px

เรื่อง : The Strongest System จบแล้ว!!!
 บทที่ 9 : ผู้อาวุโสกล่าวว่า! นี่คือสุดยอดอัจฉริยะที่หาได้มิได้อีกแล้วในรอบหมื่นปี !!


 บทที่ 9 : ผู้อาวุโสกล่าวว่า! นี่คือสุดยอดอัจฉริยะที่หาได้มิได้อีกแล้วในรอบหมื่นปี !!

 

 

"ตำหนักลงทะเบียนอัจฉริยะ"

 

หลินฟ่านยืนเอ๋ออยู่ด้านหน้าตำหนักลงทะเบียนอยู่ครู่หนึ่ง

 

เขาได้แต่คิดว่า "โห...ตั้งชื่อซะ...... "

 

เวอร์ได้อีก

 

มันแสดงให้เห็นว่า อัจฉริยะจะได้รับการดูแลอย่างพิเศษขนาดไหน

 

"มาเถอะ ศิษย์น้อง" หนี่หมิงหยางกล่าวกับหลินฟ่านอย่างเป็นมิตร น้ำเสียงเขาไม่ได้เร่งเร้าอะไรหลินฟ่าน

 

หนี่หมิงหยางไม่กล้าจะทำอะไรไม่สุภาพกับหลินฟ่าน ไข่ทั้งสองใบของเขายังระบมอยู่ ความเจ็บปวดยังไม่จางหายไปไหน

 

‘การโจมตีของศิษย์น้องมันน่ากลัวมาก ถึงจะไร้ยางอายไปสักหน่อยก็เถิด ...มิได้การ!! ข้าต้องนำเรื่องนี้ไปแจ้งให้ศิษย์พี่เมิ่งรับรู้ไว้ด้วย’ หนี่หมิงหยางยืนคิดในขณะที่รอหลินฟ่าน

 

"อ่า ไปกันเถอะ .... " หลินฟ่านพยักหน้าตอบรับก่อนจะเดินตามหนี่หมิงหยางเข้าไป

 

ขณะที่เขากำลังเดินอยู่ก็อดนับถือนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์นี่ไม่ได้ แค่ปริมาณพื้นที่ของนิกายที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ก็บอกให้รู้แล้วว่านิกายนี้รวยขนาดไหน

 

"ข้าศิษย์สายนอกหนี่หมิงหยาง นำอัจฉริยะมาลงทะเบียน ขอความกรุณาท่านอาวุโสหลี่ตรวจสอบด้วย "หนี่หมิงหยางยืนกล่าวหน้าประตูด้วยความเคารพ

 

"ข้า..มา..แล้ว.... " ในขณะนั้นเองเสียงที่น่าสะพรึงก็ดังออกมาจากหน้าตำหนัก  เสียงนี้มันสยดสยองเขย่าขวัญจิตใจผู้ฟังเป็นอย่างมาก

 

แม้แต่หลินฟ่านผู้ไม่เกรงกลัวฟ้าดินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัว

เขาถึงกับหลั่งเหงื่อเย็นๆออกมา

 

"ศิษย์พี่หนี่ ทำไมเสียงของอาวุโสหลี่น่าสะพรึงขนาดนี้ล่ะ?" หลิหลินฟ่านกระซิบถามออกมา

 

“ชู่วว ! ดูเจ้าพูดเข้าสิศิษย์น้อง!  เอาล่ะ ศิษย์น้องเมื่อเจ้าเห็นอาวุโสหลี่เจ้าอย่าได้ตกใจหรือหวาดกลัว เข้าใจหรือไม่? หนี่หมิงหยางรู้สึกเสียใจที่เขาไม่ได้บอกอะไรแก่หลินฟ่านก่อนหน้านี้ เขาลืมบอกจนกระทั่งมาถึงหน้าตำหนัก

 

“กลัว? มันจะน่ากลัวยังไงหว่า "หลินฟ่านรู้สึกงงและไม่เข้าใจ เขาได้แต่คิดไปว่า  ‘หรืออาวุโสหลี่อะไรนี่จะเป็นพวกกินเนื้อมนุษย์อะไรแบบนั้น?’

 

ถึงจะเป็นแบบนั้นหลินฟ่านก็ยังไม่กลัว เต็มที่เขาก็จะใช้วิชา ลิงขโมยลูกท้อ สวนออกไป

 

"เจ้าอยู่นิ่งๆก้มหน้าเอาไว้ ท่านผู้อาวุโสหลี่มาถึงแล้ว" ท่าทางของหนี่หมิงหยางเปลี่ยนไป เขาดูสุภาพมากขึ้น

 

หลินฟ่านแอบเงยหน้ามองผู้ชายที่กำลังเดินออกมาจากมุมมืด

 

ผู้ชายคนนั้นดูท่าทางแข็งแกร่ง เขาสวมชุดคลุมสีดำ...

 

“เฮ่ย ......”

 

ในขณะที่ใบหน้าของอาวุโสหลี่ถูกแสงตกกระทบ  ท่าทางของหลินฟ่านก็เปลี่ยนไปในพริบตา มันเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความตื่นตระหนก

 

เฮ่ย ...... ได้ไงวะ ......

 

หน้าคนเราจะเป็นแบบนี้ได้ไงวะเฮ้ย!?

 

ครึ่งหน้าของเขายังเป็นคนปกติ แต่ใบหน้าอีกครึ่งเป็นหัวกะโหลก  หากมองผ่านเบ้าตาที่กลวงโบ๋เข้าไป จะเห็นสมองเละๆเต้นตุบๆอยู่

 

โคตรสยอง!

 

เมื่อนึกถึงคำพูดของหนี่หมิงหยางหลินฟ่านรีบก้มหน้าและไม่มองอาวุโสหลี่อีก

 

แม้หลินฟ่านจะผ่านอะไรมามากแต่ก็ไม่เคยเห็นคนอะไรมีลักษณะแบบนี้

 

ถ้าไม่ใช่เพราะหนี่หมิงหยางบอกไว้ก่อนว่าอย่าหวาดกลัว ป่านนี้เขาคงตะโกนออกมาแล้วว่า "ผีหลอกกก!"

 

"อาวุโสหลี่ นี่คือหลินฟ่าน  วิชากายปีศาจอมตะ ของเขา บรรลุถึงขั้นสูงยิ่ง การโจมตีสุดกำลังของข้ามิอาจทำอันใดแก่เขาได้ "หนี่หมิงหยาง กล่าวอธิบายออกมา

 

'ตำหนักลงทะเบียนอัจฉริยะ' เป็นรากฐานสำคัญของนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์ สาวกอัจฉริยะจำนวนมากต้องมาลงทะเบียนที่นี่ หลังจากนั้นพวกเขาก็จะได้รับทรัพยากรมากมายเพื่อฝึกฝนบ่มเพาะ

 

แต่นานมาแล้วที่ 'ตำหนักลงทะเบียนอัจฉริยะ' ของนิกายได้ก่อตั้งขึ้น อัจฉริยะก็มากขึ้นตามกาลเวลา ดังนั้นทรัพยากรจาก 'ตำหนักลงทะเบียนอัจฉริยะ ก็ไม่ได้มากมายเท่าเดิมเหมือนในอดีต นิกายจะไปสรรหาทรัพยากรมากมายจากที่ไหนมาประเคนได้ทัน...

 

“โอ้เช่นนั้นรึ ข้าจักลองตรวจสอบดู"เมื่อได้ฟังคำพูดของหนี่หมิงหยาง อาวุโสหลี่ก็กล่าวออกมาด้วยความสนใจ

 

หลินฟ่านสะดุ้งขึ้นมาในทันที เขาได้แต่คิดในใจ ไม่กล้าพูดออกมา

 

‘ไม่นะ สวรรค์’

 

‘หวังว่าคงไม่ทำแบบนั้นอีกนะ ไม่เอาแล้ว’

 

เมื่อหลินฟ่านค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าโครงกระดูกของอาวุโสหลี่ก็อยู่ตรงหน้าของเขาในระยะประชิด  แสงสีเขียวๆในเบ้าตากลวงโบ๋ของอาวุโสหลี่ห่างจากหน้าของหลินฟ่านไม่ถึงคืบ

 

"เจ้าหวาดกลัวใบหน้าของข้าเช่นนั้นหรือ?" อาวุโสหลี่กล่าวกับศิษย์ใหม่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม  ถึงกริยาของหลินฟ่านจะไม่ค่อยมีความเคารพสักเท่าไร แต่เขาก็ไม่ได้ถือสาหาความอะไร

 

"ข้าเปล่านะ ...... " หลินฟ่านโกหกออกมา ถ้าเขาพูดความจริงตอนนี้ก็ปัญญาอ่อนแล้ว

 

หลังจากที่ได้ฟังคำตอบใบหน้าของอาวุโสหลี่ก็หดหู่เล็กน้อย

 

"อย่าได้กังวล ข้ามิได้คิดที่จะตำหนิเจ้า  ในอนาคตเจ้าจักได้พบบุคคลที่น่าหวาดกลัวมากกว่าข้า "อาวุโสหลี่กล่าวด้วยความเห็นใจ  หลังจากนั้นเขาก็นำมือไปจับไหล่หลินฟ่าน

 

หลินฟ่านรู้สึกตัวได้ทันทีว่ากำลังมีพลังปราณสายหนึ่งไหลเข้ามาสำรวจทั่วร่างกายของเขาทุกซอกทุกมุม

 

ตอนนี้หลินฟ่านรู้สึกอยากจะร้องไห้

 

‘แม่มันเถอะ? เจอตรวจแบบนี้สองครั้งในวันเดียว?  ทำกันขนาดนี้แล้ว พวกเอ็งไม่เปิดซิงตูดข้าให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยวะ ?’

 

ในขณะที่เขากำลังคิดอย่างสลดอยู่นั้น

 

แสงสีเขียวจากเบ้าตาของอาวุโสหลี่ตรงหน้าก็สว่างเรืองวูบขึ้นมา  หลินฟ่านรู้สึกถึงความคุกคามอย่างหนัก ขนทั่วตัวของเขาลุกตั้งชันขึ้นมา

 

‘โอ้ยอะไรนักหนาวะ! ไอบ้านี่จะมองอะไรนักหนา? จ้องกันขนาดนี้ไม่กินเข้าไปเลยวะ อึดอัดเว้ยยย!’

 

‘จะจ้องเชี่ยไรนักหนาวะเฮ่ยยยย !’

 

"อัจฉริยะ ... " อาวุโสหลี่รู้สึกทึ่ง กับหลินฟ่าน

 

"สุดยอดอัจฉริยะหาที่เปรียบมิได้"

 

"คาดมิถึงจริงๆว่าจักฝึกฝน" กายปีศาจอมตะ "มาถึงขั้นนี้ได้ ...... นี่มันสุดยอดอัจฉริยะที่หามิได้อีกแล้วในรอบหมื่นปี!!!"

 

หนี่หมิงหยางที่ยืนอยู่ด้านข้างยิ้มออกมา เขาแปลกใจที่เห็นอาวุโสหลี่กล่าวชมเชยถึงขนาดนี้ เขาคาดมิถึงเลยว่าวันนี้จะได้ประสบกับคำกล่าวชมเชยขนาดนี้

 

‘หากศิษย์น้องมิเป็นอัจฉริยะข้าคงไม่กล้าพามาแนะนำท่านหรอก’

 

หนี่หมิงหยางยังทึ่งกับคำกล่าวของอาวุโสหลี่ที่ว่า

 

[สุดยอดอัจฉริยะ?]

 

[นอกจากนี้ยังเป็นสุดยอดอัจฉริยะที่หามิได้อีกแล้วในรอบหมื่นปี ...... ]

 

หลินฟ่านรู้สึกตกตะลึงกับคำกล่าวของอาวุโสหลี่ ตาของเขาเบิกกว้างออกมา

 

‘ฮ่า ๆ ......’

 

‘ไม่ใช่แค่อัจฉริยะ ......’

 

‘หรือสุดยอดอัจฉริยะ ’

 

‘แต่แม่งเป็น สุดยอดอัจฉริยะที่หาไม่ได้แล้วในรอบหมื่นปี เลยนะเว้ยยยย!!’

 

‘อาวุโสหลี่บอกว่าข้าเป็นสุดยอดอัจฉริยะที่หาไม่ได้แล้วในรอบหมื่นปี อย่างงี้ข้าก็ต้องได้รับทรัพยากรในการบ่มเพาะแบบไม่มีจำกัด หรือได้เป็นศิษย์ส่วนตัวของประมุขนิกายอะไรทำนองนี้รึเปล่า?’ ตอนนี้หลินฟ่านตื่นเต้นมากคำชมดังกล่าว ทำให้มันปลื้มมากที่ได้รับรู้ว่าตัวเองสุดยอดขนาดนี้

 

‘สุดยอดอัจฉริยะอย่างข้าต้องได้รับการสนับสนุนขั้นสุดยอดใช่ไหม?’

‘วะฮ่าฮ่าฮ่า ด้วยการสนับของทรัพยากรมากมายกับระบบเทพวิชา วันที่ฟ้าจะอยู่ใต้ฝ่าเท้าของข้าคงอยู่ไม่ไกลแล้ว’

‘โฮ่ โฮ่ โฮ่ พวกเจ้าจงหมอบกราบข้า.. แม่นางที่งดงามทั้งหลายต้องมาอ้อนวอนให้ข้าทับ ฮ่าฮ่าฮ่า....’

‘เฮ่อ ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่ข้าได้รับการโปรดปรานจากสวรรค์ ’ ในขณะที่หลินฟ่านกำลังฝันหวานกับความงดงามที่จินตนาการขึ้นมาเอง

 

อาวุโสหลี่ที่ท่าทางตื่นเต้นอย่างมากในตอนแรกก็ค่อยๆสงบลง

 

"เอาล่ะ เจ้ามิเลวเลย เจ้ามารับสิ่งของจำเป็นที่ต้องใช้  ส่วนเจ้า หมิงหยางนี่เป็นรางวัลที่เจ้านำพาอัจฉริยะมา หลังจากนี้เจ้าพาศิษย์น้องของเจ้าไปที่พักด้วยล่ะ "อาวุโสหลี่กล่าวออกมา

 

"ครับ อาวุโสหลี่" หนี่หมิงหยางกล่าวอย่างสุภาพในขณะที่รับรางวัล

 

ราวกับถังไนโตรเจนเหลวตกใส่หัวของหลินฟ่าน ตอนนี้เขาได้ตื่นจากฝันงดงามที่แสนหวาน

 

"อาวุโสหลี่ สุดยอดอัจฉริยะที่หาไม่ได้อีกแล้วในรอบหมื่นปีอย่างข้า ไม่ได้อะไรพิเศษมากไปกว่านี้แล้วเหรอ ..." หลินฟ่านรู้สึกเหวอและไม่อยากจะเชื่อ

‘เชี่ยแล้วเอ็งจะตื่นเต้นทำซากอะไรขนาดนั้นวะ หลอกให้ข้าดีใจเล่นงั้นเหรอ?’

‘นีข้าเตรียมพบประมุขนิกายหรืออะไรแล้วนะเว้ย แต่ได้แค่นี้เนี่ยนะ?’

 

"ภูเขาสูงตระหง่านสร้างมาจากรากฐานที่แข็งแกร่ง  หนทางหมื่นลี้เริ่มที่ก้าวแรก  เจ้าอย่าได้รีบร้อนจนเกินไป"

 

หลังจากพูดคำคมจนแทบจะบาดหูฉีก อาวุโสหลี่ก็ค่อยๆเดินจากไป

 

[หมื่นลี้พ่อง ...... ]

 

หลินฟ่านอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก ‘เชี่ย ตามบทมันต้องไม่ใช่แบบนี้ดิวะ!’

 

‘ตามพลอตนิยาย ข้าต้องถูกประมุขหรือผู้นำแย่งชิงกันอีรุงตุงนัง มีแต่คนอยากได้ตัวข้าไปเป็นศิษย์อะไรแบบนี้ไม่ใช่เรอะ!’

 

‘แล้วสุดยอดอัจฉริยะที่หาไม่ได้แล้วในรอบหมื่นปีอย่างข้า ทำไมได้รับการปฏิบัติแบบนี้วะ ...... ‘

 

‘ขอไต่ถามโลกหล้าแลสวรรค์ชั้นฟ้า ...... บอกข้าทีเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้’

รีวิวผู้อ่าน