บทที่ 17 ออกเดินทาง 4
“นายน้อย นี่เป็นห้องที่ดีที่สุดที่เรามีขอรับ...”
“อืม...ใช้ได้ทีเดียว”
ชายชราพาคณะของคาร์ลมายังโรงแรมของตน ด้านนอกของโรงแรมก็เหมือนบ้านหลังอื่นในหมู่บ้าน แต่ก็มีทุกอย่างที่ต้องการเช่นกันอาจเป็นเพราะมีพ่อค้าที่ไปเยือนดินแดนเฮนิตัสแวะพักที่โรงแรมแห่งนี้บ่อยๆ
“นี่เป็นครั้งแรกที่เรามีขุนนางมาเข้าพัก โปรดชื่นชอบมันด้วยนะขอรับ แม้มันจะขาดเหลือไปไม่น้อยแต่ก็นับว่าเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจได้เป็นอย่างดี”
คาร์ลจ้องไปที่ชายชรา ดูเหมือนเขาจะผ่อนคลายกว่าตอนที่อยู่ต่อหน้าเวเนี่ยน สแตน แต่เขาก็ยังมีความกลัวอยู่ เมื่อความจริงที่ว่าขุนนางจะพักอยู่ที่โรงแรมของเขา มันดีสำหรับเขาที่เกิดความวิตกกังวลเพียงเล็กน้อยแต่มันก็มากพอทำให้คาร์ลอึดอัดไปด้วย
‘มันไม่ควรเป็นแบบนี้’
คาร์ลตบไปที่ไหล่ของชายชราเบาๆและพยายามทำให้เขาผ่อนคลายลง
“ท่านผู้เฒ่า ผ่อนคลายลงเถิด ข้าไม่ชอบคนที่ถ่อมตนเช่นนี้ ที่นี่เป็นสถานที่ที่มีคนเดินทางเข้าออกเพื่อมาพักผ่อนเสมอ ไม่มีทางที่สถานที่นี้จะขาดเหลืออะไร”
แววตาของชายชราสั่นระริก เขาเลียริมฝีปากของตัวเองเบาๆก่อนจะเริ่มพูดหลังจากลังเลใจอยู่ครู่ใหญ่
“นายน้อยขอรับ มีหนุ่มสาวที่ดีๆเช่นท่านอยู่เป็นจำนวนมากที่เมืองเฮนิตัสใช่หรือไม่?”
“ท่านพูดเรื่องอะไร?”
“เอ่อ...ขอโทษขอรับ...”
“ข้าเป็นเพียงขยะผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในดินแดนของเรา เกือบทุกคนที่ท่านจะพบจะมีแต่คนที่ดีกว่าข้านัก”
“อ่า..................”
ชายชราอ้าปากค้างนิ่งอึ้ง ออนและฮงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องส่งเสียงครางจากลำคอพร้อมกับส่ายศีรษะอย่างรุนแรงแต่ไม่มีใครสังเกตเห็น
“ท่านสามารถออกไปทำในสิ่งที่ท่านต้องการได้”
ชายชราก้มคำนับอย่างซาบซึ้งที่คาร์ลไล่เขาออกจากห้อง คาร์ลพบว่ามันน่ารำคาญที่ชายชรายังดูเหมือนจะเกร็งต่อเขาอยู่ แต่ก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่สนใจมันอีกต่อไป
ก๊อก ก๊อก ก๊อก มีบางคนเคาะประตูห้องของเขา
“เข้ามาได้”
ประตูเปิดออกช้าๆพร้อมกับที่รองพ่อบ้านฮันส์นำกล่องเล็กๆเข้ามาภายในห้อง
“นายน้อย ท่านหมายถึงกล่องนี้ใช่มั้ยขอรับ?”
“ใช่...ส่งให้ข้าเลย”
รองพ่อบ้านฮันส์แสดงอาการอยากรู้อยากเห็นขณะยื่นกล่องส่งให้คาร์ล มันมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบเล็กที่นายน้อยฝากไว้ เขาคิดว่ามันน่าจะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และขนมอยู่ด้านในถ้ามันเป็นเพียงกล่องธรรมดาแต่กล่องใบนี้มันไม่ธรรมดา
มันเป็นกล่องเวทย์ที่มีคุณภาพสูงพร้อมกับล็อควิเศษในตัวมัน ตราประทับบนกล่องเวทย์วิเศษนี้เป็นสัญลักษณ์ของหัวหน้าสมาคมการค้าฟลินน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของกลุ่มพ่อค้าขนาดใหญ่และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลเฮนิตัส
คาร์ลแสดงความคิดเห็นของตนอย่างตรงไปตรงมาเมื่อจ้องมองไปที่ฮันส์
“พ่อบ้านไม่สมควรที่จะแสดงอารมณ์ของพวกเขาบนใบหน้า ?โดยเฉพาะความอยากรู้อยากเห็น?”
“มารยาทที่เหมาะสมของพ่อบ้านคือการแสดงอารมณ์ความรู้สึกทั้งหมดของพวกเขาแก่เจ้านายของตนเอง”
“เจ้านี่...ตลกดี”
“กระผมคิดว่า....กระผมเป็นคนตลกนิดหน่อย”
สำหรับคนที่ไม่ต้องการเดินทางไปยังเมืองหลวงนอกจากลูกแมวแล้ว ฮันส์ก็ไม่ได้ทำตัวสุภาพกับคนอื่นเท่าใดนัก แต่คาร์ลยังคิดว่าเขาเป็นคนที่น่ารักกว่าคนอื่นๆ เมื่อฮันส์คุ้นเคยกับเขาในระดับหนึ่งจึงสามารถตอบโต้กันเป็นปกติและผ่อนคลายมากขึ้น
“ออกไปได้แล้วล่ะ....”
“ขอรับ....”
ฮันส์รีบออกจากห้องไปตามปกติ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังมีคำถามเกี่ยวกับการเดินทางของพวกเขาก่อนจะปิดประตู
“เราจะอยู่ที่นี่เป็นเวลาสามวันหรือขอรับ?”
“ใช่....ดูแลทุกอย่างให้เรียบร้อย”
“ได้ขอรับนายน้อย....”
ฮันส์ตอบรับก่อนจะปิดประตูลง นอกจากรองหัวหน้าองครักษ์ที่ดูแลความปลอดภัยของเขา ก็มีฮันส์อีกคนที่คอยดูแลจัดการสิ่งต่างๆให้เรียบร้อยดูเหมือนว่าเขาจะไม่แสดงความสามารถด้านต่อสู้ให้ใครเห็นแต่เขาก็จัดการดูแลความรับผิดชอบต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“เขาดูเป็นพ่อบ้านที่ดี....”
แมวขนสีเงินกล่าวก่อนเดินเข้ามาใกล้คาร์ลช้าๆ เขาพยักหน้าตอบรับคำบอกของออนก่อนที่ฮงลูกแมวขนสีแดงเข้มจะเดินตามมาด้านหลังและพูดขึ้น
“มันดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเช่นกัน”
คาร์ลเห็นด้วยกับคำวิจารณ์ของฮง รอนก็เป็นพ่อบ้านที่ดีแต่รอนไม่ใช่สำหรับเขา ฮันส์เป็นคนที่ก่อปัญหาให้เขาน้อยที่สุด แม้ว่าฮันส์จะกลัวเขาแต่ก็ไม่พบว่าฮันส์จะทำเรื่องยุ่งยากใจให้แต่อย่างใด
คาร์ลตบไปที่ว่างข้างๆตนเพื่อให้ลูกแมวเข้ามานั่งข้างเขาและเริ่มเปิดกล่อง วิธีการเปิดกล่องที่มีการล็อคด้วยเวทย์มนต์ก็ทำได้ง่าย ใช้เพียงแค่ลายนิ้วมือของคาร์ลมันเป็นกุญแจสำคัญที่สามารถเปิดกล่องนี้ได้เท่านั้น คาร์ลวางนิ้วชี้ไว้ตรงกลางของตราเวทย์
ปี๊บ! คลิ๊ก!
กล่องส่งเสียงเบาๆก่อนเปิดออก
ภายในกล่องเป็นสิ่งของที่คาร์ลจัดเตรียมไว้ในช่วงสี่วันก่อนที่จะเดินทางมายังเมืองหลวง
“ข้าอยากรู้จริงๆว่านี่มันคืออะไร?”
“อยากรู้มากจริงๆนะ”
คาร์ลละสายตาจากดวงตาสีทองสองคู่ของสองพี่น้องที่จ้องมองเขาอยู่ ก่อนเอ่ยตอบอย่างไม่ชัดแจ้งนัก
“มันเป็นสิ่งที่ช่วยเหลือคนที่น่าสงสาร ช่วยจัดการไอ้พวกเวรงี่เง่าและก็ช่วยป้องกันไม่ให้ข้าได้รับบาดเจ็บ”
ออนและฮงเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยความใคร่รู้ แต่คาร์ลก็เพียงแค่ลูบไล้สิ่งของในกล่องด้วยความพอใจ เขานึกถึงบทสนทนาที่เขามีต่อบิลอสบุตรชายนอกสมรสของหัวหน้าสมาคมการค้าฟลินน์ก่อนที่เขาจะจากมา
‘นายน้อย....วางแผนจะใช้สิ่งเหล่านี้ที่ใดหรือขอรับ?’
‘ข้าไม่เห็นเหตุผลที่ข้าต้องอธิบายให้เจ้าฟัง’
‘กระผมเข้าใจขอรับ แต่มันจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากนะขอรับ หากจะซื้อมันทั้งหมดตามรายการนี้’
‘.....มันเป็นไปได้ไหม?’
‘สำหรับท่าน...แน่นอนว่ามันเป็นไปได้’
รายการส่วนใหญ่ภายในกล่องเป็นเครื่องมือวิเศษ คาร์ลคาดว่าพวกมันต้องมีราคาแพงแต่ความเป็นจริงมันกลับแพงมากเกินไป เขาต้องใช้เงินทั้งหมดที่ได้รับจากบิดา นอกจากนี้เขายังต้องส่งคืนให้กับบิลอสเมื่อเขาไปถึงเมืองหลวงแล้ว
‘น่ารำคาญ ฉันไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องกับเขาที่เมืองหลวงแต่มันก็ไม่มีทางเลือกอื่นเช่นกัน’
‘มีอยู่สองรายการที่ไม่สามารถเช่าให้กับคนภายนอกได้ กระผมเลยใช้ชื่อตัวเองเช่าซื้อให้ท่าน ดังนั้นนายน้อยต้องส่งคืนสิ่งเหล่านี้ให้กระผมเมื่อเราพบกันอีกครั้งที่เมืองหลวง’
‘แน่นอน...ข้าจะคืนให้เจ้า’
คาร์ลหยิบของชิ้นหนึ่งออกมาจากกล่อง มันมีลักษณะคล้ายลูกโลกกลมๆสีดำมีสัญลักษณ์มากมายที่สลักไว้ ฮงใช้เท้าของมันวางไว้ที่เข่าของคาร์ลเพื่อถาม
“ข้าอยากรู้เกี่ยวกับกับมันจริงๆนะ”
“มันคือ เครื่องมือรบกวนพลังเวทย์ มีมูลค่าเกือบพันล้านแกลลอน”
ฮ๊า!!!! ออนและฮงต่างอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยิน
“ต้องใช้เงิน 20 ล้านแกลลอนในการเช่าซื้อมันเท่านั้น”
ฮงค่อยๆลดเท้าของมันลงจากขาของคาร์ลก่อนเดินช้าๆตรงไปยังมุมห้องนอนที่มีพี่สาวตนอยู่ พวกมันพยายามที่จะรักษาระยะห่างให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้จากลูกกลมๆสีดำนั่น
คาร์ลพยายามฟื้นความจำเกี่ยวกับข้อมูลของลูกกลมๆสีดำนี้ บิลอสสามารถจัดหาในสิ่งที่เขาต้องการได้
‘มันจะทำให้เกิดการรบกวนการถ่ายเทของพลังเวทย์ในช่วงเวลาหนึ่งทำให้เครื่องมือพลังเวทย์ทั้งหมดหยุดทำงาน นอกจากนี้ยังมีความทนทานมากพอ แม้ว่าจะมีบางสิ่งเช่นภูเขาระเบิดก็ไม่อาจทำลายมันได้’
‘บางอย่าง....เช่นโซ่อาคมจะหยุดการทำงานทันที?’
‘แน่นอน....อย่างไรก็ตามนายน้อยต้องติดตั้งล่วงหน้า 27 ชั่วโมง มันถูกสร้างขึ้นเพื่อค่อยๆใส่แรงที่จะทำลายการถ่ายเทของพลังเวทย์เพื่อที่จะไม่เป็นที่สังเกตของเหล่านักเวทย์’
‘มันจะใช้เวลานานแค่ไหน?’
’40 นาที มันไม่ดีหรือขอรับ? แน่นอนว่าหากมีนักเวทย์อยู่ใกล้ๆพวกเขาสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ภายใน 5-10 นาที’
‘อืม.....ข้าจะจำมันไว้’
มุมปากของคาร์ลกระตุกขึ้นเล็กน้อย มันเป็นชิ้นที่แพงที่สุดที่เขาเช่าซื้อมาจากบิลอสแต่มันก็มีประโยชน์อย่างมากกับการเดินทางในครั้งนี้
‘ฉันชอบความสามารถของแกจริงๆ’
สมาคมการค้าฟลินน์ เป็นสถานที่ที่มีประโยชน์มาก ก่อนที่เขาจะโยนลูกกลมๆสีดำที่มีขนาดเล็กกว่าขนาดของกำปั้นเด็กวัยหัดเดินไปยังลูกแมวที่นอนหมอบอยู่มุมห้อง
“ตุ้บ!”
“ห๊า!”
“เมี้ยว!”
หนึ่งในลูกแมวอ้าปากชะงักค้าง ส่วนอีกหนึ่งส่งเสียงร้องเบาๆก่อนขยับห่างจากลูกกลมๆนั่นแต่สุดท้ายพวกมันก็มานั่งหน้าคาร์ลพร้อมกับลูกกลมๆสีดำที่อยู่ในระดับสายตาของพวกมัน
“พวกเจ้ารู้วิธีการอ่านแผนที่ที่ถูกต้องใช่หรือไม่?”
ออนกระดิกหางของเธออย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองต่อคำถามของคาร์ล
“แน่นอน....เราเป็นทายาทของเผ่าแมวหมอก เราสามารถอ่านมันได้”
“ใช่ๆๆ...พี่สาว..ถูกต้องที่สุด”
คาร์ลหยิบเอาชิ้นอื่นออกมาจากล่องมันเป็นของที่สำคัญเช่นกันนั่นคือแผนที่ มันไม่ได้มีรายละเอียดมากเพียงมีสถานที่สำคัญทั่วๆไปทั่วอาณาเขตเฮนิตัส พ่อค้าส่วนใหญ่ที่เดินทางไปและกลับจากอาณาเขตเฮนิตัสส่วนใหญ่จะใช้แผนที่นี้กัน
“ตอนนี้เราอยู่หมู่บ้านนี้แล้ว”
คาร์ลชี้ไปที่ภูเขาทางด้านขวาของหมู่บ้าน
“พวกเจ้าเห็นภูเขานี้หรือไม่?”
“ข้าเห็นมัน”
“มันชัดเจนมาก”
นี่คือสิ่งที่บิลอสได้กล่าวไว้
‘อ่า.....เทือกเขานี้ใกล้เคียงกับการทดสอบความสามารถของมันนัก’
ภูเขาหนึ่งลูก
“ถ้าพวกเจ้าไปที่ภูเขานี้จะเห็นคฤหาสน์อยู่ไม่ห่างและเบื้องหลังมันจะมีถ้ำ”
ในตอนนี้ไม่มีนักเวทย์คนใดอยู่รอบๆคฤหาสน์นั่น คนในหอคอยเวทย์มนตร์ต่างยอมรับว่ามังกรเป็นเผ่าพันธุ์เวทมนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและไม่ต้องการให้มนุษย์จับมังกรมาทรมาน พวกเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอับอายเป็นอย่างมาก
คนที่เฝ้าคุ้มกันรอบบริเวณถ้ำและคฤหาสน์เป็นอัศวินระดับสูงและทหารยามที่มาร์ควิสเชื่อถือเช่นเดียวกับคนที่คอยทำงานสกปรกให้กับตน
“อย่าเข้าไปใกล้ที่นั่น พวกเจ้าจะถูกจับได้”
คาร์ลเคยได้ยินเรื่องราวของเด็กทั้งสองคนมาบ้าง นั่นเป็นเหตุผลที่เขามั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถทำเช่นนี้ได้ แต่เขาก็ยังต้องการเตือน มันจะไม่ดีถ้าความอยากรู้อยากเห็นของพวกมันจะพาตัวเองไปเดินสำรวจรอบๆถ้ำ
“มีบางสิ่งถูกทรมานอยู่ที่นั่น เราจะช่วยเขาให้ได้ ดังนั้นพวกเจ้าจะต้องระมัดระวัง”
“.......บางสิ่ง?”
“ใช่...บางสิ่งนั่นอายุน้อยกว่าเจ้าอีก....ฮง”
“....น้อยกว่าข้าอีกเหรอ?”
“ใช่ 4 ขวบ....มันมีอายุเพียง4ขวบ”
แน่นอนว่าอายุ 4 ขวบนั้นแข็งแรงพอที่จะส่งออนและฮงกระเด็นออกมาเมื่อมันสามารถปลดโซ่อาคมออกมาได้
“พวกเราจะช่วยเขา?”
ออนและฮงมีดวงตาที่กว้างและสว่างขึ้น ก่อนที่จะกดน้ำหนักเท้าของพวกมันลงบนเตียงอย่างแรง
“ช่วย? แน่นอน....เพียงแค่อยู่ในร่างแมวของพวกเจ้าแล้วนำลูกกลมสีดำไปฝังในภูเขาโดยห้ามถูกใครจับได้”
ร่างแมวยังมีโอกาสที่จะไม่มีใครจับหรือรู้เห็นได้ คาร์ลใส่ลูกกลมสีดำไว้ในกระเป๋าเล็กๆก่อนจะนำไปสวมไว้บนคอของออนเหมือนใส่สร้อยคอ
“เราควรจะฝังมันไว้ที่ไหน?”
“ที่ไหนก็ได้บนภูเขานั่น”
“จริงเหรอ?”
“อืม.......”
สองพี่น้องมองหน้ากันและกันก่อนจะพยักหน้า
“ง่าย....”
“พวกเรายังหลบหนีออกจากเผ่าของเราได้เลย”
คาร์ลเห็นด้วยกับพวกมัน......
“มันควรจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกเจ้าทั้งสอง เจ้าทั้งสองมีทักษะเพียงพอสำหรับงานนี้ ข้าจะไม่ใช้ผู้ไร้ความสามารถในการทำงานนี้ตั้งแต่เริ่มแรกหรอกนะ”
ลูกแมวสองตัวมองขึ้นมาที่คาร์ลพร้อมกับจ้องเขาด้วยดวงตาสีทองนั่น พี่น้องคู่นี้เกือบถูกฆ่าจากฝีมือคนในเผ่าของตนเองเนื่องจากทั้งคู่ไม่มีความสามารถแม้จะไม่ได้มีโอกาสเรียนรู้ใดๆเลย พวกมันเริ่มมีอารมณ์เศร้า หางเล็กๆของพวกมันส่ายไปมาอย่างรวดเร็วก่อนที่จะจับจมูกเอาไว้เพื่อกลั้นหยดน้ำตา
คาร์ลเข้าใจในสิ่งที่สองพี่น้องคิดและเคร่งเครียดไปกับมัน
“ข้าจะให้เนื้อตามที่พวกเจ้าต้องการหากทำงานสำเร็จกลับมา”
สองพี่น้องรีบกระโดดข้ามหน้าต่างและเดินลัดเลาะไปยังภูเขา
โดยธรรมชาติของสองพี่น้องเป็นสิ่งที่คาร์ลคาดไว้ พวกมันจะทำงานสำเร็จและจะได้รับรางวัลของตนตามที่ต้องการได้ สเต็กเนื้อสัก 10 ชั้นสำหรับตัวพวกมันเอง
วันรุ่งขึ้นคาร์ลดื่มน้ำมะนาวที่ตอนนี้เขาดื่มจนเริ่มชินแล้ว ก่อนเอ่ยถามเชวฮัน
“เจ้าเคยเห็นมังกรหรือไม่?”