px

เรื่อง : INVINCIBLE โลกอมตะ
บทที่ 147: ไม่มีความเมตตา


"อันดับหนึ่งของชั้นเรียน ?" หวงเสี่ยวหลงได้กล่าวซ้ำอย่างรวดเร็วก่อนที่จะยิ้มแย้มออกมา และกล่าวว่า "ถูกต้องแล้วคราวนี้ข้าก็ยังอยากที่จะได้อันดับหนึ่ง !"
แต่แล้วอีกครั้งมีคำที่ซ่อนอยู่ภายในความหมายของเขาแม้ว่าหวงเสี่ยวหลงไม่ได้พูดออกมาดัง ๆไม่เพียงแต่เขาต้องการตำแหน่งอันดับหนึ่งของชั้นเรียน เขายังอยากจะคว้าอันดับแรกของสถาบันด้วย !
อย่างไรก็ตามลู่ไคมีรอยยิ้มออกมาในขณะที่ฟังคำตอบ: "แน่นอน! ต่อไปเจ้าจะต้องเป็นตำนานหมายเลขหนึ่งที่ไร้พ่าย ! "
จากปีแรกที่หวงเสี่ยวหลงลงทะเบียนเรียนในสถาบันแสงดารา เขาได้รับคะแนนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของทุก ๆ ปี และตอนนี้หลังจากหลายปีที่ผ่านมามันกลายเป็นตำนานที่ไร้พ่ายของหวงเสี่ยวหลงในหมู่ผู้เข้าเรียนของสถาบันแสงดารา
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ลู่ไคก็แสดงรอยยิ้ม "ตั้งแต่เจ้าได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นปีที่สามแล้ว เจ้าย่อมสามารถเป็นหมายเลขหนึ่งของชั้นเรียนได้!"
ตอนแรกเมื่อลู่ไคได้ยินว่าหวงเสี่ยวหลงได้รับการเลื่อนชั้นปีที่สาม เขารู้สึกดีใจมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในช่วงที่อยู่ในชั้นปีเดียวกันหวงเสี่ยวหลงเป็นแรงกดดันอย่างมากสำหรับเขา และในทางตรงกันข้ามนี้ก็เป็นที่น่าหดหู่ที่สุดในแง่มุมที่ต่างกัน
หวงเสี่ยวหลง และลู่ไคพูดคุยกันขณะที่พวกเขาเดินไปในทิศทางของหอศักดิ์สิทธิ์
"เจ้าเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในอาณาจักร !" ลู่ไคถอนหายใจ "ในการประมูลที่โรงประมูลล้านสมบัติเจ้าได้โยนเหรียญทองจำนวนมากกว่ายี่สิบล้านเหรียญออกไปโดยไม่ต้องกะพริบตา ในขณะที่ข้ายังมีไม่ถึงสองล้านเหรียญ"
หวงเสี่ยวหลงหัวเราะว่า "เมื่อเจ้าขึ้นครองบัลลังก์ทุกอย่างในอาณาจักรหลัวถงล้วนต้องตกเป็นของเจ้า"
ลู่ไคส่ายหัว "มันยังเป็นเรื่องขงอนาคต"
แม้ว่าลู่ไคจะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในราชบัลลังก์ของราชวงศ์ของอาณาจักรหลัวถง แต่อุปสรรคแรกที่เขาต้องข้ามคือการทะลุไปถึงนักรบระดับสิบ
ลู่ไคเป็นคนที่มีพรสวรรค์จริง ๆ แต่เวลาที่เขาต้องการจะก้าวไปสู่นักรบระดับสิบก็ไม่สามารถกำหนดได้
หวงเสี่ยวหลงยิ้มโดยไม่พูดอะไร
ต่อมาหวงเสี่ยวหลง, ลู่ไค และอีกหลายคนก็เดินมาที่หอศักดิ์สิทธิ์ภายในสถาบันแสงดารา
การมาถึงของหวงเสี่ยวหลง และลู่ไค ทำให้เกิดคลื่นแห่งความสับสนวุ่นวายท่ามกลางฝูงชน
สถานะของหวงเสี่ยวหลงเพิ่มมากขึ้นในสถาบัน และศิษย์ของสถาบันนับพัน ๆ คนนับถือเขา เขาเป็นเป้าหมายที่พวกเขามุ่งมั่น แม้แต่รูปแบบการแต่งกายของหวงเสี่ยวหลง และรูปลักษณ์โดยรวมก็ถูกเลียนแบบโดยศิษย์ชายภายในสถาบัน
ยกตัวอย่างเช่นผมของหวงเสี่ยวหลงยาวตกลงมาถึงไหล่ของเขา เขาใช้เชือกเส้นเล็ก ๆ มัดรวมกันอย่างลวก ๆ และโดยปกติแล้วเสื้อคลุมส่วนใหญ่ของเขาก็เป็นสีน้ำเงินเข้ม
หลังจากปีใหม่แล้วหวงเสี่ยวหลงก็จะมีอายุครบอายุสิบเจ็ดปี ผิวของเขาเป็นสีน้ำตาลเข้ม และจับคู่กับดวงตาสีดำที่มืดมิดที่สุด และเขามีจมูกที่โด่ง เขาเป็นตัวอย่างของหนุ่มหล่อ
นอกจากนี้ยังมีกลิ่นอายที่ดูหรูหรา และมีอิทธิพลแผ่ออกมาจากร่างกายของหวงเสี่ยวหลง ใช่การครอบงำอันงดงามที่เพิ่มเสน่ห์ของเขานี้ทำให้หัวใจของผู้หญิงเต้นอย่างรุนแรงเมื่อมองไปที่เขา
"หวงเสี่ยวหลง!!"
"หวงเสี่ยวหลงข้ารัก ~~~เจ้า!"
หอศักดิ์สิทธิ์ได้แผ่ขยายออกไปในเสียงกระหึ่มที่ไม่มีที่สิ้นสุดเช่นเดียวกับปีก่อน ๆ ศิษย์หญิงบางคนกรี๊ดร้องชื่อของหวงเสี่ยวหลงสุดเสียงของพวกนางเหมือนกับกลุ่มคนดังบนโลกเดิมของเขา
"ดูสิ เจ้ายังบดบังรัศมีในฐานะเจ้าชายของข้าอีกด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า !" ลูไคบ่น และหัวเราะไปทางหวงเสี่ยวหลง
หวงเสี่ยวหลงเผยรอยยิ้มที่อ่อนแอ และไร้ประโยชน์จากคำพูดของลู่ไค
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนในหอศักดิ์สิทธิ์ที่ชื่นชอบ หรือความตื่นเต้นในการมาถึงของหวงเสี่ยวหลง ศิษย์ชายจำนวนหนึ่งมีความไม่พอใจต่อหวงเสี่ยวหลงเพราะไม่มีใครสามารถมีความสุขได้ เมื่อเห็นผู้หญิงจำนวนมากหลงใหลผู้ชายคนหนึ่งในลักษณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่พวกเขาสนใจ
หญิงสาวที่แต่งตัวด้วยชุดสีขาวมองมาทางหวงเสี่ยวหลงด้วยตาเป็นประกาย และนางก็เป็นคนเดียวกันที่ต่อสู้กับหวงเสี่ยวหลงเพื่อแย่งชิงตำแหน่งอันดับหนึ่งของชั้นปีที่สองเมื่อไม่นานมานี้ เฉินไฉเซี้ยว (แก้จากชื่อเดิมเฉินไชเซี่ยว)
เฉินไฉเซี้ยวได้รับการยกย่องให้เป็นศิษย์ชั้นปีที่ 3 เมื่อปีที่แล้วก่อนหน้าหวงเสี่ยวหลง แต่ตอนนี้นางอยู่ในชั้นเรียนเดียวกันกับหวงเสี่ยวหลงแล้ว
"ข้าไม่ได้คาดหวังว่าคนประหลาดคนนี้จะก้าวเข้าสู่ชั้นปีที่ 3" เฉินไฉเซี้ยวรู้สึกกลัดกลุ้มพลางถอนลมหายใจของนางออกมา
มีชายหนุ่มผู้หนึ่งกำลังเฝ้าสังเกตเฉินไฉเซี้ยวอยู่ตลอดเวลาจากนั้นเขาก็จ้องมองไปยังหวงเสี่ยวหลง
ชายหนุ่มคนนี้มีลักษณะที่ดูดี เขาคือโจวเต็งของลานภายใน
โจวเต็งเป็นศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของลานภายใน และเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นศิษย์อัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ดาวรุ่งทั้งหมด
โจวเต็งชื่นชอบเฉินไฉเซี้ยวมาเป็นเวลานานแล้ว และเขาได้สารภาพต่อนางอยู่หลายครั้ง แต่เขาถูกปฏิเสธเสมอมา
เมื่อมาถึงจุดนี้ชายหนุ่มที่มีสีหน้าซีดยืนอยู่ข้างหลังโจวเต็ง เขาเดินเข้ามาพร้อมด้วยการหัวเราะคิกคัก "หวงเสี่ยวหลงผู้นี้โดอาศัยการพึ่งพาจิตวิญญาณการต่อสู้ปฐมมังกรทำให้กลายเป็นผู้มีอนาคตไร้ขอบเขต และดูเย่อหยิ่งมาก ท่านพี่โจว เจ้าต้องการคำแนะนำหรือไม่ ? ทำไมไม่ให้หลินฮานดูแลเขาเป็นพิเศษในการแสดงบนเวทีครั้งต่อไป? "
หลินฮานเป็นศิษย์ของชั้นปีที่ 3 ในชั้นเดียวกันกับหวงเสี่ยวหลง และปัจจุบันเขาเป็นศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในชั้นปีที่ 3
โจวเต็งหันไปมองที่ชายหนุ่มที่หน้าซีด และพยักหน้าอย่างนุ่มนวล "ไปบอกหลินฮานตราบเท่าที่เขาสามารถเอาชนะหวงเสี่ยวหลงได้ ข้าจะให้รางวัลแก่เขาเป็นเม็ดยาจิตวิญญาณระดับสี่ !"
"ขอรับ ท่านพี่โจว"
ในช่วงเวลานี้ หวงเสี่ยวหลงได้แยกกับลู่ไค, หวงหมิ่น และน้องชายของเขา หวงเสี่ยวไห่ ในขณะที่พวกเขาเดินไปยังส่วนต่าง ๆ ของหอศักดิ์สิทธิ์
หวงเสี่ยวหลงเดินไปตามทิศทางของชั้นเรียนปีที่สาม และรู้สึกทึ่งเมื่อได้พบกับเฉินไฉเซี้ยวที่นั่น หวงเสี่ยวหลงเพียงพยักหน้าให้นางแทนคำทักทาย
อย่างไรก็ตามเฉินไฉเซี้ยวเดินเข้ามาหาหวงเสี่ยวหลง นางยิ้มให้เขา ในขณะที่นางกล่าวว่า "มันไม่คาดฝันจริง ๆ ว่าเจ้าจะก้าวเข้าสู่ชั้นปีที่สามอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันแล้วบางทีเราอาจจะมีโอกาสได้ต่อสู้กันอีกครั้งในภายหลัง "
"ถ้าเป็นแบบนั้นเจ้าต้องออมมือให้ข้าแล้ว"
ริมฝีปากที่ละเอียดอ่อนของเฉินไฉเซี้ยวโค้งลงในรอยยิ้ม "ข้าน่าจะเป็นคนที่พูดคำนี้กับเจ้า"
ปีก่อนหน้านั้นพวกเขาต่อสู้กัน และในเวลานั้นนางอยู่ที่นักรบระดับเก้า ในขณะที่หวงเสี่ยวหลงเป็นเพียงจุดสูงสุดของนักรบระดับแปดขั้นกลาง อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้นางไม่ใช่ฝ่ายตรงข้ามของเขา ในความคิดเห็นของเฉินไฉเซี้ยว, หวงเสี่ยวหลงที่เพิ่งก้าวเข้าสู่นักรบระดับเก้าจะแข็งแกร่งกว่านางมาก
ห่างออกไป โจวเต็งกำลังมองอย่างมืดมน ในขณะที่เขาเฝ้าดูเฉินไฉเซี้ยว และหวงเสี่ยวหลงพูดจากันอย่างคุ้นเคย และหัวเราะเหมือนเพื่อนที่ดีที่สุด ความหึงหวงในหน้าอกของโจวเต็งถูกไฟเผาลุกลามออกไป
ในขณะนี้หลินฮานเดินตรงไปหาเฉินไฉเซี้ยว และหวงเสี่ยวหลง
"เจ้าคือหวงเสี่ยวหลง ?" ตาของหลินฮานวิเคราะห์หวงเสี่ยวหลงซ้ำ ๆ จากบนลงล่าง
"ถูกต้อง" หวงเสี่ยวหลงยอมรับอย่างไม่ใส่ใจ
"ข้ามีนามว่าหลินฮาน" หลินฮานกล่าวว่า "เจ้าเคยเป็นอันดับหนึ่งในชั้นเรียนตั้งแต่เข้าเรียนในสถาบันแห่งนี้ แต่ในปีนี้ประวัติไร้พ่ายของเจ้าจะต้องจบลง"
กลิ่นอายของการต่อสู้แพร่กระจายอยู่ในอากาศ
สิ่งนี้ดึงดูดความสนใจจากคนที่อยู่ใกล้เคียง
"งั้นเหรอ ?" หวงเสี่ยวหลงตอบโต้อย่างไม่โอ้อวด
หลินฮานหัวเราะ "อย่าคิดว่าเพราะเหล่าอาจารย์ชอบเจ้า และเจ้ามีจอมพลฮ่าวเทียนเป็นผู้สนับสนุนของเจ้า ข้าจะแสดงความเมตตาในสนามรบสักครั้ง ข้าไม่เหมือนกับพี่น้องคนอื่น ๆ ที่สามารถดูแล และผ่อนปรนให้กับเจ้า " ความหมายพื้นฐานในเสียงของเขาเห็นได้ชัดว่าข้อกล่าวหานี้หมายความว่าหวงเสี่ยวหลงพึ่งพาจอมพลฮ่าวเทียนเพื่อให้ได้รับตำแหน่งอันดับแรกทุก ๆ ปี ดังนั้นฝ่ายตรงข้ามของเขามีความเมตตาต่อเขาเพื่อมอบโอกาสที่จะส่องแสง
หวงเสี่ยวหลงตรวจพบ และแน่นอนคนรอบ ๆ ข้างก็ฉลาดพอที่จะเข้าใจ 
"ข้าจะไม่ผ่อนปรนต่อเจ้าเช่นกัน" หวงเสี่ยวหลงตอบเบา ๆ
เมื่อได้ยินคำตอบแบบนี้หลินฮานก็แสดงออกมาอย่างเย็นชา และหันหลังกลับเดินจากไป
"หลินฮานผู้นี้แข็งแกร่งมาก หวงเสี่ยวหลงเจ้าจะต้องระมัดระวังตัวให้ดี เพราะเขาอยู่ในระดับนักรบระดับสิบแรกเริ่ม! " การเฝ้าดูหลินฮานเดินออกไปไกล ๆ เฉินไฉเซี้ยวได้แต่เตือนหวงเสี่ยวหลง
สังเกตเห็นความกังวลในใบหน้าของเฉินไฉเซี้ยว, หวงเสี่ยวหลงยิ้มให้ด้วยความมั่นใจ และกล่าวว่า "ไม่ต้องกังวล ข้าจะ...."
เฉินไฉเซี้ยวหน้าแดงออกมา และพยักหน้าอย่างเขินอายแล้วนางก็หันหลัง และเดินจากไปเช่นกัน

รีวิวผู้อ่าน