บทที่ 36 นิ่งเข้าไว้ 3
เชวฮันเหลือบมองไปที่มังกรก่อนที่จะหันกลับมามองคาร์ลพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น
“พวกเรากำลังจะไปทำลายบางอย่างใช่หรือไม่?”
“ไม่...ไม่ใช่เช่นนั้นอย่างแน่นอน”
‘ทำไมถึงคิดอะไรในแง่ร้ายเช่นนั้นเนี่ย?’
คาร์ลค่อยๆทอดตัวนอนลงบนเตียงและโบกมือเป็นสัญญาณเพื่อให้เชวฮันออกไปจากห้อง
“อีกสักพักเจ้าค่อยกลับเข้ามาหาข้าใหม่ตอนนี้รีบออกไปได้แล้ว..อ้อ!.....อย่าลืมใส่หมวกด้วยล่ะ”
เชวฮันดับไฟในตะเกียงให้มอดลงทำให้ภายให้ห้องเหลือเพียงแค่แสงจากท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ลอดผ่านเข้ามาก่อนที่จะก้าวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเขาก็ออกไปพูดอะไรบางอย่างกับฮันส์ คาร์ลปิดเปลือกตาของตนลงและแกล้งทำเป็นหลับในทันที
ประตูห้องถูกปิดลงในเวลาต่อมาโดยที่ฮันส์ไม่ได้เข้ามาภายในห้องแต่อย่างใด มังกรดำที่กลับมาใช้เวทย์ล่องหนในตอนที่ประตูเปิดออกเมื่อครู่เมื่อเห็นว่าประตูถูกปิดสนิทอีกครั้งมันจึงคลายเวทย์ล่องหนออกทันทีก่อนจะทิ้งตัวของมันลงบนเตียงนอนของคาร์ล ฝั่งหนึ่งของเตียงนอนเริ่มยุบตัวลงในขณะที่มังกรเริ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้ทัน
“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้หลับจริงๆหรอก”
คาร์ลเริ่มบ่นในใจเมื่อได้ยินคำพูดของมัน
‘ในสายตาของมังกรตัวนี้ฉันดูเหมือนเด็กอายุสี่ขวบรึไงกันนะ?’
คาร์ลถอนหายใจยาวก่อนจะลุกออกจากเตียง
หลังจากนั้นไม่นานเชวฮันที่สวมใส่เสื้อคลุมยาวก็กลับเข้ามาในห้องอีกครั้งจากทางระเบียงห้องของคาร์ล
“เจ้าอยู่ที่นี่ด้วย...ข้าคิดว่าเสื้อคลุมตัวนี้ย่อมดีกว่าหมวกใบนั้นมากแน่ๆ”
เชวฮันพยักหน้ารับและเริ่มพูดกับมังกรเมื่อเห็นว่าคาร์ลกำลังสวมหมวกใบนั้นอยู่
“เจ้าจะตามเราไปด้วยงั้นหรือ?”
“ข้าจะใช้เวทย์ล่องหน”
“.....ข้าได้ยินมาว่ามังกรสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้หลายรูปแบบ..ถ้าเช่นนั้นเจ้าจะเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้หรือไม่? ข้าคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องที่ง่ายนะ”
พลังเวทย์ของมังกรเป็นพลังที่สามารถแสดงออกมาได้ตามที่พวกมันต้องการ นั่นเป็นเหตุผลที่เชวฮันคิดว่ามังกรสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้อย่างง่ายดายหากต้องการทำเช่นนั้นจริงๆ มังกรพ่นลมออกจากจมูกของมันเมื่อได้ยินคำนั้นของเชวฮัน
“ข้าเกลียดมนุษย์...ข้าไม่ต้องการที่จะเหมือนมนุษย์.....เขาบอกว่ามังกรเย็นชาและน่ากลัว”
“ใครพูดเช่นนั้น?”
มังกรดำเหลือบมองไปที่คาร์ลเพื่อตอบคำถามของเชวฮันและหันหน้าไปมองทางอื่นอย่างรวดเร็ว จากนั้นมันก็ใช้เวทย์ล่องหนและบินขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยทันที ส่วนที่ยุบลงของเตียงนอนกลับคืนสู่สภาพปกติดังเดิม
คาร์ลไม่รู้ว่ามังกรพูดกระทบตนจึงมีท่าทางสบายๆเมื่อเอ่ยกับเชวฮันที่จ้องมายังเขาด้วยสายตาแปลกๆ
“มังกรช่างยอดเยี่ยมจริงๆ”
“พวกมันเป็นเช่นนั้นจริงๆขอรับ”
เชวฮันพยักหน้าตอบรับกับคำกล่าวของคาร์ลที่ตอนนี้กำลังมุ่งหน้าไปยังระเบียงก่อนที่จะมองออกไปนอกระเบียงห้องชั้นสามและหยุดชะงักกะทันหันเมื่อได้ยินเสียงของเชวฮันเอ่ยเรียกขึ้นมา
“เอ่อ.....ท่านคาร์ล!”
“มีอะไรรึ?”
“......กระผมต้องแบกท่านลงไปอีกครั้งหรือขอรับ?”
คาร์ลส่งเสียงในลำคอเบาๆเมื่อได้ยินคำถามที่ลังเลใจของเชวฮันพลางยกนิ้วชี้ของตนขึ้นชี้ไปยังเพดานก่อนที่ร่างกายของเขาจะถูกยกขึ้นจากพื้นและเริ่มจางหายไปช้าๆ
คาร์ลก้มมองร่างกายของตนค่อยๆเลือนหายไปก่อนจะมองขึ้นไปบนเพดานและเริ่มพูด
“มังกรเจ้ายอดเยี่ยมและทรงพลังเป็นยิ่งนัก”
“เจ้าพูดถูก...ข้ายอดเยี่ยมและทรงพลังที่สุด”
มังกรดำที่ยังคงใช้เวทย์ล่องหนเอ่ยตอบคาร์ลทันที เชวฮันสามารถมองเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ปรากฏบนใบหน้าของคาร์ลได้ทันก่อนที่ร่างของคาร์ลจะหายไปอย่างรวดเร็ว เชวฮันตระหนักได้ว่าคาร์ลกล่าวยกยอเพื่อใช้งานมังกรอยู่และทำให้เขาเริ่มพูดแบบเดียวกันออกมา
“ว้าว!....เจ้ามังกร..เจ้าช่างยอดเยี่ยมและทรงพลังเป็นยิ่งนัก”
เมื่อเชวฮันกล่าวจบร่างกายของเขาก็ค่อยๆเลือนหายไปเช่นเดียวกันและพวกเขาก็สามารถออกจากบ้านได้โดยไม่ต้องกังวลใดๆ แน่นอนว่ามีเครื่องมือตรวจจับพลังเวทย์ติดตั้งอยู่รอบรั้วบ้านแต่มันมีไว้สำหรับป้องกันผู้บุกรุกทำให้พวกมันไม่มีปฏิกิริยาใดๆกับคนที่ก้าวออกไปจากบ้าน
เชวฮันยืนอยู่ในซอยเล็กๆที่ห่างจากที่บ้านพักของพวกเขาไม่ไกลนักและเอ่ยขึ้น
“น่าจะเริ่มจากตรงนี้ล่ะขอรับ”
ทันทีที่เขากล่าวจบเวทย์ล่องหนบนตัวคาร์ลและเชวฮันก็ถูกคลายออกอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับเวทย์ลอยตัวที่ถูกคลายออกจากตัวคาร์ลส่งผลให้ตัวเขาอยู่ห่างจากพื้นดินเพียง 10 ซม.และสามารถแตะลงพื้นดินได้อย่างนุ่มนวล คาร์ลรู้สึกทึ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
‘ทักษะการใช้พลังเวทย์ของมังกรดำมีมากกว่าที่ฉันคิดอีกหรือนี่?มันคงจะเป็นความสามารถพิเศษของมันสินะ’
พลังเวทย์นี้มีระดับที่สูงกว่าพลังเวทย์ของเหล่านักเวทย์ขั้นสูงเสียอีก จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจที่พวกเขากล่าวว่ามังกรที่โตเต็มวัยสามารถทำลายทั้งอาณาจักรได้อย่างง่ายงานหากพวกมันต้องการทำเช่นนั้น
‘แต่ฉันจะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากมันอีกต่อไปหากฉันได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณ ‘เสียงเรียกของวายุ’มันจะทำให้ฉันสามารถเดินทางไปได้ทุกที่โดยไม่ต้องมีมังกรดำหรือเชวฮัน’
‘เสียงเรียกของวายุ’ เป็นพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณลำดับที่ 3 ที่คาร์ลวางแผนที่จะครอบครองมันและเขาจำเป็นที่จะต้องมุ่งหน้าไปยังชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของอาณาจักรโรมันเพื่อหาพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณนี้
‘ฉันจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปยังดินแดนของอามูร์ อัลบา’
คาร์ลกำลังวางแผนที่จะมุ่งหน้าไปที่นั่นเพื่อครอบครองพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณ ‘เสียงเรียกของวายุ’ ระหว่างที่เดินทางกลับจากเมืองหลวง ข้ออ้างของเขาต่อคนอื่นๆก็คือเขาแค่อยากแวะไปเที่ยวชมเมืองนั่นเมื่อเริ่มเดินทางออกจากเมืองหลวงไปแล้ว ความจริงที่ว่าพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณนั่นเป็นพลังที่มาจากทะเลทำให้เขากังวลเล็กน้อยแต่คาร์ลก็ตัดสินใจที่จะไม่คิดมากกับมันเพราะมันคือพลังที่ทำให้เขาสามารถสงบลงได้
‘ในเวลานั้นพรรคพวกของเชวฮันจะไม่ปรากฏตัวอยู่ใกล้ๆฉันอย่างแน่นอน’
คาร์ลมั่นใจว่าเผ่าวาฬและเหล่านางเงือกจะปรากฏตัวขึ้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือในตอนท้ายของนิยายเล่มที่ 4 สงครามกลางมหาสมุทรระหว่างทวีปตะวันตกและทวีปตะวันออก ทั้งหมดที่เขาต้องทำคือการหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังชายฝั่งในเวลานั้น เขาต้องการที่จะหลีกเลี่ยงจากเหล่านางเงือกที่บ้าคลั่งมากกว่าเผ่าวาฬเสียอีก
คาร์ลกระชับหมวกเพื่อปิดบังเส้นผมสีแดงสวยของตนก่อนจะหยิบแผนที่ออกจากระเป๋าจากนั้นเขาก็เริ่มออกนำ
“ตามข้ามา”
มังกรดำที่ยังคงใช้เวทย์ล่องหนกับเชวฮันได้เดินขนาบข้างซ้ายและขวาของคาร์ลเพื่อติดตามเขาออกจากย่านที่พักของขุนนางที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้เพื่อเข้าสู่ใจกลางเมืองฮูอิส
จากค่ำคืนที่มืดมิดก็พลันสว่างไสวขึ้นเหมือนกับช่วงเวลากลางวันเมื่อพวกเขาก้าวเข้าสู่ใจกลางเมืองฮูอิสแล้ว มีแสงจากคบเพลิงส่องสว่างไปทั่วท้องถนนที่มีร้านขายสินค้าต่างๆและร้านเหล้าเป็นจำนวนมากเรียกได้ว่าร้านเหล้าเป็นร้านที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในเวลานี้แล้ว
“ย่านบันเทิงยามค่ำคืนในเมืองหลวงช่างแตกต่างจากเมืองอื่นจริงๆนะขอรับ”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
คาร์ลพยักหน้าตอบรับกับคำพูดของเชวฮันก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังจัตุรัสกลอรี่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮูอิส จัตุรัสกลางเมืองที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาในขณะนี้สามารถมองเห็นน้ำพุที่ถูกสร้างไว้ทั้งสี่ทิศรอบๆจัตุรัสกลางเมืองและน้ำพุแต่ละแห่งต่างมีชาวเมืองจับกลุ่มรวมตัวกันอยู่รอบๆบริเวณนั้น
สองคนกับหนึ่งมังกรต่างเห็นชาวเมืองที่กำลังผ่อนคลายกับสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงหลังจากการทำงานมาตลอดทั้งวัน ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้วพวกเขายังสามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศในจัตุรัสกลางเมืองแห่งนี้จนกว่าจะมีทหารยามเข้ามาลาดตระเวนในเวลาห้าทุ่ม
คาร์ลเหลือบไปมองทางด้านซ้ายของตนเองจึงได้เห็นว่าเชวฮันกำลังลอบมองไปยังครอบครัวของชาวเมืองที่กำลังหัวเราะอย่างสนุกสนานตรงบริเวณน้ำพุทางด้านทิศตะวันออกด้วยสีหน้าว่างเปล่า
คาร์ลมองไปยังเชวฮันและภาพที่ปรากฏตรงหน้าของพวกเขาอย่างไม่รีบร้อนก่อนที่จะเอ่ยปากพูดในเวลาต่อมา
“....ทำให้ทุกคนไม่สามารถได้ยินเราได้”
เมื่อคาร์ลพูดจบก็ปรากฏโดมที่ไม่สามารถมองเห็นได้เข้าล้อมรอบพวกเขาในทันที มันเป็นสิ่งที่มีเพียงคาร์ล เชวฮันและมังกรดำที่อยู่ภายในโดมที่สามารถมองเห็นมันได้เท่านั้น
ในที่สุดเชวฮันก็หันมามองคาร์ลอีกครั้ง
“ที่แห่งนี้...มีบางสิ่งที่เรียกว่าระเบิดพลังเวทย์”
“ระเบิด?”
“ใช่มันคือระเบิด....ระเบิดพลังเวทย์สามารถพบได้ในลักษณะต่างๆไม่ว่าจะเป็นรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกันออกไป..สำหรับทวีปตะวันตกที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานเกี่ยวกับการทำสงครามด้วยพลังเวทย์มันจึงถูกพัฒนาขึ้นมาไม่น้อย”
เชวฮันตั้งใจฟังเรื่องที่คาร์ลเล่าอย่างเงียบๆ
“ถึงจะเป็นเช่นนั้นมันก็ยังมีข้อจำกัดเป็นจำนวนมาก...ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ติดตั้งระเบิดพลังเวทย์,การควบคุมพลังเวทย์ที่ไหลผ่านไปยังระเบิดและปัจจัยอื่นๆอีกมากมายทำให้ระเบิดนี้มีความยุ่งยากเกินไปที่จะใช้มัน”
นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาชอบที่จะใช้พลังเวทย์ในช่วงสงครามแทนที่จะใช้ระเบิดพลังเวทย์เหล่านี้แต่ระเบิดพลังเวทย์ในครั้งนี้จะแตกต่างออกไปจากที่เคยใช้มาก่อน
“ระเบิดเหล่านี้...เป็นระเบิดพลังเวทย์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่และมันกำลังจะถูกนำเข้ามาติดตั้งในที่แห่งนี้รวมถึงสถานที่ต่างๆรอบๆบริเวณนี้....ภายในหกวัน”
คาร์ลไม่คิดว่าระเบิดพลังเวทย์ห้าจุดที่เชวฮันและโรสรินหาพบในนิยายจะยังอยู่ในจุดเดิมเพราะเรื่องราวได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร นั่นหมายความว่าสถานการณ์เช่นนี้ก็อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน นั่นเป็นเหตุผลที่คาร์ลได้วางแผนใหม่ไว้เพราะถึงอย่างไรเขายังคงมั่นใจว่าเหตุการณ์น่ากลัวจากระเบิดพลังเวทย์จะยังคงเกิดขึ้นตามที่นิยายได้กล่าวไว้
‘ก็ตั้งแต่ที่ฉันแน่ใจว่าเจ้านักเวทย์บ้านั่นอยู่ในอาณาจักรแห่งนี้’
นักเวทย์เล่นเลือดหรือเจ้านักเวทย์บ้าคนนี้คือคนที่สร้างระเบิดพลังเวทย์แบบใหม่นี้ขึ้นมา ก่อนที่จะแจกจ่ายให้แก่องค์กรลับเพื่อนำระเบิดพลังเวทย์ไปติดตั้งตามสถานที่ต่างๆในอาณาจักรโรมัน และแน่นอนว่าหลังจากเสร็จสิ้นเหตุการณ์ก่อการร้ายในครั้งนี้พวกมันจะยังคงซ่อนตัวตนที่แท้จริงของพวกมันในฐานะองค์กรลับได้ต่อไป
“ท่านกำลังบอกว่า...จะมีระเบิดพลังเวทย์ถูกนำเข้ามาติดตั้งที่นี่หรือขอรับ?”
“ใช่...”
เชวฮันมองไปรอบๆบริเวณน้ำพุและชาวเมืองที่อยู่ในจัตุรัสกลางเมืองก่อนที่จะได้ยินเสียงเรียบเย็นที่เอ่ยขึ้นเต็มสองหูของเขา
“มันอาจจะถูกฝังอยู่ในที่ไหนสักแห่งหรือแม้แต่ถูกติดตั้งไว้กับตัวคน แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่จะไม่รู้ว่ามันคือระเบิดและคิดว่ามันเป็นเพียงสิ่งของธรรมดาๆทั่วไปเพราะมันอาจจะเป็นเพียงแค่สร้อยข้อมือหรือกระเป๋าเงินและนั่นจะทำให้พวกเขาพกติดตัวเอาไว้ตลอดเวลาได้”
‘ติดตั้งไว้กับตัวคน’ คือประโยคที่ทำให้เชวฮันหันหน้าไปมองคาร์ลในขณะที่คาร์ลยังคงพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เรียบเย็นต่อไป
“นั่นคือเหตุผลที่เราต้องป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น”
และแน่นอนว่าคาร์ลจะไม่เป็นคนลงมือทำมันจะมีเพียงเชวฮัน โรสลินและมังกรดำที่จะเป็นคนดำเนินการจัดการเรื่องพวกนี้ คาร์ลต้องการเพียงแค่จะอยู่นิ่งๆและต้องนิ่งให้ได้มากที่สุดในเมืองหลวงแห่งนี้
“เราจะป้องกันมันได้อย่างไร?”
“ง่ายมาก...”
คาร์ลกอดอกของตนขณะที่เอนหลังพิงลงบนต้นไม้ในที่อยู่ในจัตุรัสแห่งนี้พลางกล่าวต่อไป
“ระเบิดเหล่านั้นคือชิ้นส่วนสำคัญของพลังเวทย์ นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าจำเป็นจะต้องใช้ผู้ที่มีพลังเวทย์ขั้นสูงในการใช้ประสาทสัมผัสของพวกเขาเข้าตรวจสอบพื้นที่และค้นหาตามสถานที่ต่างๆที่ดูเหมือนจะมีพลังเวทย์จำนวนมากอยู่ที่นั่น”
เชวฮันชะงักไปกับท่าทางที่ดูใจเย็นของคาร์ลก่อนที่จะเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง
“มันมีพลังเวทย์ในระดับที่สูงเพียงใดหรือขอรับ?”
“ไม่...มันไม่ได้มีระดับพลังเวทย์ที่สูงมากนัก...มันมีพลังเวทย์ที่สูงขึ้นเพียงเล็กน้อยจากระดับความสามารถของนักเวทย์ทั่วไป...มันยากที่เหล่านักเวทย์พวกนั้นจะสัมผัสถึงมันได้แต่ระเบิดพลังเวทย์ที่มีชิ้นส่วนเล็กๆเหล่านี้สามารถดึงพลังเวทย์ที่อยู่ในพื้นที่โดยรอบเข้าสู่ตัวมันได้ทันทีเพื่อสร้างพลังเวทย์ของระเบิดให้มีการทำลายล้างได้สูงยิ่งขึ้น”
เชวฮันดูเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ในฐานะที่เขาเป็นเพียงผู้ใช้ดาบและใช้กลิ่นอายในการเข้าโจมตีคู่ต่อสู้ทำให้เขาอาจมีประสาทสัมผัสที่ไวต่อพลังเวทย์ต่างๆได้เช่นกัน แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้มีความสามารถที่มากไปกว่าเหล่านักเวทย์ตัวจริงได้จึงไม่สามารถช่วยเหลือในเรื่องนี้ได้อย่างเต็มที่
“ท่านคาร์ล..กระผมไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องที่ง่ายนัก”
“มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก..”
คาร์ลเอ่ยออกไปอย่างง่ายดายกับคำกล่าวของเชวฮัน
“ถูกต้อง!”
ก่อนที่จะมีคำตอบมาจากด้านบนเหนือศีรษะของคนทั้งคู่
“มันเป็นไปได้สิ...น่ารำคาญยิ่งนัก”
เหนือขึ้นไปจากคาร์ลก็คือ ‘มังกรดำ’มันคือสิ่งที่ถูกกล่าวได้ว่ามีประสาทสัมผัสที่ไวต่อพลังเวทย์ได้ดีที่สุด เชวฮันเพิ่งเข้าใจในตอนนี้และพยักหน้าตอบรับอย่างรวดเร็ว เขาลืมไปได้อย่างไรว่ามังกรตัวนี้ยอดเยี่ยมและทรงพลังมากเพียงใด
คาร์ลยื่นแผนที่ในมือของเขาให้แก่เชวฮัน
“ข้าไม่รู้เกี่ยวกับระเบิดที่จะถูกติดตั้งกับตัวคนแต่ระเบิดพลังเวทย์ที่จะถูกติดตั้งตามสถานที่ต่างๆจะถูกติดตั้งล่วงหน้าอย่างน้อยสองวันก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น”
วันที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นคือวันที่พระราชาเสด็จพระราชดำเนินมาถึงและนั่นหมายความว่าการรักษาความปลอดภัยจะมีความรัดกุมและเข้มงวดมากขึ้นกว่าปกติก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน ทำให้พวกมันจำเป็นต้องติดตั้งระเบิดพลังเวทย์ล่วงหน้าอย่างน้อยสองวัน
“ข้าไม่รู้เกี่ยวกับสถานที่อื่นๆเช่นกัน....แต่ข้าแน่ใจว่าอย่างน้อยหนึ่งจุดที่พวกมันจะติดตั้งระเบิดพลังเวทย์จะต้องเป็นบริเวณที่ใกล้กับที่แห่งนี้เพราะที่นี่เป็นสถานที่รวมตัวสำหรับชาวเมืองเป็นจำนวนมาก”
“ใช่....กระผมเห็นด้วย”
“นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ที่นี่คือจัตุรัสกลางเมืองของอาณาจักรแห่งนี้”
คาร์ลชี้ไปยังเชวฮันก่อนจะยกมือชี้ขึ้นไปบนฟ้า
“เชวฮัน....เจ้าและมังกรจะต้องเดินสำรวจรอบเมืองทุกๆคืนเพื่อค้นหาระเบิดพลังเวทย์เหล่านั้น”
“.......แค่เราสองคนรึ?”
คาร์ลตบที่ไหล่ของเชวฮันเบาๆและเอ่ยตอบคำถามที่เชวฮันถามตน วิธีที่เขาใช้กับมังกรก็เป็นวิธีที่คล้ายๆกับที่เขาใช้กับเชวฮัน
“ใช่!...เชวฮัน...ถ้าหากเป็นเจ้า...ข้าเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าจะสามารถเดินสำรวจบริเวณรอบๆได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็นได้...เจ้าเป็นคนที่มีพรสวรรค์เป็นยิ่งนัก”
เชวฮันพยักหน้าตอบรับกับคำกล่าวของคาร์ลอย่างเงียบๆก่อนจะเอ่ยถามคาร์ลออกมา
“แล้วพวกกระผมจะต้องทำอย่างไรเมื่อหาพวกมันพบ?”
“ปล่อยมันไว้เช่นนั้นก่อน”
“..........จะไม่กำจัดมันหรือขอรับ?”
“เราจะกำจัดมันในวันเกิดเหตุ”
“ทำไมจึงเป็นเช่นนั้นหรือขอรับ?”
คาร์ลเริ่มแสยะยิ้มออกมา
“เจ้าไม่อยากเจอตัวนักเวทย์คนนั้นรึ?”
มันไม่ใช่คำตอบสำหรับคำถามของเชวฮันแต่เชวฮันกลับพยักหน้าอย่างเข้าใจ คาร์ลมองไปรอบๆจัตุรัสกลางเมืองแห่งนี้ทุกคนต่างดูมีความสุขแต่เหล่าสมาชิกขององค์กรลับกลับจะทำลายมันลง คาร์ลไม่รู้ว่านักเวทย์เล่นเลือดในตอนนี้อยู่ที่ใดเขาอาจจะหลบซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งหรืออาจจะปลอมตัวเดินผ่านไปมาก็เป็นได้
“นักเวทย์นั่นจำเป็นจะต้องมายังที่แห่งนี้เพื่อควบคุมและสั่งการการติดตั้งระเบิดพลังเวทย์ด้วยตนเองและนักเวทย์ที่ลงมือสร้างระเบิดพลังเวทย์นี้ขึ้นมาเขาต้องการที่จะขจัดสิ่งรบกวนต่างๆเพื่อให้ระเบิดพลังเวทย์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
“ถ้าเช่นนั้น............”
เชวฮันกำลังจะพูดในสิ่งที่เขาคิดแต่เขาก็ยั้งตัวเองไว้ได้ทันและมองไปยังคาร์ลที่ยังคงพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้สนใจท่าทางของเขาเมื่อครู่นี้
“ก่อนอื่นเจ้าต้องหาระเบิดพลังเวทย์เหล่านี้ก่อน...หากเจ้าโชคดีอาจเจอกลุ่มคนที่ติดตั้งระเบิดพลังเวทย์นี้ได้และให้สะกดรอยตามพวกเขาไปโดยห้ามไม่ให้พวกเขารู้ตัวเป็นอันขาด”
เนื่องจากมังกรดำจะทำงานร่วมกับเชวฮันจึงทำให้เขาสามารถหยุดการทำงานของตนเองลงได้ทันก่อนที่จะถูกเจอตัวจากการใช้พลังเวทย์ของเหล่าสมาชิกในองค์กรลับแต่คาร์ลคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากที่พวกเขาจะเจอตัวกลุ่มคนเหล่านี้ได้
มันอาจจะต้องใช้ระยะเวลานานกับการค้นหาระเบิดพลังเวทย์ในสถานที่ที่มีความผันผวน[1]ของระดับพลังเวทย์เช่นนี้ มันจะทำให้มีความยากลำบากและเหนื่อยเป็นอย่างมากจึงเป็นเหตุผลให้คาร์ลทิ้งงานนี้ให้กับพวกเขาทั้งสอง เขาไม่สามารถที่จะช่วยอะไรได้และที่สำคัญไปกว่านั้น...คือเขาไม่มีความต้องการที่จะลงมือทำมันเช่นกัน
“เราจะต้องเดินสำรวจในบริเวณนี้จนกว่าจะเหลือเวลาเพียงสองวันก่อนเกินเหตุการณ์หรือขอรับ?”
“ไม่...พวกเจ้าจะต้องมาอีกหนึ่งวันก่อนเกิดเหตุการณ์นี้ด้วยเช่นกัน”
“วันก่อนเกิดเหตุด้วยรึ?”
‘มันจะไม่เป็นเรื่องที่ยากเกินไปรึ?เพราะในวันนั้น...ที่นี่จะมีทหารยามเป็นจำนวนมาก’
เชวฮันไม่ได้เอ่ยคำถามของเขาออกมามันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากแต่เขาก็สามารถที่จะจัดการมันได้เช่นกัน เขาจะต้องใช้ความพยายามเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยและต้องระมัดระวังตัวเองให้มากกว่าเดิม
ในตอนนั้นเองเชวฮันก็มองเห็นรอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์ร้ายกาจบนใบหน้าของคาร์ลอีกครั้ง
คาร์ลหยิบลูกกลมๆสีดำออกจากกระเป๋าและยกมันสูงขึ้นเพื่อให้เชวฮันได้เห็น
“อ่า.....”
เชวฮันมีอาการตกตะลึงไปชั่วขณะเมื่อเห็นมัน เขาคุ้นเคยกับลูกกลมๆสีดำนี้มันคือ ‘เครื่องรบกวนพลังเวทย์’ มันเคยถูกคาร์ลใช้มาก่อนหน้านี้มันมีพลังที่แข็งแกร่งมากพอที่จะหยุดทุกอย่างบนภูเขาลงได้
คาร์ลยกยิ้มด้วยความมั่นใจ เขารู้ว่าระเบิดพลังเวทย์เหล่านั้นจะต้องหยุดการทำงานลงอย่างกะทันหัน
“จะมีนักเวทย์จำนวนมากที่มารวมตัวกันที่นี่ในวันนั้น...ดังนั้นอาจจะมีเวลาไม่ถึง 10 นาทีแต่มันก็พอช่วยอะไรได้บ้าง...มันจะทำให้ทุกๆอย่างที่เกี่ยวข้องกับพลังเวทย์หยุดทำงานลงได้ระยะเวลาหนึ่ง”
‘10 นาทีก็เพียงพอ’
พวกเขาต้องการจะช่วยชีวิตผู้คนจากระเบิดพลังเวทย์ในเวลา 10 นาที พวกเขาจะสามารถมองหาระเบิดพลังเวทย์เหล่านั้นได้มากยิ่งขึ้นและเมื่อถึงเวลานั้นจะมีทั้งมนุษย์และสัตว์อสูรเป็นจำนวนมากที่จะลงมือทำงานนี้นอกเหนือไปจากเชวฮันและมังกรดำอีกด้วย
เชวฮันมองสลับไปมาระหว่างลูกกลมๆสีดำและและใบหน้าของคาร์ลด้วยความทึ่งและเริ่มพูดกับคาร์ลออกมาช้าๆ
“.......ท่านคาร์ล....ท่านวางแผนที่จะทำทั้งหมดนี้ด้วยตัว.....”
“นั่นแหละคือเหตุผลของข้า.....”
คาร์ลรู้ว่าเชวฮันจะพูดอะไรออกมาจึงทำให้เขาเลือกที่จะเอ่ยตัดบทเชวฮันขึ้นก่อนจะเริ่มเอ่ยกับเชวฮันและมังกรในทันที
“ไปทำงานได้แล้ว”
เชวฮันเหลือบมองคาร์ลด้วยความไม่เต็มใจนักก่อนที่คาร์ลจะชี้ไปยังร้านเบียร์ที่มีชื่อเสียงในย่านนี้และเริ่มพูดต่อในทันที
“ข้าจะรอพวกเจ้าอยู่ที่นั่น...เพียงแค่พวกเจ้าออกไปสำรวจรอบๆบริเวณนี้จนถึง 5 ทุ่มแล้วค่อยกลับมาเจอข้าที่นี่อีกครั้ง”
เชวฮันหยุดคิดไปชั่วครู่ก่อนปล่อยเสียงออกมามันฟังคล้ายๆกับเสียงหัวเราะและพยักหน้าตอบรับกับคำพูดของคาร์ลช้าๆ
“กระผมเข้าใจแล้ว..คืนนี้กระผมกับมังกรจะออกไปสำรวจรอบๆบริเวณจัตุรัสแห่งนี้ก่อนกลับมาเจอท่านที่นี่อีกครั้ง”
เชวฮันเคยคิดที่จะถามคาร์ลว่าเหตุใดเขาจึงไม่ไปกับพวกตนด้วย แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็สามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว คาร์ลจะกลายเป็นภาระสำหรับตัวเขาและมังกรในขณะที่พวกเขาลงมือทำงาน
คาร์ลร่างกายอ่อนแอและไม่มีสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าร่างกายของเขามีพลังเวทย์อยู่ในนั้นรวมทั้งท่าทางที่ดูเหมือนจะไม่เคยได้รับการฝึกฝนศิลปะป้องกันตัวชนิดใดๆเช่นกัน เขาเป็นเพียงคนธรรมดา...แต่ก็มีความไม่ธรรมดาในเวลาเดียวกัน
“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างหนัก....ดังนั้นเจ้าช่วยซื้อเบียร์ให้ข้าดื่มด้วยสิหากข้ากลับมาถึงแล้ว”
“ได้สิเจ้ามังกร....ข้าขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของเจ้าด้วย”
มังกรดำได้คลายโดมกั้นเสียงออกจากตัวพวกเขาทันทีราวกับว่ามันทำให้คาร์ลเห็นถึงความกระตือรือร้นในการทำงานของมัน เชวฮันก้มศีรษะของเขาให้แก่คาร์ลเล็กน้อยก่อนที่จะเคลื่อนตัวออกห่างจากคาร์ลในทันที
อีกสองชั่วโมงต่อมาคาร์ลก็กลับไปยังบ้านพักของตนพร้อมกับเชวฮันและมังกรดำที่ไม่สามารถค้นเจอสิ่งใดได้
และในคืนต่อมาพวกเขาก็ไม่สามารถค้นเจอสิ่งใดๆได้เช่นกัน
คาร์ลซึ่งนอนไม่หลับในตอนกลางคืนได้ตื่นขึ้นมาในช่วงเที่ยงเขาไม่ได้รู้สึกเหนื่อยล้าเพราะพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณ ‘พละกำลังแห่งดวงใจ’จะไม่ทำให้ร่างกายของเขารู้สึกเหนื่อยได้ง่าย
“นายน้อย....ตื่นแล้วหรือขอรับ?”
“รอน.......”
คาร์ลรู้สึกว่าค่ำคืนที่แสนหวานของเขาได้จางหายไปราวกับฝันเมื่อต้องตื่นกลับสู่โลกความเป็นจริง
“กระผมกลับมาแล้วขอรับ”
อ่า....รอนกลับมาแล้วจากนั้นรอนก็ยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้แก่คาร์ล ก่อนที่คาร์ลจะเอ่ยสั่งรอนในเวลาต่อมาเมื่อได้อ่านจดหมายฉบับนี้แล้ว
“รอน...ไปเตรียมห่อขวดไวน์ที่ดีที่สุดเอาไว้”
มันเป็นจดหมายที่มีตราสัญลักษณ์ของตระกูลฟลินน์ คาร์ลเปิดจดหมายเพื่อเจอเนื้อหาเพียงประโยคเดียว
[นายน้อยคาร์ล...เร็วนี้ๆท่านจะให้เกียรติเลี้ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่กระผมได้หรือไม่ขอรับ?]
บิลอส บุตรชายนอกสมรสของหัวหน้าสมาคมการค้าฟลินน์คือเจ้าของจดหมายฉบับนี้และเขาจะเดินทางถึงเมืองหลวงในเร็วๆนี้แล้ว
จดหมายฉบับนี้ช่วยให้คาร์ลรู้ว่าเหลือเวลาเพียงไม่นานที่เขาจะต้องเดินทางไปเข้าเฝ้าองค์ชายรัชทายาทในวังหลวง เป็นเพราะที่นั่นมีเหล่าตัวร้ายอยู่เป็นจำนวนมากจึงเป็นเหตุผลที่เขาสมควรจะวางตัวให้นิ่งและนิ่งให้มากที่สุดในตอนนั้น
[1] ความผันผวน คือ การกลับไปกลับมา ปั่นป่วน ไม่แน่นอน ไม่คงที่ แปรผัน