มีกลุ่มคนยืนอยู่ที่หน้าห้องของโซอา เมื่อวูชินมาถึง เขาก็เห็นจีวอนกำลังยืนคุยอยู่กับซินดี้
“เอ่อวูชิน ... .”
เสียงของจีวอนเต็มไปด้วยความเป็นห่วง แต่เธอก็ไม่สามารถปลอบวูชินได้ ไม่สิ..ไม่รู้จะปลอบเขายังไงด้วยซ้ำสำหรับเรื่องนี้
โซอาพึ่งฟื้นจากอาการหมดสติ
"เดี๋ยวค่อยคุยกัน"
"อื้อ"
วูชินเดินผ่านกลุ่มคนและเข้าไปในห้อง แม่ของเขาที่กำลังร้องไห้จนจมูกแดงก็หันมาหาเขาทันที
"อา วูชิน..โซอา เค้า..น้องเค้า ลืมแม่แล้ว ฮืออออ”
"ไม่เป็นไรนะแม่"
วูชินตบหลังแม่เขา
เธอความจำเสื่อมงั้นหรอ?
เธอได้กลายเป็นผู้เผจพระวจนะของเทพเจ้า แต่เขาไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่สตรีศักดิ์สิทธิ์ความจำเสื่อมมาก่อน
ไม่น่าจะใช่ความจำเสื่อม จากกลิ่นอายดูเหมือนมีอะไร อาศัยร่างกายน้องสาวของเขาอยู่
เทพเจ้าเข้าทรงร่างของผู้เผยพระวจนะ
ตอนนี้คนตรงหน้าไม่ใช่น้องสาวของเขา แต่เป็นเทพเจ้าที่เขายังไม่รู้จัก
"แม่ออกไปก่อนนะ"
แม่ของเขาเดินออกไปด้วยความกังวล แต่เรื่องพวกนี้เขาไม่อยากให้แม่ต้องรับรู้ การที่เธอออกไปก่อนน่าจะดีกว่า
เมื่อเหลือคนในห้องแค่สองคน ตาของโซอาก็เปิดขึ้น
ตาของเธอเปล่งแสงออกมา มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะไปจ้องหน้ากับเธอตอนนี้ แต่วูชินไม่ได้สนใจแสง เขากล่าวถามออกมาทันที
"คุณไม่คิดจะแนะนำตัวหน่อยเหรอ?"
[ ...... .]
"คุณไม่รู้ว่าจะใช้ชื่ออะไร? เลือกสักชื่อ พระเยซู, ศากยมุนี, อัลเลาะห์ ... อืม มีอะไรอีกนะ? "
วูชินพยายามพูดชื่อออกมา ปากเธอทำท่าจะขยับตอนที่เขาเอ่ยชื่อไปเรื่อย
ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ฟังที่เขาพูดเลย
[ข้าเกิดจากเมล็ดพันธ์ เมื่อโลกถูกกระตุ้นไม่นานมานี้ แล้วข้าจะมีชื่อได้ยังไง?]
“เดี๋ยวนะ คุณเป็นเทพเจ้าที่พึ่งเกิด จากการที่โลกถูกกระตุ้นเมื่อไม่นานมานี้? "
หรือว่าโลกนี้ไม่เคยมีเทพเจ้า นี่เป็นเทพเจ้าองค์แรกที่พึ่งมาถึงงั้นหรอ ...
[แม้นี่จะเป็นการพบกันครั้งแรก แต่ข้ารู้เรื่องเจ้ามานานแล้ว]
รอยยิ้มบนใบหน้าของวูชินหายไป
"ทำไมคุณไม่พูดให้ฉันเข้าใจได้ง่ายๆ?"
[ข้าเห็นสิ่งที่เจ้ากระทำแล้ว]
“...... .”
แสงที่ดวงตาของโซอาจางลง
"อ่า เทพเจ้าเหมือนกันทุกองค์ "
เทพเจ้าบนดาวอัลเฟนที่เขาเคยพบก็เป็นแบบนี้ ไม่รู้ทำไมพวกเขามักจะพูดไม่รู้เรื่อง
“อืออ”
โซอาค่อยๆรู้สึกตัวขึ้นมา พลังเวทย์และกลิ่นอายเมื่อครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอย
วูชินรีบกอดเธอไว้ก่อนที่เธอจะล้มลง
“อื้อ”
ตาของโซอาค่อยๆลืมขึ้น เธอพยายามมองไปรอบๆ เมื่อเธอเห็นคนที่กอดเธออยู่ ก็พยายามเปิดปากพูดออกมา
“พี่คะ ... .”
"พี่เอง ไม่เป็นไรแล้ว"
เธอต้องทนทรมานมามาก เพื่อเป็นผู้เผยพระวจนะของเทพเจ้า แต่ตอนนี้เธอก็ผ่านมันมาได้แล้ว
<Lv 50 คัง โซอา>
แค่พริบตาเดียวโซอาก็กลายเป็นผู้มีพลังระดับที่ 5 หรือผู้มีพลังระดับ B
“พี่คะ ฉันฝันว่า ... "
วูชินกอดโซอาแน่นขึ้น
"เธอทำได้ดีมาก"
เขาขอบคุณที่เธอยังมีชีวิตอยู่ ขอบคุณที่เธอสามารถอดทนจนผ่านกระบวนการนี้ไปได้ โซอามองพี่ชายของเธอด้วยความสงสัย
"เพื่อนในฝันของเธอชื่ออะไรหรอ?"
"อ๋า? ฉันไม่รู้ชื่อเขาอ่า ... "
"เอาล่ะ พี่จะออกไปเรียกแม่นะ น้องควรพักผ่อน "
"ค่ะ"
เธอกลายเป็นผู้มีพลังระดับที่ 5
เธอสามารถใช้ความสามารถของเธอจากการสวดภาวนา การเติบโตของโซอาจะพิเศษกว่าผู้มีพลังคนอื่นๆ เธอจะเป็นเหมือนเมโลดี้ ตอนนี้เธอกลายเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์
เมื่อวูชินออกมาจากห้อง ก็มีพนักงานงานที่หน้าตาตื่นตระหนกวิ่งเข้ามารายงาน
"แย่แล้วครับ คิมคังชุลหนีไปแล้ว "
“...... .”
วูชินขมวดคิ้ว
เขาหันไปมองห้องของโซอาอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะเดินออกไป
“เอ่อวูชิน”
เมื่อจีวอนเรียกเขา วูชินจึงหันหน้าไปหาเธอ เขาจ้องไปที่จิตวิญญาณของเธอแล้วเขาก็พบว่ามันสั่นไหวแค่เล็กน้อย
"ค่อยคุยกันทีหลังนะ"
"อื้อ ก็ได้ "
วูชินไม่ได้คุยอะไรกับจีวอนต่อ เขารีบออกไปในทันที ซินดี้ที่ยืนอยู่ข้างๆเมื่อเห็นภาพดังกล่าวก็เดินมาหาจีวอน
“นี่ ท่าทางเขาจะยุ่งมากเลยนะ "
"ใช่"
"เธอโอเคนะ? คนเขาพูดกันว่าเธอเป็นแฟนเขา แต่เหมือนเขาไม่ค่อยมาเจอเธอบ่อยเท่าที่ควรเลย ... "
"แหะๆ ฉันสบายดี "
จีวอนไม่ได้โกหก เธอไม่ได้เป็นอะไร เพราะเธอเข้าใจเขาดี
คังวูชินยุ่งมาก เขามีเรื่องที่ต้องให้ทำเยอะมากๆในแต่ละวัน จุดนี้จีวอนเข้าใจดี ทั้งวูชินยังเป็นคนที่ช่วยชีวิตเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วจะให้เธอไปเรียกร้องความสนใจเขาทำไม?
แค่จีวอนได้อยู่มองเขาใกล้ๆ เธอก็รู้สึกสุขใจแล้ว
เขามักเป็นคนที่เผชิญหน้ากับอันตราย และเขาไม่มีเวลาว่างส่วนตัว
เขาเป็นวีรบุรุษของโลก
“ฮิฮิ เธอจูบกับเขารึยัง? "
"ง่า?"
แก้มของจีวอนเริ่มแดงขึ้นหลังได้ยินคำถามของซินดี้ จากนั้นเธอก็เริ่มมองไปรอบ ก่อนที่จะพูดออกมา
"เราไม่ควรคุยเรื่องนี้ตรงนี้นะ"
ตรงนี้เป็นหน้าห้องของโซอา ซ้ำเจ้าของห้องยังพึ่งฟื้น จะมาพูดเล่นอะไรกันตรงนี้ จีวอนรีบดึงมือซินดี้ก่อนจะลากเธอออกไป
“เฮ่อ เธอก็ลำบากไม่น้อยเลยนะ "
ซินดี้ถอนหายใจ
เธอก็เป็นหญิงสาวที่มีผู้ชายจำนวนมากหลงรักคนหนึ่งบนโลกนี้ แต่คนที่เธอรักดันยากที่จะรักเธอ
"แล้วเมื่อไหร่เธอจะกลับเนี่ย?"
“เห? รำคาญฉันหรอ? "
"เปล่านะ ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น"
ซินดี้ประหลาดใจกับคำถามของจีวอน พอถามกลับเธอก็เอาแต่ส่ายหัว
ไม่กี่วันที่แล้วเธอดันเผลอไปกดโทรหาจีวอน
ซินดี้อ้างว่าเธอได้รับความเสียหายทางจิต จากความหวาดกลัวที่โดนจู่โจมครั้งก่อน เธอเลยขอจีวอนให้พาเธอมาอยู่ในที่ปลอดภัยแบบอแลนดัล เพื่อให้เธอพักฟื้นสภาพจิตใจสักระยะหนึ่ง
จีวอนเลยไปขออนุญาตจากมินชาน เมื่อนายกรัฐมนตรีอนุญาตแล้วเธอก็ไปพาซินดี้เข้ามา
ซินดี้มาอยู่กับเธอได้ 3 วันแล้ว แต่ดูเหมือน ซินดี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะไปไหนเลย
“เฮ่อ ดูเหมือนการเป็นคนรักของวีรบุรุษนี่ก็ไม่ง่ายเลยนะ"
“...... .”
"ฉันคิดว่าต่อให้ฉันตายฉันก็คงทำไม่ได้"
จีวอนไม่ได้แย้งอะไรคำกล่าวของซินดี้
***
วูชินมองไปยังหน้าต่างที่แตก ก่อนที่จะหันกลับมามองซังฮุนที่นอนจมกองเลือดอยู่
"เขาบาดเจ็บหนัก แต่น่าจะยังไม่ตายครับ"
หลังจากได้ฟังคำพูดของพนักงาน วูชินก็จับวิญญาณที่ลอยวนเวียนรอบตัวเขาขึ้นมา 1 ดวง ก่อนที่จะจับมันไปใส่ในร่างของซังฮุน
"อ่า"
ซังฮุนได้สติขึ้นมา เขาครางออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะพยายามลุกขึ้น
“หะ ... หัวหน้า ไม่สิ ราชา "
"เกิดอะไรขึ้น?"
"เขาพูดอะไรบางอย่าง แล้วอยู่ๆเขาก็ปาอะไรใส่ผมไม่รู้ ... "
"เขาพูดว่าอะไร?"
"ผมจำไม่ได้ ...อ่า! เขาพูดเรื่องความบังเอิญอะไรสักอย่าง ที่เกิดขึ้นนี่ล่ะ "
“บังเอิญ”
วูชินหัวเราะ
มูนเวิลด์งั้นหรอ? ท็อปเปลอร์เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรและสนับสนุนคิมคังชุล
ไอพวกเวรนั่นมันอยากคุยกับเขา แต่กลับซ่อนตัวตนที่แท้จริงเอาไว้ แล้วใช้ลิ่วล้อมาส่งข้อความ
"นายควรดูแลตัวเองบ้างนะ ไปออกกำลังกายหน่อยไป"
“...... .”
เขาต้องทำยังไงวะนี่ ฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้มีพลังระดับ AAนะ จะให้ไปออกกำลังกายท่าไหน? ตอนนี้ทั้งอแลนดัลนอกจากวูชินแล้วใครจะไปรับมือคิมคังชุลได้
มันเป็นความผิดพลาดของวูชินส่วนนึง ที่เขาคิดว่าคิมคังชุลอ่อนแอจนไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว
"เอาล่ะนายไปพักเถอะ แล้วก็เรียกมินชานมาหาฉันด้วย"
"ได้ครับ!"
ก่อนที่ซังฮุนจะออกไปเรียกมินชาน ดูเหมือนมินชานจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเขากำลังวิ่งมาทางนี้พอดี
"เกิดอะไรขึ้นครับ?"
"จะอะไรอีกล่ะ? ไปลงประกาศจับตัวมันด้วย "
"อะไรนะครับ? ข้อหาอะไร ... ถ้าสำหรับในสายตาของคนอื่น ... เหมือนว่าราชาจะลักพาตัวคิมคังชุลนะครับ "
คิมคังชุลได้มาเข้าร่วมทดสอบ แต่อยู่ๆวูชินก็ไปสู้กับเค้า หลังจากนั้นวูชินก็ทุบตีเขาปางตายก่อนจะลากเข้าไปในอแลนดัล ราวกับรู้ตัวว่าคำพูดของเขา ทำให้มินชานลำบากใจ วูชินเลยหันไปมองรอบๆ ก่อนที่จะจ้องไปที่หน้าต่าง
"บอกว่า เขาทำลายทรัพย์สิน"
“...... .”
ตัวเขาเองพึ่งก่ออาชญากรรมมาแท้ๆ
"ไม่รู้จะแจ้งให้เกาหลีดำเนินการได้ไหมนะครับ"
"ฉันไม่ได้พยายามจะจับเขาให้ได้ แค่ไปทำมัน"
“เข้าใจแล้วครับ”
มินชานเข้าใจเจตนาของวูชินได้ในทันที ทั้งหมดนี่เพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของคิมคังชุล หากมีการออกประกาศจับไปทั่ว คิมคังชุลจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
วูชินต้องการจำกัดการเคลื่อนไหวของคิมคังชุล
"เอาล่ะเตรียมความพร้อมในการประชุมสหภาพกิลด์ให้ฉันด้วย ฉันจะออกมาในอีก 3 วัน "
"ครับ ตอนนี้ คนจากทุกกิลด์ทั่วโลกกำลังเดินทางมาครับ ผมกับคนของกิลด์ KH จัดหาที่พักไว้เรียบร้อยแล้ว "
"อ่านายจัดการได้ดี แล้วพวกผู้มีพลังที่รับมาใหม่ล่ะ? "
"ผมกำลังตรวจสอบพื้นหลังแล้วก็ความสามารถของพวกเขาอยู่ครับ ... "
"ส่งพวกเขาไปที่ห้องฉันตอนนี้เลย แล้วอีก 3 วันจะพากลับมา"
“...... .”
ถึงเขาจะพูดว่า 3 วันแต่ในดันเจี้ยนมันเป็น เวลาถึง 12 วัน
พวกเขาพึ่งเข้ามาได้ไม่ถึงสองชั่วโมง แต่คังวูชินจะจับพวกเขาไปลุยดันเจี้ยนแล้ว พวกเขาจะมีความพร้อมพอเหรอ?
"ไม่เร็วไปหรอครับ? บางทีเราควรเตรียมความพร้อมก่อน ไม่แน่ว่าพวกเขาจะปรับตัวได้ทัน แ... "
“มินชาน”
"ครับผม"
คำเดียวของวูชิน หยุดการร่ายยาวของมินชาน
"คนที่ปรับตัวได้ดี คือคนที่เอาตัวรอดในสนามรบได้ ถูกไหม?"
"ครับ"
"ถ้าจะให้พวกเขาปรับตัวได้ดี พวกเขาก็ต้องได้รับการฝึกที่ดี ถูกไหม?"
"ถูกแล้วครับ"
"ฉันไม่ได้พาพวกเขาไปเขตสงคราม แค่พาไปพื้นที่ล่าเท่านั้น "
มันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน สำหรับคนอื่นมันคงไม่ใช่แค่พื้นที่ล่า แต่มันคงเป็นพื้นที่ที่ต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนเอาชีวิตรอด
อย่างไรก็ตามมินชานได้แต่ยอมรับคำพูดของวูชิน
"ผมจะไปเตรียมพวกเขาให้เร็วที่สุดครับ"
"อ่าอย่านานนัก รีบหน่อยนะ "
"ครับท่าน.."
เมื่อวูชินไม่มีอะไรจะพูดต่อแล้ว เขาก็เดินออกไปจากห้อง
“เฮ่อ”
จุงมินชานได้แต่ถอนหายใจออกมา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคิมคังชุลที่หนีไป หรือการที่โซอาฟื้น แต่ดูเหมือนอารมณ์ของวูชินจะแข็งขึ้น มันไม่เหมือนกับตอนปกติ
มินชานไปที่ห้องประชุม ตอนนี้ผู้มีพลังทั้งหมดกำลังอ่านสัญญา แค่พวกเขาเซ็นชื่อ พวกเขาก็จะถือว่าเป็นคนของอแลนดัลทันที
พวกเขาจะเป็นคนของอแลนดัล ในด้านหน้าที่และผลตอบแทนก็เหมือนกิลด์อื่นๆ
พวกเขาต้องเข้าไปเคลียดันเจี้ยน และคอยช่วยจัดการมอนสเตอร์เมื่อดันเจี้ยนเกิดการแตกออก
สิ่งเดียวที่แตกต่างคือ ไม่มีที่ไหนบนโลกมีอำนาจเท่าอแลนดัล เพราะตอนนี้อแลนดัลถือเป็นผู้นำระดับต้นๆของโลก
แถมพวกเขายังทำการสู้รบในพื้นที่ต่างมิติ และดาวดวงอื่น ...
"เอาล่ะทุกคนฟังทางนี้"
“...... .”
ทั้ง 23 คนหันไปมองมินชาน และรอว่าเขาจะพูดอะไร
"พวกคุณจะต้องไปดันเจี้ยนกับราชาในทันที"
"คุณว่าไงนะ? พวกเรายังไม่ได้ลงนามหรือเซ็นสัญญาอะไรเลย"
"ใช่แล้ว พวกเรายังไม่ได้ตัดสินใจเลยว่าจะเข้าร่วมหรือไม่"
มินชานส่ายหัวไปมาด้วยความอึดอัด ตอนนี้เหมือนว่าเขาอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก
"ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญเท่าคำพูดที่ฉันกำลังจะพูด ตั้งใจฟังให้ดี พวกนายต้องพยายามอยู่ใกล้กับราชา และอย่าไปขัดขวางการตัดสินใจเขา แล้วก็ถ้าเป็นไปได้อยู่ใกล้ๆกับอัศวินแห่งความตายของเขาเอาไว้ เวลาเขาสั่งให้ ... "
"เดี๋ยวก่อน! คุณไม่มีสิทธิ์ในตัวพวกเรานะ? "
"ไม่ถามความสมัครใจกันก่อนหรอ?"
"ฉันไม่เอาแล้ว ปล่อยฉันออกไป "
“...... .”
คนที่มาทดสอบยังคงบ่นไม่หยุด ตอนนี้มินชานเริ่มปวดหัว หน้าเขาเครียดขึ้นเรื่อยๆ
พวกนี้ทำตัวยังกับถูกหลอกให้มางานขายตรง
ในทันใดนั้นเองวูชินก็เปิดประตูเข้ามา
"เอาล่ะทุกคนอยู่นี่สินะ"
ดูเหมือนวูชินไม่คิดจะรอ เขาตัดสินใจมาหาด้วยตัวเอง
"ถ้าอยู่กันครบ ก็ไปกันได้แล้ว"
วิ้งงงงงง
วูชินเปิดประตูมิติไปยังอแลนดัล
ความวิตกกังวลถูกแสดงออกทางสีหน้าของทุกคนในห้อง
"ฉันจะกลับ"
“... ?”
วูชินมองคนที่พูด ก่อนที่เขาจะเอียงคอเล็กน้อย
"เมื่อกี้ใครพูด?"
"แล้วทำไม?"
วูชินมองหน้าคนๆนั้นก่อนที่จะหันมองทุกคนแล้วพูดออกมา
"ฉันต้องการปกป้องโลก แล้วพวกนายล่ะ? "
“...... .”
ทำไมเขาถึงพูดอะไรที่ยิ่งใหญ่ออกมา? แล้วต้องการอะไรจากทุกคน
วูชินพูดต่อไป
"ถ้าพวกคุณคิดจะมาหลบภัยที่นี่ งั้นก็ออกไปได้"
“จะ ... จริงเหรอ? เรากลับออกไปได้แน่นะ? "
"แน่นอน ออกไปจากโลก "
"ยะ ... ยังไงนะ ... "
วูชินแสยะยิ้ม ในขณะที่เขาเดินไปที่ประตูมิติ
"ถ้าพวกนายอยากจะเดินผ่านประตูมิตินี้ในสภาพโครงกระดูก ก็นั่งลง แต่ถ้าอยากจะเดินผ่านประตูนี้ทั้งที่ยังมีชีวิตก็ลุกขึ้นแล้วก้าวออกมาตรงเส้นนี้ เริ่มได้”
“...... !”
กึงงง ตึงงตังง!
สิ้นคำพูดวูชินปุ๊บ ทุกคนรีบลุกออกจากที่นั่งแล้วรีบเดินออกมาตรงเส้นที่วูชินชี้โดยไม่สนอะไรทั้งสิ้น
"นับเลขออกมา"
"หนึ่ง."
"สอง."
......
"ยี่สิบสาม ผมเป็นคนสุดท้ายครับ "
วูชินเผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความพอใจออกมา
"ขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่อแลนดัล"
ตอนนี้เสียงของวูชินราวกับเสียงของยมฑูต และประตูมิติสีแดงนั่นคือประตูส่งตรงไปลงนรก ผู้มีพลังทั้ง 23 คนปลงกับชีวิตก่อนที่จะทยอยเดินเข้าประตูไป