px

เรื่อง : เทพอสนีบาต God of Thunder
บทที่ 44 - ผลของความสูญเสีย ช่วงปลาย


เฉิน ชี เขม่นฉี ฉวนอยู่ในใจซึ่งต่างฝ่ายต่างไม่พอใจกันทั้งคู่  แต่กระนั้นก็ยังปั้นหน้ายิ้มให้ต่อกัน



   “ปรมาจารย์ ฉี ช่างอาจหาญยิ่งนัก!!” เฉิน ชี กล่าวพร้อมปั้นหน้ายิ้มให้



   “คนที่เข้าตามตรอกออกตามประตูนั้น ข้าจะให้ความเคารพอย่างสูง เพราะถือว่าเป็นแขกของข้า  แต่ท่านล่ะคิดจะเข้ามาแบบไหน!!” ฉี ฉวน กล่าวไปยัง เฉิน ชี



อัน ซือฉี นั้นสังเกตได้ถึงความไม่หวั่นเกรงของฉี ฉวน!!  ซึ่ง เฉิน ชี ก็สัมผัสได้เช่นเดียวกัน ว่าฝ่ายตรงข้ามของพวกเขาไม่ได้มีอาการหวาดกลัวอย่างไรเลย!!



   “ถึงข้าจะไม่ใช่แขกของท่าน แต่ข้าเดาว่าท่านเองก็คงจะไม่ได้อยากให้ข้าเป็นศัตรูกับท่าน?”  เฉิน ชี กล่าวไปยัง ฉี ฉวน



    “พูดจาไร้สาระวกไปวนมา เจ้าไม่ใช่แขกของข้า  แล้วเจ้ามาที่นี่เพื่ออะไร?” ฉี ฉวน กล่าวขึ้นไปยัง เฉิน ชี



    “หยุดต่อปากต่อคำ แล้วส่งเด็กสองคนนั้นมาแต่โดยดี!!” อัน ซือฉี กล่าวขึ้นเสียงดัง  เขาไม่สามารถอดทนต่อบทสนทนานั้นต่อไปได้อีก!!



   “เจ้าต้องการตัว เด็กๆทั้งสอง?” ฉี ฉวน กล่าวพร้อมทำหน้าไขสือ!!



   “หากส่งเด็กๆมา บางทีเราทั้งคู่อาจจะกลับมาสมานฉันท์เฉกเช่นเมื่อก่อนได้ ถ้าไม่อย่างก็อย่ามาว่าข้าไม่ปราณีล่ะ!!” อัน ซือฉี กล่าว



    “อาฟง ออกมานี่ซิ!!” ฉี ฉวน ตะโกนเรียกซินฟง



ชั่วอึดใจนั้น ซินฟง และ ซิงเหยา ก็เดินมาพร้อมกับชายชราคนหนึ่ง!!



   “เป็นเจ้าใช่มั้ยที่ สังหารอัน เค่อ? !!” อัน ซือฉีกล่าว ถามไปยังซินฟงเสียงดังจนเกือบจะเป็นตะคอก!!



ทางด้านเฉิน ชี นั้นสังเกตจับจ้องไปยัง ซินฟงและซิงเหยา 



    “คุณสมบัติเฉพาะสายฟ้า!! และพลังเคลื่อนเดี่ยวที่มีคุณสมบัติเฉพาะแห่งชีวิต!!”  เฉิน ชีอุทานขึ้นด้วยความตกตะลึง



* * *หมายเหตุ * * *


พลังเคลื่อนสีเขียว=พลังเคลื่อนแห่งชีวิต

 

* * * * * * * 



    “ว่าไงนะ!! พลังเคลื่อนเดี่ยวคุณสมบัติเฉพาะแห่งชีวิต!!” อัน ซือฉีที่ไม่ทันได้สังเกตอะไรกล่าวถามขึ้น



   “ลองสังเกตที่เด็กสองคนนั้นให้ดีสิ ทั้งคู่มีคุณสมบัติเฉพาะที่หายาก!!”  เฉิน ชีกล่าว



แต่ถึงอย่างไรนั้น อัน ซือฉีไม่ได้สนใจอย่างไรนัก  เพราะเขาต้องการที่จะฆ่าเด็กทั้งสองคนนี้อยู่แล้ว!!



   “แล้วไงล่ะ?  ข้าไม่คิดจะปล่อยพวกมันไปเพราะการที่มันมีคุณสมบัติเฉพาะที่หายากหรอก!!”  อัน ซือฉี กล่าว



เฉิน ชี เกิดความลังเลขึ้นมาเพราะเขาเจอเด็กที่มีคุณสมบัติที่หายากเช่นนี้ แต่ปัญหามีอยู่ว่าเขาได้มาตามคำเชื้อเชิญของ อัน ซือฉี



    “ท่านน่าจะทราบเรื่องแล้วสินะ!!” ฉี ฉวน กล่าวไปยังชายชราคนหนึ่งซี่งเขายืนอยู่ข้างๆ ซินฟง และซิงเหยา



   “อืม.....คนพวกนี้ต้องการฆ่าหลานๆข้า น้องชายหากว่าพวกมันตายเจ้าจะมีปัญหาอะไรมั้ย?”  ชายชรา!! กล่าวไปยังฉี ฉวน



   “ไม่เลย ท่านพี่ ข้ากำลังปวดหัวกับเจ้าพวกเลือดผสมนี้ คงจะมีความบ้าคลั่งของคนเถื่อนภายในกาย  ซึ่งข้าไม่อยากจะอดทนอีกต่อไป คงจะดีไม่น้อยหากว่าท่านพี่จะฆ่าพวกมัน!!” ฉี ฉวนกล่าวตอบไปยังชายชรา



   “เอาล่ะเสียเวลามาพอสมควรแล้ว ปกป้องซินฟงและซิงเหยาด้วย!! แล้วปิดล้อมพวกมันไว้ ส่วนที่เหลือข้าจะจัดการเอง!!” ชายชรา  กล่าว



   “ชายชราคนนี้เป็นใครมาจากไหน ถึงพูดจาสามหาวเช่นนี้ ถ้าอยากตายนักข้าจะสงเคราะห์ให้!!”  อัน ซือฉี ที่ได้ยินก็เดือดดาลขึ้นมาทันที



   “เจ้าหนู!! เจ้าคิดจะฆ่าหลานๆของข้า ข้าซึ่งเป็นปู่ของพวกเขาจะไม่เข้ามายุ่งได้เช่นไร?” เล่ย เปา กล่าวพร้อมยิ้มขึ้นเล็กน้อยเขายั่ว อัน ซือฉี ด้วยการเรียกว่าเจ้าหนู!!



   “ก็ดีที่มากันจนครบ ข้าจะไม่ให้พวกเจ้าตายในทันที ข้าจะทำให้พวกเจ้าทั้งสามตายอย่างช้าๆทนรับความทรมาน เพื่อสังเวยให้กับดวงวิญญาณหลานชายของข้า!!” อัน ซือฉี กัดฟันกล่าว เขาพยามคุมอารมณ์ให้ได้มากที่สุด



   “โอ้ จริงรึ?” เล่ย เปา กล่าวสีหน้าเรียบเฉย!!



   “ข้าฝากจัดการ ฉี ฉวน ด้วยท่านพี่เฉิน” อัน ซือฉี กล่าวไปยังเฉิน ชี หลังจากนั้นเขายกกำปั้นขึ้นมาเตรียมพร้อม!!



   “อาฟง การที่จะฆ่าใครนั้น เจ้าจะต้องฆ่ามันอย่างฉับไวโดยอย่าได้ให้ใครทันรู้ตัวหรือพบเห็น เพราะมันจะทำให้เจ้าลำบากในภายหลัง เกิดใครพบเห็นเจ้าลงมือ เจ้าจำต้องฆ่ามันให้หมด!!”เล่ย เปา กล่าวสอนหลานชายของเขาด้วยสีหน้าสงบนิ่ง



ซินฟง ได้ฟังคำนั้น ทำให้เขานึกถึงชีวิตก่อนหน้าของเขา ว่าเขาไม่เคยคิดจะฆ่าคนมาก่อนเลย!!



ทางด้านฉี ฉวน ยิ้มขึ้นเล็กน้อย เพราะนั่นคือธาตุแท้ของปีศาจที่ถูกเรียกว่า เก้าวายุอสนีบาต เล่ย เปา!!



   “อยากตายนักใช่มั้ย!!” อัน ซือฉี ตะโกนพร้อมกับพุ่งตรงเข้ามาทันที!!



ทางด้านเฉิน ชี ก็เข้าจู่โจมไปยัง ฉี ฉวนทันทีเช่นเดียวกัน แต่ทว่าฉี ฉวน ถอยกลับมาตั้งหลักพร้อมกับคอยคุ่มกัน ซินฟง และซินเหยา!!



ทันทีนั้นเกิดแสงจ้าขึ้น พร้อมกับสายอสนีบาตทำให้ทุกคนตาพร่ามัวไปชั่วขณะหนึ่ง!!



หลังจากที่แสงจ้านั้นหายไป บนพื้นนั้นมีคนสองคนนอนอยู่บนพื้นหมดสภาพ



ตรงเบื้องหน้าของชายชรา นาม เล่ย เปา!!



   “พลังอ่อนแอเยี่ยงนี้น่ะเหรอ ที่คิดจะต่อกรกับข้า?” เล่ย เปา กล่าว!!



ที่จริงแล้วไม่ใช่ว่าคนทั้งสองนั้นอ่อนแอ แต่เป็นที่ชายชรานามว่า เล่ย เปานั้นแข็งแกร่งเกินไป ซึ่งระดับพลังห่างชั้นกันมากเกินไป!!



อัน ซือฉี ที่มีเลือดผสมของคนเถื่อน มีผิวหนังและกระดูกที่แข็งแรง แต่ทว่าไม่อาจทนต่อการโจมตีเพียงชั่วพริบตาของ เล่ย เปา ได้เลยแม้แต่น้อยทำให้เขานั้นนอนอนาถแน่นิ่งอยู่บนพื้น



ทางด้านเฉิน ชี ก็มีสภาพไม่ต่างจาก อัน ซือฉี เท่าใด เขาตระหนักได้ทันว่าช่วงชีวิตของเขานั้น

ไม่เคยพบเจอผู้ใดที่น่ากลัวถึงเพียงนี้มาก่อนเลย



ลูกสมุนที่เหลือของพวกนั้น เริ่มหวาดกลัว จนถึงขั้นขวัญผวา



   “เฮ้อ  ... และหากว่าเป็นไปได้  ก็จงจัดการศัตรูให้ได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว  เมื่อศัตรูอยู่บนพื้นแล้ว จะทำอย่างไรก็ได้ ตามที่เราต้องการ!!”  เล่ย เปา กล่าวขึ้นลอยๆ!!



แต่ทว่าซินฟงนั้น  ตอนนี้เขาทราบได้ว่าท่านปู่ของเขาแข็งแกร่งอย่างที่สุด และโหดร้ายเลือดเย็นเพียงใด!!



   “เจ้าจะยอมจำนนโดยไม่คิดที่จะต่อสู้ หรือว่ายังยึดมั่นในคำสั่งของผู้นำของพวกเจ้าล่ะ?” ฉี ฉวน กล่าวไปยังเหล่าสมุนของทั้งสองคนนั้น!!



   “ก่อนหน้านั้นเจ้าพูดกับข้าว่าอย่างไรกันนะ ?  จะทำให้ข้าตายอย่างช้าๆสินะ? โฮ่ โฮ่ ข้าล่ะชอบคำนี้จริงๆ!” เล่ย เปา กล่าวไปยังอัน ซือฉี!!



   “ท่านพี่ข้าอยากกลับไปที่พักแล้วล่ะ” ซิงเหยากล่าวไปยังซินฟง



   “อย่าเพิ่งกลับ!! เหยาเหยา มาตรงนี้!!” เล่ย เปา กล่าวขึ้นแทรก



   “ท่านปู่ เหยาเหยา ยังเล็กนักอย่าทำเช่นนี้เลย!!” ซินฟง กล่าวไปยังท่านปู่ ในระหว่างที่ซิงเหยากำลังเดินไปหาปู่ของนาง



   “ข้าต้องการให้พวกเจ้ารู้ว่า หากตกอยู่ในกำมือของศัตรูนั้นจะเป็นเช่นไร” ชายชรากล่าวไปยังซินฟง พร้อมส่ายศีรษะ



   “ข้าทราบดีแล้วท่านปู่”ซินฟง กล่าว 



   “ท่านพี่ เราจะทำอย่างไรกับพวกมัน?!!” ฉี ฉวน กล่าวไปยัง เล่ย เปา



   “ทำลายพลังของพวกมัน ส่วนพวกที่เหลือคงไม่ต้องให้ข้าบอกนะว่าจะทำอย่างไร ข้าไม่หวังให้พวกมันมีชีวิตอยู่!!” เล่ย เปา กล่าว



ซิงเหยาและซินฟง ไม่ต้องที่จะได้เห็นภาพที่โหดร้ายทารุณ เขาไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของท่านปู่



   “ผู้อาวุโส!! ข้ามาจากวิหารพิทักษ์!!” เฉิน ชี กล่าวไปยังเล่ย เปา ด้วยใบหน้าถอดสี เนื่องจากเขาไม่อยากจบชีวิตลงที่นี่



   “วิหารพิทักษ์?” ฉี ฉวนกล่าว



   “ถูกแล้วล่ะ ข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกของวิหารพิทักษ์ ได้โปรดอย่าฆ่าข้าเลย!!” เฉิน ชี กล่าว



ฉี ฉวน ย่อมรู้ว่าวิหารพิทักษ์เป็นนิกายขนาดใหญ่ที่มีอำนาจมากว่า บูรพาแดง ซึ่งเขาเองก็กลัวอิทธิพลของวิหารพิทักษ์อยู่  แต่เขาไม่กล้าที่จะกล่าวอย่างไรเพียงแต่หันไม่จ้องตา เล่ย เปา



    “วิหารพิทักษ์....ข้าไม่สนหากคิดร้ายต่อลูกหลานของข้านั้น เท่ากับต้องตาย!!” เล่ย เปากล่าว



   “ถ้าท่านฆ่าข้า รับรองว่าวิหารพิทักษ์จะไม่ยอมปล่อยท่านไปแน่!!”  เฉิน ชี กล่าว


By.GOT

รีวิวผู้อ่าน