สีหน้าชายชราแปรเปลี่ยนซับซ้อน เด็กหนุ่มเบื้องหน้ามากพรสวรรค์โดยแท้ ผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการสร้างยันต์มาก่อน ไม่มีทางที่จะสร้างยันต์เพลิงได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
แต่เว่ยสั่วกลับใช้เวลาเพียง 7 วันในการสร้างยันต์ นั่นหมายความว่า พรสวรรค์ด้านการสร้างยันต์ของเขาสูงมาก ที่สำคัญ ในช่วงหลายหมื่นปีที่ชายชราจำความได้ ยังไม่เคยเห็นผู้ใดมากพรสวรรค์เท่าเว่ยสั่วมาก่อน
“บิดาเจ้าเป็นนักสร้างยันต์หรือสมบัติหรือเปล่า?” ชายชรากล่าวถามด้วยความอยากรู้
“ข้าก็ไม่รู้… บิดาและมารดาข้าออกไปล่าอสูรเมื่อตอนข้าอายุ 13 แล้วก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย จะทิ้งไว้ก็แค่วิชากระบี่วารี” เว่ยสั่วมองชายชราด้วยสายตาประหลาดใจ “ท่านถามทำไม?”
“ไปลองยันต์เพลิงก่อนว่าเป็นอย่างที่ข้าบอกหรือเปล่าค่อยว่ากัน” ชายชราจ้องมองเว่ยสั่ว
เว่ยสั่วนำยันต์มุ่งออกไปยังประตูตะวันตกของเมือง
เมืองจิตวิญญาณสูงสุดอยู่ในปกครองของนิกายเพลิงสวรรค์ หากผู้ฝึกตนไร้สังกัดอยากเข้าเมืองย่อมได้ เพียงแต่ต้องจ่ายศิลาวิญญาณ
แต่คนที่ยากจนอย่างเว่ยสั่ว เช่าได้เพียงบ้านสิลาหลังเล็ก ที่ต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละ 2 ศิลาวิญญาณระดับล่าง หากไม่จ่ายค่าเช่าเป็นเวลา 2 เดือนติดกันก็ต้องถูกขับออกจากเมือง
แม้จะบอกว่าเช่าบ้าน แต่จริงๆแล้วมันคือการเก็บภาษีให้กับนิกายเพลิงสวรรค์ แต่ก็ไม่มีผู้เชี่ยวชาญไร้สังกัดคนใดบ่นกล่าว
เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะนิกายได้ส่งผู้ฝึกตนที่เก่งกาจจำนวนมาก เดินตรวจตรารอบเมืองเพื่อรักษาความปลอดภัย ปัจจุบันจำนวนอสูรเพิ่มขึ้นมากหากเทียบกับไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่นเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว หุบเขาทรายเหลืองยังไม่มีจิ้งจกหางศิลาอาศัยอยู่ แต่ยามนี้กลับมีพวกมันอาศัยอยู่
ดังนั้นการอาศัยอยู่ในเมืองจึงถือเป็นเรื่องที่ปลอดภัย หากอยู่ข้างนอก ต้องป้องกันตัวจากอสูร ยังต้องป้องกันตัวจากคนด้วยกันเองที่จะเข้ามาปล้นชิง
ในเมืองมีกฏห้ามต่อสู้กัน จึงทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญไร้สังกัดรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาก
เว่ยสั่วไม่ได้มีวิชาเหาะเหินเดินอากาศเหมือนหลายๆคน อีกอย่างด้วยระดับพลังของเขาตอนนี้ ต่อให้ใช้วิชาได้ก็เหาะเหินเดินอากาศได้เพียงครึ่งชั่วธูปไหม้หมดดอก เหตุที่ออกจากเมืองเพราะเว่ยสั่วเลือกที่จะไม่สร้างปัญหาให้นิกายเพลิงสวรรค์
เมื่อออกไปจากเมืองได้ครึ่งลี้ เบื้องหน้ามีบ้านที่ดูราวกับถูกทิ้งร้าง ใกล้ๆมีต้นไม้อยู่ต้นหนึ่งพร้อมกับแมวป่าที่กำลังร้องเรียกหาคู่
เว่ยสั่วชงักฝีเท้า แมวตัวนั้นหันหน้ามองราวกับไม่พอใจ ว่าอย่ามากวนเวลาที่มันกำลังร้องเรียกคู่
“ฮี่ฮี่!” เว่ยสั่วยิ้ม ซัดฝ่ามือออกไปเบื้องหน้าพร้อมปรากฏลูกไฟขนาดเท่ากระทะ พุ่งกระแทกใส่แมนที่ยืนอยู่โคนต้นไม้ จนทำให้ลำต้นกว่าครึ่งถูกบดขยี้กระจุย เปลวเพลิงลุกโหมแผดเผา
“เมี้ยว!”
แมวตัวนั้นตกใจและหวาดกลัว ขนทั่วร่างถูกเพลิงเผา แต่ก็กระโดดหลบได้อย่างหวุดหวิด เร่งวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
“โอ้โห!”
นอกจากแมวตัวนั้นจะหวาดกลัวแล้ว เว่ยสั่วเองก็หวาดกลัวเช่นกัน เพราะขนาดอยู่ห่าง ยามที่บอลเพลิงระเบิดยังรู้สึกถึงความร้อนที่แผดเผาได้อย่างชัดเจน หากเทียบกับยันต์เพลิงของสตรีที่พบในหบุเขาทรายเหลืองแล้ว ของเขาทรงพลังกว่ามาก
“มารดามันเถอะ! รุนแรงมาก!”
ไกลออกไปมีคนสองคนกำลังเดินตรงมา “ใช้ยันต์เพลิงระดับนั้นสังหารแมวป่าเลยเหรอ?”
“ทรงพลังมาก… ทรงพลังจริงๆ!”
ในขณะที่คนทั้งสองเดินมา เว่ยสั่วก็หลบออกมาอีกทางกระทั่งถึงบ้านของตนเองแล้ว
“ฉุ่ยหลิงเอ๋อร์ เจ้าหนีไม่พ้นเป็นภรรยาของข้าแน่!”
เมื่อเห็นสีหน้าของเว่ยสั่วที่กลับมาถึง ชายชรารู้ว่ายันต์เพลิงใช้งานได้ แต่เมื่อเห็นการกระทำถัดมา ชายชราถึงกับพูดไม่ออก
เพราะเห็นเว่ยสั่วเอื้อมไปสัมผัสบริเวณหน้าอกของภาพวาดที่อยู่บนผนังห้องที่ยังไม่ถูกไหม้ ชายชราเข้าใจแล้วว่าเหตุใดบริเวณหน้าอกของสตรีในภาพวาด ถึงมีสีที่หมองลงมากหากเทียบกับส่วนอื่นๆของร่างกาย
“จริงสิผู้อาวุโสเขียว” เหมือนเว่ยสั่วจะนึกอะไรขึ้นได้ “ท่านบอกว่าหลังจากข้าไปลองยันต์เพลิงแล้ว ท่านมีอะไรจะบอกข้า!”
“สิ่งที่ข้าจะบอกเจ้าก็คือ” ชายชรากล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “การสร้างยันต์ ปรุงโอสถ และสร้างสมบัตินั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออัตราความสำเร็จ หากการสร้างยันต์มีอัตราความสำเร็จอยู่ที่ 2 ใน 10 ส่วน นับว่าล้มเหลวในการสร้างยันต์ สิ้นเปลืองทรัพยากรอย่างสูญเปล่า”
เว่ยสั่วขมวดคิ้ว “ผู้อาวุโส… ท่านอยากจะลองวัดอัตราความสำเร็จของข้าเหรอ?”
“อืม… ลองดูสิ” ชายชราจ้องมองเว่ยสั่ว
สีหน้าเว่ยสั่วแปรเปลี่ยนจริงจัง เดินไปยังโต๊ะที่สร้างยันต์ด้วยสีหน้าจริงจัง
เมื่อเริ่มสร้างยันต์แผ่นแรก ส่วนกลางของอักขระคลาดเคลื่อนจนยันต์เพลิงระเบิด โชคดีที่เว่ยสั่วไม่โดนเผาไปด้วย
ครั้งที่สองวาดอักขระได้อย่างถูกต้อง แต่ไม่รู้ผิดพลาดขั้นตอนใด ยันต์ไม่แผ่พลังงานออกมา
แต่เมื่อถึงครั้งที่สาม ในที่สุดเว่ยสั่วก็สร้างยันต์ได้สำเร็จ เหงื่อกาฬไหลอาบร่าง
เมื่อสร้างยันต์ไปถึง 6 แผ่น เขาก็หมดแรงจนไม่อาจขยับมือ
หลังจากพักเขาก็เริ่มสร้างยันต์ต่อ ด้วยที่โลหิตแมงป่องเพลิงที่เพียงพอให้วาดยันต์ได้ 14 แผ่น เขาทำสำเร็จไป 6 แผ่น ล้มเหลวอีก 8 นับว่าความสำเร็จน้อยกว่า 5 ใน 10 ส่วน และใช้เวลาไปทั้งหมด 2 ชั่วยาม
การสร้างยันต์ต้องใช้พลังงานมหาศาล นอกจากร่างกายจะเหนื่อยล้าจนถึงขีดสุด จิตใจก็เหนื่อยล้าเช่นเดียวกัน
อัตราความสำเร็จน้อยกว่า 5 ใน 10 ส่วน ทั้งยังเหน็ดเหนื่อยจนหมดสภาพ ทำให้เว่ยสั่วไม่พอใจเป็นอย่างมาก
แต่ชายชราที่เฝ้ามองไม่คิดเช่นนั้น เว่ยสั่วไม่รู้ว่าต่อให้เป็นนผู้เชี่ยวชาญการสร้างยันต์ อัตราความสำเร็จยังไม่เกิน 6 ใน 10 ส่วน หากสร้างยันต์ระดับสูง อัตราความสำเร็จจะยิ่งลดน้อยลงเหลือเพียง 4 ใน 10 ส่วนเท่านั้น
ขนาดเพิ่งสร้างยันต์เป็นครั้งแรกยังมีอัตราความสำเร็จขนาดนี้ ภายภาคหน้าเว่ยสั่วน่าจะมีอัตราความสำเร็จที่เพิ่มมากขึ้นกว่านี้
“เด็กน้อย เจ้าตายหรือยัง? ถ้ายังไม่ตายก็ขานรับด้วย ข้ามีอะไรจะบอกเจ้า” แววตาชายชราแปรเปลี่ยนซับซ้อน...