px

เรื่อง : Seoul Station’s Necromancer จบแล้วอ่านฟรี!!!
บทที่ 159 – เทพเจ้าของโลก 2


มีกลุ่มคนยืนอยู่ที่หน้าห้องของโซอา เมื่อวูชินมาถึง เขาก็เห็นจีวอนกำลังยืนคุยอยู่กับซินดี้

“เอ่อวูชิน ... .”

เสียงของจีวอนเต็มไปด้วยความเป็นห่วง แต่เธอก็ไม่สามารถปลอบวูชินได้ ไม่สิ..ไม่รู้จะปลอบเขายังไงด้วยซ้ำสำหรับเรื่องนี้

โซอาพึ่งฟื้นจากอาการหมดสติ

"เดี๋ยวค่อยคุยกัน"

"อื้อ"

วูชินเดินผ่านกลุ่มคนและเข้าไปในห้อง แม่ของเขาที่กำลังร้องไห้จนจมูกแดงก็หันมาหาเขาทันที

"อา วูชิน..โซอา เค้า..น้องเค้า ลืมแม่แล้ว ฮืออออ”

"ไม่เป็นไรนะแม่"

วูชินตบหลังแม่เขา

เธอความจำเสื่อมงั้นหรอ?

เธอได้กลายเป็นผู้เผจพระวจนะของเทพเจ้า แต่เขาไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่สตรีศักดิ์สิทธิ์ความจำเสื่อมมาก่อน

ไม่น่าจะใช่ความจำเสื่อม จากกลิ่นอายดูเหมือนมีอะไร อาศัยร่างกายน้องสาวของเขาอยู่

เทพเจ้าเข้าทรงร่างของผู้เผยพระวจนะ

ตอนนี้คนตรงหน้าไม่ใช่น้องสาวของเขา แต่เป็นเทพเจ้าที่เขายังไม่รู้จัก

"แม่ออกไปก่อนนะ"

แม่ของเขาเดินออกไปด้วยความกังวล แต่เรื่องพวกนี้เขาไม่อยากให้แม่ต้องรับรู้ การที่เธอออกไปก่อนน่าจะดีกว่า

เมื่อเหลือคนในห้องแค่สองคน ตาของโซอาก็เปิดขึ้น

ตาของเธอเปล่งแสงออกมา มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะไปจ้องหน้ากับเธอตอนนี้ แต่วูชินไม่ได้สนใจแสง เขากล่าวถามออกมาทันที

"คุณไม่คิดจะแนะนำตัวหน่อยเหรอ?"

[ ...... .]

"คุณไม่รู้ว่าจะใช้ชื่ออะไร? เลือกสักชื่อ พระเยซู, ศากยมุนี, อัลเลาะห์ ... อืม มีอะไรอีกนะ? "

วูชินพยายามพูดชื่อออกมา ปากเธอทำท่าจะขยับตอนที่เขาเอ่ยชื่อไปเรื่อย

ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ฟังที่เขาพูดเลย

[ข้าเกิดจากเมล็ดพันธ์ เมื่อโลกถูกกระตุ้นไม่นานมานี้ แล้วข้าจะมีชื่อได้ยังไง?]

“เดี๋ยวนะ คุณเป็นเทพเจ้าที่พึ่งเกิด จากการที่โลกถูกกระตุ้นเมื่อไม่นานมานี้? "

หรือว่าโลกนี้ไม่เคยมีเทพเจ้า นี่เป็นเทพเจ้าองค์แรกที่พึ่งมาถึงงั้นหรอ ...

[แม้นี่จะเป็นการพบกันครั้งแรก แต่ข้ารู้เรื่องเจ้ามานานแล้ว]

รอยยิ้มบนใบหน้าของวูชินหายไป

"ทำไมคุณไม่พูดให้ฉันเข้าใจได้ง่ายๆ?"

[ข้าเห็นสิ่งที่เจ้ากระทำแล้ว]

“...... .”

แสงที่ดวงตาของโซอาจางลง

"อ่า เทพเจ้าเหมือนกันทุกองค์ "

เทพเจ้าบนดาวอัลเฟนที่เขาเคยพบก็เป็นแบบนี้ ไม่รู้ทำไมพวกเขามักจะพูดไม่รู้เรื่อง

“อืออ”

โซอาค่อยๆรู้สึกตัวขึ้นมา พลังเวทย์และกลิ่นอายเมื่อครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอย

วูชินรีบกอดเธอไว้ก่อนที่เธอจะล้มลง

“อื้อ”

ตาของโซอาค่อยๆลืมขึ้น เธอพยายามมองไปรอบๆ เมื่อเธอเห็นคนที่กอดเธออยู่ ก็พยายามเปิดปากพูดออกมา

“พี่คะ ... .”

"พี่เอง ไม่เป็นไรแล้ว"

เธอต้องทนทรมานมามาก เพื่อเป็นผู้เผยพระวจนะของเทพเจ้า แต่ตอนนี้เธอก็ผ่านมันมาได้แล้ว

<Lv 50 คัง โซอา>

แค่พริบตาเดียวโซอาก็กลายเป็นผู้มีพลังระดับที่ 5 หรือผู้มีพลังระดับ B

“พี่คะ ฉันฝันว่า ... "

วูชินกอดโซอาแน่นขึ้น

"เธอทำได้ดีมาก"

เขาขอบคุณที่เธอยังมีชีวิตอยู่ ขอบคุณที่เธอสามารถอดทนจนผ่านกระบวนการนี้ไปได้ โซอามองพี่ชายของเธอด้วยความสงสัย

"เพื่อนในฝันของเธอชื่ออะไรหรอ?"

"อ๋า? ฉันไม่รู้ชื่อเขาอ่า ... "

"เอาล่ะ พี่จะออกไปเรียกแม่นะ น้องควรพักผ่อน "

"ค่ะ"

เธอกลายเป็นผู้มีพลังระดับที่ 5

เธอสามารถใช้ความสามารถของเธอจากการสวดภาวนา การเติบโตของโซอาจะพิเศษกว่าผู้มีพลังคนอื่นๆ เธอจะเป็นเหมือนเมโลดี้ ตอนนี้เธอกลายเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์

เมื่อวูชินออกมาจากห้อง ก็มีพนักงานงานที่หน้าตาตื่นตระหนกวิ่งเข้ามารายงาน

"แย่แล้วครับ คิมคังชุลหนีไปแล้ว "

“...... .”

วูชินขมวดคิ้ว

เขาหันไปมองห้องของโซอาอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะเดินออกไป

“เอ่อวูชิน”

เมื่อจีวอนเรียกเขา วูชินจึงหันหน้าไปหาเธอ เขาจ้องไปที่จิตวิญญาณของเธอแล้วเขาก็พบว่ามันสั่นไหวแค่เล็กน้อย

"ค่อยคุยกันทีหลังนะ"

"อื้อ ก็ได้ "

วูชินไม่ได้คุยอะไรกับจีวอนต่อ เขารีบออกไปในทันที ซินดี้ที่ยืนอยู่ข้างๆเมื่อเห็นภาพดังกล่าวก็เดินมาหาจีวอน

“นี่ ท่าทางเขาจะยุ่งมากเลยนะ "

"ใช่"

"เธอโอเคนะ? คนเขาพูดกันว่าเธอเป็นแฟนเขา แต่เหมือนเขาไม่ค่อยมาเจอเธอบ่อยเท่าที่ควรเลย ... "

"แหะๆ ฉันสบายดี "

จีวอนไม่ได้โกหก เธอไม่ได้เป็นอะไร เพราะเธอเข้าใจเขาดี

คังวูชินยุ่งมาก เขามีเรื่องที่ต้องให้ทำเยอะมากๆในแต่ละวัน จุดนี้จีวอนเข้าใจดี ทั้งวูชินยังเป็นคนที่ช่วยชีวิตเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วจะให้เธอไปเรียกร้องความสนใจเขาทำไม?

แค่จีวอนได้อยู่มองเขาใกล้ๆ เธอก็รู้สึกสุขใจแล้ว

เขามักเป็นคนที่เผชิญหน้ากับอันตราย และเขาไม่มีเวลาว่างส่วนตัว

เขาเป็นวีรบุรุษของโลก

“ฮิฮิ เธอจูบกับเขารึยัง? "

"ง่า?"

แก้มของจีวอนเริ่มแดงขึ้นหลังได้ยินคำถามของซินดี้ จากนั้นเธอก็เริ่มมองไปรอบ ก่อนที่จะพูดออกมา

"เราไม่ควรคุยเรื่องนี้ตรงนี้นะ"

ตรงนี้เป็นหน้าห้องของโซอา ซ้ำเจ้าของห้องยังพึ่งฟื้น จะมาพูดเล่นอะไรกันตรงนี้ จีวอนรีบดึงมือซินดี้ก่อนจะลากเธอออกไป

“เฮ่อ เธอก็ลำบากไม่น้อยเลยนะ "

ซินดี้ถอนหายใจ

เธอก็เป็นหญิงสาวที่มีผู้ชายจำนวนมากหลงรักคนหนึ่งบนโลกนี้ แต่คนที่เธอรักดันยากที่จะรักเธอ

"แล้วเมื่อไหร่เธอจะกลับเนี่ย?"

“เห? รำคาญฉันหรอ? "

"เปล่านะ ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น"

ซินดี้ประหลาดใจกับคำถามของจีวอน พอถามกลับเธอก็เอาแต่ส่ายหัว

ไม่กี่วันที่แล้วเธอดันเผลอไปกดโทรหาจีวอน

ซินดี้อ้างว่าเธอได้รับความเสียหายทางจิต จากความหวาดกลัวที่โดนจู่โจมครั้งก่อน เธอเลยขอจีวอนให้พาเธอมาอยู่ในที่ปลอดภัยแบบอแลนดัล เพื่อให้เธอพักฟื้นสภาพจิตใจสักระยะหนึ่ง

จีวอนเลยไปขออนุญาตจากมินชาน เมื่อนายกรัฐมนตรีอนุญาตแล้วเธอก็ไปพาซินดี้เข้ามา

ซินดี้มาอยู่กับเธอได้ 3 วันแล้ว แต่ดูเหมือน ซินดี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะไปไหนเลย

“เฮ่อ ดูเหมือนการเป็นคนรักของวีรบุรุษนี่ก็ไม่ง่ายเลยนะ"

“...... .”

"ฉันคิดว่าต่อให้ฉันตายฉันก็คงทำไม่ได้"

จีวอนไม่ได้แย้งอะไรคำกล่าวของซินดี้

***

วูชินมองไปยังหน้าต่างที่แตก ก่อนที่จะหันกลับมามองซังฮุนที่นอนจมกองเลือดอยู่

"เขาบาดเจ็บหนัก แต่น่าจะยังไม่ตายครับ"

หลังจากได้ฟังคำพูดของพนักงาน วูชินก็จับวิญญาณที่ลอยวนเวียนรอบตัวเขาขึ้นมา 1 ดวง ก่อนที่จะจับมันไปใส่ในร่างของซังฮุน

"อ่า"

ซังฮุนได้สติขึ้นมา เขาครางออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะพยายามลุกขึ้น

“หะ ... หัวหน้า ไม่สิ ราชา "

"เกิดอะไรขึ้น?"

"เขาพูดอะไรบางอย่าง แล้วอยู่ๆเขาก็ปาอะไรใส่ผมไม่รู้ ... "

"เขาพูดว่าอะไร?"

"ผมจำไม่ได้ ...อ่า! เขาพูดเรื่องความบังเอิญอะไรสักอย่าง ที่เกิดขึ้นนี่ล่ะ "

“บังเอิญ”

วูชินหัวเราะ

มูนเวิลด์งั้นหรอ? ท็อปเปลอร์เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรและสนับสนุนคิมคังชุล

ไอพวกเวรนั่นมันอยากคุยกับเขา แต่กลับซ่อนตัวตนที่แท้จริงเอาไว้ แล้วใช้ลิ่วล้อมาส่งข้อความ

"นายควรดูแลตัวเองบ้างนะ ไปออกกำลังกายหน่อยไป"

“...... .”

เขาต้องทำยังไงวะนี่ ฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้มีพลังระดับ AAนะ จะให้ไปออกกำลังกายท่าไหน? ตอนนี้ทั้งอแลนดัลนอกจากวูชินแล้วใครจะไปรับมือคิมคังชุลได้

มันเป็นความผิดพลาดของวูชินส่วนนึง ที่เขาคิดว่าคิมคังชุลอ่อนแอจนไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว

"เอาล่ะนายไปพักเถอะ แล้วก็เรียกมินชานมาหาฉันด้วย"

"ได้ครับ!"

ก่อนที่ซังฮุนจะออกไปเรียกมินชาน ดูเหมือนมินชานจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเขากำลังวิ่งมาทางนี้พอดี

"เกิดอะไรขึ้นครับ?"

"จะอะไรอีกล่ะ? ไปลงประกาศจับตัวมันด้วย "

"อะไรนะครับ? ข้อหาอะไร ... ถ้าสำหรับในสายตาของคนอื่น ... เหมือนว่าราชาจะลักพาตัวคิมคังชุลนะครับ "

คิมคังชุลได้มาเข้าร่วมทดสอบ แต่อยู่ๆวูชินก็ไปสู้กับเค้า หลังจากนั้นวูชินก็ทุบตีเขาปางตายก่อนจะลากเข้าไปในอแลนดัล ราวกับรู้ตัวว่าคำพูดของเขา ทำให้มินชานลำบากใจ วูชินเลยหันไปมองรอบๆ ก่อนที่จะจ้องไปที่หน้าต่าง

"บอกว่า เขาทำลายทรัพย์สิน"

“...... .”

ตัวเขาเองพึ่งก่ออาชญากรรมมาแท้ๆ

"ไม่รู้จะแจ้งให้เกาหลีดำเนินการได้ไหมนะครับ"

"ฉันไม่ได้พยายามจะจับเขาให้ได้ แค่ไปทำมัน"

“เข้าใจแล้วครับ”

มินชานเข้าใจเจตนาของวูชินได้ในทันที ทั้งหมดนี่เพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของคิมคังชุล หากมีการออกประกาศจับไปทั่ว คิมคังชุลจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ

วูชินต้องการจำกัดการเคลื่อนไหวของคิมคังชุล

"เอาล่ะเตรียมความพร้อมในการประชุมสหภาพกิลด์ให้ฉันด้วย ฉันจะออกมาในอีก 3 วัน "

"ครับ ตอนนี้ คนจากทุกกิลด์ทั่วโลกกำลังเดินทางมาครับ ผมกับคนของกิลด์ KH จัดหาที่พักไว้เรียบร้อยแล้ว "

"อ่านายจัดการได้ดี แล้วพวกผู้มีพลังที่รับมาใหม่ล่ะ? "

"ผมกำลังตรวจสอบพื้นหลังแล้วก็ความสามารถของพวกเขาอยู่ครับ ... "

"ส่งพวกเขาไปที่ห้องฉันตอนนี้เลย แล้วอีก 3 วันจะพากลับมา"

“...... .”

ถึงเขาจะพูดว่า 3 วันแต่ในดันเจี้ยนมันเป็น เวลาถึง 12 วัน

พวกเขาพึ่งเข้ามาได้ไม่ถึงสองชั่วโมง แต่คังวูชินจะจับพวกเขาไปลุยดันเจี้ยนแล้ว พวกเขาจะมีความพร้อมพอเหรอ?

"ไม่เร็วไปหรอครับ? บางทีเราควรเตรียมความพร้อมก่อน ไม่แน่ว่าพวกเขาจะปรับตัวได้ทัน แ... "

“มินชาน”

"ครับผม"

คำเดียวของวูชิน หยุดการร่ายยาวของมินชาน

"คนที่ปรับตัวได้ดี คือคนที่เอาตัวรอดในสนามรบได้ ถูกไหม?"

"ครับ"

"ถ้าจะให้พวกเขาปรับตัวได้ดี พวกเขาก็ต้องได้รับการฝึกที่ดี ถูกไหม?"

"ถูกแล้วครับ"

"ฉันไม่ได้พาพวกเขาไปเขตสงคราม แค่พาไปพื้นที่ล่าเท่านั้น "

มันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน สำหรับคนอื่นมันคงไม่ใช่แค่พื้นที่ล่า แต่มันคงเป็นพื้นที่ที่ต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนเอาชีวิตรอด

อย่างไรก็ตามมินชานได้แต่ยอมรับคำพูดของวูชิน

"ผมจะไปเตรียมพวกเขาให้เร็วที่สุดครับ"

"อ่าอย่านานนัก รีบหน่อยนะ "

"ครับท่าน.."

เมื่อวูชินไม่มีอะไรจะพูดต่อแล้ว เขาก็เดินออกไปจากห้อง

“เฮ่อ”

จุงมินชานได้แต่ถอนหายใจออกมา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคิมคังชุลที่หนีไป หรือการที่โซอาฟื้น แต่ดูเหมือนอารมณ์ของวูชินจะแข็งขึ้น มันไม่เหมือนกับตอนปกติ

มินชานไปที่ห้องประชุม ตอนนี้ผู้มีพลังทั้งหมดกำลังอ่านสัญญา แค่พวกเขาเซ็นชื่อ พวกเขาก็จะถือว่าเป็นคนของอแลนดัลทันที

พวกเขาจะเป็นคนของอแลนดัล ในด้านหน้าที่และผลตอบแทนก็เหมือนกิลด์อื่นๆ

พวกเขาต้องเข้าไปเคลียดันเจี้ยน และคอยช่วยจัดการมอนสเตอร์เมื่อดันเจี้ยนเกิดการแตกออก

สิ่งเดียวที่แตกต่างคือ ไม่มีที่ไหนบนโลกมีอำนาจเท่าอแลนดัล เพราะตอนนี้อแลนดัลถือเป็นผู้นำระดับต้นๆของโลก

แถมพวกเขายังทำการสู้รบในพื้นที่ต่างมิติ และดาวดวงอื่น ...

"เอาล่ะทุกคนฟังทางนี้"

“...... .”

ทั้ง 23 คนหันไปมองมินชาน และรอว่าเขาจะพูดอะไร

"พวกคุณจะต้องไปดันเจี้ยนกับราชาในทันที"

"คุณว่าไงนะ? พวกเรายังไม่ได้ลงนามหรือเซ็นสัญญาอะไรเลย"

"ใช่แล้ว พวกเรายังไม่ได้ตัดสินใจเลยว่าจะเข้าร่วมหรือไม่"

มินชานส่ายหัวไปมาด้วยความอึดอัด ตอนนี้เหมือนว่าเขาอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก

"ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญเท่าคำพูดที่ฉันกำลังจะพูด ตั้งใจฟังให้ดี พวกนายต้องพยายามอยู่ใกล้กับราชา และอย่าไปขัดขวางการตัดสินใจเขา แล้วก็ถ้าเป็นไปได้อยู่ใกล้ๆกับอัศวินแห่งความตายของเขาเอาไว้ เวลาเขาสั่งให้ ... "

"เดี๋ยวก่อน! คุณไม่มีสิทธิ์ในตัวพวกเรานะ? "

"ไม่ถามความสมัครใจกันก่อนหรอ?"

"ฉันไม่เอาแล้ว ปล่อยฉันออกไป "

“...... .”

คนที่มาทดสอบยังคงบ่นไม่หยุด ตอนนี้มินชานเริ่มปวดหัว หน้าเขาเครียดขึ้นเรื่อยๆ

พวกนี้ทำตัวยังกับถูกหลอกให้มางานขายตรง

ในทันใดนั้นเองวูชินก็เปิดประตูเข้ามา

"เอาล่ะทุกคนอยู่นี่สินะ"

ดูเหมือนวูชินไม่คิดจะรอ เขาตัดสินใจมาหาด้วยตัวเอง

"ถ้าอยู่กันครบ ก็ไปกันได้แล้ว"

วิ้งงงงงง

วูชินเปิดประตูมิติไปยังอแลนดัล

ความวิตกกังวลถูกแสดงออกทางสีหน้าของทุกคนในห้อง

"ฉันจะกลับ"

“... ?”

วูชินมองคนที่พูด ก่อนที่เขาจะเอียงคอเล็กน้อย

"เมื่อกี้ใครพูด?"

"แล้วทำไม?"

วูชินมองหน้าคนๆนั้นก่อนที่จะหันมองทุกคนแล้วพูดออกมา

"ฉันต้องการปกป้องโลก แล้วพวกนายล่ะ? "

“...... .”

ทำไมเขาถึงพูดอะไรที่ยิ่งใหญ่ออกมา? แล้วต้องการอะไรจากทุกคน

วูชินพูดต่อไป

"ถ้าพวกคุณคิดจะมาหลบภัยที่นี่ งั้นก็ออกไปได้"

“จะ ... จริงเหรอ? เรากลับออกไปได้แน่นะ? "

"แน่นอน ออกไปจากโลก "

"ยะ ... ยังไงนะ ... "

วูชินแสยะยิ้ม ในขณะที่เขาเดินไปที่ประตูมิติ

"ถ้าพวกนายอยากจะเดินผ่านประตูมิตินี้ในสภาพโครงกระดูก ก็นั่งลง แต่ถ้าอยากจะเดินผ่านประตูนี้ทั้งที่ยังมีชีวิตก็ลุกขึ้นแล้วก้าวออกมาตรงเส้นนี้ เริ่มได้”

“...... !”

กึงงง ตึงงตังง!

สิ้นคำพูดวูชินปุ๊บ ทุกคนรีบลุกออกจากที่นั่งแล้วรีบเดินออกมาตรงเส้นที่วูชินชี้โดยไม่สนอะไรทั้งสิ้น

"นับเลขออกมา"

"หนึ่ง."

"สอง."

......

"ยี่สิบสาม ผมเป็นคนสุดท้ายครับ "

วูชินเผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความพอใจออกมา

"ขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่อแลนดัล"

ตอนนี้เสียงของวูชินราวกับเสียงของยมฑูต และประตูมิติสีแดงนั่นคือประตูส่งตรงไปลงนรก ผู้มีพลังทั้ง 23 คนปลงกับชีวิตก่อนที่จะทยอยเดินเข้าประตูไป

รีวิวผู้อ่าน