px

เรื่อง : The Strongest System จบแล้ว!!!
บทที่ 13 : ทำนองมันเพราะดีจริงๆ !!


 บทที่ 13 : ทำนองมันเพราะดีจริงๆ !!

 

ขณะนี้เหล่าศิษย์ต่างสนใจเรื่องราวตรงหน้ากันเป็นอย่างมาก พวกมันเริ่มมุงดูกันอย่างสนุกสนาน เสียงกระซิบกระซาบคุยกันดังระงมขึ้นมา แต่ไม่มีใครคิดจะเข้าไปยุ่งเรื่องราวแม้แต่น้อย พวกเขารู้ดีว่าสาวน้อยคนนั้นเป็นใคร เธอเป็นถึงคนที่ อี้ซั่งเทียนให้ความสนใจ และอี้ซั่งเทียนผู้นั้นก็เป็นถึงศิษย์อัจฉริยะ 1 ใน 10 คน  มันให้ผู้ติดตามที่เป็นชายร่างใหญ่มาตามตัวนาง

"รีบๆกินเสีย วันนี้ข้าจะพาเจ้าไปหาศิษย์พี่อี้ให้ได้?" หวังเทียนหยาง ชายร่างใหญ่ที่ไม่รู้จักทะนุถนอมสตรีแม้แต่น้อย กล่าวออกมาด้วยเสียงห้วนๆ ถ้าเป็นคนอื่นเห็นศิษย์สตรีที่น่ารักและงดงามขนาดนี้พวกเขาจะพูดห้วนๆแบบนี้กับเธอได้ยังไง พวกเขาจะทุ่มเทสุดชีวิตเพื่อเอาใจเสียมากกว่า

หลินฟ่านมองภาพตรงหน้าอย่างเฉยชา ในโลกเก่าสวยกว่านี้มันก็เคยเจอมาแล้ว แต่หญิงสาวตรงหน้าที่แย่งอาหารเขาไปก็น่ารักมากจริงๆ  ตอนนี้เธอกำลังโดนชายร่างใหญ่พูดทำนองว่าให้ตามมันไปหาอี้ซั่งเทียน 

ตอนนี้หลินฟ่านพึ่งได้กินอาหารที่อร่อยๆมา เนื้อสัตว์และผักเหล่านั้นมันเพิ่ม EXP ให้เขาจำนวนหนึ่ง แม้มันจะเล็กน้อยแต่เขาก็ยินดีอย่างมาก... ในขณะที่กำลังมองหญิงเพลินๆ ไอยักษ์ตรงหน้าก็เข้าไปดึงแขนของหญิงสาวที่แย่งอาหารเขาไป

ไอยักษ์ตัวใหญ่ราวกับเสาไฟฟ้าคนนี้กล้าคิดจะพาผู้หญิงที่ขโมยของกินเขาไปต่อหน้าต่อตา ตอนนี้เขาเริ่มไม่สบอารมณ์แล้ว

 "เจ้ากล้า ... " ฟ่านหยูซิ่น ได้แต่กัดฟันเธอไม่สามารถต่อต้านอะไรชายร่างใหญ่ตรงหน้าได้

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ...... " หวังเทียนเฟิง หัวเราะออกมาอย่างหยิ่งยโส มันไม่รู้สึกผิดอะไรสักนิดที่ฉุดทำร้ายผู้หญิง  ขนาดตัวของมันถ้าเอาไปเทียบกับหนี่หมิงหยางนับว่าใหญ่กว่ามาก ถ้าเอาไปเทียบกับเมิ่งหยางกวน นี่นับว่าต่างกันราว สวรรค์กับนรกเลยทีเดียว

เหล่าศิษย์รอบๆที่เห็นเหตุการณ์ไม่ได้เข้ามาช่วยเหลืออะไร แม้ว่าศิษย์น้องหญิงคนนี้จะน่ารักมากแต่พวกเขาไม่กล้ากระตุ้นโทสะของหวังเทียนเฟิงที่เป็นผู้ติดตามของอี้ซั่งเทียน

หานลู่ก็เป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มศิษย์มุงเช่นกัน แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะสนใจอะไร เขาหันหลังให้กับเรื่องราวตรงหน้าก่อนที่จะเดินออกไป พร้อมทิ้งเสียงกระซิบเบาๆเอาไว "เสียเวลาฝึกฝน... ผู้เข้มแข็งย่อมกลืนกินผู้ที่อ่อนแอ ... สัจธรรมในโลกก็เป็นเช่นนี้ " หานลู่ก้าวเดินออกไปด้านนอกโดยไม่คิดจะสนใจอะไรอีก

"ไอลูกเต่า หยุดให้บิดาเดี๋ยวนี้ !!" ทันใดนั้นเองเสียงตะโกนก็ก้องกังวานไปทั่วทั้งโรงอาหาร ทุกคนได้แต่หยุดชะงักพร้อมกับมองหาต้นเสียงรอบๆด้วยความสงสัย  หานลู่ที่กำลังจะก้าวเท้าออกนอกโรงอาหารถึงกับหยุดชะงัก "เสียงไอตัวอุบาทว์นั่น... " กล่าวจบเขาก็หันหลังกลับมามองหา ในที่สุดเขาก็พบว่าเป็นตัวบัดซบที่ขยำไข่เขาจนระบมเมื่อวานนี้

หลินฟ่านมองไปที่หวังเทียนเฟิง ก่อนที่จะสังเกตตัวอักษรเหนือศีรษะมัน  'ระดับมนุษย์ขั้นที่ 6' จากนั้นหลินฟ่านก็หันไปมองสตรีที่แย่งอาหารเขา  "ระดับมนุษย์ขั้นที่ 1 ???? " แต่ว่าหลังตัวเลขของหญิงคนนี้กลับมีตัว ??? ตามหลัง นั่นทำให้หลินฟ่านสงสัยเล็กน้อย  ‘มันหมายความว่าไงวะนั่น?’ แต่ตอนนี้มันก็ไม่ได้สำคัญอะไร หลินฟ่านกำลังจะเริ่มต้นยั่วยุผู้คนแล้วตอนนี้ ทุกคนที่อยู่ในนี้มันคือค่าประสบการณ์ของเขา ได้เวลาเก็บ EXP แล้ว

"แล้วเจ้าเป็นใคร ไอเด็กบัดซบ?" เสียงหวังเทียนเฟิงกล่าวถามด้วยโทสะ  

หลินฟ่านมองไปยังหวังเทียนเฟิงด้วยใบหน้าทะเล้นก่อนที่จะเริ่มต้นยั่วยุออกมา

"อยากรู้ก็ไปถามมารดาเจ้าว่าข้าคือผู้ใด อ่อ..แล้วอย่าลืมถามนางด้วยล่ะ..ว่าเมื่อคืนเตียงนางเป็นอย่างไรบ้าง เฮ่อ ... เจ้านี่ไม่ไหวจริงๆ ตัวเท่าควายแต่กลับมารังแกผู้หญิงอ่อนแอบอบบาง  ข้ารู้สึกรับไม่ได้จริงๆที่ไปท่องสวรรค์กับหญิงสาวที่มีลูกเป็นสวะไร้ค่าสุนัขยังไม่อยากกัดอย่างเจ้า  " หลินฟ่านกล่าววาจาเยาะเย้ยดูหมิ่นถากถางแบบที่ไม่เคยมีใครในที่นี้ได้ยินมาก่อน ทำให้เหล่าศิษย์ที่ได้ฟังทั้งหมดถึงกับอึ้ง ว่ามันสรรหาคำอุบาทว์เหล่านี้มาพูดได้อย่างไร

ส่วนฟ่านหยูซิ่นจากที่กำลังโกรธก่อนหน้านี้ก็ยิ้มออกมาหลังจากที่ได้ยินคำด่าของหลินฟ่าน

"ฮ่าฮ่าฮ่า ... " ได้ยินคำด่าของหลินฟ่านพร้อมกับท่าทางของมันที่ชูนิ้วกลางไปยังหวังเทียนเฟิง ถึงศิษย์ทั้งหลายจะไม่รู้ความหมายแต่พวกมันก็อดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา แต่ในขณะที่พวกมันกำลังหัวเราะอยู่นั้นเองหลินฟ่าน ก็หันมามองพวกเขาก่อนที่จะระเบิดคำด่าออกมา

"หัวเราะอะไรกัน ไอพวกขยะมูลฝอย? ไอควายถึกนี่นับว่าเป็นเศษสวะแล้ว แต่พวกเจ้าเนี่ย โคตรของโคตรสวะไม่ต่างอะไรกับขยะมูลฝอยที่เป็นอาหารสุนัขเลย พวกเจ้ามีกันตั้งเยอะแยะแต่กลับยืนนิ่งดูดายสาวน้อยถูกรังแกไม่ละอายบ้างเหรอไง!!  ไอที่ห้อยอยู่ตรงหว่างขาของพวกเจ้าสมควรตัดไปให้เป็ดกินเสีย ...” หลินฟ่านหยุดสูดหายใจเล็กน้อย

 “เฮ่อ ข้าล่ะรู้สึกสมเพชเวทนาแทนบิดามารดาพวกเจ้าจริงๆ อะไร!! มองบิดาหาอะไร?  รับไม่ได้งั้นเหรอ มาสิ? ถ้ากล้าก็เข้ามา อย่าคิดว่าข้าจะกลัวสตรีมีพวงเช่นพวกเจ้า? . หลินฟ่านกวาดนิ้วกลางชี้ไปที่ผู้คนรอบห้องพร้อมกับมองหน้าแต่ละคนอย่างท้าทาย

หยินโม่เฉินที่อยู่ข้างๆ กำลังจะจับหลินฟ่านให้นั่งลงก็ตกตะลึง ‘เหตุใดเจ้าจึงรนหาที่เช่นนี้ ? เจ้าท้าทายผู้คนไปทั่วเช่นนี้พี่ชายของเจ้าหาช่วยอันใดเจ้าได้ไม่ ... มิได้การแล้ว ข้าต้องรีบไปแจ้งศิษย์พี่หนี่ก่อนที่จักสายเกินไป’ หยินโม่เฉิน ไม่คิดอะไรอีกต่อไปตอนนี้เขารีบวิ่งออกไปตามหาศิษย์พี่หนี่โดยทันที เขาอยากให้ขาของเขายาวกว่านี้เพื่อที่จะวิ่งได้เร็วขึ้น

...

เมื่อกล่าวจบหลินฟ่านก็หลับตาพร้อมกับสูดหายใจ ‘ข้าดูถูกพวกเอ็งขนาดนี้ถ้ายังทนได้ก็โคตรคนละ รีบๆโมโหแล้วเข้ามานะจ๊ะหนูๆ' หลินฟ่านเดินออกไปทางหวังเทียนเฟิงโดยไม่ได้เกรงกลัวอะไร

"มองบิดาหาอะไรไอควายถึก เก่งจริงก็เข้ามา! ข้าตั้งหน้าตั้งตารออยู่ " หลินฟ่านมองไปที่ใบหน้าที่แดงก่ำของหวังเทียนเฟิง ก่อนที่จะแสยะยิ้มออกมา ‘วันนี้จะได้กำไรหรือขาดทุนก็อยู่ตรงนี้ล่ะวะ หมัดแรก มา!!’

"จะ..เจ้า หาที่ตาย!! ... " ตาของหวังเทียนเฟิงแดงก่ำเพราะความโกรธมันกำหมัดแน่นก่อนที่จะต่อยมายังหลินฟ่านสุดแรง เหล่านิกายรอบข้างที่ยังหน้าชากับคำด่า ก็เฝ้ามองเหตุการณ์ตรงหน้าพร้อมกับคิดโดยพร้อมเพรียงกันว่า ‘วันนี้ต้องมีคนตาย’  ส่วนฟ่านหยูซิ่นได้แต่มองมาทางหลินฟ่านอย่างกังวล

ปังงงงง!

'ติ๊ง!! ... "กายปีศาจอมตะ" EXP + 2000'

ความแข็งแกร่งของร่างกายหลินฟ่านนั้นสามารถทนการโจมตีระดับมนุษย์ขั้นที่ 8 สุดกำลังของหนี่หมิงหยางได้อย่างสบายๆ  หมัดของหวังเทียนเฟิงครั้งนี้มันเบายิ่งกว่ายุงกัดสำหรับเขา เมื่อเห็นค่า EXP เด้งขึ้นมา หลินฟ่านอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างยินดี ในขณะที่หลินฟ่านกำลังรอยำตรีนอย่างใจจดใจจ่อเขาก็ต้องแปลกใจที่หวังเทียนเฟิงมันหยุดโจมตีและยืนนิ่งมองดูเขา

ตอนนี้หลินฟ่านก็พึ่งรู้ตัวว่าทำพลาดแล้ว หวังเทียนเฟิงพึ่งต่อยเขาออกมาเต็มกำลังด้วยคามโกรธแต่เขากลับยืนยิ้มหัวโด่อย่างไม่รู้สึกรู้สา ต่อให้เป็นคนโง่แค่ไหนก็ต้องรู้ว่ามันผิดปกติ ราวกับหลินฟ่านจบมาจากโรงเรียนการแสดงตอนนี้พรสวรรค์ที่แท้จริงของเขาก็โผล่ออกมาแก้สถานการณ์นี้ในทันที

"อั๊คคคคค ... " เพื่อความสมจริงหลินฟ่านลงทุนกัดปากด้านในก่อนที่จะแกล้งกระอักเลือดออกมา ก่อนที่จะทำหน้าอ่อนแรง เพื่อให้มันดูรุนแรงสมจริงเขาไม่คิดที่จะเสียดายเลือดแม้แต่น้อย เพื่อค่า EXP เขายอมได้ เขาเลยพ่นเลือดออกมาอีกสองครั้ง...หากไวกว่านี้อีกนิดรางวัลออสการ์คงไม่พ้นมือมัน

“ฮ่าๆ เด็กโอหัง เป็นเช่นไรเล่า ตอนนี้เจ้ายังกล้าหยิ่งยโสอยู่อีกหรือไม่”หวังเทียนเฟิงหัวเราะพร้อมกล่าวออกมาอย่างเริงร่า เมื่อไอเด็กยโสตรงหน้าถูกมันต่อยจนกระอักเลือดออกมา ตอนนี้หวังเทียนเฟิงกำลังได้ใจมาก

‘นี่ล่ะ...นี่ล่ะเว้ยย!!! ที่ข้าต้องการ’

หานลู่ที่กลับเข้ามาในโรงอาหาร มองภาพตรงหน้าอย่างสะใจ มันหัวเราะออกมา เมื่อเห็นฟลินฟ่านถูกทำร้าย ความโกรธแค้นในใจของมันลดลงนิดหน่อย แต่มันก็อยากทุบตีหลินฟ่านด้วยสองมือมากกว่า มันกำลังวางแผนที่จะหาโอกาสจู่โจมหลินฟ่าน

...

หลินฟ่านที่แกล้งยืนโซเซ เอามือมาปาดเลือดที่ลงทุนกัดปาก ก่อนที่จะชี้หน้าด่าหวังเทียนเฟิงอีกครั้ง  "นี่!! เจ้าพึ่งมาโรงอาหารคงยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม ...หมัดเลยเบาราวกับลูกแมวอย่างงี้  อะๆ ไปหาอะไรกินให้มีแรงก่อนก็ได้นะข้ารอได้ "

หวังเทียนเฟิงที่ถูกกล่าวเหยียดหยามอีกครั้งระเบิดโทสะออกมา มันต่อยหลินฟ่านด้วยความแรงสุดชีวิตของมันออกมาอีกสองครั้ง

'ติ๊ง! ... "กายปีศาจอมตะ"  EXP + 2,000 "

'ติ๊ง! ... "กายปีศาจอมตะ"  EXP + 2,000 "

...

ตอนนี้เพื่อหลอกหวังเทียนเฟิงให้สมจริง หลินฟ่านแกล้งทิ้งตัวลงไปนอนที่พื้นก่อนจะพยายามถุยน้ำลายที่เปื้อนเลือดในปากออกมาอีกครั้ง ในใจมันคิดว่า ‘เชี่ย เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย ไม่ได้ง่ายเล้ย ... หลังจากเข้ามาเป็นศิษย์สายนอกแล้วก็ต้องให้ได้ยังงี้สิวะ’ ในขณะที่หลินฟ่านนอนคิดอยู่นั้น หวังเทียนเฟิงก็กล่าวออกมา

"เฮอะ หลังจากได้รับบทเรียนเช่นวันนี้แล้ว ต่อไปเจ้าควรรู้ว่าควรทำตัวเช่นไรเมื่อเจอข้า" หวังเทียนเฟิงกล่าวออกมาอย่างเย็นชา ก่อนที่มันจะหันหลังเตรียมตัวเดินออกไป

"หยุด!! กลับมากราบบิดาก่อน ไอเศษสวะขยะเปียก" ในสายตาศิษย์คนอื่นหลินฟ่านเหมือนตกตายไปแล้วครึ่งนึง ไม่คิดว่ามันจะทำอะไรได้อีก แต่ตอนนี้ถึงมันจะอ่อนแอยังกลับกล้าลุกขึ้นมาพร้อมทั้งก่นด่าหวังเทียนเฟิงอย่างอาจหาญอีกครั้ง

"เจ้า ... " หวังเทียนเฟิงได้แต่ตะลึง มันอดคิดไม่ได้ว่า ‘ทำไมไอบัดซบนี่ยังยืนอยู่ได้?’

"เฮ่อ  คิดว่าแค่นี้ทำอะไรบิดาได้งั้นเหรอ เศษขยะเช่นเจ้าเริ่มหวาดกลัวบิดาจนต้องรีบเดินหนีออกไปอย่างงั้นเหรอ ? ฮ่าฮ่า!! ข้าพูดถูกใช่ไหมล่ะ  แย่ๆๆ  บิดาไม่คิดเลยว่าเจ้าจักปวกเปียกเช่นนี้ สงสัยคืนนี้ระหว่างพามารดาเจ้าทัวร์สวรรค์ คงต้องย้ำนางให้เรื่องความหย่อนยานของเจ้าเสียหน่อยแล้ว" หลินฟ่านกล่าวออกมาด้วยความรวดเร็ว พร้อมกับกำมือซ้ายขึ้นมา ก่อนที่มือขวามันจะชูนิ้วกลางสอดเข้ารูในมือซ้ายอย่างท้าทาย แต่ในใจมันเริ่มรู้สึกเศร้า ‘ทำไมกว่าจะได้แต่ละ EXP มันลำบากขนาดนี้วะ? นอกจากต้องแกล้งแสดงให้ดูบาดเจ็บอ่อนแอแล้วยังต้องสรรหาคำมายั่วยุให้พวกมันของขึ้นจนลงมืออีก’

.....ทันใดนั้นเอง

"ศิษย์พี่ศิษย์น้องทุกคน พวกเรานับได้ว่าเป็นมังกรในหมู่มนุษย์ แต่ต้องกลับมาทนฟังวาจาไร้สาระลามปามของเด็กปากมิสิ้นกลิ่นน้ำนมเหยียดหยามดูแคลนผู้คนไปทั่วเช่นนี้ มีคำกล่าวไว้ว่า นักรบฆ่าได้ หยามมิได้... วันนี้รบกวนพวกท่านช่วยอบรมสั่งสอนเด็กปากกล้า ยโสโอหังเช่นนี้ ให้รู้ว่าอะไรควรมิควรเสียดีกว่า" ในตอนนี้กลับมีคำกล่าวดังขึ้นท่ามกลางเหล่าศิษย์ในโรงอาหาร  หลินฟ่านรีบหันไปมองผู้หวังดีคนนี้อย่างตื้นตันอยู่ในใจ มันไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือ หานลู่ที่มันขยำไข่ไปเมื่อวานนั่นเอง

หัวใจของหลินฟ่านตอนนี้เบิกบานราวกับได้นอนกอดนางงามมาสามประเทศ  ‘โอ๊วววว ศิษย์พี่หาน ข้าโคตรซึ้งท่านเลย ขอบใจท่านมาก วันหลังข้าต้องตอบแทนท่านอย่างงาม’

ตามที่คาดไว้เมื่อหานลู่กล่าวคำกระตุ้นออกมา เหล่าศิษย์โดยรอบเหมือนถูกสับสวิทช์เปิด บางคนที่กำลังก้มหน้าอดทนกับความโมโหจากคำเหยียดหยามหลินฟ่านก่อนหน้านี้ ถึงกับเงยหน้าขึ้นมาตาลุกวาว พวกมันไม่สนใจมโนธรรมอะไรอีกต่อไป ต่างกรูกันเข้ามาทำร้ายหลินฟ่านเพื่อระบายความโกรธ

...

ณ จุดๆนี้ไม่มีอะไรที่จะทำให้หลินฟ่านรู้สึกสุขสมอารมณ์หมายเท่าตอนนี้อีกแล้ว เขาอดครางเบาๆออกมาไม่ได้  "ทำนองมันเพราะดีจริงๆ"

'ติ๊ง!! ... "กายปีศาจอมตะ" EXP + 1,000 '

'ติ๊ง!! ... "กายปีศาจอมตะ" EXP + 5,000 '

'ติ๊ง!! ... "กายปีศาจอมตะ" EXP + 3,000 '

'ติ๊ง!! ... "กายปีศาจอมตะ" EXP + 2,000 '

'ติ๊ง!! ... "กายปีศาจอมตะ" EXP + 1,000 '

'ติ๊ง!! ... "กายปีศาจอมตะ" EXP + 5,000 '

'ติ๊ง!!..... '

.....

..

 

 

รีวิวผู้อ่าน