px

เรื่อง : Seoul Station’s Necromancer จบแล้วอ่านฟรี!!!
บทที่ 155 – อแลนดัลในกรุงโซล (2)


[ว่าไงนะครับ เขาอยากได้เรือบรรทุกเครื่องบินจริงหรอ?]

[ใช่ราชาของพวกคุณบอกมาแบบนี้ ทางอังกฤษก็ตอบตกลงแล้วด้วย พวกเขาต้องการชิ้นส่วนมิติมาก แต่สำหรับลูกเรือนั้นพวกเราไม่ได้ส่งมาให้เพราะว่ามันเกินงบประมาณ แต่ข้อเสนอของเราคือทางคุณส่งคนมาให้พวกเราฝึกได้ในระหว่างรอเวลา 5 ปี และเราจะส่งพวกเขากลับมาพร้อมเรือบรรทุกเครื่องบิน ... ]

นี่เป็นการเจรจามูลค่าสูงที่สุดเท่าที่ซังฮุนเคยเจอมา ตอนนี้เขาพูดอะไรไม่ออก

เขาคาดไม่ถึงจริงๆว่าจะเจออะไรแบบนี้ ความสงสัยและความกังวลปรากฏบนใบหน้าของเขา เขาไม่สามารถคุมสติเพื่อบรรลุการเจรจาข้อตกลงครั้งนี้ได้

[พวกเราสามารถเจรจาเรื่องงบประมาณในการจัดส่งเรือบรรทุกเครื่องบินได้ ถ้าสามารหาข้อตกลงกันได้พวกเราจะทำการส่งเรือบรรทุกเครื่องบินมาให้ภายใน 5 ปี อย่างแน่นอน]

[ขอโทษนะแต่ผมไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้ ผมต้องให้ราชาเป็นคนตัดสินใจ ... ]

ขณะที่ซังฮุนกำลังพูดอยู่ ประตูก็ถูกเปิดออกมา และคนที่เดินเข้ามาก็เป็นคนที่เขาต้องการมากที่สุดในเวลานี้

"อยู่ที่นี่กันจริงด้วย"

"ยินดีต้อนรับกลับครับ"

จุงมินชานทักทายวูชินอย่างอบอุ่น

เรือบรรทุกเครื่องบินไม่ใช่ของเด็กเล่น นี่ทำให้เขาอยากรู้จริงๆว่า ชิ้นส่วนมิติมีค่าขนาดไหนกันแน่...

เมื่อวูชินเห็นนายพลของอังกฤษ เขาก็เอ่ยถามขึ้นมา

"นายพูดเกาหลีได้ไหม?"

"ผมพูดได้"

วูซังฮุนถึงกับตะลึงที่ฝรั่งตาน้ำข้าวหัวทองพูดเกาหลีได้คล่องปร๋อ ตัวเขาเองรู้ว่าควรจะพูดภาษาของคู่สนทนายังไงแต่เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า คู่สนทนาจะพูดภาษาของเขาได้

"เอาของที่ฉันต้องการมา แล้วฉันจะให้สิ่งนี้กับนาย"

วูชินหยิบเศษชิ้นส่วนออกมาจากคลังมิติก่อนที่จะยื่นไปตรงหน้านายพล อัญมณีสีม่วงเปล่งประกาย พลังบางอย่างของมันแผ่ออกมาทำให้คนที่จ้องรู้สึกกดดัน

“อ่า ต้องใช้คนหลายพันในการขับบรรทุกเครื่องบิน และเท่าที่ผมรู้อแลนดัลไม่ได้มีคนมากขนาดนั้น "

"นี่เป็นเรื่องของฉัน แค่เอาเรือมา เรื่องอื่นไม่ใช่ธุระของนาย "

“...... ?”

อแลนดัลมีคนพอใช้หรือยังไง? ประเทศเล็กๆแบบนี้จะมีสักกี่คนกันที่มีความสามารถใช้งานเรือบรรทุกเครื่องบิน ที่สำคัญประเทศนี้ไม่เคยมีเรือบรรทุกเครื่องบินมาก่อน แล้วพวกเขาจะไปเอามันไปทำอะไร ...

"ตกลง จะซื้อหรือไม่ซื้อ? "

"... เราต้องการชิ้นส่วนมิติเพื่อวิจัย แต่ตอนนี้เราไม่รู้เลยว่ามันทำอะไรได้บ้าง ... "

"นายสามารถซื้อประตูมิติไปดาวดวงอื่นได้ หรือใช้พวกมันในการซื้อดันเจี้ยนเป็นของตัวเองได้"

“...... .”

คำพูดของวูชินทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องตกใจ อเมริกาและญี่ปุ่นรวมถึงอีกหลายๆประเทศก็มีชิ้นส่วนมิติและกำลังวิจัยมันอยู่ พวกเขาต่างตระหนกกับข้อมูลใหม่ที่ได้รับ ...

"ตกลงจะซื้อไหม ถ้าไม่ซื้อ ฉันจะได้ขายให้คนอื่น "

กลุ่มของนายพลเริ่มเครียดกับความเอาแต่ใจของวูชิน

"ผมต้องคุยเรื่องนี้กับสภา คุณสามารถรอถึงพรุ่งนี้ได้ไหม? "

"ให้ฉันรอถึงพรุ่งนี้? นายจะจ่ายค่าเสียเวลาให้ฉันเท่าไร? "

หนึ่งวันของวูชินมีค่าเท่าไรล่ะ? เขาเคลียดันเจี้ยนได้ในไม่ถึง 10 นาที เขาถล่มไปกี่ดันเจี้ยนในระหว่างที่เดินทางรอบโลก? กล้ามากที่ให้วูชินรอถึง 1 วัน

"จะตกลงได้เมื่อไหร่?"

"ปะ ... โปรดให้ผม 30 นาที"

วูชินหันศรีษะ

"ตัวแทนกิลด์คาเนดะ และ วายร้าย ใช่ไหม ? หาก 30 นาทีไม่ได้ทำการตกลง ทางอเมริกาหรือญี่ปุ่นสนใจ จะซื้อมันไหม? "

วูชินถามคำถามในขณะที่หันไปมองหน้าตัวแทนจากอเมริกาและญี่ปุ่นสลับกัน

เมื่อตัวแทนจากอเมริกาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา นายพลของอังกฤษก็พูดออกมา

"เราตกลงจะซื้อ!"

วูชินแสยะยิ้มออกมา

สุดท้ายไอพวกนี้มันก็อยากได้ แต่มาทำลีลาเหมือนได้ก็ดีไม่ได้ก็ช่าง

"เอาเรือบรรทุกเครื่องบินมาให้ฉัน"

วูชินวางชิ้นส่วนมิติไว้บนโต๊ะ

“...... .”

นายพลไม่รู้จะทำยังไง ส่วนวูชินก็แค่ยักไหล่ของเขา

"เอาไปสิ "

"... แค่นี้?"

การแลกเปลี่ยนบ้านใครมันทำกันง่ายๆแบบนี้?

"การตัดสินใจครั้งนี้อาจจะยังไม่แน่นอน ทางคุณต้องการอะไรเป็นหลักประกันไว้ก่อนไหม? "

วูชินขจัดความกังวลข้อนี้ของนายพลทันที

"ถ้าพวกนายยกเลิกการซื้อขายครั้งนี้ ฉันจะลบอังกฤษออกจากแผนที่โลก"

“...... .”

"พวกคุณทุกคนกลับไปได้แล้ว ส่วนพวกนายเดี๋ยวตามไปหาฉันที่ห้อง "

วูชินพูดขึ้นมาในขณะที่หันมองมินชานและซังฮุน แล้วเขาก็เดินออกไปจากห้องเจรจา

“...... .”

บรรยากาศในห้องเจรจาตอนนี้เงียบกริบ วูซังฮุนสูดหายใจเข้าลึกๆ เขารู้สึกกดดันอย่างหนัก

'นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ?'

การเจรจาทำท่าจะพลิกไปพลิกมา ... พริบตาเดียวเรือบรรทุกเครื่องบินมูลค่าหมื่นล้านก็ถูกซื้อแล้ว

เรื่องแบบนี้มันมีในโลกด้วยหรอ? ซังฮุนรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากในขณะที่ฟังการเจรจา

"การเจรจากับกิลด์วายร้ายขอเลื่อนไปวันพรุ่งนี้"

มินชานเดินไปส่งผู้แทนคนอื่นๆ

หลังจากนั้นมินชานกับซังฮุนก็เดินไปหาวูชินด้วยกัน

“เฮ่อ ผมล่ะสงสัยจริงๆว่าหัวหน้าจะเอาเรือบรรทุกเครื่องบินไปทำอะไร "

"อาจเป็นความชอบส่วนตัว?"

“อืม”

ซังฮุนตัดสินใจช่างหัวมัน ส่วนมินชานคิดจะไปถามให้รู้เรื่อง

ถ้าอยากรู้ก็แค่พวกเขาต้องถามออกมา

“เอาล่ะ พวกนายมาได้สักที"

วูชินที่กำลังนั่งพิงโซฟา เอ่ยทักทายออกมา

"แล้วคนอื่นๆล่ะครับ?"

"พวกเขายังฝึกฝนอยู่ ฉันคิดว่าจะมาคุยเรื่องประชุมสหภาพกิลด์? ทำไมวันมันถึงเลื่อนออกไปเรื่อยๆ? "

"การประชุมครั้งนี้มันใหญ่เกินไปครับ"

"นายหมายความว่าไง?"

"ทุกกิลด์บนโลกสนใจเรื่องนี้ พวกเขาทั้งหมดหวังที่จะเข้าร่วม "

“แค่นั้นหรอ? "

"กิลด์แฮมเมอร์กำลังพยายามอยู่ครับ คาดว่าน่าจะใช้เวลา 15 วัน "

"นานเกินไป"

เขาวางแผนจะไปอัลเฟ่นหลังจากประชุมกับสหภาพกิลด์

"หัวหน้าต้องการให้ผมจัดการยังไงครับ"

วูชินมองไปที่มินชานที่พึ่งพาได้เสมอ

เหตุผลที่เขาสร้างประเทศขึ้นเพราะ วูชินไม่ต้องการข้อจำกัดใดๆ และเขาได้เลือกจุงมินชานมาเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อมาทำหน้าที่ ตอบสนองความต้องการของเขา

"จัดให้มันเกิดขึ้นภายใน 6 วัน กิลด์ที่มาได้ก็มา กิลด์ไหนมาไม่ได้ก็ช่างหัวมัน พวกที่มาไม่ได้ให้มันดูถ่ายทอดสดทาง TV "

"... มันไม่กะทันหันไปหรอครับ ... "

"พอแล้ว ฉันรอมานานแล้ว พวกแฮมเมอร์ช้าเกินไป นายไปจัดการที "

“...... .”

ถ้าเขาบอกว่าต้องทำ มินชานก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปทำ แม้ว่ามันจะยากลำบากแค่ไหนก็ต้องทำให้ได้

"ทำไมหัวหน้าถึงต้องการเรือบรรทุกเครื่องบินหรอครับ?"

“อ่า ฉันจะทดสอบอะไรบางอย่าง "

"ไม่ได้จะเอาให้โกเลมกินใช่ไหมครับ?"

"หือ? สำหรับโดลเซ่แค่เศษเหล็กก็พอ ทำไมฉันจะต้องเอาเรือบรรทุกเครื่องบินให้มันล่ะ? "

เหตุผลบ้าบออะไรกันที่จะซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินให้โกเลมของเขาใช้ในการประกอบร่าง

มินชานกลอกตาอย่างครุ่นคิดก่อนจะพูดออกมา

"แล้วเราจะใช้งานเรือบรรทุกเครื่องบินยังไงหรอครับ?คนเราคงไม่พอขับเคลื่อนมัน ... "

วูชินยิ้มกว้างๆ

"นายต้องไปหามา"

วูชินไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ เพราะมีคนที่จะต้องห่วงแทนเขา

“...... .”

หัวมินชานกำลังจะระเบิด

"หรือจะให้ฉันใช้คนจากที่อื่น"

“คนอื่น? จากพื้นที่มิติที่บอกหรอครับ? "

"ใช่ สงครามมันคงเกินกำลังคนธรรมดาบนโลกของเรา "

“...... .”

วูชินมองซังฮุน

"นายรู้วิธีสมัครบัญชี SNSไหม? สมัครให้ฉันหน่อย"

"อะไรนะครับ? หัวหน้าอยากให้ผมสมัครบัญชี SNS ให้หรอครับ? "

ซังฮุนรู้สึกประหลาดใจ

"ไปเอามือถือฉันมา"

"ได้ครับ"

ซังฮุนเอาโทรศัพท์มือถือของวูชินขึ้นมาสมัครบัญชี เนื่องจากในรายการประเทศอแลนดัลยังไม่มีให้เลือก เขาจึงเลือกเกาหลี เพราะตอนนี้พวกเขาเป็นคนสองสัญชาติ

"... ได้แล้วครับ นี่ของหัวหน้า"

"ไหนขอดูหน่อย"

"ผมจะโพสลงในอแลนดัลนะครับ ว่าหัวหน้ามีบัญชี SNS แล้ว"

วูซังฮุนโพสด้วยความรวดเร็ว ไม่กี่ลมหายใจหลังจากนั้น มือถือของวูชิน ก็สั่นรัวๆ

ตืดดดด,ตืดดดดดด

<คุณชายแห่งแสง ได้ติดตามคุณ>

<คุณฟหกด ได้ติดตามคุณ>

<คุณสายเหลือง ได้ติดตามคุณ>

<......> ๆๆ

"มันเกิดอะไรขึ้น?"

“อ๋อ เดี๋ยวผมปิดการแจ้งเตือนให้ก่อนครับ "

ผู้ติดตามวูชินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อันดับคนที่มีผู้ติดตามมากที่สุดของเขาเพิ่มขึ้นทีละเป็นสิบๆอันดับ

"ว๊ากก อันดับของหัวหน้านำผมแล้ว"

วูซังฮุนมีอันดับของคนที่มีผู้ติดตามเยอะที่สุดสูงมาก เขามีคนติดตามมากมายทั้งดาราและนักข่าว อันดับเขาเลยค่อนข้างสูง แต่แค่ไม่กี่อึดใจอันดับของวูชินก็แซงเขาอย่างรวดเร็ว ..

"เอาล่ะฉันค่อยมาหัดเล่นทีหลัง ตอนนี้มีดันเจี้ยนไหนใกล้แตกออกไหม? หรือมีคำขออะไรอยู่รึเปล่าตอนนี้ "

“เอ่อ เรื่องนั้น ... .”

หน้าของมินชานหมองลงเล็กน้อย

"หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนี้ประเทศอื่นๆไม่ได้ทำการร้องขอมาครับ"

"อ่อ พวกเขาจะลองพยายามด้วยตัวเอง"

"ครับ ผมไม่รู้ว่าเกี่ยวกันไหม แต่ดูเหมือนพวกเขาจะต้องการ ของที่เรียกว่าชิ้นส่วนมิติ "

“อืม ...”

วูชินเคาะนิ้วลงบนพนักโซฟา

เดี๋ยวพวกมันก็ต้องเดือดร้อนกับการทำอะไรโง่ๆ

"พวกมันจะรู้สึก"

"อะไรนะครับ?"

"เปล่า ช่างมันเถอะ "

ยังไงวูชินก็ไม่สามารถหยุดยั้งการแตกออกของดันเจี้ยนได้ด้วยตัวคนเดียวทั้งหมด ให้พวกมันก็พยายามกันบ้างก็ดี

แต่ถ้าพวกมันทำไม่ได้และหมดหวัง มาร้องขอทีหลังก็อย่าคิดว่าจะไปช่วยง่ายๆ

"การคัดเลือกผู้มีพลังเข้ากิลด์เป็นยังไงบ้าง?"

"เหลือแค่ขั้นตอนสุดท้ายให้หัวหน้าคัดคนที่เหลือครับ สะดวกเวลาไหนแจ้งผมได้เลย "

วูชินไม่สนใจประวัติของพวกผู้มีพลัง ใครจะสนว่าพวกมันผ่านมากี่ดันเจี้ยนหรือทำอะไรมาบ้าง เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับศักยภาพของผู้มีพลัง เอาง่ายๆใครจะคิดว่าเด็กอย่างซังกูจะก้าวมาเป็นผู้มีพลังระดับต้นๆของโลก?

วูชินจะตัดสินพวกเขาตาม จิตวิญญาณ

"งั้นเอาเป็นอีก 3 วันหลังจากนี้ ตอนนี้หมดเรื่องของฉันแล้ว ฉันจะออกไปก่อน "

เขาทิ้งงานให้คนของเขาทำ ตอนนี้เขาก็มีเรื่องที่ต้องไปทำ

"หัวหน้าจะไปไหนหรอครับ?"

"จะไป พื้นที่มิติ"

"ก่อนไปมาเซลฟี่กับผมก่อนได้รึเปล่าครับ?"

"หือ?"

"เพื่อยืนยันตัวตนน่ะครับ ตอนนี้บางคนไม่เชื่อว่าหัวหน้าเป็นตัวจริง เลยโพสถามกันวุ่นวายเลย "

"เอาสิ มาถ่ายกัน "

"หัวหน้าเอียงคออีกนิดครับ ขยับอีกนิด? อ่าแบบนั้นล่ะครับ"

ซังฮุนจัดท่าให้กับวูชินที่ด้านข้างเขา ก่อนที่เขาจะกดถ่ายภาพกับมือถือ

แชะ

"เดี๋ยวผมอัพโหลดภาพเองครับ หัวหน้าไปเถอะ"

"ได้ ฝากด้วยล่ะ"

"นอกจากนี้ฉันคิดว่านาย เลิกเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แล้วมาเป็นเลขาเหมือนเดิมเถอะ ฉันเบื่อที่จะเจอหน้าและจัดการกับคนอื่นๆ "

“...... .”

"ทักษะเจรจาของนาย ฉันเห็นแล้วก็ไม่ได้คิดว่าดีเท่าไร ดูเหมือนนายจะไม่ค่อยถนัด "

โอ้ ราชาของฉัน ... ท่านไม่ได้ซื้อโทรศัพท์เก่าตกรุ่นเพราะคำพูดของผมหรอ? ทำไมถึงพูดแบบนี้?

"ได้ครับ ผมจะเป็นตั้งแต่ตอนนี้"

"ดีมาก"

เขาเปิดประตูมิติออกมาและหายไปทันที โดยไม่ต้องไปเข้าจาก ทางออกที่ 1 ของสถานีโซล

"นี่ฉันได้เลื่อนตำแหน่งหรือโดนลดตำแหน่งกันแน่?"

“เอ่อ ... ผมว่าน่าจะเลื่อนมากกว่านะ "

เขาเป็นเลขาส่วนตัวของราชาแห่งอแลนดัล

วูซังฮุนอัพโหลดรูปที่เขาถ่ายกับวูชินด้วยมือถือ ลง SNS

***

- กิลด์อแลนดัล เปิดรับสมัครผู้มีพลัง!

- เรือโนอาห์ของยุคใหม่ เปิดรับสมัครแล้ว

- ราชอาณาจักรอแลนดัล บรรลุข้อตกลงแลกเปลี่ยนเรือบรรทุกเครื่องบิน ...

- รับสมัครคนมีความสามารถขับเคลื่อนเรือบรรทุกเครื่องบิน สัญชาติไม่สำคัญ ผู้มีความสามารถจะได้รับการพิจารณา

- ข่าวด่วน คังวูชิน สมัครบัญชี SNS แล้ว

......

มีอีกหลายสิบ ... ไม่สิอีกหลายร้อยหัวข้อที่โพส นอกจากนี้ในคำสำคัญสำหรับค้นหายังมีแต่ชื่อของ คังวูชิน

ซินดี้ที่ถือโทรศัพท์อยู่ ถอนหายใจออกมา

“เฮ่อ”

เธอได้รับผลกระทบจากงานเลี้ยงรุ่นล่าสุด เธอหยุดงานและอยู่บ้านเพื่อเข้ารับการรักษาด้านจิตเวช เพราะความผวาจากเหตุการณ์เกือบตาย

"บางทีฉันควรจะสมัคร?"

มีเงินหรือเป็นดาราตอนนี้ไม่มีความหมายอะไรเลย

ตอนนี้โลกตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย เงินไม่ได้ช่วยให้รอดชีวิต

และยิ่งไปกว่านั้น ...

"ฉันจะได้เจอเขาบ่อยขึ้นไหมนะ?"

เมื่อเธอคิดถึงคังวูชิน หัวใจเธอก็เต้นแรงขึ้นมา

ซินดี้เปิดรายการบันทึกในโทรศัพท์ของเธอ ก่อนที่จะดูหมายเลขของโดจีวอน เธอกำลังจะกดโทรออกแต่ก็วางลง ก่อนที่จะเอนหลังลงไปนอนก่ายหน้าผาก

“เฮ่อ ฉันคงเป็นบ้าไปแล้ว "

เธอรู้สึกอิจฉาโดจีวอนอย่างมาก

“เฮ่อ ฉันเป็นอะไรไปนะ "

ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกัน?

เธอหยุดคิดถึงเขาไม่ได้เลย แต่มันก็ไม่ได้เหมือนกับการตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ ความรู้สึกมันต่างออกไป

โหยหา?

นี่คงเป็นความรู้สึกของแฟนคลับเมื่อมองมาที่เธอ ตอนนี้ความรู้สึกของซินดี้เมื่อมองไปยังวูชินก็เป็นแบบนั้น ทั้งๆที่เธอไมเคยให้ความสำคัญผู้ชายคนไหนมาก่อน

แต่เธอไม่ได้หลงไหลหรือจมอยู่กับความรู้สึก จนทำอะไรไม่เหมาะไม่ควร เธอยังควบคุมตัวเองได้

"เฮ่อ ฉันควรเริ่มต้นทำงานได้แล้ว "

เธอไม่สามารถเรื่อยเปื่อยแบบนี้ได้ตลอด เธอต้องไปทำงาน ข้อจำกัดทางอาชีพของเธอค่อนข้างสูง

เธอหยิบโทรศัพท์มาดูเวลาอีกครั้งก่อนที่จะโยนมันไปที่เตียง เธอตัดสินใจเดินไปดื่มน้ำที่ตู้เย็นด้านข้าง

“อ่าาาา”

หัวเธอค่อยโล่งและสดชื่นขึ้นมาหน่อยเมื่อได้น้ำเย็นๆสักแก้ว

เธอเดินกลับมาหยิบโทรศัพท์เพื่อเตรียมจะโทรหาผู้จัดการส่วนตัว แต่ก็ต้องตัวแข็งเมื่อได้ยินเสียงที่ดังขึ้น

[ฮัลโหล? ซินดี้ว่าไง ทำไมไม่พูดไรอ่า]

เสียงจีวอนดังขึ้นมาจากโทรศัพท์ ตอนนี้เธอไม่รู้จะทำยังไงดี

รีวิวผู้อ่าน