออกมา และในตอนนั้นเองในตาของเขาก็เห็นลูกปัดลูกหนึ่งบนกำแพงหินที่ส่องแสงจ้าออกมาเด่นชัดกว่าลูกอื่นๆ
“ เราต้องรอโอกาส” เสียงของเถาเถาดังขึ้นมาในหูของหยางเฉิน
หยางเฉินพยักหน้า แต่สีหน้าของเขากลับแสดงความกังวลออกมา
เมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของหยางเฉิน เถาเถาก็พูดขึ้น “ ข้ากินแร่เหล็กไปจำนวนมาก แม้ว่าแร่เหล็กเหล่านี้จะมีน้อยแต่ข้าก็สามารถโจมตีได้รุนแรงยิ่งกว่าเก่า หากเราได้ลูกบอลปราณนี้มา แม้ว่าทั้งสี่จะร่วมมือกันแต่ข้าก็พาเจ้าหนีออกไปได้”
เมื่อได้ยินที่เถาเถาพูดมา หยางเฉินก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
‘ หากข้าเข้าใจไม่ผิดมันก็แค่ลูกบอลปราณขั้นต้น เฮ้อ...แต่ในที่ห่างไกลเช่นนี้การได้ลูกบอลปราณขั้นต้นมาก็ถือว่าดีแล้ว ’ ในพู่กันนั้น เถาเถาได้พึมพำในใจ
หยางเฉินไม่ได้ยินคำพูดของเถาเถา และตอนนั้นสายตาของเขาก็จับจ้องไปที่เทียนหลินและคนอื่นๆ เซ่ามูและซงซานเลือกที่จะหยิบลูกปัดบนกำแพงแล้ว ส่วนเทียนหลินและหลงฉีเองก็ยืนอยู่ตรงหน้ากำแพงแล้วเช่นกัน
“ พวกเจ้าจะเอาลูกบอลปราณที่ได้ไปให้หน่วยเซียวเทียนรึว่าเอาไปครอบครองไว้ที่ตัวเองกัน ?” หลงฉีมองไปที่เซามูและซงซานก่อนจะฮึดฮัดออกมา
“เอาไปให้หน่วยเซียวเทียนอะไรกัน ? ” ตอนแรกหยางเฉินนั้นยังสับสน หลังจากที่สงสัยได้ไม่นานเขาก็เข้าใจคำพูดของหลงฉีทันที แต่ไม่ว่าเซ่ามูและซงซานจะเป็นตัวแทนของหน่วยรึตัวแทนของตัวเอง แต่ก็ไม่อาจจะสู้กับเทียนหลินกับหลงฉีได้
หลงฉีและเทียนหลินเหมือนจะมีคนที่ใหญ่โตคอยหนุนหลัง แม้แต่หน่วยเซียวเทียนนั้นพวกเขาก็ไม่ได้สนใจ
และที่หลงฉีข่มขู่เซ่ามูและซงซานนั้น ก็เพื่อให้พวกนี้หนีออกจากที่นี่ไป
“ เจ้า !” สีหน้าของซงซานบิดเบี้ยวไป เขาเป็นรองหัวหน้าหน่วยเซียวเทียน ดังนั้นจะยอมโดนอีกฝ่ายข่มขู่เช่นนี้ได้อย่างไร?
“ เจ้าเฒ่าซง ไปกันเถอะ !” ตอนที่ซงซานกำลังหงุดหงิดอยู่นั้น เซ่ามูก็เดินเข้าไปกดไหล่เขา
หลังจากที่ซงซานได้ยินที่เซ่ามูพูดมา เขาก็ฮึดฮัดออกมา และดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเขาคิดจะออกจากที่นี่กันจริงๆ เมื่อเห็นลูกบอลปราณต้องตกอยู่ในมือของเทียนหลินและหลงฉี เขาก็รู้สึกโมโหขึ้นมา หากว่ามีลูกน้องอยู่ด้วยที่นี่ อย่างนั้นพวกเขาอาจจะร่วมมือกันเพื่อฆ่าสองคนนี้และชิงเอาลูกบอลปราณมาได้ แต่ตอนนี้พวกเขามีแค่สองคน และไม่มีความกล้าพอ
‘ ไม่ พวกเขาจะหนีไปแบบนี้ไม่ได้ ! ’ สีหน้าของหยางเฉินเปลี่ยนไป เขาอดไม่ได้ที่จะสบถในใจ ‘สองคนนี้ต้องหนีเพราะอีกฝ่ายแกร่งเกินไป ! ’
“ ดูเหมือนว่าจะเหลือแค่สองคน หากเราลอบโจมตีตอนที่พวกนั้นไม่ทันระวังตัว หวังว่าเราจะแย่งลูกบอลปราณมาได้” เถาเถาเองก็หมดหนทาง เมื่อสองคนนั้นคิดจะออกจากที่นี่ไป งั้นเขาก็ไม่อาจจะห้ามพวกเขาได้ ?
ตอนที่หยางเฉินและเถาเถาคิดว่าเซ่ามูและซงซานจะยอมแพ้ไปนั้น จู่ๆก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา เพราะทั้งสองกลับลงมือ มีลูกบอลสีแดงพุ่งออกมาจากมือของพวกเขา ก่อนจะพุ่งเข้าใส่เทียนหลินและหลงฉีอย่างรวดเร็ว !
“ ผลึกเลือด !” ไม่ใช่แค่เทียนหลินและหลงฉีเท่านั้นที่ตกใจ แม้แต่หยางเฉินก็ยังต้องตกใจไปด้วย ที่เซ่ามูและซงซานคิดจะระเบิดที่นี่ด้วยผลึกเลือดเพื่อโอกาสในการชิงลูกบอลปราณมา พลังของการระเบิดผลึกเลือดนั้นรุนแรงอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นผลึกเลือดสัตว์อสูรระดับปรมาจารย์ แต่หากหลบไม่ได้แล้ว แม้แต่เทียนหลินก็อาจจะบาดเจ็บหนักได้
เมื่อเห็นผลึกเลือดที่ถูกโยนออกมา เทียนหลินและหลงฉีก็พากันหลบ ไม่นานเซ่ามูและซงซานก็โจมตีใส่กำแพงเพื่อแย่งเอาบอลปราณบนกำแพงหินมา แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าลูกบอลปราณลูกไหนที่เป็นของจริง
“ หาที่ตาย !” สีหน้าของเทียนหลินเย็นชาขึ้นมา ค้อนในมือนั้นได้ฟาดเข้าใส่เซ่ามูทันที ! ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ทะยานขึ้น ก่อนจะใช้คลื่นเสียงโจมตีเข้าใส่ผลึกเลือดที่พุ่งเข้ามา
ปัง ! ผลึกเลือดโดนคลื่นเสียงอัดเข้าและระเบิดออกกลางอากาศ ควันได้กระจายออกมาโดยรอบ คลื่นพลังงานได้กระจายไปทั่วทุกด้านและก่อตัวเป็นลมอันรุนแรงขึ้นมา เสื้อผ้าของเทียนหลินและคนอื่นๆถึงกับฉีกขาดไปตาม
ในเวลาเดียวกันค้อนก็ได้ฟาดเข้าใส่ที่ไหล่ซ้ายของเซ่ามู สีหน้าของเซ่ามูเปลี่ยนไปทันที เขาได้วิ่งไปหลบและถอยกลับไป และตอนที่หลบนั้นเขาก็ได้ต่อยออกไป หมาป่าไฟได้พุ่งออกมาปะทะกับค้อนต่อ !
เมื่อทั้งสองได้ปะทะกัน หมาป่าไฟก็ได้เปลี่ยนเป็นไฟที่คลุ้มคลั่งและพันรอบค้อนเอาไว้ มันกำลังจะพุ่งเข้าไปต่อแต่ก็ต้องชะงักไป ไกลออกไปนั้นเทียนหลินได้กำมือ ก่อนที่ค้อนจะบินกลับมาที่มือเขาทันที