px

เรื่อง : ขยะแห่งตระกูลเคานต์ (Trash of the Count s family)
บทที่ 20 พบมังกร 3


บทที่ 20 พบมังกร 3 

 

หลังออกมาจากคุกคาร์ลค่อยๆวางมังกรลงด้านหน้าของลูกแมวทั้งสอง

 

“...ดูเหมือนว่ามันจะเจ็บมาก”

 

“น่าเศร้าจัง.....”

 

ออนและฮงเดินล้อมรอบมังกรเป็นวงกลมช้าๆ มังกรน้อยยังคงเงียบก่อนจะค่อยแยกเขี้ยวส่งเสียงขู่พวกเขา นี่อาจเป็นครั้งแรกในชีวิตที่มันเห็นอะไรอื่นนอกจากมนุษย์

 

คาร์ลก้มลงดูนาฬิกาอีกครั้งเพื่อตรวจสอบเวลา ดูเหมือนว่าพวกเขายังมีเวลาเพียงพอที่จะหลบหนี

 

“ดูเหมือนว่ามันจะเจ็บมาก”

 

ออนเดินเข้ามาใกล้คาร์ลก่อนใช้อุ้งเท้าของเธอแตะไปที่ขาของคาร์ล เหมือนออนจะนึกขึ้นได้ว่าเห็นอะไรคล้ายๆกับยาอยู่ในกระเป๋าเวทย์ของคาร์ล เธอไม่สามารถที่จะถามเขาตรงๆได้เลยใช้วิธีนี้ในการบอกกับเขา

 

“..รอก่อน..”

 

คาร์ลได้นำยานั่นมาเพื่อใช้กับมังกรแต่เขาจำเป็นต้องรอจนกว่าพลังเวทย์ในโซ่อาคมจะหยุดการทำงาน ยาจะสามารถทำงานได้ดีถ้าพลังเวทย์ซึ่งมีความสำคัญเหมือนกับหัวใจมังกรไม่ถูกคุมขังอีกต่อไป

 

คาร์ลเริ่มสำรวจบริเวณรอบๆก่อนหันหน้าไปทางด้านตรงข้ามของคุกที่ใช้ทรมานมังกรมันดูมีการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา ไม่มีเสียงใดดังเล็ดลอดไปด้านนอกเลย แต่เขาได้ยินเสียงของเชวฮันต่อสู้ในระยะไกลๆเขาคาดว่าอีกไม่นานการต่อสู้ด้านนอกจะจบลงในเร็วๆนี้

 

“มาดูกัน.....”

 

คาร์ลเริ่มใช้มือแตะไปทั่วๆผนังของถ้ำ เขาเตะผู้คุมด้วยเท้าของเขาเมื่อเจ้านั่นเกะกะขวางทางการเดินของตนและยังคงกวาดสายตาไปทุกๆด้านของผนังถ้ำ มังกรคุกเข่าลงหลังจากเห็นผู้คุมที่คอยทรมานมันมานานแต่มันก็ยังคงนิ่งอยู่ก่อนที่มุ่งความสนใจไปที่คาร์ลอีกครั้ง

 

‘ปราการป้องกันด่านสุดท้ายของเวเนี่ยนจะต้องอยู่ที่นี่’

 

เช่นเดียวกับสมาชิกในตระกูลมาร์คควิสแสตน เวเนี่ยนกังวลว่าจะมีใครบางคนที่เข้ามายุ่งเกี่ยวในขณะที่เขาทำภารกิจอยู่ด้านใน เขาสร้างอุโมงค์ลับเพื่อใช้เป็นเส้นทางการหลบหนีหากมีอะไรเกิดขึ้น ถ้าผู้คุมรู้เรื่องนี้เขาอาจจะใช้มันเพื่อหลบหนีไปก่อนหน้านี้ได้ แต่น่าเศร้าแม้แต่ผู้คุมที่เป็นพวกเดียวกันก็ไม่รู้เรื่องเส้นทางหลบหนีนี้

 

‘ในนิยายได้กล่าวเอาไว้ มันจะเรียบๆบนผนังที่ขรุขระนี้....อ่า...เจอแล้ว’

 

มันเป็นพื้นราบเรียบเท่าขนาดของมือคนบนผนังถ้ำที่ขรุขระนี้ ดูเหมือนว่าเวเนี่ยนจะเป็นโรค OCD(โรคย้ำคิดย้ำทำ)และไม่เคยได้เรียนรู้หรือฝึกอบรมเหมือนคนอื่นๆในตระกูลซึ่งคนอื่นๆในตระกูลจะได้เรียนรู้ศิลปะป้องกันตัวทุกแขนง

 

‘ถ้าคุณใช้กำลังที่มากพอทุบไปที่ตำแหน่งนั้น....ผนังถ้ำจะถูกเปิดออก’

 

มันไม่ใช่อุปกรณ์พลังเวทย์แต่อย่างใดแต่ใช้แรงกระแทกทำให้อุปกรณ์นั้นเคลื่อนที่ออกไปได้ คาร์ลหันศีรษะกลับไปหาคนที่กำลังเดินเข้ามาก่อนเอ่ยถาม

 

“เรียบร้อย?”

 

“ขอรับ.....”

 

เชวฮันค่อยๆยกดาบของตนขึ้นไปในอากาศเพื่อขจัดคราบเลือดออกไปและเดินเข้าไปใกล้คาร์ล สายตาของเขาปะทะเข้ากับมังกรอย่างรวดเร็วก่อนที่จะเริ่มขุ่นเคือง มันเป็นปฏิกิริยาโดยธรรมชาติที่เห็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กถูกปกคลุมไปด้วยเลือด แสงจ้าในดวงตาของเชวฮันขณะที่จ้องไปที่ผู้คุมราวกับเห็นสิ่งที่น่ารังเกียจและเลวร้ายมาก

 

“เชวฮัน”

 

นั่นเป็นเหตุผลให้คาร์ลส่งเสียงเรียกเชวฮันที่ยังคงจ้องเขม็งไปยังร่างผู้คุมอยู่ ก่อนที่เขาจะเอ่ยรายงานต่อคาร์ล

 

“ข้าทำตามที่ท่านสั่ง ข้าปล่อยให้คนงานหนีออกไปได้หนึ่งคนและยังทำให้แน่ใจว่าพวกที่แข็งแกร่งที่สุดจะไม่สามารถลุกขึ้นมาสู้ได้”

 

“เยี่ยม”

 

คาร์ลกล่าวชื่นชมเชวฮันด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะชี้ไปที่พื้นราบที่อยู่บนผนัง

 

“ต่อยลงไปจุดนี้”

 

“ใช้แรงเท่าที่ข้ามีหรือไม่?”

 

‘นี่นายวางแผนระเบิดถ้ำหรือไง?’

 

“ไม่...ควบคุมแรงของเจ้าด้วยให้แกล้งทำเป็นว่าเจ้าสร้างรอยสัก 10 ซม.ไว้ที่ผนังนี้”

 

“อืม...งั้นก็เบามาก”

 

“แน่นอน”

 

เบาแค่ไหน? คาร์ลรีบเดินหนีจากเชวฮันทันทีที่ได้ยินเขาเรียกอะไรบางอย่างที่คาร์ลไม่สามารถทำได้แม้จะเป็นเพียงการใช้พลังเพียงเล็กน้อยของเขาก็ตาม

 

เชวฮันเข้าใจว่าคาร์ลบอกให้เขารีบและต่อยผนังด้วยกำปั้นทันที

 

บูม!

 

“ว้าว.....”

 

“โอ้.......”

 

คาร์ลรีบอุ้มมังกรไว้ในอ้อมแขนทันทีในขณะที่ลูกแมวทั้งสองกำลังชื่นชมกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

เอี้ยดดดดดดดดดดด........

 

มีเสียงแหลมแสบแก้วหูดังขึ้นจากผนังถ้ำและปรากฏช่องว่างขนาดผู้ชายตัวโตคนหนึ่งจะเข้าไปได้อยู่ต่อหน้าพวกเขา เชวฮันรีบหยิบคบเพลิงมาถือทันที

 

“ไปกันเถอะ”

 

คำสั่งของคาร์ลทำให้ทุกคนมุ่งหน้าเข้าไปในช่องว่างนั้นมันเป็นอุโมงค์ที่เล็กแคบ ลูกแมวทั้งสองเกาะอยู่บนหลังของเชวฮัน เนื่องจากเชวฮันเดินนำเข้าไปก่อนทำให้คาร์ลต้องเดินตามหลังเข้าไป มังกรยังคงเงียบในอ้อมแขนของคาร์ลมีเพียงเสียงลมหายใจที่ดังออกมาจากมัน อย่างไรก็ตามสายตาที่มันจ้องมาที่คาร์ลบ่งบอกได้ว่ามันรังเกียจเขามาก

 

แทนที่จะรู้สึกขอบคุณสำหรับการช่วยชีวิต มังกรตัวนี้ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความคิดที่น่ากลัวเกี่ยวกับการถูกทรมานโดยมนุษย์คนอื่นรวมทั้งความโกรธและความไม่พอใจต่อมนุษย์อีกด้วย

 

“หยุดจ้องข้าอย่างนั้นได้แล้ว”

 

คาร์ลเอ่ยบอกกับมังกรในอ้อมแขนของตน

 

‘อ่า....รู้สึกจะหายใจไม่ทันแล้ว’

 

คาร์ลกำลังตกที่นั่งลำบากขณะพยายามที่จะเดินตามเชวฮันให้ทันแต่ดูเหมือนเชวฮันจะไม่มีอาการอะไรเลย

 

‘ฉันควรให้เชวฮันเป็นคนอุ้มมังกรดีไหมนะ?’

 

มังกรยาว 1 เมตรมันหนักมาก มันจะไม่ยากถ้าเขาสามารถใช้มือของเขาเรียกพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณที่เรียกว่าพละกำลังแห่งดวงใจมาใช้อุ้มเจ้ามังกรตัวนี้

 

คาร์ลกระชับมังกรไว้ในอ้อมแขนแน่นขึ้น เขาพยายามสงบอารมณ์ตัวเองไม่ให้หงุดหงิดจนทิ้งมันไว้ที่นี่ ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้มันอยู่ที่นี่หลังจากที่ใช้ความพยายามทั้งหมดในการช่วยเหลือมัน

 

มังกรยังคงเฝ้าดูเขาอยู่ เสื้อสีดำของคาร์ลเริ่มถูกปกคลุมไปด้วยเลือดของมังกร

 

หลังจากเดินผ่านอุโมงค์มืดและแคบมาได้สัก2-3 นาที เชวฮันก็ส่งเสียงเรียกคาร์ล

 

“มีผนังอยู่ตรงหน้าเรา”

 

“ต่อยตรงกลางผนังด้วยกำปั้นของเจ้าด้วยแรงที่เจ้าใช้เมื่อก่อนหน้านี้และเราจะได้ออกจากที่นี่กัน”

 

“อ่า...ข้าเข้าใจแล้ว”

 

ลูกแมวทั้งสองรีบกระโดดลงจากไหล่ของเชวฮันและวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว เชวฮันเรียกพลังบางอย่างใส่ไว้ในกำปั้นของตนและต่อยลงตรงกลางผนังด้วยแรงที่เคยใช้ก่อนหน้านี้

 

บูม!

 

ผนังเกือบจะยุบตัวลงทันทีก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจะมองเห็นท้องฟ้ายามราตรี ตอนนี้พวกเขาอยู่นอกถ้ำแล้ว คราวนี้คาร์ลเป็นผู้เดินนำก่อนมองไปรอบๆ

 

นี่คือเหตุผลที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้เครื่องมือรบกวนพลังเวทย์เพื่อใช้ทำงานบนภูเขาทั้งหมด เวเนี่ยนได้วางเครื่องรวบรวบพลังเวทย์ไว้ในทางเข้าอุโมงค์ลับเช่นกัน เขาเป็นคนย้ำคิดย้ำทำและละเอียดถี่ถ้วนมาก

 

คาร์ลไม่ทราบว่าประตูทางเข้าอยู่ตรงไหนบ้างจึงจำเป็นต้องใช้เครื่องรบกวนพลังเวทย์ในการทำงานบนภูเขาทั้งหมด

 

พวกเขาไม่มีเวลาเหลือมากแล้วจำเป็นต้องออกจากบริเวณที่มีเครื่องมือเวทย์ใน1หรือ2นาทีถัดไปซึ่งนั้นก็ไม่ได้เป็นปัญหาเท่าใดนัก

 

เชวฮันเดินตามหลังคาร์ลออกมา เขาสร้างร่องรอยใหม่ๆเพื่อให้กลุ่มคนที่จะตามมาสับสนพร้อมๆกับที่กลบร่องรอยของพวกตนด้วยเช่นกัน หลังจากใช้ชีวิตในป่าแห่งความมืดเพียงลำพังเป็นเวลานานเขาจึงเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสร้างและทำลายร่องรอยได้เป็นอย่างดี หลังจากหนีออกมาจากอุโมงค์ลับได้ประมาณ2นาทีคาร์ลก็ก้มมองดูนาฬิกาอีกครั้ง

 

“หยุด.....”

 

สัญญาณเตือนที่ส่งเสียงดังจากเครื่องมือเวทย์ทั้งหมดหยุดการทำงานลงทันที .....อ่าเครื่องรบกวนพลังเวทย์หยุดการทำงานของมันแล้ว

 

“ฮึบบบบ ~”

 

คาร์ลสูดหายใจเข้าลึกๆพยายามลดระดับการเต้นของหัวใจให้ช้าลง โล่นิรันดร์กาลที่อยู่ล้อมรอบหัวใจของเขาในตอนนี้มันกำลังรวบรวมพลังให้แข็งแกร่งขึ้นตามจังหวะการเต้นของหัวใจเช่นเดียวกับที่มันจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเจ้าของโล่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นอันตราย

 

‘ฉันยังไม่มีแผนที่จะใช้มันในตอนนี้’

 

คาร์ลยังไม่มีแผนที่จะใช้โล่นิรันดร์กาลในตอนนี้ เมื่อเขาปล่อยมังกรตัวนี้ให้เป็นอิสระและแยกย้ายกับเชวฮันแล้ว เขามีแผนที่จะรับเอาพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณที่ชื่อพละกำลังแห่งดวงใจเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับโล่นี้เมื่อถึงเวลานั้นเขาถึงจะใช้มัน เขามองไปรอบๆก่อนที่จะก้มลงมองมังกรและเริ่มยิ้มออกมา

 

สายตาที่เป็นปฏิปักษ์ได้หายไปแล้วมังกรน้อยมองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามราตรีด้วยความชื่นชม นี่เป็นครั้งแรกที่มังกรเห็นอะไรอื่นนอกจากผนังถ้ำในช่วงสี่ปีของชีวิตมัน คาร์ลเข้าใจว่ามันรู้สึกเช่นไร เขาอยากจะให้เวลามันมากกว่านี้แต่ก็คงทำไม่ได้

 

คาร์ลค่อยๆวางมังกรลงบนพื้นหญ้าและยังคงจ้องมองดูมันต่อไปก่อนที่มังกรจะหันกลับมามองที่เขา ดวงตาทั้งสองของมันเต็มไปด้วยความโกรธและเคียดแค้นอีกครั้ง มันขยับตัวออกและเตรียมพร้อมจะโจมตี

 

‘ไม่น่าแปลก....มันถูกทรมานมาเป็นระยะเวลาสี่ปีและมันไม่ต้องการที่จะกลับไปมีชีวิตเช่นนั้นอีก’

 

นั่นเป็นเหตุผลที่คาร์ลรู้สึกชอบมังกรตัวนี้ มันแตกต่างจากตัวเขาเอง เขาคือคิมร็อกโซคนที่เติบโตขึ้นมาในฐานะเด็กกำพร้าก่อนที่เขาจะเข้ามาเป็นคาร์ลในโลกนิยายแห่งนี้ เขาไม่อยากเป็นตัวละครหลักของเรื่องเฉกเช่นเชวฮัน หลังจากที่เขาเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่เรียกว่าบ้านเขาก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมีกำลังแข็งแกร่งมากพอที่จะต่อสู้กับโลกนี้ได้

 

“เฮ้”

 

คาร์ลร้องเรียกมันเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้ามังกรจะจ้องมองเขาอยู่ เขาก้มหยิบถุงมือและเครื่องมือที่ใช้ในการตัดที่มีลักษณะเหมือนกรรไกรที่ใบมีดทั้งสองด้านของมันถูกเวทย์มนตราสลักไว้จนเห็นลวดลายสวยงามก่อนที่จะสวมถุงมือเพื่อป้องกันกระแสมนตราไหลผ่าน

 

เครื่องมือที่ใช้ตัดชิ้นนี้เป็นหนึ่งในสองรายการที่ต้องเช่าซื้อจากบิลอส นี่ไม่ใช่สิ่งที่ใครก็สามารถจะใช้เงินซื้อมันได้

 

‘กระผมไม่รู้ว่านายน้อยจะต้องการมันไปทำอะไร...แต่นายน้อยขอรับ...หวังว่าท่านจะปลอดภัยไปจนถึงเมืองหลวงนะขอรับ’

 

‘นี่เจ้าคิดว่าข้าจะตาย?’

 

‘ทั้งหมดที่นายน้อยกำลังวางแผนเหมือนมันจะก่อความวุ่นวายอย่างใหญ่หลวง’

 

‘เงียบไปเถอะน่ะ’

 

คาร์ลกำลังคิดถึงบทสนทนาที่เขามีกับบิลอส ก่อนจะสังเกตได้ว่าบรรยากาศโดยรอบเงียบไปอย่างผิดปกติ เชวฮันกำลังจ้องมาที่เครื่องตัดคล้ายกรรไกรนี้ด้วยสายตาสับสนวุ่นวาย ขณะที่ลูกแมวสองพี่น้องรีบหนีห่างจากคาร์ลไปยืนอยู่ด้านหลังของเชวฮัน

 

และมังกรกำลังจ้องมองมาที่เขา

 

“เตราะ”

 

คาร์ลเดาะลิ้นของเขากับท่าทีที่พวกเขาแสดงออกต่อตัวเอง ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้มังกรมากขึ้น โซ่อาคมถูกสร้างขึ้นจากสิ่งที่คล้ายกับยาง หากทำจากโลหะมันจะไม่เหมาะสมกับมังกรที่กำลังเจริญเติบโต นั่นคือเหตุผลว่าทำไมจึงต้องทำมันขึ้นมาจากสิ่งที่มีความยืดหยุ่น

 

จากนั้นเขาก็คว้าไปที่คอของมังกรทันที

 

“เฮือกกกกกกกกกกกก”

 

ลูกแมวหายใจเข้าอย่างเต็มปอดเล็กๆของมัน แต่ถึงเป็นเช่นนั้นคาร์ลก็ไม่ได้สนใจและยังคนเดินหน้าต่อไปเพราะมันจะเป็นการดีกว่าที่จะทำทุกอย่างให้เสร็จเร็วที่สุด เครื่องตัดคล้ายกรรไกรจ่ออยู่ที่ลำคอของมังกรใบมีดที่คมวับของมันสะท้อนเข้ากับแสงจันทร์และมังกรยังคงจ้องไปที่ใบหน้าของคาร์ลที่ยังคงมีสีหน้าราบเรียบและสงบ

 

มังกรค่อยๆหลับตาลงช้าๆ

 

ในเวลานั้นทุกคนได้ยินเสียงของเครื่องตัดที่ลงเวทย์มนตราสลักไว้ตัดลงไปที่โซ่อาคมเสียงตัดของมันแทรกลอยผ่านเข้ามาในอากาศ

 

เชร้ง! เชร้ง!

 

โซ่อาคมที่ถูกตัดออกเกิดเป็นประกายไฟในมือของคาร์ล

 

“เจ้ามองดูอะไรอยู่?”

 

คาร์ลหัวเราะเยาะมังกรเบาๆเมื่อมันลืมตาขึ้นมามองที่เขา ก่อนจะถอดถุงมือข้างหนึ่งส่งให้เชวฮัน เขารับถุงมือข้างนั้นและสวมมันทันทีพร้อมๆกับที่คาร์ลยื่นโซ่อาคมส่งให้กับตน คาร์ลหยิบขวดยาออกจากกระเป๋าทันที มันเป็นยาเกรดดีที่สุด แม้จะเสียเงินสำหรับยานี้ไปเพียงเล็กน้อยก็ตามมันก็ทำให้เขารู้สึกไม่ดีกับเงินที่ต้องออกจากกระเป่าไปเมื่อไม่กี่วันก่อนออกเดินทาง คาร์ลเดาะลิ้นของตัวเองอีกครั้งและจ้องไปที่มังกร

 

“เจ้ารู้ไหมว่าข้าหมดเงินไปกับเจ้ามากเพียงใด?”

 

มังกรได้ยินประโยคเดียวกับที่มันได้ยินบ่อยๆ มันเคยได้ยินมาเกือบทุกวันตั้งแต่มันเกิดมา

 

‘ทำไมเจ้าไม่เชื่อฟังข้าเสียที...ข้าต้องหมดเงินไปกับเจ้ามากมายพียงเท่านี้..ถ้าเช่นนั้นเจ้าต้องโดนเฆี่ยนให้มากกว่านี้? จากนั้นเขาก็ถูกทำร้ายเฆี่ยนตี พวกมนุษย์เหล่านั้นบอกว่าอย่าให้มันต่อต้านและจงเชื่อฟังคำสั่งของพวกเขาไม่เช่นนั้นก็ต้องถูกทำร้ายไปเรื่อยๆ

 

อย่างไรก็ตามเขาก็ยังได้ยินมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้าพูดต่อไป

 

“ในเมื่อข้าหมดเงินไปกับเจ้ามากมายเพียงนี้ เจ้าก็ต้องรักษาตัวเองให้ดี อย่าทำตัวโง่เง่าเซ่อซ่า”

 

และตอนนี้เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกแล้ว

 

คาร์ลเทยาครึ่งหนึ่งลงบนหลังของมังกรและเทส่วนที่เหลือเข้าปากของมัน โชคดีที่มังกรไม่ต่อต้านยอมกลืนยาลงไปด้วยดี

 

ร่องรอยการบาดเจ็บตามร่างกายของมังกรค่อยๆหายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้คาร์ลรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวและพลังอำนาจของมังกรที่มีอยู่จริงบนโลกนี้

 

‘เฮ้...’

 

มังกรไม่มีเหตุผลที่จะได้รับบาดเจ็บอีกต่อไป มังกรที่แสนเฉลียวฉลาดมันดูเหมือนจะเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายของมันเมื่อดวงตาของมันกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

 

คาร์ลก้าวเข้าไปชิดมังกรมากขึ้น มังกรน้อยรีบขดตัวของมันพลางลอบสังเกตคาร์ลเงียบๆ คาร์ลไม่ได้สนใจกับปฏิกิริยาของมังกรและเอ่ยถามทันที

 

“เจ้าจะทำอะไรต่อจากนี้ไป?”

 

คาร์ลอมยิ้มเมื่อเห็นมังกรที่ยังคงเงียบอยู่

 

“ข้ารู้ว่าเจ้าพูดภาษามนุษย์ได้ เจ้าเป็นมังกรเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดและแข็งแกร่งที่สุดในโลก”

 

คาร์ลเอ่ยถามอีกครั้ง

 

“เจ้าจะทำอะไรเมื่อได้รับอิสระแล้ว?”

 

“........ข้า....”

 

มังกรเริ่มพูดขึ้นมา จริงๆแล้วมังกรรู้วิธีการพูดภาษามนุษย์ มันฉลาดกว่ามนุษย์มากไม่มีทางที่มันจะไม่ได้เรียนรู้ภาษามนุษย์ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา

 

“ข้า.....”

 

มังกรสามารถสัมผัสความรู้สึกที่อยู่ภายในใจของมันได้ ด้วยพลังที่แท้จริงของมันทำให้สามารถฆ่ามนุษย์ที่อยู่ข้างหน้าได้อย่างง่ายดาย แต่มันกลัวมนุษย์ชุดดำที่อยู่ด้านหลังนั่น แต่มันมีความเป็นไปได้ที่มันจะสามารถหนีรอดไปได้ มันได้รับพลังอันแข็งแกร่งที่รอมานานแล้ว

 

นั่นคือเหตุผลที่มังกรพูดในสิ่งที่มันคิดอยู่กับตัวเองตลอดสี่ปีที่ผ่านมา มันเป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้พูดออกมาดังๆ

 

“ข้าจะมีชีวิตอยู่...”

 

มันจะมีชีวิตอยู่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

 

“ข้าจะไปจากที่นี่...”

 

มันกำลังจะได้ออกไปจากที่นี่ มันเริ่มเปิดเผยความคิดในใจของมันออกมาอย่างช้าๆ

 

“ข้าจะไม่เชื่อง...จะไม่ฟังคำสั่งใคร”

 

“ใช่....เจ้ามีสิทธิ์”

 

คาร์ลกำลังพูดว่าสิ่งที่มังกรคิดเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

 

“เจ้าเป็นมังกร...มังกร...มีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่ได้อย่างอิสระ”

 

แม้แต่มังกรวัยสี่ขวบก็แข็งแรงมากกว่าสัตว์ชนิดอื่นในโลก มันมีกำลังและความสามารถมากพอที่จะใช้ชีวิอยู่รอดได้ โดยธรรมชาติของมังกรมีความรักอิสระและมีความภาคภูมิใจในตัวเอง พวกมันมักจะสร้างถ้ำของตัวเองทุกครั้งในสองปี มันเป็นโลกที่สมบูรณ์แบบมากกว่ามนุษย์ถึงสองปี

 

คาร์ลจ้องไปที่ดวงตาของมังกรที่ยังคงไม่ไว้ใจมนุษย์ก่อนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด

 

“ข้าจะไม่ดูแลเจ้า...”

 

คาร์ลไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องดูแลบางสิ่งที่แข็งแกร่งกว่าตนเอง นอกจากนี้อาจยังต้องมีเรื่องชวนปวดหัวให้เขาต้องจ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือเพิ่มมากขึ้น มันต่างจากออนและฮง เด็กๆจากเผ่าแมวมากนัก มังกรมันเป็นสิ่งที่เกินขีดความสามารถของเขามากเกินไป

 

มังกรยังคงไม่ไว้วางใจต่อคาร์ล

 

“โกหก...มนุษย์เก่งแต่โกหก”

 

ในสายตาของมังกรตอนนี้มีแต่ความโกรธและความโกรธนั้นไม่ได้พุ่งตรงมาที่คาร์ล แต่อย่างไรก็ตามโดยธรรมชาติของมังกรเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความหยิ่งทระนงและมีความภาคภูมิใจในตัวเองสูง ความโกรธที่มันได้รับก็คงเป็นการที่มนุษย์เหยียบย่ำเกียรติและศักดิ์ศรีของมัน

 

“ข้าคิดว่ามันก็จริง...เพราะข้าก็ชอบโกหกนิดหน่อย”

 

คาร์ลยอมรับคำพูดของมังกรได้อย่างง่ายดายและคงพูดต่อไป

 

“มีชีวิตอยู่....หากเจ้าต้องการมีชีวิตอยู่แล้วเจ้าต้องการจะทำอะไร?”

 

“ข้า......”

 

มังกรน้อยยกศีรษะขึ้นมองท้องฟ้ายามราตรี มันแตกต่างจากความมืดภายในถ้ำเพราะถึงจะมืดแต่ก็ยังคงมีแสงสว่างอยู่

 

“ข้าเกลียดมนุษย์....ข้าอยากเป็นอิสระ”

 

“เยี่ยม”

 

คาร์ลลุกขึ้นจากที่นั่ง ก่อนที่จะหยิบขวดยาที่มีคุณสมบัติระดับกลางๆและกระเป๋าใบเล็กๆออกจากกระเป๋าเวทย์ของตยนก่อนที่จะเอาขวดยาใส่ในกระเป๋าใบเล็กและยื่นให้กับมังกร

 

“แด่ชีวิตที่อิสระ”

 

รูม่านตาของมังกรเบิกกว้างและเริ่มสั่นระริก แต่ถึงอย่างนั้นสายตาของมันก็ยังคงมีความสงสัยและไม่พอใจอยู่ดี คาร์ลมองเห็นและไม่ได้สนใจอะไร

 

‘แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว’

 

เขาได้ช่วยปลดปล่อยมังกร ได้จัดการไอ้เบื๊อกเวเนี่ยน ได้ช่วยเหลือหมู่บ้าน และได้ช่วยเหลือเชวฮวันให้ได้เข้าใจคำว่าอิสรภาพจากคำขอบคุณของมังกรอย่างแท้จริง ที่สำคัญที่สุดเขาไม่ต้องรับผิดชอบดูแลมังกร เขาได้เห็นสายตาของมันว่าไม่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของเขา นับว่าเป็นข้อสรุปที่ดีก่อนที่จะเอ่ยกับพรรคพวกของตน

 

“ไปกันเถอะ”

 

เขาหันหลังกลับจากมังกรโดยไม่เสียใจและเริ่มออกเดินไปจากที่นั่น เชวฮันเดินตามหลังคาร์ลไปเงียบๆสนใจเพียงเส้นทางที่อยู่ด้านหน้าของเขาเท่านั้น ลูกแมวสองพี่น้องยังคงลังเลอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นสายตาที่มังกรเพ่งมองไปที่หลังของคาร์ล ก่อนที่พวกมันจะเดินตามหลังคาร์ลไปอย่างช้าๆ

 

เมื่อลูกแมวสองพี่น้องจากเผ่าแมวหันกลังกลับไป มังกรก็ยกศีรษะของมันขึ้นและเฝ้าดูพวกเขาเดินออกไป

 

“........ข้าเกลียดมนุษย์......พวกเขามันเลวร้าย......”

 

เป็นเพราะสาเหตุใดมังกรจึงให้ความสนใจไปยังแผ่นหลังของมนุษย์ด้วย เผ่าพันธุ์ที่ทำให้มันหงุดหงิดและเกลียดชังมากกว่าท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มันเห็นเป็นครั้งแรกเสียอีก

 

ฮงก้าวเดินช้าๆไปหาพี่สาวของตนที่กำลังเดินตามหลังคาร์ลอยู่

 

“พี่สาว....ข้าคิดว่าเขาจะตามเรามา”

 

“อื้ม...ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน”

 

“หรือข้าจะไปหาน้องชายดี?”

 

“ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น”

 

ลูกแมวสองพี่น้องยังคงคุยกันต่อไปแต่คาร์ลที่ได้ยินจึงหัวเราะเยาะและโต้ขึ้น

 

“ไม่มีทาง มังกรมันมีความภาคภูมิใจและไม่ยอมอยู่ใต้คำสั่งของมนุษย์ ที่สำคัญมังกรตนนี้เกลียดมนุษย์”

 

การแสดงออกของออนดูจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คาร์ลพูด หากแมวสามารถมีสีหน้าที่เย้ยหยันได้ก็คงจะเป็นเหมือนสีหน้าของออนตอนนี้ เธอส่ายหัวอย่างเร็วพลางพึมพำเบา

 

“.........ข้าไม่คิดเช่นนั้น”

 

“อื้ม.....ข้าก็ด้วย”

 

ฮงมองไปทางด้านหลังอีกครั้งก่อนจะเห็นด้วยกับคำพูดของพี่สาวตน มังกรยังคงมองมายังทิศทางที่พวกเขาอยู่ ฮงมั่นใจในตอนนี้แล้วว่ามังกรอาจจะสนุกกับอิสรภาพที่ได้รับเพียงไม่นานก่อนจะได้มาแบ่งเนื้อกินกับเขาในอนาคต

 

คาร์ลออกคำสั่งแก่ลูกแมวทั้งสองที่ยังคงกระซิบกระซาบกันอยู่

 

“ไปเอาลูกกลมๆสีดำนั่นกลับมาได้แล้ว”

 

ลูกแมวสองพี่น้องวิ่งไปหาลูกกลมๆสีดำตามคำสั่งของคาร์ลทันทีเพื่อที่จะได้รับเนื้อเพิ่มขึ้นจากเดิม คาร์ลไม่ได้หันมองสองพี่น้องก่อนจะยื่นมือไปตบที่ไหล่ของคาร์ลเบาๆ

 

“เป็นการทำงานที่ยอดเยี่ยม”

 

วันนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่เชวฮันได้ช่วยเหลือคาร์ลอย่างเต็มรูปแบบ ถึงแม้จะมีก่อนหน้านี้ที่ได้สู้กับโจรแต่นั้นเป็นการคุ้มครองมากกว่าช่วยเหลือ

 

แน่นอนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เปลี่ยนจากการช่วยชีวิตชาวบ้านในหมู่บ้านมาเป็นการช่วยเหลือมังกรแทนการลงมือฆ่าตามเนื้อหาในนิยาย แต่สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการที่เขาได้ ‘ช่วย’ต่างหาก

 

“ท่านคาร์ล...”

 

“มีอะไร?”

 

เชวฮันเงียบไปครู่หนึ่งหลังจากที่เอ่ยเรียกคาร์ล ก่อนที่เขาจะเริ่มพูดอีกครั้ง

 

“ถ้ามังกรนั่นตัดสินใจว่าจะมีชิวีตโดยการติดตามท่านคาร์ลล่ะ?”

 

“มันไม่มีทางเกิดขึ้นหรอกนะ”

 

“หากสมมุติว่ามันเกิดขึ้นจริง ท่านจะทำอย่างไร?”

 

‘สมมุติ?’

 

คาร์ลคิดถึงเรื่องนี้ชั่วขณะก่อนจะเอ่ยตอบเบาๆ

 

“ข้าไม่คิดถึงเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้หรือเรื่องอดีตหรอกนะ”

 

แต่ด้วยอะไรบ้างอย่างทำให้คาร์ลต้องหันกลับไปมองทางด้านหลังของตัวเองเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เดินออกจากมังกร เขารู้สึกขอบคุณอะไรก็ตามแต่ที่มังกรดำน้อยตนนั้นไม่สามารถมองเห็นตนได้

 

คาร์ลถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะมุ่งหน้ากลับไปยังโรงแรมและหลับไปในทันทีที่หัวถึงหมอนและนั่นทำให้เขาไม่รู้ว่ามังกรได้ใช้พลังเวทย์ล่องหนเป็นครั้งแรกและมันกำลังนั่งลงที่ขอบหน้าต่างห้องพักของคาร์ลอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจากไป มันกำกระเป๋ายาที่คาร์ลได้ให้ไว้อย่างแน่นหนา

 

เช้าวันต่อมา คาร์ลก็ต้องรับมือกับคำถามของเชวฮันตั้งแต่เช้าตรู่

 

“ท่านคาร์ล...เมืองที่เราจะเดินทางไปถึงในไม่กี่วันข้างหน้า....นับว่าถึงครึ่งทางแล้วใช่หรือไม่?”

 

ถึงเวลาแล้วที่เชวฮันจะต้องจ่ายเงินคืนให้กับเขาก่อนที่จะพูดเรื่องนี้กันต่อ

 

นอกจากนี้ยังหมายความว่าคาร์ลได้เข้าใกล้กับพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณที่เขาต้องการ เดิมทีตามเนื้อหาในนิยายลูกชายคนโตของมาร์คควิสสแตนจะเป็นผู้ที่ได้รับแรงกดดันจากเวเนี่ยนและทำให้เขาสามารถพบพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณนี้ในอีกประมาณหนึ่งเดือนข้างหน้า มันเป็นความหวังสุดท้ายของเขาแต่โชคไม่ดีที่เขาจะไม่มีโอกาสได้ใช้พลังนี้

รีวิวผู้อ่าน