[ว่าไงนะครับ เขาอยากได้เรือบรรทุกเครื่องบินจริงหรอ?]
[ใช่ราชาของพวกคุณบอกมาแบบนี้ ทางอังกฤษก็ตอบตกลงแล้วด้วย พวกเขาต้องการชิ้นส่วนมิติมาก แต่สำหรับลูกเรือนั้นพวกเราไม่ได้ส่งมาให้เพราะว่ามันเกินงบประมาณ แต่ข้อเสนอของเราคือทางคุณส่งคนมาให้พวกเราฝึกได้ในระหว่างรอเวลา 5 ปี และเราจะส่งพวกเขากลับมาพร้อมเรือบรรทุกเครื่องบิน ... ]
นี่เป็นการเจรจามูลค่าสูงที่สุดเท่าที่ซังฮุนเคยเจอมา ตอนนี้เขาพูดอะไรไม่ออก
เขาคาดไม่ถึงจริงๆว่าจะเจออะไรแบบนี้ ความสงสัยและความกังวลปรากฏบนใบหน้าของเขา เขาไม่สามารถคุมสติเพื่อบรรลุการเจรจาข้อตกลงครั้งนี้ได้
[พวกเราสามารถเจรจาเรื่องงบประมาณในการจัดส่งเรือบรรทุกเครื่องบินได้ ถ้าสามารหาข้อตกลงกันได้พวกเราจะทำการส่งเรือบรรทุกเครื่องบินมาให้ภายใน 5 ปี อย่างแน่นอน]
[ขอโทษนะแต่ผมไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้ ผมต้องให้ราชาเป็นคนตัดสินใจ ... ]
ขณะที่ซังฮุนกำลังพูดอยู่ ประตูก็ถูกเปิดออกมา และคนที่เดินเข้ามาก็เป็นคนที่เขาต้องการมากที่สุดในเวลานี้
"อยู่ที่นี่กันจริงด้วย"
"ยินดีต้อนรับกลับครับ"
จุงมินชานทักทายวูชินอย่างอบอุ่น
เรือบรรทุกเครื่องบินไม่ใช่ของเด็กเล่น นี่ทำให้เขาอยากรู้จริงๆว่า ชิ้นส่วนมิติมีค่าขนาดไหนกันแน่...
เมื่อวูชินเห็นนายพลของอังกฤษ เขาก็เอ่ยถามขึ้นมา
"นายพูดเกาหลีได้ไหม?"
"ผมพูดได้"
วูซังฮุนถึงกับตะลึงที่ฝรั่งตาน้ำข้าวหัวทองพูดเกาหลีได้คล่องปร๋อ ตัวเขาเองรู้ว่าควรจะพูดภาษาของคู่สนทนายังไงแต่เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า คู่สนทนาจะพูดภาษาของเขาได้
"เอาของที่ฉันต้องการมา แล้วฉันจะให้สิ่งนี้กับนาย"
วูชินหยิบเศษชิ้นส่วนออกมาจากคลังมิติก่อนที่จะยื่นไปตรงหน้านายพล อัญมณีสีม่วงเปล่งประกาย พลังบางอย่างของมันแผ่ออกมาทำให้คนที่จ้องรู้สึกกดดัน
“อ่า ต้องใช้คนหลายพันในการขับบรรทุกเครื่องบิน และเท่าที่ผมรู้อแลนดัลไม่ได้มีคนมากขนาดนั้น "
"นี่เป็นเรื่องของฉัน แค่เอาเรือมา เรื่องอื่นไม่ใช่ธุระของนาย "
“...... ?”
อแลนดัลมีคนพอใช้หรือยังไง? ประเทศเล็กๆแบบนี้จะมีสักกี่คนกันที่มีความสามารถใช้งานเรือบรรทุกเครื่องบิน ที่สำคัญประเทศนี้ไม่เคยมีเรือบรรทุกเครื่องบินมาก่อน แล้วพวกเขาจะไปเอามันไปทำอะไร ...
"ตกลง จะซื้อหรือไม่ซื้อ? "
"... เราต้องการชิ้นส่วนมิติเพื่อวิจัย แต่ตอนนี้เราไม่รู้เลยว่ามันทำอะไรได้บ้าง ... "
"นายสามารถซื้อประตูมิติไปดาวดวงอื่นได้ หรือใช้พวกมันในการซื้อดันเจี้ยนเป็นของตัวเองได้"
“...... .”
คำพูดของวูชินทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องตกใจ อเมริกาและญี่ปุ่นรวมถึงอีกหลายๆประเทศก็มีชิ้นส่วนมิติและกำลังวิจัยมันอยู่ พวกเขาต่างตระหนกกับข้อมูลใหม่ที่ได้รับ ...
"ตกลงจะซื้อไหม ถ้าไม่ซื้อ ฉันจะได้ขายให้คนอื่น "
กลุ่มของนายพลเริ่มเครียดกับความเอาแต่ใจของวูชิน
"ผมต้องคุยเรื่องนี้กับสภา คุณสามารถรอถึงพรุ่งนี้ได้ไหม? "
"ให้ฉันรอถึงพรุ่งนี้? นายจะจ่ายค่าเสียเวลาให้ฉันเท่าไร? "
หนึ่งวันของวูชินมีค่าเท่าไรล่ะ? เขาเคลียดันเจี้ยนได้ในไม่ถึง 10 นาที เขาถล่มไปกี่ดันเจี้ยนในระหว่างที่เดินทางรอบโลก? กล้ามากที่ให้วูชินรอถึง 1 วัน
"จะตกลงได้เมื่อไหร่?"
"ปะ ... โปรดให้ผม 30 นาที"
วูชินหันศรีษะ
"ตัวแทนกิลด์คาเนดะ และ วายร้าย ใช่ไหม ? หาก 30 นาทีไม่ได้ทำการตกลง ทางอเมริกาหรือญี่ปุ่นสนใจ จะซื้อมันไหม? "
วูชินถามคำถามในขณะที่หันไปมองหน้าตัวแทนจากอเมริกาและญี่ปุ่นสลับกัน
เมื่อตัวแทนจากอเมริกาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา นายพลของอังกฤษก็พูดออกมา
"เราตกลงจะซื้อ!"
วูชินแสยะยิ้มออกมา
สุดท้ายไอพวกนี้มันก็อยากได้ แต่มาทำลีลาเหมือนได้ก็ดีไม่ได้ก็ช่าง
"เอาเรือบรรทุกเครื่องบินมาให้ฉัน"
วูชินวางชิ้นส่วนมิติไว้บนโต๊ะ
“...... .”
นายพลไม่รู้จะทำยังไง ส่วนวูชินก็แค่ยักไหล่ของเขา
"เอาไปสิ "
"... แค่นี้?"
การแลกเปลี่ยนบ้านใครมันทำกันง่ายๆแบบนี้?
"การตัดสินใจครั้งนี้อาจจะยังไม่แน่นอน ทางคุณต้องการอะไรเป็นหลักประกันไว้ก่อนไหม? "
วูชินขจัดความกังวลข้อนี้ของนายพลทันที
"ถ้าพวกนายยกเลิกการซื้อขายครั้งนี้ ฉันจะลบอังกฤษออกจากแผนที่โลก"
“...... .”
"พวกคุณทุกคนกลับไปได้แล้ว ส่วนพวกนายเดี๋ยวตามไปหาฉันที่ห้อง "
วูชินพูดขึ้นมาในขณะที่หันมองมินชานและซังฮุน แล้วเขาก็เดินออกไปจากห้องเจรจา
“...... .”
บรรยากาศในห้องเจรจาตอนนี้เงียบกริบ วูซังฮุนสูดหายใจเข้าลึกๆ เขารู้สึกกดดันอย่างหนัก
'นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ?'
การเจรจาทำท่าจะพลิกไปพลิกมา ... พริบตาเดียวเรือบรรทุกเครื่องบินมูลค่าหมื่นล้านก็ถูกซื้อแล้ว
เรื่องแบบนี้มันมีในโลกด้วยหรอ? ซังฮุนรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากในขณะที่ฟังการเจรจา
"การเจรจากับกิลด์วายร้ายขอเลื่อนไปวันพรุ่งนี้"
มินชานเดินไปส่งผู้แทนคนอื่นๆ
หลังจากนั้นมินชานกับซังฮุนก็เดินไปหาวูชินด้วยกัน
“เฮ่อ ผมล่ะสงสัยจริงๆว่าหัวหน้าจะเอาเรือบรรทุกเครื่องบินไปทำอะไร "
"อาจเป็นความชอบส่วนตัว?"
“อืม”
ซังฮุนตัดสินใจช่างหัวมัน ส่วนมินชานคิดจะไปถามให้รู้เรื่อง
ถ้าอยากรู้ก็แค่พวกเขาต้องถามออกมา
“เอาล่ะ พวกนายมาได้สักที"
วูชินที่กำลังนั่งพิงโซฟา เอ่ยทักทายออกมา
"แล้วคนอื่นๆล่ะครับ?"
"พวกเขายังฝึกฝนอยู่ ฉันคิดว่าจะมาคุยเรื่องประชุมสหภาพกิลด์? ทำไมวันมันถึงเลื่อนออกไปเรื่อยๆ? "
"การประชุมครั้งนี้มันใหญ่เกินไปครับ"
"นายหมายความว่าไง?"
"ทุกกิลด์บนโลกสนใจเรื่องนี้ พวกเขาทั้งหมดหวังที่จะเข้าร่วม "
“แค่นั้นหรอ? "
"กิลด์แฮมเมอร์กำลังพยายามอยู่ครับ คาดว่าน่าจะใช้เวลา 15 วัน "
"นานเกินไป"
เขาวางแผนจะไปอัลเฟ่นหลังจากประชุมกับสหภาพกิลด์
"หัวหน้าต้องการให้ผมจัดการยังไงครับ"
วูชินมองไปที่มินชานที่พึ่งพาได้เสมอ
เหตุผลที่เขาสร้างประเทศขึ้นเพราะ วูชินไม่ต้องการข้อจำกัดใดๆ และเขาได้เลือกจุงมินชานมาเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อมาทำหน้าที่ ตอบสนองความต้องการของเขา
"จัดให้มันเกิดขึ้นภายใน 6 วัน กิลด์ที่มาได้ก็มา กิลด์ไหนมาไม่ได้ก็ช่างหัวมัน พวกที่มาไม่ได้ให้มันดูถ่ายทอดสดทาง TV "
"... มันไม่กะทันหันไปหรอครับ ... "
"พอแล้ว ฉันรอมานานแล้ว พวกแฮมเมอร์ช้าเกินไป นายไปจัดการที "
“...... .”
ถ้าเขาบอกว่าต้องทำ มินชานก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปทำ แม้ว่ามันจะยากลำบากแค่ไหนก็ต้องทำให้ได้
"ทำไมหัวหน้าถึงต้องการเรือบรรทุกเครื่องบินหรอครับ?"
“อ่า ฉันจะทดสอบอะไรบางอย่าง "
"ไม่ได้จะเอาให้โกเลมกินใช่ไหมครับ?"
"หือ? สำหรับโดลเซ่แค่เศษเหล็กก็พอ ทำไมฉันจะต้องเอาเรือบรรทุกเครื่องบินให้มันล่ะ? "
เหตุผลบ้าบออะไรกันที่จะซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินให้โกเลมของเขาใช้ในการประกอบร่าง
มินชานกลอกตาอย่างครุ่นคิดก่อนจะพูดออกมา
"แล้วเราจะใช้งานเรือบรรทุกเครื่องบินยังไงหรอครับ?คนเราคงไม่พอขับเคลื่อนมัน ... "
วูชินยิ้มกว้างๆ
"นายต้องไปหามา"
วูชินไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ เพราะมีคนที่จะต้องห่วงแทนเขา
“...... .”
หัวมินชานกำลังจะระเบิด
"หรือจะให้ฉันใช้คนจากที่อื่น"
“คนอื่น? จากพื้นที่มิติที่บอกหรอครับ? "
"ใช่ สงครามมันคงเกินกำลังคนธรรมดาบนโลกของเรา "
“...... .”
วูชินมองซังฮุน
"นายรู้วิธีสมัครบัญชี SNSไหม? สมัครให้ฉันหน่อย"
"อะไรนะครับ? หัวหน้าอยากให้ผมสมัครบัญชี SNS ให้หรอครับ? "
ซังฮุนรู้สึกประหลาดใจ
"ไปเอามือถือฉันมา"
"ได้ครับ"
ซังฮุนเอาโทรศัพท์มือถือของวูชินขึ้นมาสมัครบัญชี เนื่องจากในรายการประเทศอแลนดัลยังไม่มีให้เลือก เขาจึงเลือกเกาหลี เพราะตอนนี้พวกเขาเป็นคนสองสัญชาติ
"... ได้แล้วครับ นี่ของหัวหน้า"
"ไหนขอดูหน่อย"
"ผมจะโพสลงในอแลนดัลนะครับ ว่าหัวหน้ามีบัญชี SNS แล้ว"
วูซังฮุนโพสด้วยความรวดเร็ว ไม่กี่ลมหายใจหลังจากนั้น มือถือของวูชิน ก็สั่นรัวๆ
ตืดดดด,ตืดดดดดด
<คุณชายแห่งแสง ได้ติดตามคุณ>
<คุณฟหกด ได้ติดตามคุณ>
<คุณสายเหลือง ได้ติดตามคุณ>
<......> ๆๆ
"มันเกิดอะไรขึ้น?"
“อ๋อ เดี๋ยวผมปิดการแจ้งเตือนให้ก่อนครับ "
ผู้ติดตามวูชินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อันดับคนที่มีผู้ติดตามมากที่สุดของเขาเพิ่มขึ้นทีละเป็นสิบๆอันดับ
"ว๊ากก อันดับของหัวหน้านำผมแล้ว"
วูซังฮุนมีอันดับของคนที่มีผู้ติดตามเยอะที่สุดสูงมาก เขามีคนติดตามมากมายทั้งดาราและนักข่าว อันดับเขาเลยค่อนข้างสูง แต่แค่ไม่กี่อึดใจอันดับของวูชินก็แซงเขาอย่างรวดเร็ว ..
"เอาล่ะฉันค่อยมาหัดเล่นทีหลัง ตอนนี้มีดันเจี้ยนไหนใกล้แตกออกไหม? หรือมีคำขออะไรอยู่รึเปล่าตอนนี้ "
“เอ่อ เรื่องนั้น ... .”
หน้าของมินชานหมองลงเล็กน้อย
"หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนี้ประเทศอื่นๆไม่ได้ทำการร้องขอมาครับ"
"อ่อ พวกเขาจะลองพยายามด้วยตัวเอง"
"ครับ ผมไม่รู้ว่าเกี่ยวกันไหม แต่ดูเหมือนพวกเขาจะต้องการ ของที่เรียกว่าชิ้นส่วนมิติ "
“อืม ...”
วูชินเคาะนิ้วลงบนพนักโซฟา
เดี๋ยวพวกมันก็ต้องเดือดร้อนกับการทำอะไรโง่ๆ
"พวกมันจะรู้สึก"
"อะไรนะครับ?"
"เปล่า ช่างมันเถอะ "
ยังไงวูชินก็ไม่สามารถหยุดยั้งการแตกออกของดันเจี้ยนได้ด้วยตัวคนเดียวทั้งหมด ให้พวกมันก็พยายามกันบ้างก็ดี
แต่ถ้าพวกมันทำไม่ได้และหมดหวัง มาร้องขอทีหลังก็อย่าคิดว่าจะไปช่วยง่ายๆ
"การคัดเลือกผู้มีพลังเข้ากิลด์เป็นยังไงบ้าง?"
"เหลือแค่ขั้นตอนสุดท้ายให้หัวหน้าคัดคนที่เหลือครับ สะดวกเวลาไหนแจ้งผมได้เลย "
วูชินไม่สนใจประวัติของพวกผู้มีพลัง ใครจะสนว่าพวกมันผ่านมากี่ดันเจี้ยนหรือทำอะไรมาบ้าง เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับศักยภาพของผู้มีพลัง เอาง่ายๆใครจะคิดว่าเด็กอย่างซังกูจะก้าวมาเป็นผู้มีพลังระดับต้นๆของโลก?
วูชินจะตัดสินพวกเขาตาม จิตวิญญาณ
"งั้นเอาเป็นอีก 3 วันหลังจากนี้ ตอนนี้หมดเรื่องของฉันแล้ว ฉันจะออกไปก่อน "
เขาทิ้งงานให้คนของเขาทำ ตอนนี้เขาก็มีเรื่องที่ต้องไปทำ
"หัวหน้าจะไปไหนหรอครับ?"
"จะไป พื้นที่มิติ"
"ก่อนไปมาเซลฟี่กับผมก่อนได้รึเปล่าครับ?"
"หือ?"
"เพื่อยืนยันตัวตนน่ะครับ ตอนนี้บางคนไม่เชื่อว่าหัวหน้าเป็นตัวจริง เลยโพสถามกันวุ่นวายเลย "
"เอาสิ มาถ่ายกัน "
"หัวหน้าเอียงคออีกนิดครับ ขยับอีกนิด? อ่าแบบนั้นล่ะครับ"
ซังฮุนจัดท่าให้กับวูชินที่ด้านข้างเขา ก่อนที่เขาจะกดถ่ายภาพกับมือถือ
แชะ
"เดี๋ยวผมอัพโหลดภาพเองครับ หัวหน้าไปเถอะ"
"ได้ ฝากด้วยล่ะ"
"นอกจากนี้ฉันคิดว่านาย เลิกเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แล้วมาเป็นเลขาเหมือนเดิมเถอะ ฉันเบื่อที่จะเจอหน้าและจัดการกับคนอื่นๆ "
“...... .”
"ทักษะเจรจาของนาย ฉันเห็นแล้วก็ไม่ได้คิดว่าดีเท่าไร ดูเหมือนนายจะไม่ค่อยถนัด "
โอ้ ราชาของฉัน ... ท่านไม่ได้ซื้อโทรศัพท์เก่าตกรุ่นเพราะคำพูดของผมหรอ? ทำไมถึงพูดแบบนี้?
"ได้ครับ ผมจะเป็นตั้งแต่ตอนนี้"
"ดีมาก"
เขาเปิดประตูมิติออกมาและหายไปทันที โดยไม่ต้องไปเข้าจาก ทางออกที่ 1 ของสถานีโซล
"นี่ฉันได้เลื่อนตำแหน่งหรือโดนลดตำแหน่งกันแน่?"
“เอ่อ ... ผมว่าน่าจะเลื่อนมากกว่านะ "
เขาเป็นเลขาส่วนตัวของราชาแห่งอแลนดัล
วูซังฮุนอัพโหลดรูปที่เขาถ่ายกับวูชินด้วยมือถือ ลง SNS
***
- กิลด์อแลนดัล เปิดรับสมัครผู้มีพลัง!
- เรือโนอาห์ของยุคใหม่ เปิดรับสมัครแล้ว
- ราชอาณาจักรอแลนดัล บรรลุข้อตกลงแลกเปลี่ยนเรือบรรทุกเครื่องบิน ...
- รับสมัครคนมีความสามารถขับเคลื่อนเรือบรรทุกเครื่องบิน สัญชาติไม่สำคัญ ผู้มีความสามารถจะได้รับการพิจารณา
- ข่าวด่วน คังวูชิน สมัครบัญชี SNS แล้ว
......
มีอีกหลายสิบ ... ไม่สิอีกหลายร้อยหัวข้อที่โพส นอกจากนี้ในคำสำคัญสำหรับค้นหายังมีแต่ชื่อของ คังวูชิน
ซินดี้ที่ถือโทรศัพท์อยู่ ถอนหายใจออกมา
“เฮ่อ”
เธอได้รับผลกระทบจากงานเลี้ยงรุ่นล่าสุด เธอหยุดงานและอยู่บ้านเพื่อเข้ารับการรักษาด้านจิตเวช เพราะความผวาจากเหตุการณ์เกือบตาย
"บางทีฉันควรจะสมัคร?"
มีเงินหรือเป็นดาราตอนนี้ไม่มีความหมายอะไรเลย
ตอนนี้โลกตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย เงินไม่ได้ช่วยให้รอดชีวิต
และยิ่งไปกว่านั้น ...
"ฉันจะได้เจอเขาบ่อยขึ้นไหมนะ?"
เมื่อเธอคิดถึงคังวูชิน หัวใจเธอก็เต้นแรงขึ้นมา
ซินดี้เปิดรายการบันทึกในโทรศัพท์ของเธอ ก่อนที่จะดูหมายเลขของโดจีวอน เธอกำลังจะกดโทรออกแต่ก็วางลง ก่อนที่จะเอนหลังลงไปนอนก่ายหน้าผาก
“เฮ่อ ฉันคงเป็นบ้าไปแล้ว "
เธอรู้สึกอิจฉาโดจีวอนอย่างมาก
“เฮ่อ ฉันเป็นอะไรไปนะ "
ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกัน?
เธอหยุดคิดถึงเขาไม่ได้เลย แต่มันก็ไม่ได้เหมือนกับการตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ ความรู้สึกมันต่างออกไป
โหยหา?
นี่คงเป็นความรู้สึกของแฟนคลับเมื่อมองมาที่เธอ ตอนนี้ความรู้สึกของซินดี้เมื่อมองไปยังวูชินก็เป็นแบบนั้น ทั้งๆที่เธอไมเคยให้ความสำคัญผู้ชายคนไหนมาก่อน
แต่เธอไม่ได้หลงไหลหรือจมอยู่กับความรู้สึก จนทำอะไรไม่เหมาะไม่ควร เธอยังควบคุมตัวเองได้
"เฮ่อ ฉันควรเริ่มต้นทำงานได้แล้ว "
เธอไม่สามารถเรื่อยเปื่อยแบบนี้ได้ตลอด เธอต้องไปทำงาน ข้อจำกัดทางอาชีพของเธอค่อนข้างสูง
เธอหยิบโทรศัพท์มาดูเวลาอีกครั้งก่อนที่จะโยนมันไปที่เตียง เธอตัดสินใจเดินไปดื่มน้ำที่ตู้เย็นด้านข้าง
“อ่าาาา”
หัวเธอค่อยโล่งและสดชื่นขึ้นมาหน่อยเมื่อได้น้ำเย็นๆสักแก้ว
เธอเดินกลับมาหยิบโทรศัพท์เพื่อเตรียมจะโทรหาผู้จัดการส่วนตัว แต่ก็ต้องตัวแข็งเมื่อได้ยินเสียงที่ดังขึ้น
[ฮัลโหล? ซินดี้ว่าไง ทำไมไม่พูดไรอ่า]
เสียงจีวอนดังขึ้นมาจากโทรศัพท์ ตอนนี้เธอไม่รู้จะทำยังไงดี