px

เรื่อง : เทพอสนีบาต God of Thunder
บทที่ 55 - นองเลือด ช่วงต้น


   “ทางนั้นด้วย!!” ฉี เทียนเหยากล่าวตะโกนขึ้น



ทันทีนั้นเอง ก็ปรากฏว่ามีคนเถื่อนที่มีลักษณะสูงใหญ่ผิวคล้ำ  กำลังใช้หอกของมันหมายจะแทงเข้ามายังบริเวณหน้าอกของซินฟง!!



แต่ด้วยการกล่าวเตือนของ ฉี เทียนเหยาทำให้ซินฟง นั้นไหวตัวได้ทัน พร้อมกับป้องกันตัวเองด้วยการใช้แขนหยุดหอกของคนเถื่อน ทันทีนั้นกระแสสายฟ้าก็แผ่พุ่งออกจากแขนของเขา ไหลเวียนไปยังคนเถื่อนผู้นั้นจนทำให้มันสั่นกระตุก!!



***เคร้ง!!***



เสียงของสองวัตถุกระทบกันด้วยความรุนแรง นั่นก็คือปลายหอกของ ฉี เทียนเหยา ปะทะเข้ากับขวานยักษ์ของคนเถื่อนจนทำให้ขวานนั้นลอยเคว้งคว้างไป  



พริบตานั้นเอง!! ขณะที่ขวานยักษ์ยังลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ ฉี เทียนเหยา ใช้หอกของเขาแทงเข้าบริเวณส่วนศีรษะของคนเถื่อนเข้าอย่างแม่นยำ เป็นเหตุให้มันทรุดตัวทิ้งลงแน่นิ่งไม่ไหวติง!!



ทางด้านของ จิน ต้าผาง นั้นกำลังปะทะกับคนเถื่อนเช่นกัน คนเถื่อนคนหนึ่งใช้ขวานยักษ์หมายจะตัด จิน ต้าผางให้ขาดวิ่น ในขณะนั้นเองจิน ต้าผางก็กล่าวตะโกนขึ้นเสียงดัง พร้อมกับแอ่นหน้าอกของเขารับการโจมตีด้วยขวานนั้น



แต่เมื่อขวานนั้นถึงตัวของ จิน  ต้าผาง นั้นก็ปรากฏเสียงดังขึ้น   *** ก๊อง!!***  พร้อมกับสะท้อนร่างของคนเถื่อนนั้นกระเด็นถอยหลังทันที พร้อมกับที่มันส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับสลบลงไปในภายหลัง แต่ทางด้าน จิน ต้าผางกลับไม่มีบาดแผลแต่อย่างใดเลยแม้แต่น้อย



ด้านหลังของ จิน ต้าผาง เป็นกองทหารสิบนายที่นำโดย เว่ย เจิ้งหลง วิ่งตะบันฝ่าไปยังกลุ่มคนเถื่อนอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับตะโกนเสียงคำรามศึก!!

 


กลุ่มคนเถื่อนที่จะประจันหน้ากับฝ่ายของ เจิ้งหลงนั้น!! สังเกตได้ว่าฝ่ายเจิ้งหลงนั้นมีทีท่าเพียงจะขับไล่เท่านั้น หรือสกัดกั้นพวกมันไม่เข้าไปช่วยเหลือพวกของมันที่โดนล้อมอยู่ ซึ่งสังเกตได้จากเมื่อพวกมันนั้นถอย ฝ่ายทหารจะไม่ไล่ตามทันทีและรักษาระยะห่างคุมเชิงกันอยู่



พวกคนเถื่อนที่ถูกล้อมนั้นถูกสังหารลง ซึ่งพื้นที่นั้นเรียงรายไปด้วยศพของเหล่าคนเถื่อนประมาณเจ็ดสิบถึงแปดสิบคน  ซึ่งเป็นความสูญเสียของฝ่ายคนเถื่อนมากไม่น้อยเลยทีเดียว



ซึ่งคนที่สร้างความยากลำบากให้กับพวกมันได้อย่างดีที่สุดก็คือ จิน ต้าผาง ที่ทำให้พวกมันรู้สึกหัวเสีย!! และในการปะทะกันครั้งนี้  จิน ต้าผาง คิดเพียงอย่างเดียวคือฆ่าพวกมันแหวกทางให้มากที่สุด เท่าที่เขาจะสามารถทำได้!!



ทหารที่อยู่ในบัญชาของจิน ต้าผางกลุ่มนึงนั้น ถูกคนเถื่อนล้อมไว้ซึ่งกลุ่มนั้นเป็นเพียงคนธรรมดาที่ไร้พลังเคลื่อน ซึ่งไม่อาจที่จะต้านทานความแข็งแรงคนเถื่อนได้เลย และหากว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่สามารถหลบหนี พวกเขาทราบดีว่าจะต้องลงเอยอย่างไร  



    “วิ่งสิวะ!! ให้ไวเลย มัวเซ่ออยู่ทำไม!!”เว่ย เจิ้งหลงตะโกนบอกไปยังเหล่าทหารที่กำลังถูกล้อมอยู่



ทันทีที่ได้ยินเสียงตะโกน พวกเขาเหล่านั้นก็วิ่งกันอย่างไม่คิดชีวิต ซึ่งส่วนมากสามารถตีฝ่าวงล้อมนั้นออกมาได้ แต่ทว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่โชคไม่ดีนักถูกพวกมันใช้หอกฟาดฟันลงที่บริเวณโคนขา เป็นแผลฉกรรจ์ทำให้ไม่สามารถหลบหนีได้



***อ๊ากกกก***  เสียงกรีดร้องจากความเจ็บปวด



   “บ้าเอ๊ย!! ระวังท่อนขาให้มากที่สุด!! ถ้าหากล้มลงก็จะไม่มีใครสามารถเจ้าช่วยเจ้าได้ วิ่งเข้าสิเว้ย!!”  เว่ย เจิ้งหลง กล่าวเสียงดังอย่างกระวนกระวายใจที่สุด



    “ข้าวิ่งต่อไปไม่ไหวแล้ว......ข้าคงจะไม่รอดแล้ว.......ข้าไม่ไหวแล้ว!!” ทหารนายหนึ่งกล่าวขึ้นขณะฝืนวิ่งต่อทั้งที่มีแผลที่บริเวณขาของเขา เขาเริ่มสิ้นหวังแล้วและกำลังร้องไห้



   “ถ้าเจ้าไม่วิ่งต่อ เจ้าก็จะต้องตาย เร็วเข้า เร็วสิ!!  พยายามหน่อย!!” เว่ย เจิ้งหลง กล่าวกระตุ้นไปยังทหารคนดังกล่าว ซึ่งตัวเขานั้นไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้เนื่องจากฝ่ายคนเถื่อนได้ขวางหน้าเขาไว้



ซึ่งสถานการณ์นั้นชุลมุนอย่างที่สุด แต่ทว่าทหารคนดังกล่าวนั้น ก็สามารถเอาตัวรอดมาจากคมหอกของคนเถื่อนได้อย่างหวุดหวิดจวนเจียนอย่างที่สุด



ซึ่งสถานการณ์ที่ชุลมุนอยู่นั้นเริ่มมาถึงจุดสิ้นสุดลง    คนเถื่อนกลุ่มนั้นก็เริ่มหยุดไล่ล่าทหารเหล่านั้นลงในที่สุด



   “หยุดก่อน!!” ฉี เทียนเหยา ตะโกนพร้อมชูหอกขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณให้ฝ่ายของเขาหยุดสู้รบ



จิน ต้าผาง หันไปรอบๆสำรวจความเสียหาย  ซึ่งเขาค้นพบว่ามีคนของเขาต้องจบชีวิตลง ในขณะคนเถื่อนบางส่วนหนีรอดไปได้ เขาก็ทรุดตัวลงกับพื้นในท่าคุกเข่าลงกับพื้น เขาตะโกนกรีดร้องตะโกนด้วยความแค้นเคือง ที่พวกมันก็คร่าชีวิตลูกน้องของเขาลงได้



ทางด้านซินฟง ยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่หน้าผาก  เขาไม่ได้เหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด แต่ทว่าสาเหตุที่ทำให้เขาเหงื่อแตกนั้นมาจากการสถานการณ์ที่กดดันอย่างที่สุด!!



ซิงเหยากระโดดลงมาจากเล่ย เปา โผเข้ากอดซินฟงทันที  ดูเหมือนว่านางจะเริ่มปรับตัวได้กับสถานการณ์ที่ตึงเครียดเช่นนี้



   “เป็นอย่างไรบ้าง?!!” ชายชรา กล่าวถาม



   “ก็ไม่เลวท่านปู่ ศึกครั้งนี้มันทำให้เลือดของข้าเดือดพล่าน!!” ซินฟง กล่าว



เมื่อได้ยินคำกล่าวของซินฟงนั้น เล่ย เปา และฉี ฉวน รวมไปถึง ตู้ หงเฉิน ก็ยิ้มพร้อมหัวเราะขึ้น  พวกเขาไม่ได้เข้าร่วมในการสู้รบครั้งนี้เพียงแต่มองดู เด็กรุ่นหลังของพวกเขาอยู่ห่างๆ แต่ความรู้สึกของคนที่เข้าร่วมในการสู้รบนั้น มันตรงกันข้ามกับอาวุโสทั้งสามนี้อย่างมาก



   “เจิ้งหลง เจ้าตัดสินใจอย่างไรกัน?  ข้าให้เจ้าฝึกทหารให้เข็มแข็ง แล้วนี่มันอะไรกันวิ่งหนีพวกมันกันให้จ้าละหวั่น ที่ข้าเห็นมันใช่การสู้รบ มันคือการวิ่งหนีต่างหาก!!” จิน ต้าผาง กล่าวอย่างเกรี้ยวกราด

 

เว่ย เจิ้งหลง รู้สึกไม่ดีอย่างยิ่ง แต่มันก็เข้าใจจิตใจของ จิน ต้าผางดี ที่กำลังเสียใจที่พาลูกน้องมาจบชีวิตลงในสนามรบ เขาจึงไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดออกมาเพียงแต่ก้มหน้ารับฟังอย่างสงบนิ่ง!!



เวิ่น หยาน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสองคนนั้น นางกำลังครุ่นคิดอยู่ว่าการสู้รบในครั้งนี้ถือว่าเป็นการฝึกฝนที่ดีสำหรับนาง ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ที่หายากสำหรับนาง



ซินฟงนั้นก็คิดไม่ต่างไปจากเวิ่น หยาน ที่ว่าการสู้รบครั้งนี้จะทำให้เขาสามารถพัฒนาตนเองไปอีกขั้น  และทำให้จิตใจของเขาเข้มแข็งยิ่งขึ้นกว่าเดิม



ซึ่งในสงครามนี้ผู้ที่ได้ผลประโยชน์ในด้านประสบการณ์อย่างมากที่สุด ก็คือ ซินฟงและเวิ่น หยาน



คนเถื่อนบางจำนวนยังคงอยู่ในบริเวณใกล้ๆ แต่พวกมันทราบดีว่าพวกซินฟงนั้นแข็งแกร่ง ทำให้พวกมันซุ่มดูอยู่ไกลๆและรอให้พวกซินฟงกลับไปในที่สุด



กลุ่มของซินฟงมาถึงยังรอยต่อของทะเลทรายแหล่งน้ำตามการนำทางของ จิน ต้าผาง  ซึ่งเป็นเวลายามเย็นแล้ว ขั้นหมื่นพลังเคลื่อนหลายๆคนจึงคิดที่ออกล่าสัตว์ เพื่อเป็นอาหารสำหรับค่ำคืนนี้



ที่นี่มักจะมี ไก่ฟ้าทะเลทราย!! ที่เป็นอาหารที่มีรสชาติดีเยี่ยมและรู้เป็นที่นิยมรับประทานอย่างยิ่ง



จิน ต้าผาง และฉี เทียนเหยา พร้อมกับลูกน้องจำนวนหนึ่งออกล่า ไก่ฟ้าทะเลทราย  ภายใต้การนำทางของจิน ต้าผาง ซึ่งไม่นานพวกเขาก็กลับมาพร้อมกับเสบียงจำนวนหนึ่ง  พวกนั้นจึงเริ่มก่อกองไฟขึ้นทันที   



    “น่าสายดาย  หากมีเวลามากกว่านี้เราคงจะได้ไก่มามากกว่านี้” จิน ต้าผาง กล่าว



ซึ่งไก่ฟ้าทะเลทรายนี้ ตามที่ซินฟงได้ทราบมานั้นเป็นสัตว์ไม่ใหญ่มาก กล่าวคือมีขนาดใหญ่กว่านกพิราบเล็กน้อย ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญมากในการต้มซุป และเนื้อของมันมาความนุ่มและรสชาติดีมาก



จิน ต้าผางเป็นผู้ลงมือทำอาหารด้วยตนเอง ซึ่งเมื่อซินฟงได้เห็นเช่นนั้นก็อดชอบใจไม่ได้



    “พี่ชายจิน ท่านดูเหมาะกับการเป็นพ่อครัวมากๆเลย ฮ่าๆ” ซินฟงกล่าวพร้อมหัวเราะ



เมื่อหลายๆคนที่ได้ยินคำกล่าวของซินฟงนั้น ก็มีอาการยิ้มแย้มแจ่มใสครื้นเครงขึ้นมาทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลายลงได้บ้าง หลังจากที่ต้องสู้รบปรบมือกับพวกคนเถื่อนอย่างตึงเครียด



    “นี่สำหรับท่านอาวุโสทั้งสาม!! แต่น้องชายซินฟงไม่ต้องกังวลไป นี่ส่วนสำหรับเจ้า!!” จิน ต้าผางกล่าวอย่างแช่มชื่น พร้อมกับตัดซุปแจกจ่ายไปยังทุกๆคน



    “โอ้ว มันอร่อยมากๆเลย!!” ซินฟงและซิงเหยากล่าวขึ้นจนเป็นเสียงเดียวกัน  เมื่อทั้งคู่ได้ลิ้มรสฝีมือของจิน ต้าผาง



ทางด้าน ฉี ฉวน และคนอื่นๆก็ประทับใจในรสชาติฝีมือของจิน ต้าผางพอๆกัน!!



ซุบไก่ฟ้าทะเลทรายนั้น!! ช่างเป็นอาหารที่ทำให้ทุกๆคนมีความสุขได้ในเวลาก่อนพบค่ำนี้


By.GOT

รีวิวผู้อ่าน