ตอนที่ 48 : อาการบาดเจ็บของกั้วติง
กลับเป็นว่าผลึกนั่นได้มาจากปราณน้ำ หยางเฉินอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ จิตน้ำสามารถพัฒนาได้ มันสมกับเป็นจิตน้ำจริงๆ ไม่รู้เลยว่ามันจะแข็งแกร่งแค่ไหน ?
“ เมื่อเย่ลั่วช่วยตามหาลั่วปิงอีกแรง อีกทั้งนางก็อยู่กับฮั่นหยุน ข้าคิดว่านางไม่น่าจะเป็นอันตรายอะไร กลับไปที่เมืองซูเซียนก่อน เราไม่อาจจะอยู่ที่นี่ต่อได้ หากลิงสายฟ้ากลับมาคงเป็นปัญหาแน่” เถาเถาได้กลับไปในพู่กันทันที
หยางเฉินนึกถึงลิงสายฟ้า หากสัตว์อสูรขอบเขตจักรพรรดิกลับมาที่นี่จริงๆ เขากับเถาเถาคงไม่มีโอกาสจะรอดไปได้แน่ เมื่อคิดแบบนั้นเขาก็รีบใช้ก้าววายุอสนีหนีออกจากป่าอินทนิลไปทันที
หลังจากที่ออกมาจากป่าอินทนิลแล้ว หยางเฉินก็พบกับสัตว์อสูรจำนวนมาก แต่ส่วนมากแล้วอยู่แค่ขอบเขตกำลังภายใน ดังนั้นมันจึงไม่ได้เป็นภัยอะไรกับเขามากนัก ระหว่างทางเขาได้กระเป๋ามาใบหนึ่ง สิ่งนี้เขาตั้งใจนำมันกลับไปให้เว่ยหยานหลานโดยเฉพาะ
...
3 วันต่อมา สุดท้ายหยางเฉินก็มาถึงส่วนนอกของภูเขาวูชานได้ เมื่อหันกลับไปมองป่าด้านหลัง เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ แล้วข้าจะกลับมาอีก” พูดจบเขาก็วิ่งลงจากเขาและมุ่งหน้าไปยังเมืองซูเซียนทันที
ที่เมืองซูเซียน ในบ้านโทรมๆหลังหนึ่ง
ตอนที่หยางเฉินกลับมาถึงบ้านก็เข้าไปในห้องและพบกับกั้วติงเปลือยท่อนบนนั่งยองอยู่ในอากาศแล้วใช้หมัดต่อยไปมาอยู่ นี่คือการฝึกฝนที่กั้วติงทำมาตลอด 8 ปี แม้ว่าปราณในตัวจะไม่เพิ่มขึ้น แต่เขาก็ยังอดทนทำต่อ สมกับเป็นกั้วติงจริงๆ !
หูของกั้วติงพลันกระดิก เขาหันกลับไปมองที่ประตู เมื่อพบว่าคนที่เข้ามานั้นเป็นหยางเฉินเขาก็แสดงสีหน้ายินดีออกมา เขาพุ่งไปข้างๆ หยางเฉิน แล้วยื่นมือออกมาจับมือของหยางเฉินเอาไว้ แล้วพูดขึ้นด้วยท่าทีตื่นเต้น “ ลูกพี่ เราเป็นห่วงเจ้าแทบตาย เจ้าไปไหนมา ? ”
“ กั้วติง เจ้าจะหักมือข้างั้นรึ” หยางเฉินยิ้มออกมา ในชีวิตที่แล้วเขาไม่มีเพื่อน ในชีวิตนี้เขาจึงให้ค่าความเป็นเพื่อนอย่างมาก
มันมีบางอย่างที่เขาไม่อาจจะลืมได้ในชีวิตนี้ ตอนที่เขากับกั้วติงโดนทำร้าย มันก็เป็นกั้วติงที่โดนอัดมากที่สุด ไม่ใช่เพราะกั้วติงไร้ความสามารถ แต่เป็นเพราะกั้วติงพยายามกันมือและเท้าให้กับเขา
หลังจากที่ทั้งสองหัวเราะกันเสร็จ หยางเฉินก็ได้มองไปที่กั้วติงด้วยสีหน้าจริงจังแล้วบอกกั้วติงถึงพิษเหมันต์ในตัว กั้วติงนิ่งไปทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงไม่อาจจะบ่มเพาะได้
หยางเฉินเห็นว่ากั้วติงหน้าซิดไป เขาก็รีบบอกข่าวที่ว่าเขาได้ผลมังกรมา เขาได้เล่าว่าเขาได้กลายเป็นนักพรตไปแล้ว และสามารถสร้างยันต์และขายยันต์เอาเงินไปประมูลผลมังกรมาได้ แต่เขาไม่ได้บอกกั้วติงว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง นี่ไม่ต้องนับเรื่องการได้พบกับเถาเถาเลย หยางเฉินรับปากกับเถาเถาแล้ว ดังนั้นเขาจึงเลือกปิดบังเรื่องนี้ เถาเถาบอกว่าไม่อยากให้คนอื่นรู้ถึงตัวตนของเขา ยิ่งคนรู้เท่าไหร่ ความลับยิ่งเปิดเผยได้ง่ายเท่านั้น
หลังจากที่ได้ยินที่หยางเฉินพูดมา สีหน้าของกั้วติงก็ดูดีขึ้น เขามองไปที่หยางเฉินด้วยสีหน้าซึ้งใจ เขาไม่ได้บอกขอบคุณออกมาเพราะมันจะเป็นการดูหมิ่นความเป็นพี่น้องระหว่างเขากับหยางเฉิน
“ ไปที่ชั้นใต้ดินก่อน หากเจ้ากำจัดพิษเหมันต์ในตัวได้ จากนี้เจ้าก็จะสามารถบ่มเพาะได้สักที” หยางเฉินยิ้มออกมาและตบไหล่ กั้วติง เขาเดินออกจากห้องไปโดยมีกั้วติงเดินตามมาติดๆ
ทั้งสองไปที่ชั้นใต้ดิน หยางเฉินมองไปที่กั้วติงก่อนจะยิ้มและพูดขึ้น “ กั้วติง เจ้าเตรียมตัวให้ดี ไม่ต้องคิดมากอะไร เจ้าหลับไปเลยยิ่งดี เมื่อเจ้าตื่นขึ้นมา พิษในตัวเจ้าก็จะหายไป จำไว้ว่าอย่าลืมตามาเด็ดขาดไม่งั้นแล้วมันจะไม่ได้ผล”
การที่ไม่ให้ลืมตานี้คือสิ่งที่เถาเถาบอกกับหยางเฉิน เขาไม่อยากให้กั้วติง รับรู้ถึงตัวตนของเขาได้
กั้วติงพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น ความต้องการพลังของคนในโลกนี้มีมากจนเรียกได้ว่าหมกมุ่น มีแค่คนที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้รับความเคารพ ไม่งั้นแล้วก็เป็นได้แค่ขยะ
ดังนั้นเมื่อรู้ว่าเขาจะบ่มเพาะได้ กั้วติงจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร ? เขาไม่คิดอะไรต่อก่อนจะนั่งลงกับพื้นแล้วทำสมาธิตามที่หยางเฉินสั่ง
หลังจากที่กั้วติงหลับตา เถาเถาก็ได้พูดขึ้นมา “ เสี่ยวหยาง ผลมังกรนั้นไม่อาจจะกินได้โดยตรงเพราะผลมังกรนั้นมีพิษอัคคี มันจะเผาอวัยวะภายในของคนที่กินมัน ก่อนที่จะกินมันต้องทำการกลั่นพิษอัคคีออกก่อน บัวหวงห้ามโลหิตนั้นสามารถดูดซับพิษอัคคีในผลมังกรได้ อีกทั้งต้องใช้พลังชีวิตที่สูง ไม่งั้นแล้วข้าก็ไม่อาจจะกลั่นพิษอัคคีได้ด้วยความแข็งแกร่งที่ข้ามีเพียงลำพัง”
“ บัวหวงห้ามโลหิต” หยางเฉินพลิกฝ่ามือก่อนจะมีดอกบัวสีแดงปรากฏขึ้นมา ไอเย็นแผ่ไปทั่วชั้นใต้ดิน กั้วติงที่นั่งทำสมาธิอยู่ถึงกับตัวม่วงไปทันที
“ เร็วเข้า ไม่งั้นแล้วน้องเจ้าจะโดนแช่แข็งจนตายเพราะไอเย็นนี้ เขามีพิษเหมันต์ในตัวอยู่แล้ว เขาไม่อาจจะทนไอเย็นของดอกบัวนี่ได้” เถาเถาพุ่งออกมาจากพู่กันแล้วถือผลมังกรในมือ
ผลไม้นี้มีขนาดเท่ากับกำปั้น มันมีเปลือกสีแดงลายสีม่วง มันเหมือนกับมังกรที่พันรอบผลไม้นี้แผ่ความร้อนออกมา มันทำให้อุณหภูมิในชั้นใต้ดินเพิ่มขึ้นมาทันที
“ ร้อนจริงๆ” หยางเฉินมองไปที่ผลมังกรและอดได้ที่จะกังวลขึ้นมา หลังจากที่กั้วติงกินผลไม้นี้ไป มันจะเป็นอันตรายรึไม่ ?
เมื่อเห็นว่าหยางเฉินกังวล เถาเถาก็พูดขึ้น “ เสี่ยวหยาง เจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้ามั่นใจว่าข้าจะรักษาเด็กโง่นี่ได้ ไม่มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นแน่”
หยางเฉินโล่งอกขึ้นมาทันที อย่างไรเสียจนถึงตอนนี้เถาเถาก็ไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง
ตอนนั้นเถาเถากลับกำมือพร้อมกับดอกบัวในมือของหยางเฉินที่ลอยขึ้นไปตกอยู่ในมือของเขา เถาเถาได้ดึงเมล็ดออกมาจากฝักดอกบัวแล้วกดเมล็ดนั้นลงไปที่ผลมังกร
ไอเย็นของเมล็ดได้หายไป ไม่ใช่แค่นั้นความร้อนของผลมังกรก็ได้หายไปด้วย...พลังไอเย็นและพลังไอ้ร้อนได้สร้างคลื่นเข้าปะทะและห้ำหั่นกัน
“ หือ สิ่งมีชีวิตที่ไม่มีสมองแต่กลับคิดต้านทาน ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง !” เถาเถาฮึดฮัดออกมาและกดเมล็ดดอกบัวเข้าไปในผลมังกร ในพริบตาผลมังกรก็ได้สั่นไหวไปมาในมือของเถาเถาราวกับจะหลุดออกจากมือเขาได้ทุกเมื่อ
ความร้อนแผ่ออกมา หยางเฉินโดนคลื่นความร้อนนี้อัดเข้าอย่างจัง เขารู้สึกร้อนอย่างมากราวกับโดนไฟแผดเผาอยู่
“ แปลก ทำไมพลังของผลมังกรถึงมากแบบนี้ ?” เถาเถาอดไม่ได้ที่จะมองไปยังผลมังกรด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ตอนนั้นเขาได้บีบผลมังกรในมือ เขาใช้พลังทั้งหมดแล้วแต่ก็ไม่อาจจะควบคุมมันได้ มันทำให้เขาประหลาดใจอย่างมาก
“ เถาเถา เกิดอะไรขึ้นกัน ? ผลมังกรนี่มีอะไรผิดปกติรึ ?” หยางเฉินมองไปที่เถาเถาด้วยสีหน้าสงสัย ในใจของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
ตอนนั้นเถาเถากลับเห็นรอยแยกที่ผลมังกรที่กำลังฉีกออก แสงสีขาวได้ส่องออกมาจากรอยแยกนั้น ลำแสงได้แผ่ไปทั่วทุกทิศทางให้แสงสว่างกับทั้งชั้นใต้ดิน
พลังนี้แปลกประหลาด ภายใต้พลังที่ปกคลุมนี้ กั้วติงก็สลบไป แม้แต่หยางเฉินก็ยังเวียนหัวไม่อาจจะประคองร่างกายได้
“ นี่...แก่นมังกร !” เถาเถาเบิกตากว้างและมองไปที่ผลมังกรในมือ “ ไม่แปลกเลยที่ในตอนนั้นเทียนหลินกับหลงฉีถึงได้อยากได้ผลมังกรนี่มากนัก กลับเป็นว่าผลมังกรนี่ได้ให้กำเนิดแก่นมังกรขึ้นมาแล้ว !”
หยางเฉินกัดลิ้นตัวเองด้วยความเจ็บปวดเพื่อเรียกสติ เขามองไปที่เถาเถาแล้วถามขึ้นมา “ เถาเถา มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?”
“ น้องเจ้าโชคดีจริงๆ ผลมังกรไม่ใช่แค่ดูดซับพิษเหมันต์ในตัวแต่ยังช่วยเรื่องการบ่มเพาะในอนาคตของเขาด้วย !” เถาเถาถอนหายใจออกมา “ โอกาสที่ผลมังกรจะให้กำเนิดแก่นมังกรนั้นมันน้อยอย่างมาก มันมีพลังไฟบริสุทธิ์ เมื่อรับมันเข้าไปแล้วมันจะช่วยเร่งความเร็วในการบ่มเพาะ”
“ ขนาดนั้นเลยรึ ?” หยางเฉินเบิกตากว้าง กั้วติงโชคดีขนาดนั้นเลยรึ ? เขาได้แต่รู้สึกดีใจแทน แต่ก็ไม่ได้อิจฉาเลยแม้แต่น้อย นี่ไม่ต้องนับการยึดผลมังกรเอามาเป็นของตัวเองเลย
หลังจากที่อึ้งไปได้ไม่นาน หยางเฉินก็มองไปที่เถาเถาแล้วพูดขึ้น “ เถาเถา รีบให้กั้วติงกินผลมังกรนี่เร็วเข้า !”
“ เจ้าจะรีบทำไม ? เจ้ากลัวว่าข้าจะแย่งมันไปรึ ?” เถาเถากลอกตาใส่ก่อนจะบินเข้าไปข้างๆ กั้วติง เขาใช้มือดึงแก่นมังกรในผลออกมา มันเป็นปราณสีขาวนวลลอยอยู่ในมือ สุดท้ายก็อัดแน่นเป็นลูกปัดสีขาวเงิน เถาเถายัดมันเข้าใส่ปากของกั้วติงทันที หลังจากที่กินแก่นมังกรเข้าไปแล้ว ใบหน้าของกั้วติงก็แดงขึ้นมา แม้แต่ผมของเขาก็ยังแดงไปด้วย
“ เถาเถา กั้วติงจะไม่เป็นอะไรใช่รึไม่ ? ” หยางเฉินกลืนน้ำลาย ตอนนี้กั้วติงราวกับหมูที่โดนย่าง แต่ยังบอกไม่เป็นอะไรอีกรึ ?
“ สบายใจได้ พลังงานในแก่นมังกรนั้นอ่อนโยนอย่างมาก และเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงเป็นเช่นนี้ก็เพราะพลังของแก่นมังกรที่อัดฉีดเข้าไปในร่าง เมื่อเสร็จสิ้นแล้วเขาก็จะเป็นปกติ พิษเหมันต์ในตัวก็จะหายไปด้วย” เถาเถาพูดขึ้นมาด้วยความมั่นใจ
“ มันใช้เวลานานแค่ไหนกัน ?” หยางเฉินถามขึ้นมา
“ ไม่มากไม่น้อย แต่ข้าไม่อาจจะรับรองได้ เราต้องออกจากที่นี่ก่อน รอจนกว่าเขาจะตื่นขึ้นมาก็พอ อย่างไรเสียเขาก็ไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย เจ้าสบายใจได้” ในตอนที่พูดนั้น เถาเถาก็ได้กลับเข้าไปในพู่กัน
หยางเฉินลูบจมูก เขารู้สึกว่าเถาเถาพูดถูกแล้ว อีกอย่างเขาก็อยากไปพบเว่ยหยานหลานและซงเทียนเอ๋อด้วย เขาอยากรู้ว่าทั้งสองจะดีใจแค่ไหนหากรู้ว่าเขากลับมาแล้ว เมื่อคิดแบบนั้นเขาก็ออกมาจากชั้นใต้ดินและเดินไปที่บ้านของเว่ยหยานหลาน
ในตอนที่เดินอยู่นั้น หยางเฉินก็นึกถึงชายแก่ ชายแก่คนนี้คือปู่ของเว่ยหยานหลาน คนที่เขากลัวที่สุดจนไม่กล้าจะพบหน้า
ทุกครั้งที่เขาเห็นปู่สามของนาง เขาก็อดไม่ได้ที่จะใจสั่น เขารู้สึกว่าเขาไม่อาจจะปิดบังอะไรจากปู่สามได้เลย เขาเกลียดความรู้สึกที่โดนคนอื่นมองทะลุได้หมดแบบนี้จริงๆ